ฟังไร รวมเพลงใหม่น่าฟัง สัปดาห์ที่สองเดือนพฤศจิกายน 2022
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul
‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
LANDOKMAI – บีดีบั๊บบา
หลังจากไหว้วอนพระจันทร์ไปใน Tsuki ซิงเกิลก่อนหน้าที่ชวนยิ้มทั้งคราบน้ำตา กลับมาคราวนี้ดูโอ้ อูปิม และ แอนท์ ก็มาพร้อมกลิ่นอายใหม่ ๆ ที่ยังคงชวนฝันได้ตามแบบฉบับของลานดอกไม้ บีดีบั๊บบา
บีดีบั๊บบา เพลงชวนออกไปใช้ชีวิต ชวนให้ทิ้งเรื่องราวสับสนและวุ่นวายในชีวิต ไปปล่อยใจจอย ๆ กับเสียงเพลง เราเพิ่งรู้เหมือนกันว่าคำว่า “บีดีบั๊บบา” เป็นคำที่อูปิมเองชอบฮัมอยู่บ่อย ๆ เลยกลายมาเป็นคำในเพลงและชื่อของเพลงที่เรากำลังฟังกันอยู่ตอนนี้ ที่น่าสนใจคือเราได้ยินซาวด์ใหม่ ๆ ที่ไม่ค่อยได้ยินชัดเจนนักจากเพลงก่อนหน้านี้ของพวกเขา เราได้เห็นแอนท์เลือกใช้เสียงกีตาร์แบบในเพลงที่โซโล่ช่วงท้ายค่อนข้างเซอร์ไพรส์ได้ไม่น้อย เบสดึบดับ บวกกับซินธ์และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ที่บางช่วงก็ใกล้เคียงกับคำว่าไซคีเข้าไปทุกที นี่อาจเป็นคำตอบของคำบอกเล่าที่หลาย ๆ คนบอกหลังจากได้ฟังว่า เพลงนี้มันชวนฝัน ชวนลอยไปในอากาศจริง ๆ เพราะบรรยากาศที่เกิดขึ้นในเพลงนั้นโอบอุ้มให้เกิดความรู้สึกเช่นนี้ได้จริง ๆ และเป็นความรู้สึกที่ดีมากเมื่อได้ยินจาก LANDOKMAI
บีดีบั๊บบา นับเป็นกลิ่นอายใหม่ที่ทำให้เรามองเห็นการเติบโตของแอนท์และอูปิมมากยิ่งขึ้น จะฟังเพื่อเอ็นจอยกับดนตรี จะฟังเพื่อให้เสียงชวนฝันของอูปิมและคอรัสหลากเลเยอร์จากแอนท์กล่อมให้สุขใจ หรือจะฟังเพราะต้องการหลีกหนีโลกความเป็นจริงอันน่าเบื่อที่กำลังเผชิญอยู่ ก็ได้ทั้งหมด อดใจรอที่จะได้ฟังเพลงต่อ ๆ ไปไม่ไหว เพราะเชื่อว่าจะต้องมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราอยู่เสมอแน่นอน แต่ ณ ตอนนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไป บีดีบั๊บบา ด้วยกันเลย! ขอฝากไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
t_047 – วันที่โลกแตก
เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนมีความคิดในหัวที่แว้บมาบ่อย ๆ หากวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายที่โลกต้องแตก จะทำอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย บ้างก็อาจอยากรีบทำทุกสิ่งที่ควรต้องทำ บอกรักคนที่ควรบอก กินทุกอย่างที่อยากกิน ไปทุกที่ที่อยากไป หรือบ้างก็อาจเลือกที่จะไม่ทำอะไรให้เป็นพิเศษมากมาย ใช้ชีวิตเหมือนเดิมและเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่โลกใบนี้สลายไป และนี่คืออีกเพลงรักจาก t_047 ที่ว่าด้วยความรักของใครสักคนที่เหมือนเป็นโลกทั้งใบของเรา วันที่โลกแตก
เพลงนี้จาก t_047 เขียนขึ้นหลังจากได้ดูภาพยนตร์ Don’t Look Up แล้วหันกลับมามองรอบตัวว่ายังมีใครที่เปรียบเสมือนโลกของเขาบ้าง จะครอบครัว เพื่อน หรือแฟนเพลงที่น่ารักก็ตาม และฉุกคิดได้ว่าไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องอะไร จะแย่แค่ไหน หรือถึงวันที่โลกจะแตก ก็จะไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว ซึ่ง ‘วันที่โลกแตก’ ก็กลายมาเป็นเพลงรักที่งดงามมาก ๆ อีกหนึ่งเพลง ที่ว่าด้วยการปล่อยให้รักนำทาง ซึ่งเมื่อฟังเรารู้สึกว่าเนื้อเพลงมีความปัจจุบันมาก ๆ ไม่ย้อนอดีตไปพยายามหวนคืนอะไร และก็ไม่พยายามสัญญาถึงอนาคต เพียงแต่บอกไว้เนิ่น ๆ ว่า ไม่ว่าอนาคตที่จะต้องเจอต่อจากนี้มันจะมีอะไรรออยู่ ก็ไม่กลัวแล้ว เพราะต่อให้โลกใบนี้แตกจริง ๆ ก็ยังมีเธอที่เป็นดั่งโลกทั้งใบอยู่ด้วยกันแค่นั้นก็เพียงพอ
จริง ๆ ไม่ได้มีโอกาสเขียนถึงเพลงก่อนหน้าอย่าง Before Midnight และ ขอให้ฟ้าเป็นใจ เลย แต่ทั้งสองเพลงก่อนหน้าจนมาถึง วันที่โลกแตก นี้นั้นก็เป็นการเปิดหัวอัลบั้มที่ 3 ที่งดงามและทำเอาใจจดใจจ่อจนรอที่จะฟังอัลบั้มเต็มแทบไม่ไหว รู้สึกว่าเป็นมุมมองความรัก และเรื่องราวชีวิตจาก t_047 ที่เติบโตมากขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้นอีกระดับ และแน่นอนว่าจากเนื้อเพลงทุก ๆ เพลงในอัลบั้มนี้ก็ทำให้เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้นจนพอที่เมื่อถึงวันที่จะต้องเผื่อแผ่ไปให้คนอื่นก็ไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง และเชื่อว่าเพลงอื่น ๆ ต่อจากนี้ที่อยู่ในอัลบั้มจะเป็นเพื่อนที่ดีและทำให้เราเข้าใจตัวเองและสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้มากขึ้นอย่างแน่นอน แต่เอาจริง ๆ เลยนะ แค่ฟังเพราะหรือชอบก็เพียงพอแล้วล่ะ ขอฝาก วันที่โลกแตก ไว้ด้วยฮะ เมื่อรักใครสักคนแล้วต้องการบอกให้เขารู้ถึงความสำคัญที่เขามีต่อเรา เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เหมาะมาก ๆ ที่จะมอบให้ใครคนนั้น หวังว่าทุกคนจะได้เจอโลกใบนั้นของตัวเอง และมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้นนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Chisun – shakespearean tragedy
chisun (ชิซัน) หรือ ชาร์ลี – จิรภัทร สุนิลหงส์ ศิลปินที่มีเรื่องราวในเพลงที่น่าสนใจจนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าเพลงต่อ ๆ ไปจากเขาจะหยิบยกเรื่องอะไรมาเล่าให้หัวใจรู้สึกตาม ในตอนนี้เขาปล่อยซิงเกิลที่ 3 จาก EP ในอนาคตไม่นานนี้ กับซิงเกิลที่ทรมานหัวใจเพราะโชคชะตา กับ shakespearean tragedy
shakespearean tragedy เรื่องราวของความรักที่ต้องจากลาไปพร้อมกับความทรงจำที่ไม่มีวันหวนคืนมา แน่นอนว่าความรักมีหลายปัจจัยในการดำรงอยู่และจากลา แต่หลาย ๆ ครั้งโชคชะตาก็เล่นตลก และเราก็เป็นผู้แพ้ที่ได้แต่ยอมจำนนกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครร้องขอ ซึ่งชิซันเองก็มีความตั้งใจที่จะทำเพลงเศร้าแต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกขยับร่างกาย หรือโยกเบา ๆ ไปพร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหลอยู่ได้ผ่านดนตรีซินธ์-ป็อป ที่ยังคงแน่นด้วยซาวด์สังเคราะห์ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เราได้ยินก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นเพลงจากซิชัน
มุมมองการเล่าเรื่องของชิซันยังคงน่าสนใจ หยิบคำว่าโศกนาฏกรรมมาไว้กับนักประพันธ์ที่มีผลงานรักเจ็บปวดขึ้นหิ้งอย่างเชคสเปียร์มาตั้งเป็นชื่อเพลงที่เจ็บปวดสมกับที่เขาตั้งใจไว้ ไม่มีคำตอบไม่มีที่มาไม่มีที่ไป มีแต่เราที่ยืนมองเขาจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน แล้วก็ได้แต่ยอมรับว่าคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว หากตั้งใจฟังดี ๆ ก็เป็นเนื้อเพลงเศร้าที่เราเห็นภาพตามได้ไม่ยากเลย
เป็นอีกศิลปินที่พยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งเราเชื่อว่า EP ในอนาคตที่จะปล่อยมาให้ทุกคนฟังต้องมีเรื่องเล่าที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน ขอฝาก shakespearean tragedy ไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Millie Snow – อยู่คนเดียวด้วยกันไหม
Millie Snow หรือ มิลลี่–ศิริชฎา ร่วมฤดีกูล ศิลปินหญิงมากความสามารถที่หลาย ๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ เพราะด้วยความถนัดที่ครบครันในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะร้อง, เต้น หรือเล่นดนตรีก็ได้ทั้งนั้น แถมยังได้ทำงานอยู่เบื้องหลังของศิลปินอีกมากมาย และเวลานี้ก็ถึงเวลาของซิลเกิลล่าสุดที่จะพาให้ทุกคนหายเหงา อยู่คนเดียวด้วยกันไหม
อยู่คนเดียวด้วยกันไหม ซิงเกิลที่แค่ฟังก็รู้ได้เลยว่ามิลลี่ต้องเป็นอีกคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในความเป็นญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะในเพลงนี้มีกลิ่นอายของดนตรีซิตี้ป็อปค่อนข้างชัด ผสมกับเนื้อหาที่เล่าเรื่องของคนที่จริง ๆ แล้วก็พอใจกับการที่ชอบอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ต้องวุ่นวายกับสิ่งรอบข้าง แต่พอมาเจอใครสักคนที่ทำให้โลกทั้งใบของเขามันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นั่นก็คือการที่ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกต่อไป ก็เลยชวนมาอยู่ด้วยกันไปเลย แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ที่วงเล็บไว้หลังชื่อเพลงที่ว่า ‘Introvert’ ตามที่คนทั่วไปเข้าใจมักจะเป็นประเภทของคนที่ชอบใช้ชีวิตคนเดียว เนื้อเพลงท่อนฮุกก็เลยออกมาน่ารักมาก ๆ โดยใช้คำว่า “มาอยู่คนเดียวด้วยกันไหม” แทนที่จะชวนมาแบ่งโลกอยู่ด้วยกัน กลับเป็นเรื่องราวของคนสองคนที่มีโลกของตัวเองและก็ใช้ชีวิตในโลกของตัวเองไปแต่แค่รับรู้ได้ว่าเรายังมีกันและกัน เป็นวิธีการสื่อสารที่น่ารักและมองเห็นภาพชัดได้ไม่ยาก และฝีมือการเขียนเนื้อเพลงนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล นั่นก็คือ สงกรานต์– รังสรรค์ ปัญญาเรือน และปิงปอง–ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ น้าหนวด ลุงปองจาก Mass Music นั่นเอง
เราค่อนข้างเห็นตัวตนมิลลี่ผ่านเพลงนี้ได้มากขึ้นกว่าเพลงอื่น ๆ ที่ผ่านมา และแน่นอนว่าแค่เพียงเปิดฟังครั้งเดียวก็สามารถติดหูไปทั้งวันได้ไม่ยาก ด้วยความป็อปที่ตะโกนออกมาผ่านความสดใสของทำนอง และเสียงร้องของมิลลี่ที่พอดีและเข้ากันกับเพลง อยู่คนเดียวด้วยกันไหม เลยกลายเป็นอีกเพลงบอกความรู้สึกจากคนที่ไม่ชอบพูดตรง ๆ ได้เป็นอย่างดี และหวังว่าจะทำให้ทุกคนรู้จักมิลลี่มากขึ้นนะ ขอฝากไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
ELEVEN – ฉันยังไม่ลืม
หลังจากรอสาย รอรักเก่ากันไปกับ Call Me เมื่อกลางปี จาว ELEVEN กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลที่ตอกย้ำว่า เรายังไม่ลืมจริง ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงจาก EP Album Don’t Wanna Lose “U” ที่เดาว่าไม่เกินต้นปีหน้าเราอาจจะได้ฟังกันเต็ม ๆ มาเข้าใจโลกสีน้ำเงินของเขาไปด้วยกันผ่านซิงเกิลล่าสุด ฉันยังไม่ลืม ก่อนได้เลย!
ฉันยังไม่ลืม เพลงที่เล่าเรื่องราวตามชื่อเพลงแบบไม่มีผิดเพี้ยน เริ่มด้วยการนึกถึงเรื่องราวในอดีต ระหว่างทาง และอนาคตที่เคยคิดแต่ไปไม่ถึงปลายทางฝ เลยกลับมาอยู่กับตัวเองในปัจจุบันแล้วมองย้อนกลับไปแบบ what-if ว่าถ้าในวันนั้นขอให้เธออยู่ ใครจะรู้นะว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร และถ้าวันนี้ยังมีเธอ ตรงนี้ก็คงมีความหมายมากกว่าการที่ต้องโดดเดี่ยวสลับกับการนั่งนึกถึงเรื่องเก่า ๆ ซ้ำไปซ้ำมาแบบตอนนี้ เรารู้สึกว่าเป็นเพลงที่เพราะมาก ไม่มาก ไม่น้อย แต่ทำงานกับหัวใจได้แบบหนักหน่วง ต่อให้ไม่ได้เพิ่งเลิกราหรือเสียใจกับการจากลามาก็มีความรู้สึกร่วมกับเพลงได้ไม่ยากเลย เปียโนทำหน้าที่นำทางความรู้สึก กับซาวด์สังเคราะห์อื่น ๆ ที่คลอให้บรรยากาศอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ มาเจอกับคอรัสที่ย้ำในทุก ๆ ท่อนอย่างพอดิบพอดี ทำให้เป็นอีกเพลงที่ต้องฟังซ้ำแต่ก็ต้องเตือนไว้ก่อนว่าระวังจะพาให้ดิ่งได้แบบไม่รู้ตัว แล้วก็รู้สึกได้ว่าเป็นเพลงที่จาวได้โชว์เนื้อเสียงผ่านวิธีร้องมากกว่าเพลงอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เป็นมิติใหม่ที่พูดได้เต็มปากว่าชอบ และอยากฟังซ้ำไปเรื่อย ๆ
ตัวมิวสิกวิดีโอก็ทำงาน ไม่ต้องมีบทพูด มีเพียงสัญญะที่เป็นกระดาษ สีชอล์กสีน้ำเงินที่ถูกขีดเขียน กับการแสดงแบบลองเทคของจาวและสีน้ำ (นักแสดงหญิง) ก็ออกมาน้อยแต่เข้าใจได้มาก ๆ ถึงความรู้สึกในห้วงเวลาที่ยังไม่ลืม และไม่รู้เมื่อไรจะก้าวผ่านไปได้ งดงามเหมือนเรากำลังนั่งดู performance art อยู่จริง ๆ
ฉันยังไม่ลืม น่าจะทำงานได้ดีกับหัวใจของคนที่เพิ่งเจอเรื่องยาก ๆ ที่ไม่อาจลืม และก็ยังทำงานได้ดีกับคนที่ไม่เจ็บปวดอะไร ณ ปัจจุบันด้วย หรือต่อให้ผ่านมาฟังเพียงครั้งเดียวเราก็ยังเชื่อว่าเพลงนี้จะสามารถเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์เมื่อถึงวันฝนตกของทุกคนได้ไม่ยากเลย ฝากเป็นกำลังใจให้ Thebandeleven และทีมงานสร้างสรรค์งานดี ๆ ต่อไป อดตื่นเต้นกับ Don’t Wanna Lose “U” ไม่ได้จริง ๆ รอฟังฮะ!
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
