‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟังในสัปดาห์ที่สาม เดือนมกราคม 2022
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul / Jiratchaya Srisuwan / Teramet Tongsong
กลับมาแล้วกับ ‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
Door Plant – I’m saying, Love You
เปิดประตูรับความสดใสให้ชุ่มฉ่ำหัวใจไปกับ Door Plant วงดนตรีที่มาพร้อมกับความสบายใจ สบายหูทุกครั้งเมื่อได้ฟังเพลงของพวกเขา ราวกับได้อยู่ท่ามกลางต้นไม้ในห้องเล็ก ๆ อันแสนอบอุ่น ได้พักหัวใจและผ่อนคลายจนหายเหนื่อย ประกอบไปด้วย ภูมิ ( นักร้องนำ, กีตาร์ ), โอ๊ต ( กีตาร์ ) , ที ( กลอง ) และ ซัน (กีตาร์) เจ้าของเพลงเพราะอย่าง เธอนั่นไง, ขอให้เธอ รวมไปถึงเพลงอื่น ๆ ที่พวกเขาได้รวมไว้ใน EP ที่ชื่อ Let Me Summer ที่เต็มไปด้วยความสดใสในฤดูร้อน และเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาก็ได้ส่งเพลงล่าสุดที่ชื่อว่า I’m saying, Love You เพลงน่ารักที่อยากส่งต่อให้คนข้าง ๆ ว่าเราอยู่ตรงนี้เสมอ
I’m saying, Love You เพลงที่อัดแน่นไปด้วยความน่ารักปนความเป็นห่วง ที่อยากให้กำลังใจใครบางคนที่อยู่ข้าง ๆ เรา ในวันที่อะไร ๆ อาจจะไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้จนทำให้เธอหงุดหงิด เซ็ง หรือเศร้าใจ แต่เพียงแค่เธอลองนับหนึ่ง สอง สาม ช้า ๆ ให้ใจได้เย็นลง ฮัมไปตามเสียงเพลงให้ความโกรธได้จางลง อย่างน้อยเธอยังมีฉันอยู่ตรงนี้เสมอ และฉันก็จะคอยบอกรักเธอตรงนี้ไม่ไปไหน มาพร้อมกับซาวด์ดนตรีฟังง่ายสไตล์ Door Plant กับท่อนฮุก Hoo Hoo Hoo ที่ฟังเพลินจนติดหู ผสมเข้ากันอย่างลงตัวจนทำให้เพลง I’m saying, Love You เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำให้เรายิ้มได้เมื่อได้ฟัง
ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ ก็ลองนับ 1 2 3 แล้วให้เพลงนี้จากพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนจนใจเย็นลงนะ ก็ขอฝากเพลงนี้จาก Door Plant รวมไปถึงเพลงอื่น ๆ ใน EP Let Me Summer เอาไว้ด้วยน้า รับรองว่าฟังแล้วสดใสแน่นอนเล้ย!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Cornboi.fromtheday – Postcard
หลังจากเศร้าไปกับเพลงที่แล้ว สิ่งที่เธอพูดออกมา กลับมาคราวนี้เจ้าหนุ่มข้าวโพดทั้งหกเตรียมเพลงแห่งความคิดถึงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก มามอบให้กับทุกคนที่ยังเฝ้ารอคอยบางคน บางเวลา และบางเรื่อง ที่จะทำให้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ใน Postcard
Postcard บทเพลงแห่งความคิดถึง ความสงสัย และความเป็นห่วง ตัวแทนของรักทางไกลที่ยากจะได้พบ ในที่นี้อาจเป็นคนที่ไกลจริง ๆ แต่ยังได้พูดคุยกัน หรืออาจเป็นใครบางคนที่แยกย้ายกันไปตามเส้นทาง หรือกระทั่งใครบางคนที่จากลาแบบไม่หวนกลับก็ได้ อยู่ที่หัวใจของคนฟังจะพาไปโดนจุดไหนเข้า ยังคงเป็นบทเพลงที่ซื่อตรงต่อความรู้สึก ทั้งภาษา เนื้อหา เสียงร้อง และดนตรี เป็นความคิดถึงที่ทรมาน แต่กลับมีความหวังอยู่ในดนตรีที่ให้แสงสว่างต่อหัวใจพร้อมสู้ต่อกับการรอคอยที่ห่างไกลและยาวนานนี้ได้ น้ำเสียงของภูมิ (นักร้องนำ) ยังคงเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างคนฟัง และตัวเพลงได้เป็นอย่างดีเช่นเคย บวกกับเนื้อเพลงที่มีวรรคทองแห่งความคิดถึงอยู่มากมายในตลอด 5 นาทีนี้ เป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อได้เลย
จะได้พบกันอีกเมื่อไร ยังไม่มีใครรู้ได้ แต่ที่แน่นอนคือยังมีคนที่รอให้กลับมาเสมอ หวังว่า Postcard ความยาว 5 นาทีใบนี้ จะช่วยส่งให้ความคิดถึง ไปถึงเขาได้เสียทีนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
YNYL – พอ
YNYL (วายนีล) อีกหนึ่งวงดนตรีน่าจับตามองจากรั้วมหิดล ประกอบไปด้วย 3 หนุ่มอย่าง แบ่งปัน อาร์ม และปอนด์ ที่พกฝีไม้ลายมือทางดนตรีไว้อย่างเครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เนื้อร้อง หรือซาวด์ดนตรี ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจจนคนฟังอย่างเราเมื่อได้ฟังแล้วก็ประทับใจเลย และตั้งตารอว่าในอนาคตพวกเขาน่าจะต้องมีอะไรสนุก ๆ มาฝากเราอีกแน่นอน ตอนนี้ YNYL ได้มาพร้อมกับเพลงแรกของพวกเขาที่ชื่อว่า พอ ชื่อเพลงสั้น ๆ แต่ซ่อนไปด้วยเนื้อหาที่ฟังแล้วได้กลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง จนสุดท้ายเราก็เลือกที่จะ พอ ไม่เอาแล้วกับการฝืนยิ้มตีหน้าว่ามีความสุขดี
“พอ พอแล้ว อยากจะพอ พอแล้ว
ฝืนยิ้มไม่เอาแล้ว อยากจะพอ พอเเล้ว”
เคยไหม เวลาที่ต้องฝืนยิ้ม ทำหน้าตามีความสุข เพียงเพราะทุกคนคิดว่าเราเป็นร่าเริง หัวเราะสดใสตลอดเวลา เลยต้องฝืนแกล้งยิ้มกลบความเครียดและความคิดต่าง ๆ ในใจมากมาย แต่คนเหล่านั้นไม่เคยรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มอันแสนสดใสนั้นถูกซ่อนไว้ด้วยปัญหา ความคิดที่วุ่นวาย ความเครียด และความเศร้าอยู่ตลอดเวลา และไม่เคยถามเราสักคำด้วยซ้ำ พอ จึงเป็นเพลงที่ได้รวบรวมความรู้สึกเหล่านั้นที่หลายคนก็อาจจะเคยพบเจอ ออกมาผ่านซาวด์ดนตรีที่น่าสนใจมาตั้งแต่เริ่มต้นเพลงไปจนจบ รวมไปถึงเนื้อเพลงที่โดนใจ พร้อมกับท่อนฮุกที่ติดหู ให้เราได้บอกตัวเองว่าสุดท้ายก็ต้อง พอ พอแล้ว เลิกฝืนยิ้มสักที ผสมกับเนื้อ
เป็นเพลงที่ถ่ายทอดความรู้สึกภายในใจให้ได้สำรวจ ตั้งคำถาม และแก้ปัญหากับตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะสุดท้ายถึงจะฝืนยิ้มมากแค่ไหน สักวันรอยยิ้มนั้นก็จะเริ่มโชว์ความไม่สดใสของเราออกมาจนสุดท้ายเราก็ต้องเลือกที่จะพอ และเลิกฟังเสียงของคนรอบข้างสักที นับเป็นเพลงแรกจากพวกเขาที่เรียกได้ว่าทำออกมาได้อย่างน่าสนใจและประทับใจเลยทีเดียว สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก VNYL และเพลงนี้ รวมไปถึงผลงานในอนาคตจากพวกเขาไว้ด้วยน้า
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Game of Sounds – Gotta Feel
Game of Sounds โปรเจกต์วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มต้นขึ้นมาจากส่วนผสมของเหล่านักดนตรีมากฝีมือ โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้ปล่อย Sloppy อัลบัมที่บรรจุเพลงมาถึง 12 เพลงให้ได้ฟังกันอย่างเต็มอิ่มไปแล้ว หลังจากห่างหายกันไปนานจนคิดถึง ในที่สุดพวกเขาก็ได้ปล่อยซิงกิลใหม่ออกมาให้ได้ฟังอย่าง Gotta Feel ซึ่งเพลงนี้ เป็นเพลงแรกจาก Still Be Okay อัลบั้มที่สองของพวกเขาที่จะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันจนหายคิดถึงในไม่ช้านี้อีกด้วย
Gotta feel บทเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวในวันที่โลกได้หมุนไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองที่มีผู้คนมากมาย เต็มไปด้วยการแข่งขัน เราต่างทำงานหนักเพื่อแลกกับทรัพยากรที่ทำให้ชีวิตอยู่รอดและนำมาใช้ในการต่อเติมความฝัน แต่ในสังคมที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ การลวงหลอก ทำให้เราต้องมุ่งเป้าหมายไปที่การเอาชีวิตให้รอด ต้องทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้มีความรู้สึกกับสิ่งอื่น ๆ รอบตัว และบางครั้งก็ทำให้ลืมทำตามความฝันที่เคยมีไว้ตั้งแต่แรก กว่าจะรู้ตัวก็ถูกกลืนกินเข้าไปอยู่ในวัฏจักรนี้แล้ว แต่ก็ทำได้เพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถกลับมามีความรู้สึกได้เหมือนอย่างที่เคยอีกครั้ง
พาร์ทดนตรีกลับมาคราวนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ตามสไตล์ของ Game of Sounds เพียงแต่ลูกเล่นยุบยิบคอยแทรกเข้ามาเรื่อย ๆ ของเขานั้นมากขึ้น ชวนให้ติดหูจนอดที่จะรู้สึกตามไม่ได้ มีการหยิบเสียงต่าง ๆ ที่ไม่สามารถสรรหาคำมาบรรยายได้ใส่ลงไปในเพลงได้อย่างลงตัว มีเลเยอร์ของเสียงซ้อนอยู่มากมาย อยากให้ทุกคนลองเข้าไปฟังและทำความรู้จักพวกเขาผ่านบทเพลงด้วยตัวเองจริง ๆ ไม่เพียงเท่านั้นในท่อนฮุกก็ยังมีไลน์เบสเด้ง ๆ ประกอบกับเสียงเครื่องให้จังหวะที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของชายหาด และเสียงเคาะที่ทำหน้าที่ราวกับเป็นคลื่นที่คอยซัดเข้ามาเป็นจังหวะ เพื่อปลอบใจให้ผ่านช่วงเวลาไร้ความรู้สึกนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
FREEHAND – กอด
หลังจากเคี่ยวจนงวด ถึงเวลาที่การเดินทางของพวกเขาจะได้ออกมาสู่คนฟังแบบเต็มอิ่มแล้ว กับอัลบั้ม “ท้องฟ้าจำลอง” ที่มีอยู่ทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน แต่วันนี้เราขออนุญาตมาเล่าถึงหนึ่งในเพลงที่เราชอบมาก ๆ จากอัลบั้มนี้ นั่นก็คือ กอด นั่นเอง
กอด เพลงอ้อนวอนขอการโอบกอดจากใครบางคน แต่กลับโอบกอดหัวใจคนฟังได้ภายในครั้งแรกที่ฟัง เพลงส่งพลังมาถึงเราได้ผ่านเนื้อเพลง ราวกับเราเป็นคนที่กำลังถูกกอดอยู่ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเนื้อหาที่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ไร้เรี่ยวแรงไปต่อ ชีวิตกำลังตกอยู่ในความมืดมน หรือเหนื่อยล้ากับสิ่งรอบข้างจนไม่มีพลังใจ และสิ่งที่จะทำให้ไปต่อไหวมีเพียงแค่กอดของใครบางคนที่เราต้องการ ผ่านท่วงทำนองและเสียงร้องทรงพลังที่ก็ส่งพลังถึงเราได้จริง ๆ และต้องการที่จะหายใจต่อในวันต่อ ๆ ไป จังหวะที่เร้าให้เรารู้สึก ทุก ๆ คำในเพลงที่กลั่นกรองออกมาจากเรื่องราวที่ใกล้ตัว ยิ่งทำให้เรารักเพลงนี้มากยิ่งขึ้น และแน่นอนยังคงเป็น FREEHAND ที่ดีเช่นเคย
บางความทรมานมันยากที่จะมีใครเข้าใจ ในวันที่โลกเป็นสีดำ อาจมีเพียงคน ๆ เดียวที่เป็นแสงสว่างจุดเล็ก ๆ ที่ถ้าเราสามารถเอื้อมไปจับได้ ก็คงจะได้พบกับโลกสดใสที่รออยู่ข้างหน้า นอกจากจะเป็นเพลงที่เข้าใจคนที่กำลังต่อสู้กับเรื่องราวโหดร้ายรอบ ๆ ตัวแล้ว ยังเป็นเพลงที่ทำให้เราอยากจะให้กำลังใจคนอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กับต่อสู้กับเรื่องตัวเองด้วย หวังว่าทุกคนที่หาทางออกไม่เจอ พอได้ฟังเพลงนี้จะพบกับแสงสว่างในวันพรุ่งนี้ที่รออยู่ พร้อมส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่ต้องการได้นะ อย่าลืมไปฟังเพลงอื่น ๆ จากอัลบั้ม ท้องฟ้าจำลอง ด้วยนะ!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
minekuk – ผ่านเพลงนี้
minekuk (มายกุ๊ก) หรือ มาย – ชนมาศ เทศศรีแดง ศิลปินน้องใหม่มากความสามารถจาก MILK! ที่มาพร้อมกับเสียงใส ๆ ความหลงใหล และความรักในการสร้างสรรค์ผลงานเพลง ก่อนหน้านี้มายกุ๊กได้มีโอกาสอัด count in ให้ศิลปินมากความสามารถอย่าง วง mirrr และ scrubb อีกด้วย และด้วยความชื่นชอบในเสียงดนตรี มายจึงได้ผลิตผลงานเพลงแนวป็อปฟังสบายที่ผสมผสานกับความเป็นอคูสติกไว้ได้อย่างลงตัว ผ่านซิงเกิลแรกที่มาพร้อมกับดนตรีและเนื้อหาที่น่ารักชวนส่งให้คนที่ชอบอย่างเพลงแรกที่มีชื่อว่า ผ่านเพลงนี้ (sending)
“จะส่งเพลงนี้ให้เธอได้ฟัง ในวันที่เงียบเหงา เรามีเพลงนี้เป็นเพื่อนกัน
ได้โปรดจงรู้ว่าฉันยังอยู่เคียงข้างเธอ และฉันดีใจที่เจอเธอ”
ผ่านเพลงนี้ เพลงที่เป็นเหมือนข้อความที่เต็มไปด้วยรู้สึกดี ๆ ที่อยากส่งต่อไปถึงใครบางคนที่พิเศษ จะเรียกว่าเป็นเพลงสำหรับคนแอบรักก็ได้ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อยากบอกออกไปตรง ๆ แต่ในใจแทบระเบิดเวลาได้เจอหน้า โดยเพลงนี้มายได้ตั้งใจถ่ายทอดความรู้สึกในเพลงที่มีความซับซ้อน ความอึดอัด สับสน และความหวังดีในเวลาเดียวกัน และอยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับเขา เป็นเพลงแทน “ความรู้สึกในใจ” ที่ไม่ว่าเขาจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม
ในพาร์ทดนตรี เพลงนี้มาพร้อมกับดนตรีสบาย ๆ แต่มีมิติให้น่าติดตาม โดยมายได้เลือกใช้ซาวด์อคูสติก คลอมากับทำนองเบา ๆ และค่อย ๆ ไล่ไดนามิกของเพลงขึ้นมาเรื่อย ๆ มีทั้งช่วงเบาช่วงพัก ช่วงสับสน ช่วงปลุกใจ ช่วงที่ทำให้เรารู้สึกว้าวุ่นไปกับเธอด้วย ทั้งหมดนั้นสื่อให้เราเห็นภาพและเข้าใจถึงความรู้สึกในแต่ละช่วงของบทเพลง พร้อมปิดจบด้วยความเป็นอคูสติกที่ลงตัวเพื่อจะให้รู้สึกว่าสุดท้ายเรื่องราวในเพลงนี้ก็คือความรู้สึกดีที่มายได้บ่นพึมพำกับตัวเองไว้นั่นเอง แง
เชื่อว่าเพลงนี้น่าจะโดนใจใครหลายคนที่กำลังแอบชอบใครบางคนอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บความรู้สึกที่มากมายเหล่านั้นไว้ในใจ ถ้ายังไม่กล้าบอกเขาไปตรง ๆ ก็ลองให้เพลงนี้เป็นตัวแทนความรู้สึกของเราส่งต่อไปให้เขา ผ่านเพลงนี้กันนะ สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก minekuk ให้ทุกคนได้รู้จักและติดตามผลงานของเธอในอนาคตต่อไปด้วยนะ ต้องมีอะไรสนุก ๆ แน่นอน
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
neptember – Spinach
neptember หรือ นัท–ดลรัชรัตน์ พรหมสุนทรสกุล นักร้องนักแต่งเพลงที่มาพร้อมเสียงใส ๆ และดนตรีป็อปฟังสบายที่ซ่อนเรื่องราวไว้ในเพลงเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ก่อนหน้านี้นัทได้ปล่อยเพลงออกมาด้วยกัน 3 เพลง ได้แก่ ถ้าไม่ใช่ จะได้ทำใจไว้เลย, พร้อมที่จะ รวมไปถึงเพลงล่าสุดอย่าง SAY IT และหลังที่หายไปเป็นเวลาร่วมปีจนคนฟังคิดถึง neptember ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับซิงเกิลล่าสุดที่พกความน่ารักมาแบบไม่มีกั๊ก พาให้หัวใจได้พองโตไปกับเพลงที่ชื่อว่า Spinach
‘Pouring sugar on your heart Make my spinach with spice
Our love will be full of surprise Everything will be nice’
Spinach เพลงที่ให้ความรักเป็นดั่งเมนูโปรด เปรียบเหมือนผักโขมของป็อปอายที่กินแล้วมีแรงขึ้นมาทันทีทันควัน เช่นเดียวกับความรักที่ก็ช่วยให้เรามีพลังใจ และนอกเหนือจากในมุมป็อปอายแล้ว เพลงนี้ก็ถูกเล่าออกมาด้วยมุมของโอลีฟ ที่ก็พร้อมเคียงข้างไปเรื่อย ๆ ทุกคราที่ป็อปอายต้องการเช่นกัน ถ่ายทอดออกมาผ่านดนตรีน่ารักสดใสตามสไตล์ neptember อีกเช่นเคย รวมไปถึงเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่เรียบง่ายแต่น่ารักชวนให้ยิ้มไม่หุบ
ในพาร์ทดนตรี เพลงนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยนแนวไปจากสามเพลงแรกที่ neptember เคยได้ทำออกมาก็ว่าได้ เพราะได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์อย่าง Mick Petchpoom มีการอัดเครื่องดนตรีต่าง ๆ เข้าไปเพื่อความสดใหม่ พร้อมกับลูกเล่นจากเปียโน ซินธ์ และ สตริง ที่ทำให้บรรยากาศในเพลงเต็มไปด้วยความสดใสและอบอุ่น ผักโขมจานนี้เลยค่อย ๆ ถูกปรุง และอบจนสุก ทำให้ Spinach ออกมาเป็นเมนูจานโปรดที่พร้อมเสิร์ฟเป็นกำลังใจที่เต็มไปด้วยความรักและความหวังที่อยากส่งต่อให้ใครบางคนที่แสนพิเศษ
Spinach จึงเป็นอีกเพลงป็อปที่ทำให้เราได้เห็นถึงการเติบโตทางดนตรีของ neptember เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาในรอบเกือบปีที่สดใสและเต็มไปด้วยพลังบวกผ่านบทเพลงน่ารัก ๆ และเชื่อว่า Spinach น่าจะเป็นอีกเพลงที่พร้อมส่งต่อความสุข ความสดใส สร้างพลังใจและเป็นเพลงเริ่มวันดี ๆ ให้แก่คนฟังทุกคน ก็ขอฝาก neptember เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน้า
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
BOXX ARTIST – เธอ ๆ เรามีอะไรจะบอก
เหล่าศิลปินจาก BOXX MUSIC INK WARUNTORN, SERIOUS BACON, PORTRAIT, COPTER, BEAN NAPASON, O-PAVEE, ONEONE, MAIY, NANN, FAI PATTHAYA, MARC TATCHAPON และ THE KASTLE รวมทั้งสิ้น 12 ศิลปิน ที่ได้ผนึกกำลังทำเพลงพิเศษ เนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 6 ปีของค่าย BOXX MUSIC ด้วยซิงเกิลน่ารัก ๆ ส่งไปถึงแฟนเพลงทุกคนกับเพลงที่มีชื่อว่า เธอๆเรามีอะไรจะบอก (Tell u Somethin’) ที่ผสมผสานเนื้อเพลงและชื่อเพลงของพวกเขาลงไปเพลงทั้งหมด
เธอๆเรามีอะไรจะบอก เพลงพิเศษที่รวมเนื้อเพลงและชื่อเพลงของทั้ง 12 ศิลปินเอาไว้ในเพลงเดียว โดยแบ่งให้ทั้ง 12 ศิลปินแบ่งท่อนกันร้องแบบแรนด้อมกันไปเลย โดยแต่ละศิลปินจะตชแต้งเนื้อเพลงในท่อนของตัวเองและนำมารวมกันจนกลายเป็น เธอๆเรามีอะไรจะบอก ที่ร้อยเรียงทุกบทเพลงของทุกคนเอาไว้ได้อย่างสวยงามผ่านเนื้อหาของเพลงที่น่ารัก ที่ฟังแล้วก็เพลินไปเลย แต่ถ้าฟังดี ๆ เราก็จะได้ยินเนื้อเพลงหรือชื่อเพลงของแต่ละศิลปินที่ซ่อนอยู่ในนั้น เหมือนฟังเพลงไปก็ลุ้นกันไปว่าท่อนนี้มาจากเพลงไหนกันนะ ซึ่งก็เป็นความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเพลงนี้เหมือนกัน
เป็นเพลงน่ารัก ๆ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองฟังกัน เลพงนี้เราก็จะได้ยินเสียงของทั้ง 12 ศิลปินที่รวมอยู่ในเพลงเดียวกันไปเลย เรียกว่าฟัง 1 ได้ถึง 12 เหมาะกับการเปิดฟังในวันสบาย ๆ หรือส่งไปให้คนรอบตัวแทนความรู้สึกดี ๆ ก็ได้นะ สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพลงนี้เอาไว้ รวมถึงขออวยพรวันเกิดครบรอบ 6 ขวบของ BOXX MUSIC ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
FOMEO – Precious Smile
หลังจากที่ได้ส่งซิงเกิลแรกที่ชื่อเพลงอันยาวเหยียดแต่เต็มไปด้วยคามน่ารักอย่าง รอยยิ้มของเธอมันช่างสวยและเลิศเลอกว่าสิ่งใดที่ฉันนั้นเคยได้พบเจอ จนติดชาร์ตบนฟังใจยาวนานหลายสัปดาห์ ทำให้ FOMEO ศิลปินที่เป็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในวงการดนตรีที่น่าจับตามอง รวมถึงทำให้เราลุ้นว่าเพลงต่อไปของเขาจะยาวเหมือนเพลงแรกที่ปล่อยออกมารึเปล่านะ หลังจากที่หายไปหลายเดือน เขาได้กลับมาพร้อมกับซิงเกิลที่สองที่ยังคุมโทนความคลั่งรักที่มีแต่รอยยิ้มที่สวยงามเอาไว้เช่นเคย กับเพลงภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า Precious Smile
Precious Smile เพลงที่เปิดมาด้วยประโยคแรกก็ทำเราเขินจนบิดไปแล้ว พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อใครสักคนจนอยากจะอยู่กับเขาคนนั้นไปนาน ๆ จนอยากให้เวลานั้นหยุดเดิน และให้เราได้อยู่แบบนี้สักพักหนึ่ง จะเรียกได้ว่าเป็นเพลงคลั่งรักก็ได้แหละ เราชอบท่อน Can I just say that? Your smile is so precious I’ve never ever seen someone like you ฟังไปก็เขินไป ได้แต่แอบคิดว่าจะมีใครมาบอกเราแบบนี้บ้างไหมนะ ในส่วนของดนตรีก็ยังทำออกมาได้อย่างลงตัว ฟังได้แบบสบาย ๆ ใหอมยิ้มกันไปเลย
นับเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกจาก FOMEO ที่ทำออกมาได้อย่างดีเลย แถมยังคงความคลั่งรักเอาไว้ได้อยู่เหมือนเดิมไม่แพ้เพลงแรก เหมาะกับการส่งไปจีบใครสักคน หรือเปิดฟังเริ่มต้นวันใหม่อย่างแฮปปี้ก็ดีเหมือนกันนะ ก็ขอฝากเพลงนี้จาก FOMEO ให้ทุกคนได้ลองฟังกันด้วยน้า รับรองว่าฟังแล้วยิ้มแน่นอน
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Monday Journey – Just Another Broken Soul
Monday Journey ดูโอ้ ตี๋ และ พีท ที่เริ่มเดินทางด้วยกันผ่านเสียงดนตรีในเพลงแรกนี้ ซึ่งก็คือ Just Another Broken Soul ที่เราหยิบยกมาให้ทุกคนลองฟังกันในวันนี้นั่นเอง!
Just Another Broken Soul เริ่มต้นด้วยการมองภาพคนที่กำลังหลงทาง ไร้ทางออก นั่งเศร้า เสียใจด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วสานต่อจนกลายเป็นเพลงที่เรียกสติ ให้กำลังใจ และทำให้เราหันกลับมามองตัวเราเองอีกครั้ง ว่าที่เป็นอยู่นี้มันใช่เรารึเปล่า? หรือกลายเป็นใครที่โดนปกคลุมไปด้วยความเศร้า และกำลังต่อสู้กับมันด้วยวิธีที่ทำร้ายตัวเองอยู่กันแน่? ด้านดนตรีทำให้เราหวนนีกถึงเพลงสากลช่วงยุค 2000s ที่ค่อนข้างลีดด้วยริฟฟ์กีตาร์ไฟฟ้าคลีน ๆ เสริมไปกับกีตาร์โปร่งที่สตรัมแบบเต็มมือ แล้วฉุดเราเข้าไปอยู่กับโซโล่ ทำให้เพลงนี้จากตี๋และพีทมีความจริงใจสูงมาก ๆ และเพลงก็ทำหน้าที่เรียกสติได้ดีไม่แพ้กัน
ในชีวิตเราก็คงมีบ้างที่ล้มลงแล้วไม่รู้จะไปพึ่งใคร จนสุดท้ายอาจเลือกทางท่ีผิดไปบ้าง แต่มันก็คงจะดีขึ้นมาก ๆ ถ้ามีใครสักคนพูดกับเราในแบบที่เพลงนี้พูดด้วย หวังว่าทุกคนจะได้ทำความรู้จักกับเพลงใหม่ ๆ จากศิลปินหน้าใหม่ แล้วค่อย ๆ ซ่อมแซมหัวใจที่สึกหรอไปด้วยกันนะ :–)
ฟังเพลงนี้ฟังใจ
NumChuM – Manmaid
NumChuM (น้ำเชื่อม) ศิลปินสาวที่เดินทางอยู่ในวงการดนตรีมาพักใหญ่ ก่อนหน้านี้เธอเคยมีผลงานร่วมกับ ตูน Stoondio ในเพลง โลกร้อน และเธอยังมีวงดูโอ้อย่าง Kingkong and the Chum หลาย ๆคนก็อาจจะเคยเห็นเธอได้เข้าไปเป็นผู้เข้าแข่งขันบนเวที The Voice Season 7 ก่อนที่เธอจะกลับมาอีกครั้งกับการเป็นศิลปินเดี่ยว ในปีที่ผ่านมาเธอได้ปล่อยผลงานเพลงออกมาให้ได้ฟังกันถึงสองเพลง นั่นก็คือ Sun Salutation และ Manmaid เพลงลำดับที่สอง ซึ่งเธอได้ชักชวน แพรวา Yellow Fang มาร่วมร้อง และยังได้ควงแขนเหล่านักดนตรีมากหน้าหลายตามาร่วมกันบรรเลงในเพลงนี้
Manmaid การผสมคำระหว่าง Man และ Mermaid จึงกลายมาเป็น ‘เงือกชาย’ ที่ปรากฏตัวขึ้นในเพลงนี้ โดยเป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้พบเจอกับเงือกชาย ในขณะที่เธอกำลังแหวกว่ายเล่นน้ำในท้องทะเลอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นก็มีเงือกโผล่ออกมาและว่ายเข้ามาหาเธอ และเธอก็ตกหลุมรักเขาในทันทีทันใด บางครั้งที่หญิงสาวได้สัมผัสกับน้ำทะเล ก็มักจะคิดว่าเธอเองนั้นก็เป็นนางเงือกที่เฝ้ารอคอยนับวันที่จะได้พบเงือกชาย รอให้เขาเข้ามาหว่านเสน่ห์ จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น เงือกที่ปรากฏตัวขึ้นมาในเพลงนี้ อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของจินตนาการรึเปล่า? เพราะในยามที่ต้องขึ้นฝั่งมานั่งพัก เงือกนั้นก็ได้อันตรธานหายไป และทิ้งให้เราต้องนั่งอยู่อย่างเดียวดาย
เพลงนี้มากับดนตรีที่เบาสบาย ด้วยน้ำเสียงละมุน ๆ ของน้ำเชื่อมที่มีปลายเสียงแหบนิด ๆ และมีเสียงคอรัสหวาน ๆ เข้ามาเติมเป็นดังเสียงร้องของเงือกสาว มาพร้อมกับดับเบิลเบสและทรัมเป็ต ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแหวกว่ายอยู่กลางทะเลลึก ชื่นชมความงามของเหล่าฝูงปลา และปะการังหลากสี ภายใต้น้ำสีฟ้าคราม ค่อย ๆ พาเราล่องลอยไปตามจินตนาการ
หากใครกำลังรอคอยที่จะพบเงือกหนุ่ม เตรียมชุดเก็บกระเป๋าให้พร้อมแล้วไปทะเลกัน เปิดเพลงนี้ฟังระหว่างนั่งคอย อาจจะมีชายในฝันปรากฏตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็เป็นได้
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Stamp – ถ้าเธอ Feat. Violette Wautier
ถ้าเธอ อีกเวอร์ชันของ Nobody Knows ที่มีมุมมองของความรักและความสงสัยในสิ่งที่ยังไม่มาถึง หรือไม่มีวันมาถึงมากขึ้นกว่าในเวอร์ชันที่ แสตมป์ ได้ร้องไว้กับ Christopher Chu เพลงนี้ได้ชวนเราจินตนาการถึงคืนวันที่อาจหอมหวานมากกว่าตอนนี้ที่แยกจากกันไปตามเส้นทางของตัวเองแล้ว ผ่านดนตรีที่ชูเสียงร้องเป็นหลัก คลอไปกับเปียโนเพราะ ๆ เคล้าด้วยเครื่องสายขยี้ความรู้สึก กับเสียงดีดนิ้วที่สะกดให้เราอยู่กับเรื่องราวในเพลงตลอดเวลาสามนาทีกว่า ๆ นี้ เป็นเพลงที่หม่นแต่ยังมีแสงสว่างซ่อนอยู่ในเพลงไม่น้อยเลย อาจเพราะเนื้อหาเพลงมีความคิดในแบบของมนุษย์ what if ค่อนข้างชัด เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยพูดคำว่า “ถ้า” ในชีวิตกันมาก่อนและมักเป็นความเสียใจที่ไม่ได้ทำ หรือเสียใจที่ทำลงไปแล้วแก้ไขไม่ได้เสียส่วนมาก แต่สุดท้ายทางที่เราเลือกไว้ในอดีต ก็ส่งผลให้เราเป็นเราทุกวันนี้แหละ เพียงแต่ยังหยุดคิดถึงมันไม่ได้ก็เท่านั้น
Fahlithh – ไม่อยากโกหก
Fahlithh (ฟ้าลิธ) หรือ ฟ้า–จิตสุภา สุนทรกุล ณ ชลบุรี อีกหนึ่งศิลปินสาวหน้าใหม่ส่งตรงจากรั้วมหิดล ที่มาพร้อมกับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และดนตรีสไตล์ป็อปที่ฟังง่ายสบายหู ที่เชื่อว่าใครที่ได้ลองฟังเพลงของเธอก็จะต้องตกหลุมรักเธออย่างแน่นอน หลังจากที่ซุ่มทำเพลงแรกมาร่วมปี ตอนนี้ฟ้าได้ปล่อยซิงเกิลแรกที่มีชื่อว่า ไม่อยากโกหก เพลงที่พาให้เข้าใจอีกแง่มุมหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ต้องเลิกรา และคนที่ต้องบอกเลิก ที่บางครั้งก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็ไม่อยากจะฝืนต่อไป
ไม่อยากโกหก (Evil-minded) เพลงที่เล่าถึงความรู้สึกของคนที่ต้องเป็นฝ่ายบอกเลิก ซึ่งเป็นมุมมองที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง เพราะมักจะมองว่าคนที่บอกเลิกนั้นใจร้าย แต่ในความรู้สึกของคนที่ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นบอกลาความสัมพันธ์มันก็ยากและลำบากใจเช่นกัน เพราะเมื่อได้มองหน้าเธอ ภาพวันทรงจำเก่า ๆ ที่เคยมีกันก็วนกลับมา ยิ่งอยู่ด้วยกันนานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รู้ว่า เราไม่ควรฝืนกันไปแบบนี้ เพราะสุดท้ายมันก็ต้องจบลงอยู่ดี เลยเลือกที่จะบอกเลิกเพราะไม่อยากโกหกอีกต่อไป ถึงเนื้อเพลงจะเศร้าจนทำเราแอบซึม แต่ฟ้าก็ยังทำดนตรีที่ฟังง่ายสบาย ๆ เพื่อช่วยกลบความเศร้าในเนื้อเพลงแต่ก็ยังซ่อนอะไรเอาไว้ เริ่มจากเสียงอูคูเลเล่ในช่วงแรกที่ฟังสบาย ๆ เหมือนความรักที่ไม่มีปัญหา แต่ถ้าตั้งใจฟังไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่าฟ้าได้ไล่ไดนามิกของเพลงขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มไม่เหมือนเดิมด้วยเสียงกีตาร์ที่หนักขึ้น ทำให้เพลงนี้กลายเป็นส่วนผสมของอารมณ์ความรู้สึก เสียงร้อง และเสียงดนตรีได้อย่างลงตัว
เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่เข้าอกเข้าใจฝ่ายที่บอกเลิกได้เป็นอย่างดี ผ่านเนื้อเพลงและเสียงดนตรีของฟ้า นับเป็นเพลงแรกที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ หรือใครที่กำลังเจอกับสถานการณ์แบบนี้ในความสัมพันธ์แต่ไม่กล้าบอกเลย ก็ลองส่งเพลงไปแทนความรู้สึกของเราก็ได้นะ สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพลงนี้และ Fahlithh เอาไว้ด้วยน้า
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
PEACE LILY – Psycho
PEACE LILY หรือ ฌอน—ชวกร ศฤงฆารนันท์ อีกหนึ่งศิลปินที่มาพร้อมกับเสียงร้องนุ่มทุ้ม และดนตรีสุดเก๋าที่ฟังเพลิน ผ่านผลงานซิงเกิลแรกอย่างเพลงที่มีชื่อว่า ‘Psycho’ เพลงที่จะพาเราเข้าสู่วังวนที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง ความเจ็บปวด ผ่านเนื้อเพลงที่เจ็บแสบ ดนตรีที่ยากจะจับตัวได้ และเข้าใจหัวอกของคนที่ชอบอยู่ในความสัมพันธ์พันธ์ท็อกซิก แต่ก็ไม่คิดที่จะออกมา
เคยตั้งคำถามไหมว่า ทำไมคนเราชอบเอาตัวเอาตัวเองไปจมอยู่กับความเจ็บปวดและความเสียใจตลอดเวลา โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก ที่รู้ว่าการอยู่ในลูปนี้มันมีแต่ความเจ็บปวดและทำให้เราต้องกระวนกระวายใจตลอดเวลา แต่ยังเลือกที่จะกระโจนเข้าไปหาความท็อกซิกนี้อยู่เรื่อยไป หากคุณกำลังคิด หรือเคยคิดว่าแล้วทำไมเราต้องเสพติดความเจ็บปวดขนาดนั้นด้วย Psycho คือเพลงที่จะพาเราไปอยู่ในวังวนแห่งความว้าวุ่นนั้น ความว้าวุ่นและความเจ็บที่เราควรออกมา แต่กลับวิ่งตามหาและเต็มใจกลับไปหามันอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็น่าจะเป็นการเลิกราของคู่รัก ที่ถึงจะแม้จะแยกทางกันไป แต่ไม่นานก็กลับมาหากัน เป็นลูปวนไป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากลับมาก็ต้องเจออะไรแบบเดิม ๆ เป็นความ Psycho อีกรูปแบบหนึ่งที่ก็ยังคำตอบไม่ได้ว่าทำไปเพราะอะไร
เพลงนี้ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านดนตรีที่ฟังเพราะฟังเพลินที่ออกมาได้อย่างลงตัว ผ่านการระดมฝีมือระหว่าง PEACE LILY คนใกล้ตัวที่รู้ใจ อย่าง นิค–ธาฤทธิ์ เจียรกุล และ จิน–วรเมธ มตุธรรมธาดา ที่ช่วยกันทำให้เพลงนี้ออกมาเป็น Psycho ถูกต้อง ถูกใจ และถูกหูคนฟังอย่างเราสุด ๆ ไม่ว่าใครที่ได้ลองฟังก็ต้องกดใส่ลงเพลย์ลิสต์แบบไม่ต้องคิดอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพลง Psycho และ PEACE LILY เอาไว้ในใจอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยฮะ แอบกระซิบว่ามิวสิควิดีโอจะมาช่วงสิ้นเดือนนี้ ตั้งตารอได้เลย!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
thepicnik – Already too late
thepicnik วงดนตรีหน้าใหม่ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้มีเพลงออกมาให้พวกเราได้ฟังกันถึงสองเพลงอย่าง Caroline ที่มีเมโลดี้แสนจะติดหูและตามมาด้วย Screw it เพลงที่ชวนให้เราอยากลุกออกมาเต้นรำ นอกจากนี้พวกเข้ายังไปกวาดรางวัลชนะการประกวดวงดนตรีมาจากเวที Micro to be Macro ที่จัดโดย MACROWAVE อีกด้วย และในปีใหม่ที่เพิ่งมาถึงได้ไม่นานนี้พวกเขากลับมาพร้อมซิงเกิลที่สาม Already too late เพลงที่มากับจังหวะชวนโยกแต่เนื้อหานั้นเต็มไปด้วยรสชาติสุดขมในความสัมพันธ์
Already too late บทเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่กว่าจะรู้ตัวว่ามันกำลังจะพังทลายลง ก็สายเกินกว่าแก้ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เมื่อความหวานได้หมดลงก็คงเหลือไว้เพียงความขมขื่น ปัญหาต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ทันให้เราได้รู้ตัว ทั้งจากการขาดความเอาใจใส่และบทสนทนาที่น้อยลง หากรู้สึกว่าความสัมพันธ์นั้นเริ่มมีปัญหา ไม่เข้าใจกัน อยากลองให้พูดคุยปรับความเข้าใจกันแต่โดยเร็ว อย่าปล่อยให้มันสายเกินกว่าจะแก้ เพราะกว่าจะถึงเวลาที่เรารู้สึกตัวว่าเรื่องเหล่านี้มันกำลังทำร้ายจิตใจเราอยู่ ก็อาจสายเกินกว่าที่จะแก้ไขให้มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว และตอนจบของเรื่องนี้มันคงไม่งดงามเท่าไร
ดนตรีในเพลงนี้แสดงความเป็นตัวตนของพวกเขาจริง ๆ แค่เพียงฟังลิกกีตาร์ในท่อนอินโทร ก็ทำให้รู้ได้เลยทันทีว่าคือ thepicnik ดนตรีที่มาพร้อมกับจังหวะชวนโยกเบา ๆ แถมยังมีเครื่องเป่าเข้ามาเสริมระหว่างเพลง และจังหวะที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ที่สุด ก็คือเสียงของแซ็กโซโฟนที่โผล่ขึ้นมาโซโล่อย่างดุเดือด ทำให้เรานึกถึงค่ำคืนที่เรื่องราวของความสัมพันธ์มันไม่เป็นไปดั่งใจหวัง เลยต้องเข้าไปนั่งดื่มในบาร์เพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นที่เก็บมาทั้งหมดไปพร้อมกับบทเพลงนี้ นอกจากตัวเพลงแล้ว เพลงนี้ยังมาพร้อมกับมิวสิควีดีโอยังคงความจัดจ้านทั้งภาพและเนื้อหาไว้ไม่ต่างกับมิวสิควิดีโอชิ้นแรกของพวกเขา
การเดินทางมาตลอดสามเพลงของ the picnik ทำให้เราเห็นว่าพวกเขาเป็นวงที่มีซาวด์ดนตรีที่เฉพาะตัวและน่าติดตาม ยังไงเราก็ขอฝากบทเพลงนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ไปฟังกัน ไว้คอยเตือนสติให้รีบจัดการกับปัญหาในความสัมพันธ์ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
____