เจ็บจึ๊กกับเพลงล่าสุดของ Slur ‘อย่าหวัง’ จะเจอรักแท้ในวังวนอันสิ้นหวัง
- Writer: Montipa Virojpan
ตอนแรกที่ได้ฟังเพลง อย่าหวัง ของ Slur ถึงกับนึกถึงประโยคนึงที่รุ่นน้องเคยพูดกับเราเมื่อหลายปีก่อนว่า ‘Hipster love is so hipster’ ตอนได้ยินทีแรกคิดว่าจะงงเพราะ term ของ hipster ในยุคนั้นแบบมองหลวม ๆ คือคนมีไลฟ์สไตล์ฉาบฉวย ฮิป คูล ชิค ดัดจริตในสายตาปุถุชน แต่เอาเข้าจริงแล้วในความแซะนั้นก็มีความจริงอยู่บ้าง และเราก็ไม่งงแม้แต่น้อย
เหตุเกิดจากที่เคยคุยกับคนคนนึง แล้วมารู้ว่าเขาก็คุยอยู่กับรุ่นน้องอีกคนนึงซึ่งเราค่อนข้างสนิท แล้วเป็นคนในแวดวงเดียวกัน (เสพอาร์ต ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต มักจะเจอกันบ่อย ๆ ตามอีเวนต์โน่นนี่นั่น) พอดีตอนนั้นใสมากกกกก คิดว่าทุกคนเป็น monogamy ผัวเดียวเมียเดียว แม้แต่ช่วงคุย ๆ ก็ต้องคุยคนเดียว รับไม่ด้ายยยยย ก็เลยเฮิร์ตมาก แล้วน้องคนนี้รู้เข้าก็เลยพูดว่า ความรักฮิปสเตอร์แม่งโคตรฮิปสเตอร์ ฉาบฉวย ประเดี๋ยวประด๋าว วน ๆ กันอยู่ใน circle of friends หนีกันไม่พ้น
จนโตมาตอนนี้ แม้คำว่าฮิปสเตอร์จะตกไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่า แม่ง โคตร จริง
คือมันไม่ใช่แค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยิ่งโลกไปเร็ว แฟชันแปปเดียวก็เอาต์ การเจอคนใหม่ ๆ ก็ง่ายขึ้น (Tinder อะปัดไปสิ เฟซบุ๊กก็มี Dating section เพิ่มเข้ามา เป็นตะลิโตนเด๊) คนเท่ ๆ เก๋ ๆ เต็มไปหมด ตัวเลือกละลานตา คงยังไม่มีใครหยุดง่าย ๆ และยังสนุกกับการทอยลูกเต๋าเขย่าใหม่ไปเรื่อย ๆ แบบนี้จะยังมาหวังอะไรกับความรักในยุคนี้ สังคมแบบนี้อีกหรอ!
นั่นแหละ เพลง อย่าหวัง Slur พูดแทนเราและเตือนใจใครหลายต่อหลายคนที่ยังเฝ้ารอให้ found love in a hopeless place ว่า ไม่ต้องรอคอยใด ๆ ใช้ชีวิตของเราต่อไป โว้ยยยยย
สามเพลงที่พวกเขาปล่อยมาตั้งแต่ หลง ภาพเก่า และ อย่าหวัง มีแต่เพลงปลงตกกับชีวิตทั้งนั้นเลย แล้วเหมือนเป็นภาคต่อของกันและกันด้วย (หลงอยู่ในแสงไฟเสียงเพลงหลากหลาย, จากนี้คือเรื่องจริง มีเพียงคำบอกลาเรื่อยไป มีแต่ฉันคนเดียวต่อไป, อย่าหวังที่จะได้เจอ ก็รู้ตัวดีเสมอ เพราะการจะเจอมันไม่ง่ายในทางที่ฉันเลือกเดิน) เรียกว่าแนวทางของอัลบั้ม Bin น่าจะเหมาะกับคนเหนื่อย ๆ พอแล้วกับความหวือหวา และเข้าใจความเป็นมนุษย์ขึ้นมาก ๆ
ทว่าสิ่งที่น่าสนใจคือทั้งสามเพลงมันเป็นเพลงที่ซาวด์ไปในทางบวกเป็น contrast กับเนื้อหาจี้ใจดำในเพลงทั้งสิ้น แต่ช่วงหลังมานี้ลายเซ็นในพาร์ตดนตรีของ Slur ยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งซาวด์กีตาร์ล่องลอยที่ใช้ เมโลดี้โทนสดใสติดหูทำให้ร้องตามได้ไม่ยาก หรือกลองที่ชวนนึกถึงเพลงแบ๊กกี้ บริตป๊อปปลาย ๆ 80s ต้น 90s ไลน์ประสาน การทอดเสียงในเวิร์สแบบนี้ชวนให้คิดถึงบรรยากาศตอนที่ได้ฟัง สี่เต่าเธอ หรือ Siam Secret Service โซโล่สุดเร้าแต่ยังคงขนบดรีมป๊อปไว้กับซินธ์ฟุ้ง ๆ ใครที่เป็นแฟนเพลงยุคเก่าน่าจะรักเพลงนี้และอีกหลาย ๆ เพลงของ Slur ได้แบบไม่มีข้อกังขา
ยิ่งได้ดู mv แล้วก็รู้สึกว่าเข้ากับเพลงไปหมด ไม่ใช่แค่ความเท่ เซอร์ lo-fi สับสนอลหม่านไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี หรือมีข้อสงสัยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือจัดฉาก ก็เห็นรุ่นพี่คนนึงใส่ในแคปชันตัวเองตอนแชร์เพลงว่าเป็น ‘Dogme 95’ ซึ่งเราว่าเออ ได้ว่ะ Dogme 95 หรือ ‘ปฏิญญาด็อกมา’ เป็นข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มคนทำหนังในเดนมาร์กที่จะสร้างงานภายใต้ข้อกำหนด 10 ประการ เพื่อให้ภาพยนตร์มีความดั้งเดิมของตัวมันเองมากที่สุด นั่นคือ
- การถ่ายทำแล้วเสร็จในสถานที่นั้น ๆ จะไม่มีการนำของประกอบฉากเข้ามาเพิ่ม เว้นเสียแต่ว่าสิ่งของนั้นมีความจำเป็นต่อเส้นเรื่อง ผู้ทำหนังจะต้องแก้ปัญหาโดยการกำหนดสถานที่ให้สามารถพบพร็อพในนั้นได้อยู่แล้ว
- เสียงที่บันทึกจะต้องมาจากเซ็ตติ้งจริง ๆ ไม่มีการทำเสียงเพิ่มใน post production หรือถ้ามีเพลงประกอบ ก็จะต้องถูกเปิดหรือบรรเลงในระหว่างการถ่ายทำในฉากนั้น
- ต้องถ่ายแบบ handheld หรือถือกล้องด้วยมือเท่านั้น ห้ามใช้ขาตั้งกล้อง
- ต้องเป็นภาพยนตร์สี ใช้แสงธรรมชาติ ห้ามใช้การจัดแสงพิเศษ เว้นเสียแต่ว่าสถานที่มีแสงน้อยเป็นอุปสรรค์ต่อการนำเสนอฉากนั้น ๆ สามารถติดไฟดวงเล็กไว้กับกล้องได้
- ห้ามใช้อุปกรณ์พิเศษกับกล้อง เช่น การติดฟิลเตอร์
- ไม่แสดงเกินจริง ไม่มีฉากแอคชันฆาตกรรมเว่อร์วัง
- ทุกสิ่งกำลังเกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ณ สถานที่นั้น ขณะที่ถ่ายทำ
- ห้ามทำหนัง genre (การตีกรอบว่าจะทำออกมาเป็นแนวโรแมนติก แอคชัน สยองขวัญ คอเมดี้ ฯลฯ)
- ต้องใช้ฟิล์ม 35 mm ถ่ายเท่านั้น
- ไม่มีการขึ้นชื่อผู้กำกับ
ก็เลยไม่น่าแปลกใจที่บางทีเราอาจจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แค่พอจะจับต้นชนปลาย จินตนาการต่อเติมเรื่องราวเอาเอง และจบในแบบเท่าที่หนังเล่ามา ซึ่งในมิวสิกวิดิโอนี้อาจจะไม่ได้เป็น Dogme 95 แบบครบถ้วน เพียงแต่รูปแบบบางส่วนน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากข้อตกลงของผู้กำกับกลุ่มนี้ ซึ่งคนที่เราน่าจะได้ยินชื่อกันมาบ้างก็มี Lars von Trier หรือ Thomas Vinterberg เป็นต้น
อย่างไรก็ดีที่เราเล่ามายาวเหยียดทั้งหมดอาจจะเป็นการมโนไปเองล้วน ๆ ฮ่า จริง ๆ พี่เย่อาจจะแค่บอกว่าเอ็งอย่าหวังจะเจอรักแท้ใน Tinder เลย ถถถ ยังไงซะ อย่าหมกมุ่นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไปค่ะ ไปฟัง อัลบั้ม Bin เขาดีจริง ฟังตอนขับรถกลับจากพัทยามารวดเดียวแบบถูกรุ่น ถูกเรื่องถูกราวมาก ๆ ใครยังไม่โดนจงโดนซะ หรือลองจากเพลงนี้ก่อนก็ได้
ยืนยันกับฟ้าว่ามีทางออก มีคำว่ารักต้องมีคำตอบ
เส้นทางขวากหนามที่อยู่ในใจ ความวุ่นวายที่ไกลแสนไกล
อย่าหวังที่จะได้เจอ กับความรัก กับความรัก
ก็รู้ตัวดีเสมอ เพราะการจะเจอมันไม่ง่าย
ในทางที่ฉันเลือกเดิน
วันวานอ่อนล้าท่ามกลางเมฆหมอก ยังรอความหวังให้เป็นคนบอก
เส้นทางขวากหนามที่อยู่ในใจ ความวุ่นวายที่ไกลแสนไกล
อย่าหวังที่จะได้เจอ กับความรัก กับความรัก
ก็รู้ตัวดีเสมอ เพราะการจะเจอมันไม่ง่าย
ในทางที่ฉันเลือกเดิน
เส้นทางขวากหนามที่อยู่ในใจ ความวุ่นวายที่ไกลแสนไกล
(มันก็เป็นเพียงลมหายใจล่องลอยเคลิ้มไป เท่านั้น)
อย่าหวังที่จะได้เจอ กับความรัก กับความรัก
อย่าหวังที่จะได้เจอ กับความรัก กับความรัก
อย่าหวังที่จะได้เจอ กับความรัก กับความรัก
ก็รู้ตัวดีเสมอ เพราะการจะเจอมันไม่ง่าย
ในทางที่ฉันเลือกเดิน