Hard-bitten Sweet Face
- Writer: Fungjai Staff
Hard-bitten Sweet Face
ส้ม – มารี เออเจนี เลอเลย์
จากภาพนักร้องสาววัยใสที่ทุกคนรู้จักในชื่อ “ส้ม Wink” สู่การเป็น “Zom Marie” ศิลปินคัฟเวอร์ที่มีผู้ติดตามร่วมแสนคน ฟังใจซีนจะพามาดูกันว่าเธอผ่านเรื่องราวอะไรในเส้นทางสายดนตรีนี้มาบ้าง และเป้าหมายต่อไปของหญิงสาวผู้นี้คืออะไร มารับรู้และทำความรู้จักเธอไปพร้อมกันได้เลย
เริ่มต้นออกเดินทางในสายดนตรี
ส้ม: เริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงในรายการชื่อว่า LG Star Talent ค่ะ ตอนนั้นประมาณปี 2008 เราอายุ 16 เองเด็กมาก ก็ไปประกวดร้องเพลงแล้วชนะมา ซึ่งรายการนี้จะมีคนที่ได้อันดับที่ 1 อยู่ 5 คน เราก็เป็น 1 ใน 5 คนนั้นเลยได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายแกรมมี่ โดยช่วงก่อนหน้าที่จะออกเพลงของตัวเอง ทางค่ายก็จะให้เราไปเรียนร้องเพลง เรียนการแสดง ก็มีงานได้เล่นละคร ถ่ายโฆษณานิดหน่อย ทั้งหมดมันใช้เวลาประมาณ 2 ปีก็ได้ออกซิงเกิ้ลแรกกับทางค่ายในที่สุด
แรงจูงใจในการไปประกวดร้องเพลงของส้ม
ส้ม: ส้มเคยประกวด Miss Teen Thailand ตอนอายุ 15 ช่วงที่ไปประกวด LG Star Talent เหมือนกับว่าเราไม่ได้ตั้งใจไปประกวดเองซะทีเดียว เพราะ เพื่อนเรามีพี่สาว แล้วพี่สาวเขาอยากหาเพื่อนไปประกวดด้วย ก็เลยไปกับเขา โดยมันเริ่มจากรอบคัดเลือกที่จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลออกมา พี่สาวเพื่อนตกรอบตั้งแต่รอบแรก แต่เราได้ขึ้นไปโชว์บนเวทีต่อหน้ากรรมการแล้วดันเข้ารอบมาเรื่อย ๆ จนมาประกวดรอบสุดท้ายขึ้นเวทีทุกสัปดาห์ในกรุงเทพมหานคร ความฝันที่จะเป็นศิลปินสำหรับเราในตอนนั้น ไม่ได้คิดเลยค่ะ แค่ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากการประกวดมันก็เยี่ยมแล้ว ถ้าไม่ได้รางวัล เราก็แค่กลับไปเป็นนักเรียน นั่งเรียนให้ห้องเรียนต่อแค่นั้นเอง
ช่วงเวลาของการเป็น “ส้ม Wink”
ส้ม: มันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มากค่ะ ตอนที่ออกเพลงนั้น เราเพิ่งผ่านเวทีประกวดร้องเพลงมา อารมณ์การประกวดมันจะเป็นแบบได้ขึ้นเวที ได้ร้องเพลง ได้ซ้อมเต้น แต่พอมาเป้นส้ม Wink เนี่ยคือมันไม่มีแพทเทิร์นอะไรเลย ต้องเรียนรู้การเข้าห้องอัดทุกอย่างซึ่งมันเป็นเรื่องใหม่มาก ตอนนั้นไม่ชอบเลยการต้องเข้าห้องอัด เพราะบรรยากาศมันอึดอัดมาก อารมณ์แบบตื่นห้องอัด กลัวตลอดเวลา โดยการทำงานในช่วงที่เป็นเพลง Wink เนี่ยต้องยอมรับว่าการทำงานกับค่ายใหญ่ เราไม่สามารถที่จะทำผลงานที่เป็นตัวของเราเองได้ 100% มันก็ต้องมีผู้ใหญ่ช่วยเคาะช่วยดู แต่โดยรวมมันก็สนุกสนานดีค่ะตอนนั้น
เฝ้าหน้าจอรอดูเอ็มวีตัวเอง
ส้ม: ช่วงนั้นตื่นเต้นมาก วันถ่าย MV วันแรก คือ ไม่ได้กินข้าวเลย เพราะว่ามันมีความสุขมากแบบว่า นี่คือเพลงแรกในชีวิตของเราที่จะได้เป็นนักร้องแบบเต็มตัวแล้วนะ มันอิ่มไปทุกอย่างตลอดเลยทั้งวันเลย แล้ววันที่ MV ออนแอร์ เราตื่นตั้งแต่ 8 โมงเช้าอ่ะ เพื่อจะมารอดู มานั่งอยู่หน้าทีวี รอเขาโฟนอินเข้ามาหาเรา เพื่อให้เราพูดส่งเข้า MV ตัวเองและมันเป็นครั้งแรกที่เราได้ดูด้วย เพราะ ช่วงที่เราตัดต่อแทบไม่ได้ดูเลย เราภูมิใจกับงานชิ้นนี้มาก ๆ
กาลเวลาผ่านไปจากศิลปินมีค่ายสู่ศิลปินอิสระ
ส้ม: จริงๆ ความรู้สึกเราโตขึ้นมาสักพักแล้วค่ะ ตั้งแต่มาทำโปรเจค ส้มกับอะตอม เราเริ่มรู้ว่า ตัวเองชอบและไม่ชอบอะไร แต่ว่าด้วยความที่เราอยู่กับค่ายแกรมมี่มาตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่เขาก็ยังมองเราเป็นเด็กเหมือนวันแรกที่เข้ามา มันก็เลยอาจทำให้มุมมองในการทำงานเริ่มไม่ค่อยตรงกันแล้ว โดยเฉพาะในแนวทางของเพลงก็เลยตัดสินใจออกมาดีกว่า ทำให้ตอนนี้รู้สึกมีอิสระมากขึ้น ทำตามใจตัวเองได้มากขึ้น ในความรู้สึกเราคือถ้าเป็นศิลปินแล้วไม่ได้เป็นตัวของตัวเองแบบเต็มที่สักเท่าไหร่มันก็จะรู้สึกไม่โอเคนะ
1 แสนผู้ติดตามในยูทูปกับจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ของ Zommarie
ส้ม: การร้องเพลงบนยูทูปของเรามันเริ่มมาจากการนั่งดูคลิปในยูทูปแล้วก็รู้สึกว่า เออ เราอยากจะลองร้องแบบนี้บ้างจังก็เลยอัดวิดิโอไว้ ตอนนั้นคืออยากดูตัวเองด้วยว่ามีพัฒนาการแบบไหนเกิดขึ้นบ้าง ตอนแรกก็ไม่ได้ทำจริงจังอะไรกับมันมาก เพิ่งจะมาเริ่มจริงจังเต็มตัวเมื่อประมาณปีที่แล้วเอง ซึ่งพอเรามาทำแล้วมันกลายเป็นว่า แต่ก่อนเราอยู่ในวงการบันเทิงนี้มา 6-7 ปี คนรู้จักเราน้อยกว่าการที่เรามาทำเพลง Cover แค่ปีเดียวนะ ทุกวันนี้เวลาเจอหน้าใคร ทุกคนจะพูดถึงเรื่องเพลงที่เราร้องในยูทูปซะมากกว่าการเป็นส้ม Wink ด้วยซ้ำ
สถานีต่อไป “เพลงของตัวเอง”
ส้ม: เป้าหมายตอนนี้ถ้ามองในช่วงระยะสั้น ๆ ก็คือ มีเพลงเป็นของตัวเองนี่แหละค่ะ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของกระบวนการทำกันอยู่ ตอนนี้เราเป็นศิลปินอิสระแล้ว แต่ในอนาคตก็ไม่แน่อาจจะมีค่ายก็ได้ กำลังดู ๆ อยู่ว่าจะไปค่ายไหน น่าจะไปทางอินดี้หน่อย เพราะคงไม่กลับไปทางที่เป็นแบบแมสอีกแล้วหรือถ้าต้องกลับไปที่เดิมก็คงต้องคุยกับผู้ใหญ่ว่า ขอแบบที่เราอยากได้และเป็นตัวเราให้มากที่สุด
โอกาสเจริญเติบโตของเพลงไทยในปัจจุบันนี้
ส้ม: เราว่าเดี๋ยวนี้เพลงจากค่ายเล็กมีโอกาสเทียบเท่ากับค่ายใหญ่แล้วนะ จากเมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ ที่เราจะได้ยินเพลงจากแค่ค่ายใหญ่ แต่ปัจจุบันเราได้ยินเพลงใหม่ จากค่ายอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดเลย คนฟังก็มีหลากหลายกลุ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างศิลปินอินดี้ล่าสุดที่ส้มฟังเลยก็คือ Polycat ที่ปล่อยเพลงออกมา 3 เพลงติด ชอบมากๆ ซึ่งเราก็เอา Cover ด้วยนี่ก็คือตัวอย่างที่เห็นชัดเจนมาก
ผลงานล่าสุดกับการเป็น นักแสดงละครเวที
ส้ม: การได้มาเล่นละครเวที มันต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะนะ แต่ว่าก็ไม่ได้ยากมาก ด้วยความที่คนรอบข้างเราเก่ง แล้วทุกคนใส่กันเต็มที่ ทำให้เรากล้าที่จะใส่เต็มที่ด้วย ตอนแรกก็กลัวและกดดันมากเหมือนกัน คือทั้งดีใจ ทั้งกลัวที่จะได้เล่นละครเวที แต่ความกลัวนี่นำมาก่อนเลย เคยคิดเหมือนกันว่า จะไหวมั้ย แต่ว่าพอไปแล้วยิ่งเล่น ยิ่งซ้อม เรายิ่งสนุก มันเหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างที่สนุกสนานมาก ๆ ค่ะ
พลังของผู้หญิงในความหมายของส้ม
ส้ม: มันเป็นพลังที่คาดเดาไม่ได้นะ เพราะ ผู้หญิงเป็นเพศที่มีอารมณ์แปรปรวนสูง ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว เราว่า ผู้หญิงจะมีอารมณ์ศิลปินมากกว่าผู้ชายนะ ผู้หญิงจะมีขึ้นมีลงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมากกว่าผู้ชาย
แล้วพลังของส้มละ
ส้ม: น่าจะเป็นพลังแห่งความสดใสค่ะ เพราะภาพที่คนเห็นเราจะเป็นอย่างงั้นตลอด แต่ว่าจริง ๆ แล้วเราก็ไม่ค่อยชอบที่คนติดกับภาพเดิม ๆ นะ เพราะตอนนี้อายุเราก็เพิ่มขึ้นแล้ว (หัวเราะ) หลัง ๆ พอเราเริ่มสะพายกีตาร์ คนก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรามากขึ้น
ฝากข้อความถึงผู้อ่าน
ส้ม: ขอฝากอย่างแรก ฝากละครเวที ‘รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล’ ด้วยนะค่ะ เล่นทั้งหมดสิบรอบ ตั้งแต่วันที่ 20-25 สิงหา ถ้าใครอยากดูก็ต้องรีบหน่อยนะ เพราะตอนนี้บัตรก็ Sold Out จนเหลือแค่รอบสองรอบแล้ว สิ่งที่อยากจะฝากสิ่งที่สอง เราขอฝากเพลงใหม่ของตัวเอง ด้วยเร็ว ๆ นี้ใกล้ได้ฟังกันแล้ว ส่วนข้อสามข้อสุดท้าย อยากขอขอบคุณที่ติดตามส้มมาโดยตลอด ไม่ว่างช่องทางไหนก็ตาม แล้วก็ขอบคุณคุณสำหรับคนที่ติดตามกันมาตั้งแต่เพลง Wink ถึง ปัจจุบัน แม้ว่าเราจะไม่แบ๊วแบบตอนแรกแล้ว ทุกอย่างมีการเจริญเติบโตขึ้น แต่ทุกคนยังยอมรับในความเปลี่ยนแปลงของเรา ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ส่วนใครที่อยากติดตามส้มก็ไปทำความรู้จักและพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/zommarie สุดท้ายนี้ขอบคุณฟังใจซีนมาก ๆ นะคะที่ชวนมาสนุกกันไว้มีโอกาสคงได้เจอกันนะคะ