‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟังในสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม 2021
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul / Jiratchaya Srisuwan / Teramet Tongsong
กลับมาแล้วกับ ‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
Jemala – As I stared outside
สองคู่หูอะคูสติกดูโอจากเมืองจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย Jemala ที่มีความหมายแปลตรงตัวได้ว่า ‘หัว’ ในภาษาอินโดนีเซีย แหล่งบันทึกความทรงจำและจุดเริ่มของความคิดที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวภายในหัวของพวกเขาออกมาผ่านบทเพลง จนก่อกำเนิดเป็นวงดนตรีนี้ขึ้นมา
As I stared outside แทร็คที่สองของอัลบั้ม Casement EP อีพีที่เต็มไปด้วยเพลงบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันของพวกเขา ซึ่งในเพลงนี้นั้นได้พูดถึงช่วงเวลาที่เราต่างถูกกักตัวอยู่เพียงแค่ภายในบ้าน เนื่องด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่สามารถออกไปพบเจอใคร ไม่ได้ออกไปทำในสิ่งที่อยากทำ จนบางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็ได้ทำให้ความสุขในชีวิตประจำวันหล่นหายไป เนื้อหาในเพลงชวนให้เราลองมองออกไปนอกหน้าต่าง ปลดปล่อยจินตนาการของเราไปตามรูปร่างของก้อนเมฆ นั่งมองความเคลื่อนไหวของสิ่งรอบตัว แล้วฉุกคิดได้ว่าบางครั้งความสุขเล็ก ๆ อาจจะอยู่ในเหตุการณ์อันเรียบง่ายรอบตัวเหล่านี้ เพียงเราให้ความสนใจกับมันบ้างก็เท่านั้น เรื่องราวต่าง ๆ ถูกเล่าผ่านดนตรีอันเรียบง่ายของกีตาร์โปร่งสองตัว เมโลดี้ของเพลงมีความระยิบระยับให้ความรู้สึกถึงประกายแดดของแสงอาทิตย์ในยามเย็น ซึ่งนอกเหนือจากเพลงนี้และอื่น ๆ ในอัลบั้มที่เต็มไปด้วยเรื่องราวชีวิตประจำวันของพวกเขาแล้ว ก็ยังมีเพลงที่มีเพียงแค่ทำนองรอให้คนฟังเพลงมาแต่งแต้มเรื่องราวของตนเองลงไปอีกด้วย
ถึงแม้อะไร ๆ มันอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางหรือไม่เป็นดั่งใจหวัง แต่อย่าลืมมองหาความสุขให้ตัวเราเองในทุก ๆ วัน หากใครกำลังเคร่งเครียดกับงานหรือสิ่งใดอยู่ ลองพักจากสิ่งเหล่านั้นเพียงชั่วครู่ มองออกไปยังนอกหน้าต่าง แล้วมาฟังเพลงนี้ไปด้วยกั
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
imnutt – เธอเก่งที่สุดในโลก
ลองมองย้อนนึกไปตอนเด็ก ๆ เรามักจะได้ใช้คำว่า ‘ที่สุดในโลก’ แสดงความรู้สึกต่าง ๆ เช่น รักเหรอ? รักเท่าไหน? รักที่สุดในโลกเลย!, โป้งที่สุดในโลกเลย! และแน่นอนมันก็ต้องมีคำว่า “เก่งที่สุดในโลกเลย” อยู่ในนั้นด้วย แต่พอโตมาในโลกที่อะไร ๆ ก็ยากเสียเหลือเกิน มันไม่ได้หอมหวานเหมือนที่สมัยเด็ก ๆ คิดไว้ จนทำให้เราอาจสงสัยในตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ว่าที่ทำ ที่เป็นอยู่นี้มันดีแล้วหรือยัง? หรือกระทั่งชีวิตที่ต้องเร่งรีบทำทุกอย่างออกมาให้เร็วที่สุด ดีที่สุด พลาดน้อยที่สุดให้ได้ เพราะชีวิตจริงมันไม่ได้ปล่อยให้เราล้มได้หลาย ๆ ครั้งเหมือนในเกม จนเราอาจละเลยที่จะถามใจตัวเองว่ายังไหวอยู่ไหมไป และใครจะไปเชื่อว่าวันใดวันหนึ่งมันจะมีเพลงที่พาเรากลับมานั่งทบทวน ให้กำลังใจตัวเองอีกครั้งกันนะ ใช่.. เพลงนี้ทำได้
เธอเก่งที่สุดในโลกเลย เพลงที่เป็นประหนึ่งของขวัญส่งท้ายปีสำหรับใครหลาย ๆ คน จะด้วยชีวิตที่ยาก จะด้วยเรื่องราวที่ถาโถมเข้ามา หรือจะด้วยอะไรก็ตาม เมื่อได้ฟังเพลงนี้เราก็โละทิ้งทุกอย่างในใจออกไปแล้วเหลือเพียงแต่คำว่า “มึงเก่งแล้วจริง ๆ ว่ะ” ราวกับมีกอดที่อบอุ่นโอบล้อมเราตลอดเวลาสี่นาทีกว่า ๆ นี้ ด้วยภาษาที่มีแต่คำให้กำลังใจ และความเข้าใจที่ซ่อนอยู่ในทุก ๆ คำในเพลง ทำให้กลายเป็นอีกเพลงที่เราอยากส่งให้คนที่เรารัก และตัวเองด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าวันนี้กำลังเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแค่ไหน หรือที่ผ่านมาทำให้รู้สึกเหนื่อยจนเกินรับไหว อยากให้ทุกคนได้ลองฟัง ใช้เวลาไม่มากเลย แต่การที่มีคนปลอบเราเป็นเวลาเกือบห้านาทีนี่ก็เป็นเรื่องราวที่หาได้ยากในชีวิตจริงเหมือนกันนะ หวังว่าทุกคนจะยิ้มได้ทีละนิด ๆ จนถึงวันที่รอยยิ้มนั้นใหญ่พอให้หัวใจมีความสุขได้ และหวังว่าเพลงนี้จะเป็นของขวัญในทุก ๆ วันที่เธออ่อนแรง เก่งที่สุดในโลกแล้วโว้ยยยยรู้ไหม
Alyn Wee – เลิกรักเขาทีเถอะ
Alyn Wee หรือ เจมส์–อลิน วี นักร้องและนักแต่งเพลงมาดเซอร์ ที่พร้อมมากับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งแนวเพลงและเสียงร้อง ถ้าพูดชื่อ Alyn Wee หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ถ้าได้เห็นหน้าของอลินก็จะต้องร้องอ๋อทันที เพราะเขาคือหนุ่มที่ร้องเพลง Cover จากช่อง billy01 ในเพลง All We Know ที่ร้องคู่กับวี–วิโอเลต นั่นเอง ซึ่งนอกจากนี้อลินเองก็ยังมีผลงานเพลงของตัวเองที่ทำคนฟังติดหูมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น หัวใจเจ้าเอย, ในวันที่สาย, กลับมาที่เดิม, หมดรัก, และเพลงอื่น ๆ อีกมากมาย และตอนนี้ Alyn Wee ได้กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลล่าสุดอย่างเพลง เลิกรักเขาทีเถอะ เพลงจากคนนอกส่งต่อถึงคนข้าง ๆ ให้หยุดรักเขา และกลับมารักตัวเองเสียที
เลิกรักเขาทีเถอะ เพลงที่ทำเราสะดุ้งเบา ๆ ตั้งแต่ได้เห็นชื่อเพลง คล้ายกับประโยคที่คนรอบตัวชอบพูดกับเราเวลาที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ toxic ว่า ‘ออกมาได้แล้ว เลิกรักเขาสักทีเถอะ’ ซึ่งก็เดาไม่ผิด เพราะเพลงนี้ตั้งใจบอกเราแบบนั้นจริง ๆ เป็นเพลงที่เปรียบเสมือนตัวแทนของคนนอกที่ไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ แต่ก็มองเห็นและรับรู้ว่าเธอนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง ถึงจะเสียใจมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังทนต่อไปและไม่ออกมาอยู่ดี จนคนนอกอย่างเราก็ทำได้แต่พูดว่า พอเถอะ เลิกรักเขาเสียที และก็หวังว่าวันหนึ่งเธอจะเลิกรักเขาคนนั้นได้จริง ๆ เพลงนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Alyn Wee ไว้ได้เช่นเคย โดยเฉพาะเสียงร้องของอลินและซาวด์ดนตรี ยิ่งพอมารวมกับเนื้อร้องที่เหมือนโดนดุเบา ๆ ให้กลับมารักตัวเอง ก็ยิ่งทำให้เพลงนี้ออกมาได้อย่างลงตัว
เป็นเพลงที่ทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า คนเขาดูออก เพราะคนอื่นดูออกทุกคนจริง ๆ ยกเว้นคนที่ยังอยู่ในลูปความสัมพันธ์นั้น เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ช่วยดึงสติให้กับใครหลาย ๆ คนที่กำลังตกอยู่ในหลุมของความสัมพันธ์ที่ยังขึ้นมาไม่ได้สักที ก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเลือกเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายหัวใจเรานะ
The Bandit Boy – จีบหมา
The Bandit Boy วงดนตรีมากฝีมือส่งตรงจากเชียงใหม่ เจ้าของเสียงดนตรีอันหนักแน่นและดุดันจากค่าย Minimal Records ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คนได้แก่ พชร พุทธาภิสิทธกุล (ร้องนำ) วรปรัชญ์ สมพงษ์ (กีตาร์) ธนภัทร วิริยะพงษ์ (เบส) และ นภกร บรรณวัฒน์ (กลอง) โดยก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยได้ปล่อยผลงานอัลบั้ม The Bandit Boy และซิงเกิลอื่น ๆ อย่าง พ่น, รอยยิ้ม, หมื่นล้านคำคม รวมไปถึงซิงเกิลแรกจากค่าย Minimal Records อย่างเพลง สูตรอมตะ และ เสียเวลาย้อนเวลา ออกมาให้เราได้ฟังกัน
เป็นที่รู้กันดีว่าพวกเขามีพาร์ทดนตรีที่หนักแน่นและดุดัน ในแนว Emo rivival ที่ได้อิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอีโมยุค 00s แต่การกลับมาในครั้งนี้ พวกเขามีจุดยืนที่ต่างไป ทั้งในด้านพาร์ตดนตรี และเรื่องหาของเพลง ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ฟังง่ายขึ้น และเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ผสมผสานกับแนวคิด Math rock/Indie rock ทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา จนออกมาเป็นซิงเกิลล่าสุดที่ชื่อว่า จีบหมา
ไม่มีให้ใครแล้ว หัวใจ และจะไปหวังอะไรกับความรักต่อไป สุดท้ายก็เสียใจอย่างเคย”
จีบหมา เพลงเอาใจคนที่ไม่สมหวังในความรักเสียที บอกเล่าถึงคนที่ไม่เอาอีกแล้วกับเรื่องหัวใจ กี่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ถูกทำร้ายจนหัวใจไม่เหลือไว้ไปรักใครอีก และไม่อยากหวังอะไรอีกแล้ว เพราะสุดท้ายก็เสียใจ จึงเหลือหนทางสุดท้าย คือจีบหมาให้มันรู้ไปเลยแล้วกัน!! ซึ่งเพลงนี้ยังเป็นอีกเพลงที่ได้อู๋ The Yers มาร่วมทำหน้าที่ Producer ต่อจากซิงเกิลล่าสุดอย่าง เสียเวลาย้อนเวลา ที่ยังคงความร็อกตามสไตล์วงเป็นอย่างดี
พวกเขาได้พูดถึงเพลงนี้ไว้ว่า “จีบหมาเป็นตัวแทนของคนที่มักจะแพ้ในเรื่องของความรักเรื่อยไป แล้วคอยตั้งคำถามกับเรื่องของความรัก จนต้องมานั่งบ่นกับตัวเองอย่างตัดพ้อว่า ‘สงสัยชีวิตนี้คงต้องไปจีบหมาละมั้ง’ ยิ่งมารวมกับดนตรีร็อกจังหวะชวนกระโดดผสมกลิ่นอายของ New Wave ที่ออกแบบมาไว้สำหรับการแสดงสด ก็ทำให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ไม่ว่าเปิดเมื่อไหร่ก็ชวนให้โยกหัวอย่างแน่นอน ยังไงก็ขอฝากเพลงนี้จากพวกเขาไว้ด้วยน้า
Rosalyn – Vanish
Rosalyn (โรสศิริน) วงดนตรีสไตล์ อินดี้ร็อก/ป็อป ผสมผสานไปด้วยอิทธิพลทางดนตรีอันหลากหลายที่บรรดาสมาชิกแต่ละคนได้สอดแทรกลงไปในเพลง ทั้ง R&B, post-rock, shoegaze, and psychedelia ผ่านซาวด์ที่ลื่นไหลและเรื่องราวที่ลุ่มลึกชวนให้หลงใหลออกมาสู่บทเพลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น LoverFriend, Roxy, Solitude Is Love, The Deja Vu รวมไปถึงเพลงล่าสุดอย่าง Vanish เพลงรักสุดเท่ที่รอให้เราจับมือคนข้าง ๆ และออกไป escape the city ด้วยกัน
Girl I could rock with you forever Take me where you want to I don’t wanna be without you
Vanish เพลงรักที่ถ่ายทอดเนื้อหา escape from the city แต่เจาะลึกลงไปในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นอีกขั้น เนื้อเพลงพูดถึงการยอมรับ ความเป็นอิสระ และก้าวข้ามผ่านความผิดพลาดในอดีต ผ่านซาวด์ดนตรีที่เซ็กซี่เบา ๆ ทำให้เราเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เหมาะกับการเปิดฟังในรถยามค่ำคืนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเพลงนี้ก็ยังเป็นเพลงที่ Rosalyn ได้ผลักตัวเองให้ก้าวข้ามขอบเขตการทำเพลงไปอีกขั้น ทั้งในด้านดนตรีและเนื้อหาของเพลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและการพัฒนาในการเขียนเพลงของวง แต่ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายที่ให้จะพาผู้ฟังดำดิ่งลึกลงไปในเสน่ห์เฉพาะตัวของน้ำเสียงในแบบ Rosalyn ที่เราคุ้นเคยเช่นเดิม
เหมาะกับบรรยากาศยามค่ำคืน ชวนใครคนนั้นที่แสนพิเศษนั่งรถเล่นและ escape the city ไปด้วยกันตลอดทั้งคืน ก็ขอฝากเพลงนี้จากพวกเขา Rosalyn เอาไว้ด้วยฮะ
____