‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟังส่งท้าย เดือนตุลาคม 2021
กลับมาแล้วกับ ‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
quicksand bed – Essential
หลังจากที่ได้จับมือ เพลง daynim มาร่วมแต่งแต้มสีสันและที่พาเราติดอยู่ในวังวนของห้วงความคิดที่วนไปวนมาอย่างเพลง Round and Round ไปได้ไม่นาน กลับมาคราวนี้ ทั้ง 4 หนุ่มจาก quicksand bed วงดนตรีที่พกกลิ่นอาย Alternative R&B ผสมผสานกับความเป็น Modern Funk ได้อย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นวงโปรดสุดเท่ของใครหลาย ๆ คน อย่าง เกม, เจสัน, น็อต และพัด ก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับซิงเกิลใหม่จากอัลบัมเต็มในอนาคตอย่างเพลงที่มีชื่อว่า Essential ที่ยังคงความเท่และฝีไม้ลายมือของพวกเขาเอาไว้อย่างไม่มีตก
Day by day, it’s already gone away and there’s a price to pay
Essential เพลงที่ทำให้เราได้คิดทบทวนกับชีวิตถึงสิ่งเราที่สูญเสียไป ที่บางครั้งเราอาจไม่สามารถทำในสิ่งที่เราพยายามสร้างและรักษาไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีคนคอยบอกว่าเดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น แต่เรากลับมองไม่เห็นหนทางเลยสักนิด โดยเนื้อหาของเพลงนี้พวกเขาก็อยากนำเสนอเนื้อหาที่ “ไม่ตรงไปตรงมา” เพื่อให้คนฟังตีความเอาเองตามความรู้สึกผ่านเสียงเพลงของพวกเขา และอีกหนึ่งความพิเศษของ Essential คือ เพลงนี้ยังเป็นเพลงแรกที่ “พัด – บริพัตร แสงศิริ” มือคีย์บอร์ดและซินธิไซเซอร์สุดเท่ของวง รับหน้าที่แต่งเนื้อเพลงเองทั้งหมดอีกด้วย โดยในส่วนของดนตรี quicksand bed ก็ได้ใช้ไลน์เบสขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเมโลดี้หลักในการถ่ายทอดเรื่องราวในเพลง ทำให้ได้ซาวด์ดนตรีหนึบ ๆ เบสแบบหนัก ๆ สไตล์ Modern Funk ตามแบบฉบับของ quicksand bed ที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีเหมือนเดิม
เป็นอีกหนึ่งเพลงจากพวกเขาที่ถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งได้เป็นอย่างดี ที่นอกจากจะทำให้เพลิดเพลินไปกับซาวด์ดนตรีที่แสนจะเท่จากพวกเขาแล้ว ก็ยังทำให้เราได้กลับมานั่งคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองอีกด้วย และ Essential ก็ทำออกมาได้อย่างไม่ผิดหวัง สุดท้ายก็ขอฝากเพลงนี้จากพวกเขา quicksand bed เอาไว้ด้วยนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
𝐏𝐀𝐒𝐀𝐖𝐀𝐍𝐆 – พาสว่าง
𝐏𝐀𝐒𝐀𝐖𝐀𝐍𝐆 (ภาสว่าง) โดโด้ และ กาย สองหนุ่มจากวงดนตรีโฟล์ก-ป็อปรุ่นใหม่ ภายใต้บ้าน Snap Gang Music Labor ที่ก่อนหน้านี้ได้ปล่อยซิงเกิลมาให้ฟังแล้วด้วยกันสองซิงเกิล ความฝัน พระจันทร์ และแสงดาว และ ให้ความรัก.. ที่พาให้เราได้เคลิบเคลิ้มไปกับดนตรีและเมโลดี้ชวนฝันจากพวกเขา มาวันนี้พวกเขาได้ปล่อยซิงเกิลที่สาม ซึ่งนับเป็นซิงเกิลแรกภายใต้บ้านหลังนี้ด้วย กับ พาสว่าง
พาสว่าง พ้องเสียงกับชื่อวง ภาสว่าง และแน่นอนว่าความหมายก็ตรงตัวเลย ในวันที่มืดมิด มองไปไม่เห็นทาง เราจะอยู่เป็นกำลังใจให้ และพาแสงสว่างกลับมาให้ใจดวงนั้นของเธอได้กลับมาสุกสกาวอีกครั้ง ด้วยเมโลดี้ที่ไม่หวือวา ไม่กระโตกกระตาก เพลงพาให้เราเดินทางสู่ความสงบได้จริง ๆ ปล่อยความคิดแย่ ๆ ทิ้งไปก่อนได้เลย ใช้เวลาซึมซับกับบรรยากาศชวนฝันในเพลงที่ตั้งใจอะเรนจ์มาเป็นอย่างดี ความลงตัวของการชูเสียงดนตรีขึ้นมาจนเด่นทั่ว ๆ กัน คอรัสที่ราวกับเป็นเครื่องดนตรีอีกชิ้น เสียงร้องที่ค่อนข้างแหลม แต่กลับนุ่มนวลจนอดชมไม่ได้ว่าเป็นเพลงที่เพราะมาก ๆ อีกหนึ่งเพลงเลยล่ะ
ใครที่ต้องการความสะอาด สว่าง สงบ ณ จิตใจ ในช่วงเวลานี้ เพลงนี้เหมาะมาก ๆ ที่จะทำให้เราได้ใช้เวลาพูดคุยกับตัวเอง หรืออาจไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แค่ปล่อยให้ใจได้พักไปพร้อม ๆ กับเพลงเพราะที่ให้กำลังใจได้เป็นอย่างดีก็เพียงพอแล้ว หวังว่าแสงสว่างจะถูกนำพากลับมาจนใจฟื้นฟูตัวเองได้ในเร็ววันนะ ขอฝากวงดนตรีคุณภาพอีกวงไว้ในใจด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Numcha– Butterfly
Numcha (น้ำชา) นักร้องสาวเสียงดีที่ทำเราตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงเพลงเพราะ ๆ ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น Keep Cold ซิงเกิลแรกที่ทำให้หลายคนได้รู้จักน้ำชาและจดจำเธอได้ในฐานะศิลปิน ตามมาด้วยเพลง Dirty Shoes, Krytonite และ April’s Loop ที่สะกดใจคนฟังอย่างเราด้วยเสียงร้องและดนตรีที่ไม่เหมือนใคร กลับมาคราวนี้ Numcha ได้ก้าวสู่การเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวด้วยการเป็นศิลปินหญิงเบอร์แรกในค่าย NewEchoes พร้อมกับซิงเกิลใหม่ที่จะทำให้เราได้รู้จักตัวตนของน้ำชาได้มากยิ่งขึ้นด้วยเพลง Butterfly
Butterfly เพลงบอกเล่าความรู้สึกในความรักและความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน ผ่านการเปรียบเทียบความสัมพันธ์ให้เป็นเหมือนผีเสื้อและดอกไม้ โดยแทนฝ่ายหญิงเป็นเหมือนดอกไม้ที่รอให้ผีเสื้อบินเข้ามาดอมดมดอกไม้ โดยน้ำชาได้นิยามไว้ว่าเป็น ความรักที่ไม่สมหวัง เปรียบได้กับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนจนพาไปสู่รักที่ไม่สมหวัง ที่ซ่อนความสวยงามและความเจ็บปวดไว้ได้ในเวลาเดียวกัน หรือในขณะเดียวกัน คนฟังอาจตีความเนื้อหาของเพลงได้ในมุมมองที่ต่างออกไปได้เช่นกัน เพียงแค่ดื่มด่ำอารมณ์ในเพลงและนิยามออกมาในแบบของตัวเองผ่านความรู้สึกระหว่างทาง
โดยเพลงนี้น้ำชาได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์รอบตัวที่นํ้าชาได้พบ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงสิ่งที่นํ้าชาเป็น จนทําให้เกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา เริ่มต้นจากคอร์ดและฮัมทํานองจนเกิดเป็นเดโม และค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้นจนได้มาเป็นเพลง Butterflyที่เปรียบเสมือนดักแด้ที่กําลังห่อหุ้มตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็สยายปีกและเปล่งประกายความเป็นนํ้าชาออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านตัวผลงานเพลงนี้นั่นเอง ในส่วนของดนตรีก็ยังคงให้ความรู้สึกแบบอินดี้ป็อปอยู่ แต่เจือด้วยกลิ่นอายความเป็น r&b และ soul มากยิ่งขึ้น เมื่อฟังแล้วจะทําให้ผู้ฟังรู้สึกรักในบรรยากาศของ Butterfly และดนตรีที่ช่วยกลบความเศร้าลึก ๆ อยู่ข้างใน
ตอนนี้น้ำชาจึงเป็นเหมือนผีเสื้อที่พร้อมโบยบินได้อย่างอิสระ เจิดจรัสและเป็นตัวของตัวเองแล้วผ่านการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกในเพลงนี้ของเธอเอง ถึงแม้จะเป็นความรักที่ไม่สมหวังก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นตัวจนของเธอในแบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเช่นกัน รวมไปถึงการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะศิลปินเต็มตัวจาก NewEchoes ด้วยเช่นกัน ยังไงก็ขอฝาก Butterfly จาก Numcha ไว้ด้วยนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
LANDOKMAI feat. Whal & Dolph – สุขสันต์วันสุดท้าย
หลังจากได้ยินดีกับความรักครั้งเก่าในเพลงก่อนหน้านี้ ด้วยใจยินดี ไปแล้ว LANDOKMAI อูปิม และ แอนท์ ก็ได้จับมือ ปอ และน้ำวน Whal & Dolph มาร่วมบรรเพลงเพลงรักที่ไร้ซึ่งความรัก คงไว้เพียงความทรงจำ และพร้อมบอกลา ใน สุขสันต์วันสุดท้าย
สุขสันต์วันสุดท้าย เพลงบอกลาที่คงไว้ด้วยความทรงจำดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา พวกเราทำดีที่สุดแล้ว เพลงค่อย ๆ บอกเล่าการบอกลาในวันสุดท้ายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ราวกับได้ไปนั่งปล่อยความรู้สึกอยู่ที่ริมชายหาด ให้คลื่นพัดพาความรู้สึก ให้สายลมพัดพาความรักที่เคยเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้นผ่านไป และคงไว้เพียงเรื่องราวของเราทั้งสอง ภาษาในเพลงก็ค่อย ๆ พาเรากลับไปสำรวจความรู้สึกที่ผ่านมา ได้ย้อนกลับไปมองว่าเราผ่านอะไรกันมามากมายเสียจนถึงเวลาที่ต้องจบ คำที่เรียบง่ายทั้งหลายจากปลายปากกาอูปิม และปอ เมื่อถูกเล่าผ่านน้ำเสียงของอูปิม ที่หวานแต่อมขมจนบาดลึกเข้าไปในหัวใจ พร้อมเสียงของปอที่นำพาความอบอุ่นคลอไปกับความเศร้าในน้ำเสียงและเมโลดี้สุดไพเราะ ไปจนภาคดนตรีที่ก็ยังคงทำได้ดีไม่แพ้เพลงที่ผ่านมาจากพวกเขา ละเมียดละไมด้วยเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสาย, กลอง, เสียงคอรัสที่เปรียบเสมือนเครื่องดนตรีอีกชิ้น หรือกีตาร์โปร่งจากแอนท์และน้ำวนที่ถูกอะเรนจ์มาเป็นอย่างตั้งใจ ทำให้ “สุขสันต์วันสุดท้าย” เป็นเพลงบอกลาที่เพราะที่สุดอีกเพลงหนึ่งเลยจริง ๆ
การบอกลาไม่ใช่ฉากสุดท้ายของความรักเสมอไป บางครั้งอาจเป็นการเดินทางครั้งใหม่ของชีวิตข้างหน้าที่รออยู่ก็เป็นได้ เก็บไว้ในหัวใจ เก็บไว้ในความทรงจำ ไม่จำเป็นต้องได้กลับมาเจอกันใหม่ ไม่จำเป็นต้องได้กลับมารักกัน แยกย้ายกันไปตามความต้องการของแต่ละคน ใช้ชีวิตให้คุ้มกับที่ครั้งหนึ่งเคยได้รู้จัก ได้รัก และจากลา เมื่อวันสุดท้ายมาถึง จงเฉลิมฉลองที่ครั้งหนึ่งความรักนั้นเคยได้เกิดขึ้น ขอฝากเพลงใหม่จากพวกเขาไว้ด้วยนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Better Weather feat.Toh Nap a lean (Lanna Pop Club) –ให้เธอหายดี
หลังจากที่ห่างหายไปสักพักจนทำให้เราแอบคิดถึงกันอยู่บ่อย ๆ Better Weather สามหนุ่ม ดิว ฟุ้ง และแจ็ค กับดนตรีป็อบฟังง่ายสบายหู ผ่านบทเพลงของพวกเศร้าที่มีทั้งสุขและเศร้ามากมายที่หลายคนก็น่าจะเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์ไว้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็น แค่เมื่อวาน, อย่าเสียใจคนเดียว, คลั่งไคล้, แค่เท่านั้น และอีกมากมาย หลังจากที่พักช่วงให้เราได้คิดถึงกันแบบพักใหญ่ พวกเขาก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมยังชวนเพื่อนร่วมค่ายที่เราคุ้นเคยอย่าง โต้ จาก Nap a Lean มาร่วมร้องในซิงเกิลใหม่จากพวกเขาอย่างเพลง ให้เธอหายดี เพลงที่ปลอบประโลมจิตใจในวันที่หัวใจอ่อนล้า และบอกกับเราเบา ๆ ว่า แล้วมันจะผ่านไป
เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันจะยังคงอยู่ตรงนี้ และฉันจะยื่นมือจับเธอไว้ ให้เราผ่านพ้นไปด้วยกัน
ให้เธอหายดี เป็นเหมือนเพื่อนอีกคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ คอยให้กำลังใจไม่ว่าในวันนั้นจะประสบพบเจออะไรมาก็ตาม ในวันที่อาจจะรู้สึกว่างเปล่า หรือเจอปัญหามากมายที่เหมือนถูกพายุพัดเข้ามาใส่ ก็ยังมีอีกคนที่จะคอยจับมือเราเอาไว้ และจะอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ตลอดไม่ไปไหน จนกว่าใจที่พังจะค่อย ๆ หายดี โดยในเพลงนี้ Better Weather และ โต้จาก Nap a Lean ก็อยากให้กับกำลังใจทุกคนที่ต้องเจอกับวิกฤตที่ผ่านมารวมถึงอุปสรรคมากมายจนรู้สึกเศร้า เลยอยากส่งต่อเพลงนี้เป็นกำลังใจให้กับทุกคนว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีกัน ด้วยเนื้อหาของเพลงที่ทำให้รู้สึกคลายเศร้า ผสมกับดนตรีที่สดใส เลยทำให้เพลงนี้ช่วยพัดพาความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจออกไปได้บ้าง
ในช่วงเวลาที่มองไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องที่ลำบากแบบนี้ การให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตเดินต่อไปข้างหน้าได้ และเพลงนี้ก็ได้ทำหน้าที่นั้นได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อาจจะท้อแท้ หมดกำลังใจ ก็หวังว่าเพลงนี้จากพวกเขาจะช่วยโอบกอดและปลอบประโลมหัวใจให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งได้นะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
DOGWHINE – Merit
เจอกันกับ DOGWHINEอีกครั้ง หลังจากออกไปซ่าออกไปกล้าในเพลงก่อน Masquerade Ball/Bronze Horse ที่จิกกัดสังคมตั้งแต่รากจนปัจจุบันได้เป็นอย่างดี กลับมาคราวนี้ก็ยังไม่วายได้เสียดสีสังคมและประวัติศาสตร์อีกเช่นเคย กับ Merit
Merit เพลงที่เสียดสีสังคม เหล่าคนมีอำนาจ มีอิทธิพล สูงล้นฟ้าทั้งหลาย ที่หลอกลวงประชาชีด้วยภาพลักษณ์อันสวยหรู งดงาม น่านับถือ ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างตั้งใจ จากภาพลักษณ์ สู่เครื่องมือของเผด็จการ ที่ใช้ปิดหูปิดตาคนทั่วไปมาเป็นเวลาช้านาน ประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือน เล่าขานต่อกันมาด้วยความจริงที่ไม่เหลือเค้าความเป็นจริง จนกลายเป็นความเชื่อที่ยากจะลบล้าง เพลงได้พาเราค่อย ๆ สวมวิญญาณนักสืบในบ้านหลังหนึ่ง แต่แล้วก็กลับพลิกผันจนกลายเป็นสิ่งที่อยากจะเชื่อ อยากรู้ต้องดูมิวสิกวิดีโอนะทุกคน! สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป สิ่งที่เป็นก็อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นความจริงเสมอไปด้วยเช่นกัน ยังคงความเป็น experimental, noise rock และ jazz fusion ตามแบบฉบับของวงได้เป็นอย่างดี เรียบเรียงมาด้วยความประณีตปนฉงน เพราะเราเดาไม่ได้เลยว่าจะไปจบลงตรงไหน
“Please stop your fake merit, Teach me that real history” การตั้งคำถามในช่วงเวลานี้ก็เปรียบเสมือนอีกหนึ่งอาวุธที่ใช้ต่อสู้ได้ ยิ่งเราสงสัย ตั้งคำถาม หาคำตอบมากขึ้นเท่าไร ก็จะเริ่มมีคนระแคะระคายและสนใจอยากจะหาคำตอบมากขึ้นเท่านั้น อาจไม่ใช่วันนี้ แต่ก็ต้องมีสักวันที่จะได้เฉลิมฉลองและเขียนประวัติศาสตร์ด้วยความจริงที่จริงเสียที ยังคงเป็นอีกเพลงจากพวกเขาที่ทำหน้าที่สื่อสารถึงความรู้สึกที่ถูกกดทับในที่ ๆ ไร้ความยุติธรรมได้เป็นอย่างดี ขอฝาก Merit จาก DOGWHINE และ Sundae Records ไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
chisun – the story I tell
chisun ศิลปินชายที่มาพร้อมความซินธ์ป็อปและซาวด์อิเล็กทรอนิคที่ผสมอยู่ในเพลงจากเขา ก่อนหน้านี้ได้ปล่อย a child and a monster ออกมาเพื่อระดมทุนช่วยเด็กที่ต้องพบเจอการทารุณกรรมในทุกรูปแบบไป ไม่ช้าไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับเพลงรักแอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกยามค่ำคืน the story I tell พร้อมกับจับมือ Panchika มาร่วมเพิ่มสีสันในเพลงนี้ด้วย
the story I tell เพลงแห่งค่ำคืนที่ทนเก็บความในใจที่มีต่อคนที่เราเรียกว่า ‘เพื่อน’ ไม่ไหว ถึงแม้จะรู้ว่าเราทั้งสองไปด้วยกันไม่น่ารอด แต่ก็ขอให้ได้บอกความรู้สึกที่แสนพิเศษนี้ออกไปผ่านบทเพลงที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเธอคนนี้ โดย chisun ได้พา Panchika มาร่วมเติมสีสันด้วยการร้องในพาร์ตของเพื่อนอีกหนึ่งคนที่ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าลงตัวมาก ๆ ด้วยเสียงของ Panchika ที่มีหางเสียงที่ค่อนข้างเฉพาะตัว กับเสียงร้องที่แสดงถึงความจริงใจจาก chisun เอง สื่ออารมณ์ออกมาได้หวานอมขม ขมอมหวาน จะเศร้าก็ไม่เศร้า จะแฮปปี้ก็ไม่ได้แฮปปี้ เพราะยังไงก็รู้ว่าไม่มีทางได้รักกันในรูปแบบของคนรักอย่างแน่นอน แต่ก็ออกมาเพราะจนกลายเป็นเพลงฟังติดไปได้ง่ายดายเลยล่ะ เพลงมีอิทธิพลจากซาวด์ซินธ์ป็อปในช่วงยุค 80s สูงมาก พาเราหลุดไปอยู่ในไฮสคูลพรอมในหนังรอม-คอม หรือ coming of age ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเพลงนี้ก็ยังคงเป็นซิงเกิลที่ 4 จาก wild and night EP แรกของเขาที่ใกล้จะได้ฟังกันแล้วในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เตรียมตัวไว้ได้เล้ย!
กับบางคนความรักไม่จำเป็นต้องจบด้วยการได้ลงเอยอย่างมีความสุข แต่แค่เพียงได้เก็บความรู้สึกดี ๆ ที่แสนพิเศษก็พอใจแล้ว ยิ่งได้บอกออกไปแล้วยิ้มออกกันทั้งสองฝ่ายนี่ก็อดแฮปปี้ตามไม่ได้เลย ขอฝากเพลงเพราะ ๆ ย้อนวัยไปอยู่ไฮสคูลจากเขาด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
mute. – แค่ปีศาจ
อุ่นเครื่องรับวันฮาโลวีน กับ mute. มิ้ว–รวินิษฐ์ เจตน์อริยวิภา ที่หลังจากปล่อย ‘ฝืน’ ซิงเกิลแรกกับ WHOOP Music ไปก่อนหน้านี้ก็กลับมาคุมโทนเศร้ากับความรู้สึกในใจที่ไม่อาจหลีกหนีได้ในซิงเกิลล่าสุด แค่ปีศาจ
แค่ปีศาจ เพลงที่เป็นตัวแทนของความเศร้าและความอ่อนแอที่อัดแน่นอยู่ภายใต้จิตใจ โดยปีศาจในที่นี้ไม่ใช่ใคร แต่เป็นตัวเราเอง ซึ่งต่อให้พยายามวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกลเท่าไร สุดท้ายก็กลับมาจมดิ่งกับความรู้สึกที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ อาจเป็นส่วนผสมจากความเศร้าที่คนอื่นทิ้งไว้ให้ หรืออาจเป็นตัวเราเองที่คาดหวังกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจนเกินไปก็เป็นได้ ภาคดนตรีค่อนข้างฉีกจากเพลงที่แล้วพอตัวเลย จากกีตาร์ไฟฟ้า สู่ซาวด์สังเคราะห์ที่อัดแน่นจนเมื่อฟังแล้ว ก็อดนึกถึงความฟุ้งซ่านในหัวที่ตีกันระหว่างการพยายามวิ่งหนีจากความกลัว ความเศร้า ความอ่อนแอทั้งหมดนั้นไม่ได้เลย
หากลองนึกถึงเวลาที่เราเศร้า ความรู้สึกที่ก่อเกิดในหัวมันค่อนข้างวุ่นวายจนไม่รู้จะเริ่มแก้ปัญหาที่สิ่งใดก่อนดี บ้างก็เริ่มด้วยการโทษตัวเอง บ้างก็โกรธโลกทั้งหมด แต่ในเพลงนี้ก็ค่อนข้างสื่อสารออกมาในความรู้สึกที่พยายามเอาตัวเองออกจากความเศร้าแล้ว แต่ยังไม่เป็นผล และนี่ก็คือการต้องการความช่วยเหลือทางความรู้สึก เพียงมีใครสักคนยื่นมือมารับฟัง หรือเข้าใจ ก็อาจจะดีขึ้นได้ในเร็ววัน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็มีเพียงตัวเรานี่แหละ ที่จะค่อย ๆ อยู่กับความเศร้า จนกลายเป็นความเคยชิน และลืมความเจ็บปวดทั้งหมดนั้นออกไปได้เมื่อไร หวังว่าปีศาจในตัวเรา จะเป็นเพียงแค่ปีศาจที่ผ่านมา คงอยู่ไม่นาน แล้วจากไป ให้เพลงนี้จากเธอเป็นเพื่อนช่วยในยามที่รู้สึกโดดเดี่ยวนะ ขอฝากไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
___