ฟังไร รวมเพลงใหม่น่าฟัง สัปดาห์สุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2023
‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
PETITE – die tryin
PETITE (เปอติ๊ด–ญาดา โกเมศ) กลับมาอย่างสง่างามภายใต้บ้านหลังใหม่ Yeezaa Music ที่พร้อมเผยด้านอ่อนแอ และให้กำลังใจทุกคนที่กำลังผ่านสารพัดเรื่องราวที่หนักหนาในซิงเกิลล่าสุด die tryin
die tryin โซลเนิบ ๆ ที่เค้นอารมณ์เราได้ด้วยเครื่องดนตรีที่น้อยชิ้นมาก ๆ จนชูเสียงร้องของเปอติ๊ดได้อย่างโดดเด่น เพลงที่ทำให้เราซึมลึกย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ และที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งในเพลงนี้เปอติ๊ดได้ถ่ายรอดเรื่องราวที่ถูกบ่มเพาะมานานนับทศวรรษ ผสมกับเชื้อเพลิงอย่างการสูญเสียที่เป็นตัวกระตุ้นให้ถึงเวลาที่จะเผยตัวตนในมุมที่คนฟังแบบเรา ๆ อาจจะยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน และในขณะเดียวกันเธอก็อยากที่จะให้กำลังใจทุก ๆ คนที่กำลังเจอเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะการสูญเสียที่สักวันเราจะผ่านไปได้ คำวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำให้เราเป็นเราในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไปจนสิ่งที่กำลังจะตามมาในอนาคตที่เราไม่อาจรู้ได้ และแทบไม่สามารถให้ความแน่ใจได้ด้วยซ้ำว่าเราจะผ่านมันไปได้อีกครั้งไหม แต่สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสุดท้ายแล้วทุกสิ่งจะผ่านไปไม่ว่าโลกใบเล็ก ๆ ของเรามันจะถล่มลงมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็คือการที่เปอติ๊ดยังอยู่ในวันนี้ และส่งต่อเรื่องราวไว้ให้เป็นเพื่อนที่ดีของพวกเราในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหยิบเรื่องราวที่ส่วนตัวขนาดนี้ออกมาเล่าอย่างงดงาม อยากบอกเปอติ๊ดจริง ๆ ว่าเก่งมาก ๆ แล้วที่ผ่านมาได้ ไม่ว่าพระเจ้าจะแกล้งแค่ไหน อยากให้รู้ว่าจริง ๆ เธอเข้มแข็งมากกว่าที่เธอคิดไว้ และแน่นอนว่าทุกคนที่กำลังต้องดีลกับเรื่องยาก ๆ เหล่านี้ สักวันก็จะผ่านไปได้แบบที่เปอติ๊ดผ่านไปได้ขอแค่อย่าหยุดพยายามหาทางให้ตัวเองได้พบกับความสุขนะ ให้ die tryin อยู่เป็นเพื่อนในวันที่หัวใจไม่อยากสู้อีกแล้ว และให้เพลงนี้เป็นเครื่องเตือนใจเสริมพลังให้ตัวเองว่าทุก ๆ อย่างมันจะดีขึ้นสักวันจริง ๆ เป็นกำลังใจให้ทั้งเปอติ๊ดและทุกคนที่กำลังอ่านอยู่เลย! ขอฝาก die tryin เพลงเพราะจากเธอ และฝากเชียร์เปอติ๊ดกับ Yeezaa ในอนาคตด้วยฮะ!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
PLASUI PLASUI – Happy Hurtday
กลับมาอีกครั้งกับวงดรีม-ป็อปขวัญใจชาวฟังใจ 3 หนุ่มจากมหาสารคาม วง PLASUI PLASUI หลังจากห่างหายไปนานกว่า 8 เดือน ในวันนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ล่าสุด Happy Hurtday
Happy Hurtday เกริ่นมาเพียงแค่ชื่อเพลง บอกได้เลยว่าเจ็บแน่ ๆ กับเพลงนี้ที่ PLASUI PLASUI ได้กล่าวถึง การลืมเรื่องราวต่าง ๆ ของความสัมพันธ์ที่แตกหักลงไปแล้ว จำไม่ได้เลยแม้แต่นิด ว่าเธอเคยใจร้ายกับเรา ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาก็ดูรักกันมาก คำพูดทุกคำที่เคยบอกไว้ด้วยกันเราก็ลืมไปหมดแล้ว หยดน้ำตาที่เปื้อนหน้าเพราะเคยเสียใจให้กับความรักในวันนั้นมันไม่มีมือไหนมาคอยซับน้ำตาให้อีก ได้แต่ปล่อยให้มันแห้งเหือดหายไปเองและทิ้งคราบน้ำตาเอาไว้ แต่เมื่อได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง สิ่งเหล่านั้นที่เคยบอกว่าลืม จำไม่ได้ ความทรงจำเก่า ๆ ค่อย ๆ ไหลผ่านอารมณ์เศร้ากลับเข้ามาในใจเราอีกครั้ง ภาพที่เคยกินข้าวด้วยกัน เดินเล่นด้วยกัน มันย้อนกลับมาหาตัวเราเองอีกครั้ง หรือสิ่งนี้จะเป็นนัยยะสำคัญที่ PLASUI PLASUI ตั้งใจจะบอกกับเราหรือเปล่าว่า ต่อให้เอ่ยปากบอกว่าลืมไปหมดแล้ว แต่ในความเป็นจริงความทรงจำเหล่านั้นยังคงซ่อนเก็บไว้ในใจเสมอมา หากได้กลับไปในสถานที่เดิม ๆ บรรยากาศเดิม ๆ และพบเจอคนเดิมที่เคยรู้จักกันดี ภาพแฟลชแบคในความทรงจำของเราก็กลับมาทิ่มแทงหัวใจอีก หรือในอีกมุมหนึ่งถ้าหากว่าเราลืมแล้วจริง ๆ เราก็คงไม่สามารถอธิบายได้หรอกว่าเธอคนนั้นใจร้ายเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นในมุมมองไหน เพลงนี้ก็เจ็บได้ทุกจุดจริง ๆ และในส่วนของมิวสิกวิดีโอของพลงนี้ก็เจ็บไม่แพ้กัน หากใครเป็นเด็กลาดกระบัง แล้วเคยมีความทรงจำต่าง ๆ ที่นี่ คงจะถูกใจแต่ละซีนไม่น้อยเลยทีเดียว ในส่วนของดนตรี PLASUI PLASUI ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เดิมไม่เปลี่ยนแปลงไป ซาวด์ดนตรีดรีม-ป็อปที่ค่อย ๆ พาคุณจมลงไปในห้วงอารมณ์ของความเศร้าเปรียบเสมือนนั่งอยู่ในตู้ปลายังคงติดตรา ตรึงใจผู้ฟังทุกคนอยู่ตลอดมา
PLASUI PLASUI กลับมาครั้งนี้ กระแสของพวกเขายังไม่หายไปแน่นอน เพียงปล่อยเพลงออกมาแค่ไม่กี่วันก็สามารถได้ครองพื้นที่ชาร์ตบนฟังใจไปแล้วเรียบร้อย และขอฝาก Happy Hurtday เพลงนี้ไว้กับทุกคนด้วย หากใครที่กำลังเจอเรื่องราวแบบนี้มา เราคิดว่าเพลงนี้จะตอบโจทย์ โดนใจพวกคุณไม่น้อยเลยทีเดียว
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Win Nimman feat. korekara – Sweet Girl On Fire
Win Nimman (วิน นิมมาน) หรือที่รู้จักกันในนาม “โรแมนติกร้าย” นักกวี และศิลปินที่ห่างหายไปนานกับวงการดนตรีเป็นเวลาเกือบสองปี ในวันนี้เขากลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ล่าสุด Sweet Girl On Fire
Sweet Girl On Fire เพลงสไตล์คันทรี่-ป็อปแดนซ์ มาพร้อมกับเมโลดี้สนุกสนาน เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายในยุค 80’s กับเนื้อเพลงที่ถ่ายทอดความเป็นตัวเองของนักกวีอย่าง วิน–นิมมาน ออกมาได้อย่างดี หญิงสาวผู้อ่อนหวานที่ถูกโลกใบนี้ทำร้ายหัวใจอย่างสาหัส ดวงตาที่แสนอ่อนโยน และริมฝีปากของเธอที่เปรียบเสมือนเชอร์รี่ที่กำลังแดงสด เธอรู้บ้างไหมว่าเธอเป็นคนที่มีทั้่งความหวานปานน้ำผึ้ง และความร้อนแรงราวกับไฟซ่อนนั้นอยู่ในตัวของเธอเอง และถึงแม้เธอจะเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวาน แต่ความอ่อนหวานในตัวของเธอนี้ ก็ไม่ใช่ความอ่อนแอเสมอไป บทเพลงนี้เป็นสื่อแทนใจที่ วิน–นิมมาน อยากจะบอกว่า “ถ้าโลกรังแกเธอมากไป ขอให้เธอไม่ลืมความหวานแบบไฟลุกที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง เพราะเธอกล้าหาญ และคู่ควรกับอิสรภาพมากกว่าที่คิด” เพลงหวาน ๆ ที่บอกรักตามสไตล์ของบทกวี “โรแมนติกร้าย” ที่ได้ป็อปดูโอ้อย่าง korekara มาร่วมทำผลงานชิ้่นนี้ด้วย อีกทั้งยังได้ Pammy’s Palette มาวาดปกซิงเกิลนี้ออกมาผ่านทางศิลปะแบบ Impressionist ภาพหวานของหญิงสาวในยุค 80’s กำลังนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง มือข้างซ้ายกำลังถือไอศกรีมรสวานิลลาของโปรด และขาทั้งสองข้างของเธอถูกสวมด้วยรองเท้าโรลเลอร์สเก็ต พร้อมที่จะออกไปโลดแล่นบนถนนแห่งชีวิตอย่างอิสระแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเป็นชายหนุ่มผู้อ่อนโยน หรือหญิงสาวผู้อ่อนหวาน เราคิดว่าเพลงนี้จะเป็นกำลังใจให้พวกคุณได้ในวันที่โลกกำลังรังแกคุณอยู่ ดั่งเนื้อเพลงท่อนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ฉันรักเธอแต่ไม่หวังครอบครอง แต่อยากอยู่เคียงข้าง และสนับสนุนให้เธอสตรองในวันที่โลกใจร้าย” ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเหตุการณ์แบบไหนเราหวังว่า บทกวีของโรแมนติกร้าย และเสียงดนตรีของ Win Nimman จะช่วยเยียวยาคุณได้ไม่มากก็น้อย
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
STORY AND FEEL. – หนี (run again)
อาร์ม–ภัทรพล หรือที่รู้จักกันในนาม STORY AND FEEL. อีกหนึ่งศิลปินผลผลิตจากรั้วสีเขียวเวอร์ริเดียน หลังจากห่างหายไปเป็นเวลา 8 เดือน จากซิงเกิลก่อนหน้า รู้สึกดี (I feel good) ในวันนี้เขากลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ หนี (run again)
หนี (run again) เพลงที่พูดถึงการกระทำที่ย้ำคิดย้ำทำ กับความพยายามที่อยากจะลืมใครสักคนให้ออกไปจากความคิดถึง แน่นอนว่าเราต่างก็รู้อยู่แล้ว ว่าวิธีการมูฟออนออกจากความรักครั้งเก่าต้องทำอย่างไร และความตลกร้ายที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึกนี้ มันคงหนีไม่พ้นการที่เรารู้ทุกอย่างแต่กลับทำไม่ได้ คำสั่งการจากสมอง และคำสั่งการจากหัวใจกำลังตบตีกันอยู่ภายในตัวเรา เรื่องราวของความสัมพันธ์ในครั้งก่อนมันยังไม่สามารถลบออกไปได้เลย ต่อให้ออกแรงวิ่งหนีสุดชีวิต ความทรงจำระหว่างเราก็ยังคงตามติดเป็นเหมือนเงาอยู่ตลอดเวลา และถึงแม้จะใช้เวลาในการลบเลือนเรื่องราวเหล่านี้ ตัวเราเองก็ยังคงวนกลับมาที่เดิม การเดินทางบนเส้นทางที่อยากจะลืมใครสักคนมันช่างยากเย็นยิ่งนัก คงจะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ยังคงกลับมาค้นหา และดำดิ่งจมอยู่กับความรู้สึกของวันวานที่มันทำให้เรารู้สึกดีอีกครั้ง ในขณะเดียวกันเองความเจ็บปวดทรมาน กำลังปะปนคลุกเคล้ากันไปเช่นเดียวกัน ความสุข และความเศร้าที่คงหาไม่ได้จากที่ไหน รสชาติของการหนีความทรงจำในอดีตนี้ ที่ทั้งหวานและขมในเวลาเดียวกันยังคงติดตราตรึงใจไปอีกนาน บทสรุปสุดท้ายของตัวเราเองก็ยังคงไขให้กระจ่างไม่ได้ว่าต้องหนีไปให้ไกลเท่าไร ถึงจะหลุดพ้นมันไปเสียที ถึงแม้รักครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวที่ดี แต่ก็ยังคงหวังว่าวันใดวันหนึ่งเราต้องลืมมันให้ได้สักที
เป็นเรื่องที่ยากอีกเช่นกันสำหรับการจะลืมใครสักคนให้ออกไปจากชีวิต แต่เราเชื่อว่าทุกคนจะผ่านพ้น และหนีความเจ็บปวดนี้ไปได้แน่นอนไม่ช้าก็เร็ว และให้ หนี (run again) จาก STORY AND FEEL. คอยอยู่เป็นเพื่อนคุณในวันที่พบเหตุการณ์แบบเดียวกัน สักวันหนึ่งคุณเองจะสะบัดตัว และหนีออกมาจากพันธนาการแห่งความเศร้านี้ได้แน่นอน
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Sao Moonlight Gypsy – THE DARKEST TIME
Sao Moonlight Gypsy เสียงจากสาวรำวงที่เราคิดถึง กลับมาปล่อยเพลงให้เราได้ฟังกันอีกครั้งใน THE DARKEST TIME เพลงที่ว่าด้วยช่วงเวลาของชีวิตที่มืดมนที่สุด
THE DARKEST TIME เพลงที่เพียงแค่อ่านชื่อเราก็เดากันไปเองก่อนว่าเพลงนี้ต้องมาเศร้าแบบขมปี๋แน่นอน แต่เอาเข้าจริงสำหรับเราเพลงนี้คือเพลงปลอบใจที่ดีมาก ๆ เพลงค่อย ๆ เริ่มมาด้วยกีตาร์โปร่งที่คลอด้วยซาวด์สังเคราะห์ก่อนจะส่งต่อให้เสียงสวย ๆ ของเธอได้บรรเลงเรื่องราวของช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด หัวใจเปราะบางพร้อมที่จะแตกสลายและหายไปในที่สุด แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องพยายามกอบโกยเศษใจที่แตกสลายมาประกอบให้ได้เพื่อจดจำว่าตัวเองต้องเดินหน้าต่อไม่ว่าสิ่งที่เจอมันจะหนักหนามากเพียงใดก็ตาม แล้วพอส่งเข้าท่อนฮุกที่ฮัมซ้ำไปซ้ำมาว่า “ลา ลา ฮู ลา ลา ฮู ลา ลา” มันเพราะพอเหมาะพอดีกับความรู้สึกที่เพลงค่อย ๆ นวดมาจนถึงตอนนี้ ท่อนนี้ทำเอาเรานึกถึงการกำหนดลมหายใจที่ทำให้มีสติและสมาธิจดจ่อกับตัวเองอยู่เสมอ ๆ โดยที่เธออาจไม่ได้ตั้งใจ แต่ท่อนนี้กลับช่วยดึงสติให้เรากลับมาอยู่กับความคิดในปัจจุบัน เลิกเฝ้ามองอดีตที่เลวร้ายได้ในพริบตาพร้อมกับมองเห็นตัวเองที่ยังอยู่เคียงข้างกันมาเสมอ ยังหายใจรอใช้ชีวิตในวันต่อไป ถึงแม้ตัวเราในวันนี้อาจจะไม่ได้อยากอยู่สู้กับทุก ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม ดนตรีงดงามในทุกท่วงทำนอง ยิ่งช่วงท้าย ๆ ที่โหมเครื่องสายเข้ามาขยี้หัวใจที่แตกสลายพร้อมเสียงร้องหลากเลเยอร์ก่อนจะทิ้งให้เรารู้สึกไปกับดนตรีสังเคราะห์ในช่วงท้ายจนจบ มันทำหน้าที่กับหัวใจได้ไม่น้อยเลย
ดีใจที่ได้กลับมาฟังเพลงจาก Sao Moonlight Gypsy อีก เป็นอีกคนที่เราคอยเชียร์อยู่เสมอ และเชื่อว่าเพลงนี้จากเธอก็จะเชียร์ให้หลาย ๆ คนหลุดพ้นห้วงสีดำมืดมิดนั้นได้ในเร็ววันเป็นแน่ ขอฝาก THE DARKEST TIME ไว้ในวันที่หัวใจบอดด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Daniel Ryn – Let Me Love U
พ่อหนุ่มคนดีคนเก่งคนเดิม Daniel Ryn เปิดศักราชส่งท้ายเดือนแห่งความรักกับซิงเกิลล่าสุดที่คลั่งรักไม่ไหว Let Me Love U
Let Me Love U อินดี้-ป็อปฟังเพลินที่ชวนยิ้มตลอดทั้งเพลง เมื่อเราได้พบเจอกับคนที่เหมือนหลุดมาจากจินตนาการ ความรู้สึกเรามันก็เกินต้าน อยากจะทำหน้าที่เป็นคนที่ได้ดูแลเธอตลอดไป ถึงขั้นยอมแลกทุกอย่างที่มีเพื่อความรักครั้งนี้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ทำได้ไม่ดีเท่าฉันแน่! ถึงแม้เธอจะยังไม่ได้เปิดใจให้เรามากขนาดนั้น แต่ความหวังก็ยังเปี่ยมล้น เดินหน้าสู้สุด ๆ แล้วไอความน่ารักยียวนที่มาในรูปแบบผู้ชายแสนดีผ่านดนตรีป็อปเด้งแบบนี้เนี่ย ทำเอาเราหุบยิ้มไม่ได้จริง ๆ เป็นทางที่น่ารักมากจาก Daniel Ryn และเราก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบได้ในครั้งแรกที่ฟังเหมือนกัน
ก่อนจะหมดเดือนนี้ ลองให้ Let Me Love U เป็นตัวแทนความรักและความหวังดีถึงคนที่เรากำลังรู้สึกด้วยสิ เผื่อจะสมหวังได้ยิ้มไปนาน ๆ เหมือนกับเวลาฟังเพลงนี้ ขอให้ทุกคนมีรักที่งดงามทางนี้รอยินดีด้วยเสมอ ขอฝากเพลงใหม่ล่าสุดจากหนุ่มเมกันด้วยฮะ!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ