ฟังไร-เมษา-2023

Hot and Trending

‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟัง ส่งท้ายเดือนเมษายน 2023

‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกันในฟังไร จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!

Kaotood ขอเชิญท่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์ 

Kaotood (เกาตูด) ไม่ปล่อยให้คอยนานสำหรับภาคต่อจากซิงเกิลที่แล้ว ข้ามิได้ชอบในบรรยากาศของการร่ำสุรา ข้าชอบสุรานี่แหละ มาต่อกับภาคปัจจุบันกับเรื่องราวในด่านตรวจ ในซิงเกิลล่าสุด ขอเชิญท่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์

หลังจากเพลงก่อนหน้านี้ Kaotood ได้พาทุกคนไปตรวจสุขภาพพบกับคุณหมอมาแล้ว และได้คารวะในความเลื่อมใสกันไปหลายจอก ร่ำสุรากันจนเต็มที่ เพลงนี้ดันเป็นภาคต่อภาคที่สอง เขาจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเรื่องราวระหว่างทางกลับบ้าน ที่ควบม้าคู่ใจดันไปเจอด่านตรวจ โดนโบกให้ชิดซ้ายเลยโดนสอบถามว่าท่านนักปราชญ์ผู้นี้ไปทำอะไรมา จึงตอบไปอย่างไม่เฉไฉว่าไปตรวจสุขภาพ แต่กลับกันควบม้ามาอย่างเซ ถามไถ่กันไปมาจนทราบกระทั่งชื่อม้านามว่า Stephanie Del Hose หรือเรียกสั้น ๆ สเตฟานี่เดินเซ นักปราชญ์ได้ตอบคำถามให้ตำรวจหายคาใจ กระทงแรกผ่านไป กระทงต่อไปกำลังจะมา ผู้หมวดเลยจัดการทดสอบวัดระดับแอลกอฮอลล์โดยการต่อมุกภาษาอังกฤษลามกันจนไปถึงวิชาฟิสิกส์ยันชีววิทยา ถามไถ่ไปเรื่อย ๆ จนกลับกลายเป็นการยกจอกสุราดื่มกันซะงั้น ก่อนที่นักปราชญ์ท่านนี้จะโดนล่อลวงให้เป่าแอลกอฮอลล์อีกหลายครั้ง ซึ่งเรื่องราวในเพลงนี้หากจะให้เล่าทั้งหมดก็คงจะยืดเยื้อเกินไป ต้องให้ทุกคนตามไปฟังกันเองกับเพลงคุณภาพ ที่ฟังแล้วต้องคารวะด้วยการชนจอกสุราให้เลย เลื่อมใสจริง ๆ สำหรับท่านนักปราชญ์ด้านเนื้อเพลงสร้างสรรค์ที่มีนามแฝงว่า Kaotood

เมาไม่ขับ เพราะจับม้ามาขี่ เพลงสุดปั่นที่จะชวนให้คุณได้ยิ้มตามกันไปตั้งแต่แรกจนถึงจบ กับซิงเกิลล่าสุด ขอเชิญท่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์ จากท่านนักปราชญ์ Kaotood ผู้ไม่เป็นสองรองใครในยุทธภพ

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

Camel Gel – Seer

ร้อนแรงดั่งไฟแผดเผาจริง ๆ สำหรับสองศิลปินดูโอ้จากวง Camel Gel ที่ครั้งนี้พวกเขาพาแม่มดอีกตนหนึ่งมาให้ทุกคนรู้จัก ที่เรื่องราวจะดูคลับคล้ายคลับคลาเป็นภาคต่อของ Witch กับซิงเกิลล่าสุด Seer

Seer พาเรากลับมาในยุคกลางกันอีกครั้ง เพียงแค่อินโทรเริ่มต้นที่มาพร้อมเสียงเครื่องสายก็สามารถจินตนาการไปถึงบรรยากาศ ณ ที่ตรงนั้นได้แล้ว เรื่องราวของแม่มดที่มีความสามารถในการหยั่งรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถึงแม้ Seer จะรู้ทุกอย่างแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย มีปีกไว้ให้ได้โบยบินแต่ก็ไม่สามารถไปฆ่าราชันย์ได้เช่นกัน โลกห่วย ๆ แห่งนี้มันทำให้เราเป็นได้แค่แมลงหวี่ แมลงวันตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ ในเมื่อโลกนี้มันเส็งเคร็งมากพอแล้ว แม่มดตนนี้จึงอยากที่จะทำลายโลกขึ้นมาเพราะอยู่ไปมันก็ไม่ดีขึ้น ไม่สนหน้าพระเจ้าองค์ไหน ไม่สนแม้แต่เด็กน้อยชายหญิงผู้ไร้เดียงสา ไม่มีอะไรให้เขาต้องกังวลอีกต่อไป ไม่มีใครอยู่ที่นี่ เพราะมันคือดินแดนดิสโทเปียไงล่ะ! ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกแผดเผาไปกับเปลวไฟอันเดือดดาล ไม่มีใครสนใจเรา เพราะทุกคนกำลังกอบโกยเงินอยู่ เงินที่มันกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งผู้คนต่างขายวิญญาณไปกับการทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อแลกกับมัน แต่กลับกันเหล่าพวกคนรวยเหล่านั้นต่างเสพสุขอยู่บนวิมานที่มีทุกอย่างบนหยาดเหงื่อของพวกคุณ ความรู้สึกโดดเดี่ยวของเหล่ามนุษย์ที่เดียวดาย ไม่เพียงแต่คุณจะสัมผัสมันได้เพียงแค่คนเดียว แต่มีอีกหลายคนรู้สึกแบบนี้อีกเช่นกัน ความรู้สึกที่ตายจากข้างในกำลังถูกเผาไหม้และปล่อยให้มันมอดดับลงเหลือเพียงแค่เถ้าถ่านในที่สุด ในพาร์ทของเนื้อเพลง Camel Gel ได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาได้อย่างเฉียบคมอีกเช่นเคย ผสมผสานกับซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องสาย เสียง ambient ต่าง ๆ รวมตัวกันกับ drum & bass ที่หนักแน่น เรียกได้ว่ามีมิติ และองค์ประกอบทางดนตรีที่ชวนฟังจริง ๆ อดใจรอไม่ไหวสำหรับซิงเกิลต่อไปของ Camel Gel เลยว่าจะพาเหล่าผู้มีพลังวิเศษคนไหนมาเสิร์ฟถึงหูให้เราได้ฟังกันอีก เอาเป็นว่าต้องให้คุณผู้ฟังฝากติดตามพวกเขาทั้งสองไว้ด้วยนะ

หรือที่เรากำลังอยู่ ณ ตอนนี้ เป็นโลกที่เป็นดิสโทเปียกันแน่? โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานจากความอยุติธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังแผดเผาเราอย่างเลือดเย็น Seer ซิงเกิลล่าสุดจาก Camel Gel 

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

The Whitest Crow – หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า

การกลับมาของกาที่ขาวที่สุด The Whitest Crow ที่ในคราวนี้พวกเขาย้อมสีชมพูมาเจนต้ามาสุดขีดแบบปล่อยใจจอย ๆ ผ่านจังหวะที่พวกเราเองก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ฟังความจัดจ้านเหล่านี้ใน หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า

จากประโยคคุ้นหู ‘หวานเป็นลม ขมเป็นยา’ สู่ หวานเป็นลม ขมเป็นบ้าเพลงที่ทำเราคลั่งเพียงเปิดฟังครั้งแรก ความจัดจ้านของดนตรีที่ผสมผสานหลากเสียงหลากจังหวะเข้าด้วยกัน พร้อมกับเนื้อหาความหวานความขมมาบิดจากสำนวนคุ้นหู ทำให้เรารู้สึกเข้าถึงได้ไม่ยากและเห็นภาพตามเป็นฉาก ๆ กับความสัมพันธ์ที่เคลือบฉากไว้ด้วยคำหวาน แต่ความรู้สึกจริงที่ได้เจอมันขมจนทำให้เราเป็นบ้า เขาเลยบอกกันนี่ไงว่าอย่าเชื่อคำคนมากเกินไป เสียใจมาแล้วก็มานึกถึงคำหวาน ๆ ที่เคยพูด โอ้โห ขมมมมมมมมม ฟากดนตรีคมคายจนอดที่จะอวยยศไม่ได้ว่าต่อให้เวลาผ่านไปเท่าไร แต่ความรู้สึกที่ THE WHITEST CROW มอบให้ยังคงเป็นความรู้สึกของความสดใหม่ที่เราเดาไม่เคยได้ว่าเพลงที่พวกเขากำลังจะปล่อยนั้น จะออกมาไม้ไหน ซึ่งใน ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’ ก็มอบจังหวะ ‘จะอึ่ม’ ที่ทำงานกับทุกอวัยวะในร่างกายให้ขยับทันทีที่ได้ฟัง และเมื่อฟังจบแน่นอนว่าเราก็อดใจไม่ไหวต้องเปิดฟังซ้ำ นอกเหนือจากความจัดจ้านในดนตรี วิธีเล่าเรื่องที่คราวนี้ได้ ภู Wallrollers มาร่วมเขียนเนื้อด้วย ก็แนบเนียนเสียจนเราเชื่อได้ 100% ว่านี่คือความเป็น THE WHITEST CROW ที่คอยบอกเล่าความเสียใจในมุมของผู้ชายมาตลอด แก่นหลักของคำว่า One Drink and We Go Cry พอถูกจัดวางอยู่ในความเป็นกาขาว ก็พอเหมาะพอดีและเห็นภาพชัดเลยว่า แค่แก้วเดียวก็ร้องไห้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมากกว่านั้น เพราะหัวใจ ช้ำใน ต้องล้างใจ หมดกลม! นับเป็นก้าวที่มอบความสนุก สะหูสะใจให้กับคนฟังได้ไม่น้อย และเชื่อกว่าการเดินทางของ THE WHITEST CROW ในอนาคตจะต้องทะลุเพดานได้อย่างแน่นอน!

หากคุณเป็นอีกคนที่เคยเจ็บช้ำกับความรัก คำสัญญา และคำหวาน ๆ จากใครบางคนจนรู้สึกขมเป็นบ้าเมื่อนึกถึง ไม่มีเพลงไหนจะเหมาะกับความรู้สึกนี้ไปมากกว่า ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า อีกแล้ว ขอฝากซิงเกิลล่าสุดที่สุดมันจาก THE WHITEST CROW ไว้ด้วยฮะ!

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

ROOTS TONE – สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip)

ROOTS TONE วงดนตรีแนวเร็กเก้ ที่มีแนวคิดมาจากคำว่า “รากเหง้า ของศิลปะ วัฒนธรรม และเสียงที่ชื่นชอบ” การรวมตัวของรุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่มีความชอบคล้ายกัน รวมตัวกันสรรค์สร้างงานศิลปะและดนตรีออกมาเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก เรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ในเพลง ซึ่งในวันนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับซิงเกิลใหม่ สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip)

สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip) เป็นอีกเพลงหนึ่งที่อยู่ในอัลบั้ม Samsara สังสารวัฏ หรือที่เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือการเวียนว่ายตายเกิด ตามธรรมชาติของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งในเพลง สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip) คงกล่าวได้ถึง “กรรม” ที่เราได้พลั้งเผลอทำลงไปในวันวาน มันอาจจะสะท้อนย้อนกลับมาในปัจจุบันอีกครั้งหนึ่งก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบไหนที่ย้อนกลับมาในชีวิตของเรา สิ่งเดียวที่ต้องทำ ก็คือรับมือกับมันให้ไหว หรือในบางครั้งเราเองอาจจะจมอยู่กับอารมณ์ลวง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของความพอใจเพียงแค่นั้น แต่ในความเป็นจริงคงหลีกหนีไม่พ้นกฎของการเวลาไปได้ เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนผันแปรไปตามการหมุนของโลก เราก็แค่เพียงยอมรับและเข้าใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้ สิ่งที่ทำลงไปแล้วจะส่งผลกลับมาในไม่ช้าก็เร็ว อาจจะเป็นผลดีหรือไม่ดี สิ่งเหล่านั้นก็คงจะสะท้อนย้อนกลับไปมาตามหลักของ “สังสารวัฏ” นั่นเอง ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ด้านเนื้อร้องของเพลงนี้ ROOTS TONE ทำออกมาได้ดีจริง ๆ สามารถเป็นเพลงเตือนสติในวันที่ลุ่มหลงได้เลย ฟากของดนตรีก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน จังหวะยกของเร็กเก้ ตามด้วยการเดินเบสที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับจังหวะกลอง บวกด้วยเสียงร้องอันนุ่มนวล ทำเอาฟังเพลงนี้ได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลยจริง ๆ จากรากเหง้าที่แตกต่างกัน แต่ศิลปะและเสียงดนตรีนำพาให้พวกเขามาพบกัน จนเกิดเป็น ROOTS TONE และขอฝากซิงเกิลล่าสุดของพวกเขาไว้ด้วยสำหรับ สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip)

สะท้อนย้อนกลับไปมาตามสังสารวัฏ กฎของการเวลาเมื่อมีสิ่งใดผันแปรเปลี่ยนไป ก็ต้องรับมันให้ไหว ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม สะท้อนย้อนกลับ (Reflection Trip) ซิงเกิลล่าสุดจาก ROOTS TONE

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

Varis – down down down

Varis กลับมาอีกครั้งในแบบที่เท่ หม่น และเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม หลังจากซิงเกิลก่อนหน้าอย่าง don’t wanna hold u back ที่ทำเอาเราซึมไปตาม ๆ กัน กลับมาคราวนี้บอกได้คำเดียวว่าต้องตบเข่าฉาดดัง ๆ ให้กับความเท่อีกระดับในซิงเกิลล่าสุด down down down

down down down เพลงที่ดึงความสนใจจากหูเราได้ตั้งแต่วินาทีแรกกับซาวด์ดีไซน์ที่ถูกวางไว้ มันเท่เสียจนหยุดปากชมไม่ได้ รอนับคำว่าเท่จากบทความนี้ตอนอ่านจบได้เลยว่าจะโผล่มาอีกกี่คำ ขึ้นมาอย่างหล่อแต่ปนเปไปด้วยความอึดอัดของเรื่องราวในเพลงที่เล่าไว้ ความรู้สึกของการเป็นผู้ที่มีเรื่องอยากพูดเต็มไปหมด แต่ไม่แม้แต่จะมีใครสนใจอยากฟัง หรือจริง ๆ อาจเป็นที่เราเองที่ก็ไม่ได้กล้าพอที่จะให้เขาทราบเรื่องราวอีกด้านที่มากมายในใจ เป็นมุมที่เรามองว่าน่าสนใจมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะผู้ฟังเริ่มน้อยกว่าผู้พูดลงทุกที และในหลาย ๆ ครั้งกว่าจะรู้ตัวแล้วยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใครสักคนที่กำลังพบกับเรื่องที่ยากในชีวิตจนตัวเองดำดิ่ง ก็อาจกลายเป็นว่าช้าไปแล้วกับการที่เราไม่ได้พยายามใช้หูหรือหัวใจฟังเขาในครั้งนั้น แล้วมันจะแย่ลงกว่าเดิมถ้าเรารู้ว่าเรามีโอกาสฟังเขาเพื่อหาทางออกไปด้วยกันได้ แต่เป็นเราเองที่ทำให้เขาไม่ได้พูดสิ่งที่รู้สึกในใจออกมาจนมันสายไป

อีกความน่าสนใจในเพลงนี้คือการที่เราได้ฟังวริศ speak-sing แบบเต็มข้อ สลับกับซาวด์เท่ ๆ ที่มีลูกเล่นยุบยับเต็มไปหมดแต่ไม่รู้สึกว่ามันล้น ทุก ๆ เสียงที่เกิดขึ้นในเพลงนี้มาแบบถูกที่ถูกทางและถูกเวลาที่ควรจะได้ยิน ไล่ไดนามิคกันเหมือนอยู่ในเขาวงกตแบบที่ไม่รู้ว่าปลายทางจะได้พบกับอะไรถ้าออกไปได้ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าท่อนหรือประโยคต่อไปจะได้ฟังอะไรจากเพลงนี้ แต่มันเท่จนในหัวไม่สามารถหยุดร้อง ‘ด่าว ดาว ด่าว ด๊า ดา ด่า ด่าว’ ได้เลย เป็นท่อนที่ทำงานกับข้างในคนฟังมากจริง ๆ พอมาเจอกับเสียงคีย์ที่กดอยู่ซ้ำ ๆ ในท่อนบริดจ์ฟังแล้วเหมือนกำลังเร่งเครื่องเหยียบ 120 มาถึงสี่แยกที่มีทางรถไฟ แล้วดันเป็นคันแรกของการโดนเสียงเตือนว่ารถไฟกำลังมา ต้องรีบเบรกให้ทันก่อนไม้กั้นจะตกลงมาโดนหน้ารถ ไม่ก็ต้องเลือกที่จะรีบเหยียบไปให้พ้นเร็ว ๆ เป็นความรู้สึกที่ตีกันนัวข้างในแบบที่หาทางออกไม่เจอแล้วก็ต้องทนมันอยู่อย่างนั้น เท่บ้า เท่บอ ไม่รู้จะชมอะไร แต่อยากให้ทุกคนได้ลองไปฟังด้วยตัวเอง เราเชื่อว่าเพลงนี้จะทำงานกับทุกคนในทางที่ต่างออกไป แต่ก็เชื่อว่าเราน่าจะมีจุดร่วมกันคือการที่ได้มองเห็น Varis เติบโตไปอีกขั้นผ่านเพลงนี้

down down down เป็นเพลงที่ยืนยันได้จริง ๆ ว่าความสามารถของ Varis ยังทะลุปรอทได้เรื่อย ๆ เคยร้อนได้แค่ไหน เขายังร้อนได้มากกว่านั้น เคยเท่ไว้แค่ไหน ก็ยังปีนขึ้นไปเท่ต่อได้อีก ทั้งชั้นเชิงการเล่าเรื่องผ่านเนื้อเพลง และการทำบรรยากาศของดนตรีที่พาหูเราไปพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเมื่อได้ฟัง ดีใจที่ได้เห็น Varis ในลุคยมบาลชุดขาวผ่านเพลงนี้ ปีนี้เตรียมตัวรออัลบั้มเต็มของเขาไปพร้อมกันได้เลย สนุกแน่! ขอฝากไว้ด้วยฮะ 

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

RE-HEAR EXPERIENCE – ทิ้งเขาได้ไหมแล้วกลับมาเลือกฉันอีกที 

อีกหนึ่งวงดนตรีที่โดนเส้นชาวฟังใจอย่าง RE-HEAR EXPERIENCE ที่ก่อนหน้านี้ เพลงของพวกเขาติดชาร์ตกันอย่างไม่หยุดยั้งอย่างเพลง เทสดี (Taste Dee) และ หมา (DOGGY) ครั้งนี้ RE-HEAR EXPERIENCE กลับมาอีกครั้งในสถานะของคนอกหัก กับซิงเกิลล่าสุด ทิ้งเขาได้ไหมแล้วกลับมาเลือกฉันอีกที

ทิ้งเขาได้ไหมแล้วกลับมาเลือกฉันอีกที ซิงเกิลใหม่ลำดับที่ 3 จากวงสุดกวนคาแรกเตอร์ยียวนชวนย้อนแย้ง RE-HEAR EXPERIENCE จากสังกัดค่าย Chase Music ที่ครั้งนี้หยิบเรื่องราวความรักของคนใกล้ตัวมาเขียน เรื่องราวของผู้ชายขี้แพ้คนหนึ่งที่พยายามทำทุกอย่างให้คนรักเก่า ทิ้งคนใหม่และกลับมารักกับเราอีกครั้ง เพราะตัวเราเองที่มันยังมูฟออนออกจากตรงนั้นไม่ได้ ยังคงโหยหาความรักของเธออยู่แบบเดิม ๆ  จนถึงขั้นที่ต้องโพสต์รูป ส่งข้อความต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปเพราะอยากให้เธอกลับมา เพราะตอนนี้ลืมเธอไปไม่ไหวจริง ๆ ไม่มีใครที่เหมือนเธอคนนี้อีกเลย จะอ้อนวอน ขอร้องไปเท่าไหร่ก็เป็นสิ่งที่ยากเย็นเหลือเกินที่จะทำให้ทิ้งเขาแล้วกลับมาหาเรา ในพาร์ตของดนตรีทางวงเองตั้งใจผลิตความสดใหม่ออกมาในรูปแบบที่เรียบง่าย เข้าถึงง่ายกว่าเดิมเพื่อตั้งใจให้เข้าถึงคนฟังได้อย่างดีที่สุด สลัดมาดกวน ๆ แบบเดิม ๆ เก็บขึ้นหิ้งกันไว้ก่อน กลายมาเป็นพ่อหนุ่มอกหักเศร้า ๆ กันในเพลงนี้ การถ่ายทอดอารมณ์ความเศร้าผ่านดนตรีป๊อป–ร็อก ผสมผสานกับไลน์แซกโซโฟนขยี้เข้าไปลึก ๆ อย่างนุ่มนวลช่างทำเอาเราอินกับเพลงนี้ได้ดีจริง ๆ อีกทั้งในด้านเนื้อเพลงยังได้ กอล์ฟ–Superbaker มาเป็นที่ปรึกษาให้กับเพลงนี้อีกด้วย ทุกอย่างในเพลงนี้ถูกสื่อสารออกมาได้อย่างกลมกล่อม และมีอรรถรสได้ดีเลยทีเดียว 

ทุกเวลายังคงโหยหาเธออยู่ตลอด ยังมูฟออนไม่ไหวเลย ได้โปรดเถอะเธอ ทิ้งเขาได้ไหมแล้วกลับมาเลือกฉันอีกที ซิงเกิลล่าสุดจาก RE-HEAR EXPERIENCE 

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

mindfreakkk Once Upon The End

mindfreakkk และ tanskul กลับมาเปิดปี 2023 ด้วยการพาพวกเราไปล่องเรือ ร้องเพลง ดูปลาโลมา ในวันสุดท้ายก่อนโลกจะแตก ในซิงเกิลล่าสุด Once Upon The End

Once Upon The End เพลงแห่งวันสุดท้ายก่อนโลกแตกในคราบดนตรีสดใสต้อนรับซัมเมอร์ ความคอนทราสต์ของดนตรีกับเนื้อหาที่โอบกอดทุกสิ่งที่งดงามก่อนจะต้องบอกลาทุกสิ่งที่เคยพบเคยเห็นเคยเจอเคยได้ใช้เวลาได้พูดคุยและสัมผัส เรื่องราวของเพลงนี้เลยเกิดขึ้นบนเรือสำราญที่ทุกคนมาร่วมร้องเพลง เต้น หัวเราะ มีหมาขับเรือให้ บ้างก็หนีไปนอนหวานกันสองคน บ้างก็ยืนดูโลมาเงียบ ๆ คนเดียว แต่ไม่ว่าเป็นใครบนเรือ ทุก ๆ คนล้วนมีความสุขก่อนที่จะถึงจุดหมาย มันคงจะเหมือนช่วงแว้บหนึ่งในห้วงความคิดที่รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราขอทำเท่านี้แหละเพียงพอแล้ว ถึงจุดที่ลาจากไปได้โดยที่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรือกังวลในวันข้างหน้า และไม่ได้อยากตื่นมาเจอพรุ่งนี้แล้ว ขอเอ็นจอยกับโมเมนต์ตรงหน้าเพียงเท่านี้ก็พอ เป็นเพลงที่ยูโทเปียมาก ๆ เพราะในชีวิตจริงเราเอ็นจอยทุกวันเหมือนคืนวันส่งท้ายได้แค่ไม่นาน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ต้องกอบโกยร่างและขูดจิตวิญญาณไปขายต่อในการทำงานอยู่ดี ดนตรียังคงฟังแล้วรู้ทันทีว่าเพลงนี้คือ mindfreakkk เพิ่มลูกเล่นของ spoken words ในช่วงท้ายที่เป็นกัปตันมาบอกทุกคนว่าถึงที่หมายแล้ว ท่อนนี้ทำงานกับหัวใจและความรู้สึกข้างในมาก ๆ หากดู mv ไปพร้อม ๆ กันด้วย 

พูดถึง mv แล้วก็อดชมไม่ได้ ความงดงามของท้องฟ้าและทะเลที่สีเหมือนฝันจริง ๆ ปั้นกันจนสงสัยว่าสภาพคอมที่ใช้ทำ mv นี้เป็นยังไงบ้างแล้ว นอกจากทำเพลงเก่งกันแล้ว ก็ยังทำวิชวลสวยสมใจจริง ๆ ยกความสุดยอดนี้ให้ tanskul ผู้มีอีกร่างเป็น MD XD49 ยกให้เป็นอีกหนึ่ง mv ในปีนี้ที่เล่าเรื่องได้งดงาม พร้อมพาเราไปอยู่ในวันสุดท้ายก่อนโลกแตกได้แบบมีความสุขสุดหัวใจจริง ๆ

เราค่อนข้างเชื่อว่า Once Upon The End จะเป็นเพลงแห่งการหลบหนีความรู้สึกแย่ ๆ มาพักใจในมุมเล็ก ๆ ของตัวเองที่ดีสำหรับวันที่ไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะคนเรามีวันโลกแตกได้ทุกวันทางความรู้สึก เพียงแต่เรายังต้องตื่นมาเจอวันรุ่งขึ้นที่อาจเป็นวันโลกแตกใหม่ของเราไปเรื่อย ๆ อย่างไม่จบสิ้นก็เท่านั้น หวังว่าเพลงนี้จะช่วยเยียวยาหัวใจทุกคนได้เหมือนกับที่เพลงอื่น ๆ ของ mindfreakkk ทำได้มาตลอดนะ! ขอฝากไว้ด้วยฮะ

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

YENTED – พร้อมพัง (B.G.A.F)

YENTED (เญ็ณฐ์เฏ็ฑร์) วงดนตรีป๊อป–อาร์แอนด์บี ฝีมือดีจากพะเยา กลับมาเรียกน้ำตาพวกคุณอีกครั้งกับซิงเกิลล่าสุด พร้อมพัง (B.G.A.F) 

พร้อมพัง (B.G.A.F) เรื่องราวจากเพื่อนชายที่หลุดเข้าไปในภวังค์ของการตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเมื่อได้เข้าไปในความสัมพันธ์นี้แล้ว ทุกอย่างมันจะพัง ต่อให้ตัวเองจะเจ็บปวดแค่ไหน เสียความรู้สึกยังไง ก็ไม่เคยที่จะล้มเลิกความพยายามในการเอาชนะใจเธอได้เลย ในบางครั้งคนรอบตัวก็เตือนแล้ว ว่าอย่าเอาใจลงไปเล่นให้เจ็บเสียเปล่า แต่ก็ยังดันทุรังไม่ฟังใคร เอาหัวใจไปพังให้ทรมานซะงั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนในครั้งนี้ บางทีก็มีสิ่งดี ๆ ซ่อนอยู่ บางทีก็ยังมีสิ่งร้าย ๆ ซ่อนอยู่อีกเช่นเดียวกัน ความสับสนก่อตัวเกิดขึ้นมาทันที หรือจริง ๆ แล้วที่ผ่านมาทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เคยทำให้ เธออาจจะไม่เคยรู้สึกอะไรกับเราเลยก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะต้องเจ็บหนักแค่ไหน ปวดใจอีกกี่ครั้ง สิ่งเดียวที่ต้องการ คือการมีเธออยู่ข้าง ๆ ก็พอแล้ว เปรียบเสมือนกับการที่เราได้เข้าไปกอดกับเม่น หรือกระบองเพชรอย่างจัง ถึงแม้จะรู้ตัวว่าเจ็บ แต่ก็ยอมอดทน เพราะสิ่งที่ทำลงไปมันคือความรักที่ตั้งใจมอบให้จริง ๆ กลับมาเรียกน้ำตาให้พวกเรากันอีกแล้วสำหรับ YENTED แค่ฟากเนื้อร้องของเพลงนี้ก็ทำเอาน้ำตาคลอเบ้ากันได้เลยทีเดียว แถมยังมีท่อนแร็ปเพิ่มอรรถรสขยี้กันเข้าไปอีก ผสมผสานกับพาร์ตดนตรีในแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ของ YENTED อีก ใครที่เพิ่งเจอเรื่องราวคล้าย ๆ กับเพลงนี้มา พอได้ฟังอาจจะมีเข่าทรุดกันแน่นอน 

ดันทุรังจนไม่ฟังใครจนทำให้ใจพังในที่สุด การพยายามในความรักไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าสิ่งนั้นมันทำให้คุณต้องเจ็บช้ำทรมานอยู่เรื่อย ๆ ก็ออกมาเถอะ พร้อมพัง (B.G.A.F) ซิงเกิลล่าสุดจาก YENTED

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

 

2021 Ocean Vibes ดินสอสู่ปากกา

2021 Ocean Vibes กลับมาอีกครั้งพร้อมเพลง coming of age ที่ขมแต่งดงาม ใน ดินสอสู่ปากกา ซิงเกิลล่าสุดที่จะพาเรากลับไปเยี่ยมวัยเยาว์อีกครั้ง

ดินสอสู่ปากกา เพียงอ่านชื่อเพลงก็รับรู้ได้ว่าต้องเป็นอีกเพลง coming of age ที่ชอบแน่ ๆ และเมื่อฟังก็ชอบจริง เพลงพาเรากลับไปสมัยที่ได้ยินเสียงออดเลิกเรียนแทนการได้ยินเสียงเมลเด้ง พาเรากลับไปนึกถึงสมัยป.สามที่เฝ้ารอการขึ้น ป.4 ให้ได้เปลี่ยนจากดินสอไปเป็นปากกา พาเรากลับไปนึกถึงครั้งได้ทดลองใช้ลิขวิดหลาย ๆ แบบ หลาย ๆ ดีไซน์ พาเรากลับไปจนถึงบรรยากาศเวลาออกมาเดินหน้าโรงเรียน หลังโรงเรียน ซื้อขนมกินกับเพื่อน ๆ ไอศกรีมคนละแท่ง โตเกียวหวานเค็ม เครปญี่ปุ่น ไก่ทอดชุบแป้งและอื่น ๆ อีกมากมาย เพลงพาเรากลับไปได้จริง ๆ ด้วยดนตรีที่มีกลิ่นอาย 80s แบบเข้มข้นทุกชิ้น เรื่องภาษาวงนี้ไว้ใจได้เสมอเพราะพวกเขาเล่าเรื่องได้งดงามขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเพลง แต่ที่ต่างออกไปคือเนื้อเพลงนี้ทำให้เราเห็นภาพเป็นฉาก ๆ อย่างชัดเจนว่าชีวิตปัจจุบันที่เป็นจริงกับตอนที่วาดฝันไว้ตอนเด็ก ๆ มันห่างไกลกันมากแค่ไหน บ้างก็ดี บ้างก็น่าเสียดายกับตัวเองว่าทำไมเราถึงพาเราเองมาถึงจุดนี้ แต่เพลงก็ปลอบโยนเราจนเราเข้าใจว่า ใช่ การเติบโตมันก็ต้องมีเรื่องผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา เราย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่เราจะไม่กลับไปทำซ้ำ และเดินหน้าใช้ชีวิตขม ๆ แบบนี้ต่อไป

น่าสนใจไม่น้อยจากเพลงก่อน ๆ หน้าที่มีกลิ่นอายซิตี้ป็อปชัดเจน สู่ดนตรี 80s ที่ทำออกมาได้ไพเราะและน่าประทับใจ พร้อมเรื่องราวที่เป็นการเล่าชีวิตมากกว่าความสัมพันธ์ ก็ทำให้เรารู้สึกราวกับว่าเราเองก็ได้เห็น 2021 Ocean Vibes เติบโตจากดินสอสู่ปากกาด้วยเหมือนกันจากเพลงนี้ ไม่ว่าวันใดที่รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง ขอให้เปิด ดินสอสู่ปากกา เพื่อให้ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากวันวานมาเติมเต็มตัวเราในปัจจุบันนะ ขอฝากไว้ด้วยฮะ!

ฟังเพลงนี้บนฟังใจ

‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟังที่ฟังไร สัปดาห์ที่สามเดือนเมษายน 2023

Facebook Comments

Next:


Donratcharat

นัท มีหมาน่ารักสองตัวชื่อหมูตุ๋นกับหมูปิ้ง กาแฟดำยังจำเป็นต่อชีวิต และยกให้กาแฟใส่นมเป็นรางวัล