ย้อนกลับไปสมัย Medieval! เมื่อมีคนเอาเพลงดัง Creep, Bad Romance, Pumped Up Kicks มาคัฟเวอร์เป็นเพลงยุคกลาง
- Writer: Montipa Virojpan
เมื่อไม่กี่วันก่อนเราไปเจอ YouTube channel ใหม่ชื่อ Hildegard von Blingin’ ที่ได้อัพโหลด lyric video เพลงจำนวนนึงขึ้นมา ความน่าสนใจคือมันเป็นเพลงดังที่ใคร ๆ ก็ร้องได้ ถูกเอามาทำเป็นเวอร์ชัน medieval หรือเพลงยุคกลาง ช่วงศตวรรษที่ 12 ที่เน้นการใช้ฮาร์ป เครื่องสายแบบลูท แมนโดลิน หรือเครื่องเป่าลมไม้ให้เสียงนุ่ม ๆ รวมถึงเสียงร้องสุดวิลิศมาหรา เอื้อนเอ่ยสอดประสานกันราวกับเป็นเสียงทูตสวรรค์ มาขับกล่อมเพลงคุ้นหูนี้ให้น่าขนลุกยิ่งขึ้น มิหนำซ้ำอาร์ตเวิร์กอะไรต่าง ๆ ที่ประกอบเพลงก็นำภาพเขียนยุคกลางมาใช้จริง ๆ ส่วนผสมทั้งหมดดูประหลาด ทีเล่นทีจริงไปซะหมด จนเรารู้สึกหลงยุค ไม่แน่ใจว่าอะไรจริงอะไรฝันกันแน่ และสิ่งนี้เองแหละที่ทำให้ medieval cover กลายเป็นไวรัล
Medieval cover เป็นกระแสใน Soundcloud พักนึง และเมื่อใดที่มันลามมาถึง YouTube อัลกอริธึมก็จะเข้าเล่นงานเราทันที ทำให้ตอนนี้ได้เห็นหลายคนเอาเพลงฮิตมาทำเป็นเพลง medieval อยู่เต็มไปหมด ส่วน users ที่สิงอยู่ในศูนย์รวมต้นกำเนิด subculture มากมายอย่าง reddit ก็เรียกสิ่งนี้ว่าเป็น ‘bardcore’ เพราะใช้ลักษณะดนตรีแบบเดียวกับกวีเล่าเรื่องในนิทานปรัมปราสมัยก่อน ใส่เข้าไปในเพลงร่วมสมัย
อย่างอันที่เราพบเห็นในแถบ recommended ของ YouTube บ่อย ๆ ก็มีแชแนล Modern Music of the Dark Ages ก็มี Take On Me ของ a-ha ที่ทำเป็นเวอร์ชันบรรเลงอย่างเดียว และยังมีอีกหลายแชแนลที่ก็ทำเหมือนกัน Samus Ordicus, Graywyck, DJ MÖNCH ลองไปฟังดู มีทั้ง Britney Spears, Tears For Fears, The Cure ทีแรกก็เหมือนจะขำว่า ‘เฮ้ย ที่เราเคยฟังมันไม่ใช่แบบนี้นี่’
ซึ่งก็มีข้อถกเถียงกันใน reddit ว่า ‘บางอันอย่าเรียกว่าเป็น bardcore เลย ยูแค่เอาเสียงเครื่องดนตรีในยุคนั้นมายัด ๆ เล่นเป็นทำนองแบบเพลงยุคปัจจุบันเท่านั้นแหละ’ แต่บางคนเรียบเรียงได้เก่ง หยิบ element ของยุคนั้นมาครบ ไม่ใช่แค่เสียงเครื่องดนตรี แต่เป็นลักษณะการบรรเลงของ medieval age ยิ่งเพลงดัง Old Town Road พอมาเป็นเวอร์ชันนี้ก็เข้าท่าเฉย
แต่ที่ Hildegard von Blingin’ นั้นโดดเด่นขึ้นมากว่าคนอื่น ๆ เพราะเธอได้หยิบพาร์ตดนตรีของ Cornelius Link ที่เรียบเรียงใหม่ให้เป็นเวอร์ชัน medieval ที่ทำให้นำไปใช้ได้ฟรี (copyright-free instrumental) มาใส่เสียงร้องหวาน ๆ ของตัวเองที่ร้องเอื้อนแบบคนยุคกลางเข้าไป เลยทำให้เจ้าของผลงานเรียบเรียงดนตรียุคกลางเข้ามาชื่นชมเธอว่า ‘ทำได้ถึงจริงแม่นาง’
ส่วนในเพลง Foster the People – Pumped Up Kicks เธอทำให้เรียลขึ้นอีกด้วยการเปลี่ยนเนื้อร้องให้เป็นภาษาคนยุคกลาง หรือทำให้เพลงมีบริบทอย่างคนยุคกลาง เช่น เปลี่ยนของในเพลงแบบปืน ลูกกระสุน ให้เป็นอาวุธโบราณอย่างธนู และลูกศร
All ye bully-rooks with your buskin boots
Best ye go, best ye go
Outrun my bow
All ye bully-rooks with your buskin boots
Best ye go, best ye go, faster than mine arrow
คลิปหลัง ๆ เธอเริ่มบรรเลง เรียบเรียงดนตรีเอง อย่างการใช้ Celtic harp และขลุ่ยรีคอร์เดอร์ไม้ แล้วใส่บีตเข้าไปเองในเพลง Bad Romance ของ Lady Gaga โดยร้องเป็นภาษาโบราณอีกเช่นเดียวกัน แต่บางคนก็สังเกตว่าเนื้อหากลับมีความร่วมสมัยเพราะพูดเรื่องการแพร่ระบาดของโรค… ซึ่งก็ทำให้เรากลับมาคิดอีกทีว่า เธออาจจะไม่ได้หมายถึง covid-19 เพราะในยุคกลางนั้นก็มี ‘The Black Death’ หรือกาฬโรคระบาดรุนแรงเหมือนกัน!
ล่าสุดเธอปล่อยเพลง Radiohead – Creep ที่แทบไม่ได้ปรุงแต่งอะไร แค่เปลี่ยนคำร้องให้เป็นภาษาโบราณ และยังคงวิธีเล่นให้อารมณ์เศร้าสร้อย ยิ่งทำให้บรรยากาศสมจริงยิ่งขึ้น เชื่อว่าหลังจากนี้จะมี niche fans ติดตามงานของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
Hildegard von Blingin’ เจ้าของแชแนลที่น่าจะได้แรงบันดาลใจการตั้งชื่อมาจาก Hildegard of Bingen ที่เป็นหัวหน้านางชี นักกวี นักปรัชญา และอาจเป็นนักประพันธ์เพลงสวดคนแรกที่มีชีวิตจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ (1098 – 1179) ซึ่งการสร้างบรรยากาศ ถ่ายทอดความเป็นยุคกลางในเพลง และนำเสนอคอนเซ็ปต์ได้แข็งแรงราวกับว่าเธอเป็นฮิลเดการ์ดตัวจริงมาร้องเองแบบนี้ ก็ไม่แปลกใจที่เธอจะดังเปรี้ยงในเวลาไม่กี่สัปดาห์