One-of-a-kind
- Writer: Fungjai Staff
One-of-a-kind
อาย ญาณิน พันธัย
การเดินทางผ่านเสียงดนตรีของนักร้องสาวเสียงมีเอกลักษณ์ กับการขวนขวายสร้างสรรค์ผลงานด้วยมือของเธอ จนเกิดปรากฏการณ์การแชร์เพลงอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์และขนานนามเธอว่า “เจ้าแม่เพลงหม่น” แต่ก่อนหน้านี้เธอต้องสร้างอะไรขึ้นมาบ้างจนทำให้เธอเข้ามาอยู่ในวงการดนตรีได้ มาทำความรู้จักกับ “ญาณิน” ไปพร้อม ๆ กับเรา
จากสาวร็อคสู่สาวสายหม่น
อาย: จุดเริ่มต้นในการเล่นดนตรีของอายมันเกิดขึ้นมาจากตอนแรกอายทำวงดนตรีแนว Rock กับพี่ ๆ ที่รู้จัก จนอยู่มาวันนึงต่างคนต่างยุ่งไม่ว่างกัน ทำให้เราซึ่งเป็นน้องเล็กสุดในวงที่รู้สึกว่าเรายังอยากทำดนตรีอยู่นะ เลยตัดสินใจไปซื้อกีตาร์มาลองเล่นดู โดยตอนนั้นที่ซื้อมายังเล่นไม่เป็น จนถึงตอนนี้ก็ยังเล่นไม่เป็นเหมือนเดิมค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าในความเล่นไม่เป็นของเรามันเกิดการมั่วคอร์ดกีต้าร์ขึ้น โดยเพลงแรกที่แต่งในนามชื่อตัวเองเลยก็คือเพลง อากาศ เราลองฮัมเนื้อเพลงมั่ว ๆ ดูแล้วก็โพสต์ลงเฟสบุ๊ค จากนั้นก็มีคนแชร์กันต่อไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ก็งงว่าเขาแชร์ไปฟังกันจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ มันเลยทำให้เรากลายเป็นศิลปินเดี่ยวแบบงง ๆ เลย
พื้นฐานการร้องเพลงของญาณิน คือ เพลงลูกทุ่ง
อาย: แต่ก่อนเคยเรียนร้องเพลงนะ ตอนเด็ก ๆ ช่วง ป.3 ร้องเพลงลูกทุ่งเลย หัดร้องเพลงพวกสาวน้อยคาเฟ่ เพลงสะโพกสลาตัน จำได้ว่าตอนนั้นชอบแนวนี้มาก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียนร้องเพลงอีกเลย เพราะเหมือนเราโตขึ้นแล้วรู้สึกว่าเราไม่ได้ศรัทธากับความคิดที่ต้องร้องเพลงให้ถูกต้องตามเทคนิค เราสามารถร้องในแบบของเราได้ เป็นตัวเราได้ บางครั้งทุกอย่างมันก็พัฒนาในรูปแบบของมันได้โดยใช้ประสบการณ์เป็นการเรียนรู้แทน
อะไรทำให้รู้สึกว่า กีตาร์ คือ เครื่องดนตรีที่อยากเล่น
อาย: หนูคิดว่าเวลาเราอยู่ในวงดนตรีเนี่ย ส่วนใหญ่ตัวเราเองจะเป็นคนแต่งเพลง ทำให้บางครั้งมันสื่อสารกับพี่ ๆ นักดนตรีไม่รู้เรื่อง เพราะเรื่องทฤษฏีดนตรีมันอธิบายไม่ได้ ต้องทำให้เห็น มันก็คงจะดีถ้าหากมีความรู้พื้นฐานกับมันอยู่บ้าง ก็เลยหัดเล่นแล้วก็รู้สึกว่ามันเล่นง่ายสุดด้วย
เพลง อากาศ เพลงแรกในชีวิตที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ
อาย: เพลงนี้ตอนทำสั้น ๆ เลยค่ะ เล่นมั่ว (หัวเราะ) ตอนทำเพลงนี้ คือ เราเลือกที่จะเล่นคอร์ดที่ง่ายที่สุด มีแค่ 2 คอร์ดเองมั้ง แล้วนิ้วมันจับกันง่ายด้วยก็เลยทำเพลงนี้ขึ้นมาค่ะ โดยไม่ได้คิดเลยว่าเราเล่นดี หรือไม่ดีแค่รู้สึกว่าอยากเล่นเท่านั้นเอง แถมวันที่ทำเพลงนี้คือวันที่ซื้อกีต้าร์มาวันแรก ก็มั่วมันเลยละกัน สรุปไป ๆ มา ๆ ได้ 2 เพลงด้วย ทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อเหมือนกันว่าตอนนั้นทำไปได้ไง
แต่งเพลงเอง เล่นเอง ฟังเอง เปิดเพจของตัวเอง
อาย: ก่อนหน้าที่จะมาทำเพลงจริงจัง อายจะเป็นคนที่ค่อนข้างทุ่มเทเรื่องความรักมาก แล้วเวลาเฮิร์ทมันก็จะเจ็บยาว แล้วช่วงที่เริ่มแต่งเพลง อากาศ คือ ช่วงนั้นตัวเราเริ่มคิดได้ เริ่มปลงกับมันแล้ว ก็เลยได้เป็นเนื้อเพลงอย่างที่เห็นค่ะ ส่วนเรื่องเปิดเพจเฟสบุ๊คมันเริ่มมาจากมีคนใน Youtube อยากติดตามผลงานเราบวกกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ บอก ทำไมไม่ลองเปิดดูสักทีล่ะ ก็เลยรวบรวมความกล้าเปิดดู เพราะว่าตอนแรกกลัวเฟลมาก กลัวไม่มีคนเข้ามาดูเรา กลัวแบบคิดยังไงทำไมกล้าเปิดเพจตัวเอง แต่ผลที่ได้รับก็ปรากฏว่า คนกดกันเข้ามาเยอะมากเกินความคาดหมาย ก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ด้วยค่ะที่เข้ามาดูเพจของอาย
กระแสตอบรับได้รับมาเมื่อเราปล่อยเพลงสู่สาธารณะชน
อาย: คนแชร์เยอะนะ แล้วก็แบบเพจพวกเฟสบุ๊คต่าง ๆ เขาก็มาแชร์กัน มันตกใจมากกว่าไม่คิดว่าจะมีคนฟังจริง ๆ เพราะว่าเพลงมัน low quality มาก ไมค์ที่ใช้อัดก็ไม่มี แค่เอาปากจ่อโน๊ตบุ๊คแล้วร้องดู แล้วก็ตัดต่อแบบ Loop ง่าย ๆ เลย
งานดนตรีงานแรกที่เล่นในนาม YANIN
อาย: งานแรกที่เล่นชื่องานว่า Girl Talk ค่ะ วันนั้นคือครั้งแรกและเล่นป็นวงแรกด้วย มันตื่นเต้นไปหมดเลย อายจำได้นะว่าวันนั้นพูดเยอะและพูดเร็วมาก พูดเหมือนทุกคนรู้จักเราเลย (หัวเราะ) ส่วนเรื่องร้องเพลงเราก็ร้องโอเคนะ ร้องไม่ผิดพลาดเท่าไร แต่มันมีบางอย่างที่มันยังไม่ลงตัวอยู่ดี ส่วนตัวเราก็รู้ตัวดีนะว่าอะไรพลาดบ้าง ก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองไว้เลยว่า ถ้าเราเอนเตอร์เทนคนดูหรือคนฟังไม่เก่ง เราควรพูดน้อย ๆ บนเวทีดีกว่า
ประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการเล่นดนตรี
อาย: งานที่ประทับใจสุด ๆ เลยคืองาน Moonlight งานนั้นเป็นงานที่รู้สึกว่าทุกคนมาเพื่อมาดูเรารวมไปถึงพี่ว่านกับพี่แอ็ฟ วง Mattnimare ด้วยคือพี่เขาเป็นไอดอลของอายมาก แบบว่าอายคลั่งวง Mattnimare มาก และก็ถือว่าเป็นวันที่ประทับใจอีกเรื่องก็คือ มีเพื่อน ๆ ที่มหาลัยมาดูด้วย อายเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนนะ เพื่อนสนิทน้อยมาก แต่วันนั้นเพื่อนมาจากลาดกระบังหลายคนเพื่อมาดูเรา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคืองานที่ประทับใจมาก ๆ
เป้าหมายที่ตั้งไว้ในการเล่นดนตรีคืออะไร
อาย: เป้าหมายในตอนนี้คือ ทำเพลงที่เรารู้สึกชอบและพอใจกับมันจริง ๆ แบบเพลงอากาศที่ปล่อยในตอนนี้เอาตรง ๆ เรายังไม่ได้รู้สึกชอบนะ ตอนนี้เหมือนมันอยากทำเพลงที่มีเครื่องสายครบ มีเสียงที่มันดี ๆ เสียงคุณภาพที่ดีกว่าที่เราเคยทำมา ให้ตัวเรารู้สึกว่าเราชอบผลงานของตัวเองก่อน อันนี้ คือ เป้าหมายในตอนนี้ซึ่งกำลังพยายามทำให้มันถึงตรงจุดที่เราวางไว้อยู่ค่ะ ส่วนเรื่องค่ายเพลงหลายคนก็มาถามเราเหมือนกันนะว่าไม่อยากอยู่ค่ายบ้างเหรอ เอาจริง ๆ คือ ยังไม่เคยคิดนะ อยากทำตอนนี้ให้ดีที่สุดมากกว่า
ความฝันกับการเป็นเจ้าแม่ลัทธิเพลงเศร้า
อาย: อายอยากเป็นนักร้องเดี่ยวแบบเจ้าแม่ลัทธิค่ะ (หัวเราะ) ที่แบบแต่งเพลงออกมาจากความรู้สึกของเราจริง ๆ มันอาจจะเป็นเรื่องบ้าบอก็ได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็แบบพี่เล็ก Greasy cafe เลยถือว่าเป็นเจ้าพ่อลัทธินะในความคิดของอาย เพราะเนื้อเพลงในแต่ละเพลงของพี่เขา มันมีความรู้สึกหม่น ๆ แบบเอาเรื่องราวในชีวิตมาเปรียบเทียบได้ไง เราอยากทำได้แบบพี่เขาบ้างค่ะ
อัลบั้ม EP แรกในชีวิตที่อยากให้ทุกคนรอติดตาม
อาย: อายมีความคิดที่จะออก EP Album อยู่แล้วนะ และอยากให้มันเป็นอัลบัมที่น่าเก็บสะสมเลยต้องใช้เวลามากหน่อยในการทำ พวก Package หรืออะไรพวกนี้เราอยากทำให้มันพิถีพิถันมากที่สุด ส่วนเพลงในอัลบั้มก็น่าจะเป็นเพลงเดิม ๆ ที่เคยปล่อยแหละ แต่จะมาทำให้คุณภาพเสียงมันดีขึ้นหน่อยใส่เสียงเครื่องสายที่เราชอบ มีความเป็นโฟล์คที่มีเอกลักษณ์มากขึ้นค่ะ
พลังของผู้หญิงในอุดมคติของญาณิน
อาย: พลังของผู้หญิงคำนี้มีความรู้สึกพิเศษกว่าคำว่าพลังของผู้ชายนะ เพราะว่าคนทั่วไปชอบมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า มองว่าผู้หญิงไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับผู้ชายในการทำหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง แต่ว่าถ้าพลังของผู้หญิงมันระเบิดปะทุออกมาเมื่อไรแล้วละก็อายมีความรู้สึกว่ามันมี Powerful มากกว่าผู้ชายนะ เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนจะสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างแน่นอน
พลังของอายญาณินล่ะ ?
อาย: พลังของอายหรอ…มันรู้สึกว่ามันหาคำอธิบายไม่ได้นะ อายเชื่อว่าพลังของอายมันคือ ความแอบมุ่งมั่นเงียบ ๆ นะ อย่างในหัวตอนนี้คิดอะไรวางแผนไว้เยอะไปหมดเลย เราก็อยากจะมุ่งมั่นและทำให้มันสำเร็จโดยใช้พลังของเราเนี่ยทำมันออกมาให้ดีที่สุด
ทุกวันนี้แบ่งเวลาการใช้ชีวิตยังไงบ้าง
อาย: ถ้าเป็นช่วงที่ทำเพลงในนามญาณินทุกอย่างมันโอเคนะ อายรู้สึกว่า เราชอบความยุ่งชอบที่ตัวเองไม่ว่าง มันได้ทำอะไรเยอะแยะและเราโชคดีด้วยที่ที่เราเรียนเขาไม่ได้บังคับว่าต้องเข้าเรียนให้ครบ เช่น บางงานเรามี Sound Check ตอนบ่ายงี้ก็ขออนุญาติครูออกไปได้มั้ย ซึ่งมันก็เป็นความโชคดีของเราที่ทุกอย่างมันดูเข้าที่เข้าทางไปหมด
ฝากตัวฝากใจให้แฟนเพลง
อาย: อยากขอบคุณก่อนเลยขอบคุณที่มาฟังเพลงของอาย มารู้จักเราผ่านเสียงเพลงของอาย ดีใจมาก ๆ ที่มีคนชอบและติดตามเราถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เยอะมากมายก็ตาม รู้สึกว่าพวกเขาเป็นกำลังใจให้อายได้ดีมาก ๆ เลย แล้วก็อยากฝากเพลงต่อ ๆ ไปของอายที่มันจะดูมีความจริงจังกับมันมากขึ้น จะพิถีพิถันกับมันมากขึ้น อยากให้ติดตามรอดูกันด้วยนะคะ สุดท้ายก็ขอบคุณฟังใจซีนมาก ๆ ที่ชวนอายมาถ่ายในครั้งนี้แล้วก็อยากร่วมงานกับทุกคนเลยที่มาในวันนี้น่ารักกันมาก ๆ เลย ไว้มีโอกาสคงได้พบกันนะค่ะ