‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟังสัปดาห์ที่สองของเดือนธันวาคม 2021
Writer : Donratcharat Phromsoonthornsakul / Jiratchaya Srisuwan
กลับมาแล้วกับ ‘ฟังไร’ คอลัมน์ในตำนาน ถ้าใครตามเว็บไซต์ฟังใจมาแต่แรกก็จะทัน ‘ฟังไร’ ของพี่อู๋ The Yers ที่เคยรวมเพลงน่าฟังมาให้ได้เบิกหูเบิกเนตรกันเป็นประจำ ซึ่งเราก็ได้รับอนุญาตให้สานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาละ กับการแพร่สปอร์สิ่งที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ชาวฟังใจได้ฟังกัน จะฟังไรกันบ้าง เลื่อนลงมาเลย!
Take Away – The world’s never on my side
หลังจากเปิดไพ่ดูดวงรายวันกันแบบยาวไปจนเหนื่อยใจกับเรื่องรัก Take Away วงดนตรีแนว Synth-pop / Pop Twist ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 3 คน ได้แก่ น้ำผึ้ง (ร้อง), ทัช (เบส) และ อีริค (กีตาร์) ก็กลับมาพร้อมซิงเกิลที่สองที่ยังหนีไม่พ้นปัญหาหัวใจ และดูเหมือนรอบนี้ปัญหาหัวใจที่ว่าก็น่าจะหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะมีแต่เรื่องที่ทำให้ต้องเสียใจตลอดราวกับว่าโลกไม่เคยอยู่ข้างเราเลย แต่บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้คนเดียว พวกเขาจึงปลดปล่อยออกมาผ่านซิงเกิลที่สองกับเพลงที่มีชื่อว่า The world’s never on my side
i don’t wanna think about you wondering if you’re out of my mind
The world’s never on my side เล่าถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความเสียใจ และการแสดงออกซึ่งความรู้สึกนั้นออกมา ที่บางครั้งเวลาที่เราเศร้าหรือเสียใจจากความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด ก็ไม่จำเป็นจะต้องกดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ หรือแกล้งทำเป็นว่าสบายดีไม่เป็นไร แต่มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าเราลองรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น รับรู้ว่าตัวเองกำลังเสียใจ กำลังร้องไห้ และใช้เวลากับตัวเองอยู่กับความรู้สึกนี้ ปลดปล่อยความเศร้าออกมาเป็นเหมือนกับสายฝนที่เราต้องยืนท่ามกลางมัน เพียงแค่รับรู้ถึงน้ำฝนที่หยดลงมา อีกไม่นานฝนก็หยุดตก ความรู้สึกก็เช่นกัน วันหนึ่งมันจะผ่านไป และเราจะกลับมายิ้มได้ราวกับได้เจอฟ้าหลังฝนที่งดงามอีกครั้ง
นับเป็นซิงเกิลที่สองจากพวกเขาที่ทำออกมาได้อย่างดีสมการรอคอยหลังจากเพลงแรกที่ปล่อยออกมา ให้ความรู้สึกชวนเศร้าเหมือนมีฝนตกอยู่ในใจตลอดเวลา แม้บางคนอาจจะไม่ได้เศร้าอยู่ แต่ถ้าเปิดเพลงนี้อาจจะมีซึมตามกันบ้างแหละ ด้วยดนตรี เนื้อเพลง รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอที่ทำใจเราซึมไปตาม ๆ กัน แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนได้อยู่กับตัวเองไปชั่วขณะ ได้เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองว่า ณ ตอนนั้นรู้สึกอะไรอยู่ ถือว่าเป็นเพลงที่ทำให้เราได้เรียนรู้จิตใจและอารมณ์ของตัวเราเองได้ไม่มากก็น้อย ก็ขอฝากเพลงนี้และวง Take Away เอาไว้ด้วยน้า
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Tah and friends – มันไม่จริง
ต๊ะและผองเพื่อนกลับมาส่งเพลงให้ฟังกันอีกครั้ง หลังจากซิงเกิลก่อนหน้าเมื่อช่วงปีที่แล้ว เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ก็ยังสร้างความประทับใจต่อคนฟังได้เป็นอย่างดี ในเพลงที่ชื่อว่า มันไม่จริง
‘ที่เธอแสดงว่าเธอเสียใจ แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าฉันเองต่างหากที่เป็นคนที่ต้องเจ็บ’
เพลงพูดถึงเรื่องราวหลังจากการจบความสัมพันธ์ที่มันมักจะมีฝ่ายหนึ่งที่รับบทผู้ถูกกระทำ และอีกฝ่ายที่ดูเหมือนไม่ได้เจ็บปวด แน่นอนว่าฝ่ายที่ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำต้องได้รับความเห็นใจมากกว่าแน่นอนอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ คนที่ไม่ได้พูด ไม่ได้แปลว่าไม่เสียใจ ยิ่งถ้าเรื่องราวที่อีกฝ่ายนำเสนอนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ไม่จริง เราก็ยิ่งทรมานมากกว่าเดิมเพราะมีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ความจริงทั้งหมดนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว จึงเป็นที่มาของท่อนที่ว่า ‘บอกกับใครเขาไป ว่าเธอน่ะใจร้ายไง’ และ ‘หยุดเลยน้ำตา ถ้ามันไหลออกมาจากความตั้งใจ’ แปลง่าย ๆ ก็คงเป็นคำว่า ถ้าจั้งใจแกก็ไม่ต้องขอโทษ
น้ำเสียงในเพลงพร้อมเนื้อหาออกมาค่อนข้างชัดเจนมากว่านี่คือความรู้สึกสับสน ไอเศร้ามันก็เศร้า ไอรักมันก็รักนะ แต่ก็ประชดประชันด้วยว่าทำไมถึงต้องโกหกคนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นแบบนี้เอง.. พร้อมย้ำคำว่า มันไม่จริง ไม่จริง ไม่มี อยู่ซ้ำ ๆ คลอไปกับเครื่องเป่าและเสียงคอรัส จะว่าย้ำเตือนตัวเองไม่ให้เผลอใจไปเห็นใจเขาก็ใช่ แต่อีกแง่ก็คือเป็นการบอกเขาว่าที่แกทำไปมันไม่จริงเลย มันไม่มีอยู่จริง ไม่ต้องหาอะไรมาอ้างร้อยแปดพันเก้าอีกต่อไปแล้ว
ค่อนข้างเป็นเพลงที่ประทับใจจริง ๆ ทั้งตัวเนื้อหาเพลง การอะเรนจ์ ไปจนมิวสิกวิดีโอที่ต๊ะ และ ปริม สื่อสารอารมณ์ทั้งสีหน้า แววตา ความรู้สึก ออกมาได้เป็นอย่างดี ชื่นชมทั้งวง นักแสดง และทีมงานคุณภาพเบื้องหลังทุก ๆ คนเป็นอย่างยิ่ง เราเชื่อว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงที่เข้าไปนั่งอยู่ในใจใครหลาย ๆ คนได้แน่นอน
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Story and Feel – ก่อนใคร
Story and Feel วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ-โฟล์ก-ร็อก ที่ตอนนี้กลับมาปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลงให้ฟังกันอีกครั้งหมาด ๆ หลังจากปล่อยอัลบั้ม 7/10 ออกมาให้ฟังกันเมื่อปีที่แล้ว จนเป็นอีกวงที่น่าจับตามองในปีนี้จริง ๆ ว่าพวกเขาจะปล่อยอะไรออกมาให้เราได้ฟังอีก และแน่นอนว่าพวกเขาก็ทิ้งท้ายปี 2021 นี้ไปอย่างไพเราะอีกเช่นกัน กับเพลง ก่อนใคร
“เก็บเรื่องราวที่มันจะหล่นหาย เพียงเธอกลับมา
จะเก็บไว้รอ… ให้เธออยู่ตรงนี้ ที่ไม่มีเรา”
ถึงแม้เนื้อเพลงที่พูดมาอาจจะดูเศร้า แต่ถ้าฟังดี ๆ มวลรวมของเพลงก็ยังให้ความรู้สึกรักที่ปนไปด้วยความคิดถึงและพ่วงความเหงาเข้าไปอยู่ด้วย สำหรับเรานี่แหละคือเพลงรัก เพลงรักในยามที่ต้องห่างกัน แต่ไม่ว่าจะห่างด้วยระยะทาง ห่างด้วยการเติบโตของชีวิตแล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง หรือห่างกันด้วยการที่ไม่มีสิทธิ์ได้พบอีก เพลงนี้ก็เป็นตัวแทนของความคิดถึงได้เป็นอย่างดี
เวลาเรารักใครสักคน คิดว่าหลาย ๆ คนก็อาจเป็นเช่นกัน เจอเรื่องราวรอบตัวมากมายก็อยากเล่าให้คนที่เรารักได้ฟัง ได้รู้ ได้เห็นไปพร้อม ๆ กันกับเรา ก็เลยเก็บทุกเรื่องราวรอไว้ในวันที่เธอจะกลับมาอีกครั้ง ต่อให้มันเป็นที่ ๆ ที่ไม่มีเราแล้วก็ตาม ดนตรียังคงกลิ่นอายของวงไว้ได้อย่างชัดเจน เพิ่มเติมตรงที่ค่อนข้างสว่างมาก ๆ จนฟังเผิน ๆ ก็อาจกลายเป็นเพลงรักหวานซึ้งได้เลย ประทับใจในเสียงร้องและการเรียบเรียงดนตรีมาก มีแอมเบียนซ์เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศของเพลงได้เป็นอย่างดี เพราะ! จงฟัง!
วันดี ๆ เรื่องราวดี ๆ ที่ผ่านมาทั้งหมดยังคงเก็บรอไว้ให้เธอได้ฟัง ก่อนใคร เหมือนเดิม หากแวะเวียนผ่านมาเจอก็ขอให้เธอจงได้ฟังเพลงนี้ แล้วจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอยังเป็นเบอร์แรกในใจเสมอ ๆ ขอฝากเพลงเพราะ ๆ จากอีกวงคุณภาพไว้ด้วยฮะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
Numcha Feat. Kuo 落日飛車 Sunset Rollercoaster – Merry Midnight
การโคจรมาพบกันระหว่าง Numcha และ Kuo ฟรอนต์แมนจากวงดนตรีโปรดของใครหลาย ๆ คนอย่าง Sunset Rollercoaster ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลทะลุสัญญาณวายฟายออกมาเป็นบทเพลงอบอุ่นหัวใจต้อนรับวันคริสต์มาสที่ใกล้จะมาถึง พร้อมยังเป็นพลังงานดี ๆ ให้แก่หัวใจส่งท้ายปีที่หนักหน่วงนี้อีกด้วย
Merry Midnight เพลงที่ฟังเผิน ๆ อาจดูเหมือนเป็นเพลงเศร้า แต่จริง ๆ แล้วนี่คือเพลงรักที่ทำให้หัวใจเราสงบ อบอุ่น ไม่หวือหวา เป็นความธรรมดาที่พิเศษที่ถูกซ่อนไว้ในน้ำเสียงของทั้งสองคน และเนื้อหาที่เพลงต้องการจะสื่อสารถึงคนฟัง นั่นก็คือความรู้สึกของการที่มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ แล้วเราอุ่นใจเสมอ ปล่อยให้โลกภายนอกดำเนินต่อไป เรามีความสุขด้วยกันสองคนก็เพียงพอในวันพิเศษนี้ คริสต์มาสนี้ก็อยู่ด้วยกันก่อนนะ อย่าเพิ่งไปไหนไกล มาพร้อมท่อนฮุกที่ติดหูซ้ำ ๆ กับ ‘On this Christmas Day don’t walk away, I feel safe and sound when you come around’ พอถึงท่อนฮุกสุดท้ายของเพลงทีประสานระหว่างเสียงของ Numcha และ Kuo ก็เป็นการพิสูจน์ได้เลยว่านี่เป็น perfect match สำหรับเพลงนี้จริง ๆ เกิดมาเพื่อทั้งสองคนโดยเฉพาะ อบอุ่นหัวใจ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่เร่งเร้า ค่อยเป็นค่อยไป อมยิ้มได้อย่างงดงาม ด้วยซาวด์ที่ให้บรรยากาศถึงคริสต์มาสจริง ๆ เมื่อถูกนำมาใส่ไว้ในเพลงนี้ ก็ยังรู้สึก festive แบบที่ต่อให้อากาศบ้านเราร้อนแค่ไหน แต่ก็เหมือนนั่งท่ามกลางเตาผิงท่ีให้ความอบอุ่นยามที่หิมะล้นหลังคาบ้านยังไงหยั่งงั้นเชียวล่ะ
เป็นการโคจรมาพบกันที่งดงาม และอบอุ่นหัวใจจริง ๆ (จงนับว่าเขียนคำว่าอบอุ่นไปกี่ครั้งในบทความนี้) ขอให้เดือนสุดท้ายในปีนี้ส่งให้ทุกคนมีความสุข ต่อให้เหงา ก็ยังขอให้มีความสุข แม้กระทั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันพอให้ชีวิตผ่านพ้นไปได้ก็ยังดี ขอให้ต่อจากนี้และปีต่อ ๆ ไปมีแต่รอยยิ้มที่ปกคลุมใบหน้า มีความสุขกับการรักตัวเอง และส่งต่อให้คนอื่นในทุก ๆ วันนะ เมื่อไรที่ต้องการความสุข ก็ขอให้เปิดเพลงนี้ฟังจะได้รู้ว่ายังมีเพลงโอบกอดเธออยู่เสมอ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
VINI – The Cage
VINI คือวงดนตรีที่ฟอร์มขึ้นโดยอดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอย่าง Beam (ดีเจ, ร้องนำ) และ Ply (เบส, ร้องนำ) ด้วยความที่ทั้งคู่ได้ลองคุยกันว่าอยากจะทำวงที่เน้นการนำเสนอดนตรีที่ร่วมสมัยและได้เล่นเครื่องดนตรีเองด้วย จึงได้ชวน Fhong มาร่วมในตำแหน่งกีตาร์และร้องนำ จนกลายมาเป็นวง VINI ที่ตั้งใจนำเสนอเพลง Electronica, Clubbing music เพื่อร่วมปลุกกระแสดนตรีเต้นรำในเทศกาลดนตรีไทยและรวมไปจนถึงฝั่งเอเชีย พร้อมกับประเดิมซิงเกิลเปิดตัวอย่าง The Cage ผ่านเนื้อเพลงที่ทำให้เราได้ทำความรู้จักพวกเธอไปพร้อม ๆ กัน
ออกจากกรงที่ถูกขังไว้ แล้วให้อิสรภาพนั้นจุดประกายความเป็นตัวเองออกมา The Cage พูดถึงการตีกรอบในสังคมให้กับเด็ก เสมือนการขังเขาไว้ในกรง แต่เราทุกคนต้องการอิสรภาพ ต้องใช้ชีวิตในแบบของเราเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตีกรอบหรือชี้บอกในทุกทางที่เราเดิน เพราะชีวิตนี้เป็นของเรา และเราก็ต้องการเห็นโลกที่แท้จริงด้วยตัวเราเอง เนื้อหาของเพลงที่หากตั้งใจฟังอาจจะค่อนข้างดีพ แต่ก็ยังมีซาวด์ดนตรีสนุก ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีเต้นรำฝั่งยุโรปช่วยกลบความเข้มข้นของเนื้อหาเหล่านั้นไว้ได้ จนออกมาเป็น The Cage ที่พร้อมจะปลดปล่อยเราออกมาเต้นแบบสุดเหวี่ยง แถมงานนี้ VINI ยังได้ Win Wittawin มานั่งแทนโปรดิวเซอร์ พร้อมทั้งยังได้อะเรนเจอร์มากฝีมืออย่าง Jin Matutamtada มาผสมเสียงให้ และยังได้ร่วมงานกับ Mike Bozzi Mastering Engineer ระดับโลกด้วยเช่นกัน
บอกเลยว่าเส้นทางของ VINI ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะขนาดเพลงแรกยังทำได้จ๊าบขนาดนี้ แฟนเพลงอย่างเราก็ตั้งตารอฟังเพลงต่อ ๆ ไปของพวกเธอจนนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลยทีเดียว รวมไปถึงเพลง The Cage เองก็เช่นกัน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำให้เราได้รู้จักพวกเธอผ่านเสียงดนตรีที่ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงเนื้อหาของเพลงที่ทำให้เรารู้จักพวกเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก ยังไงก็ฝากติดตาม VINI เอาไว้ด้วยน้า
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
ARII Takahashi – จะฟังไม่ฟัง (Uso)
ARII Takahashi – จะฟังไม่ฟัง
ARII Takahashi ศิลปินไทยลูกครึ่งญี่ปุ่นเสียงหวาน เจ้าของเพลง กำลังดี, ไม่รีบใช่ไหม ฯลฯ ที่ทำให้เราเคลิ้มได้ทุกครั้งที่เปิดฟัง ARII เริ่มต้นเข้าวงการดนตรี จากการร้อง และการแต่ง มาพร้อมกับสไตล์เพลงป็อป, ป็อปแดนซ์ ที่ตั้งใจถ่ายทอดมุมมองของวัยรุ่นที่กำลังเริ่มเรียนรู้คำว่า “ความรัก” ผ่านการหยิบยกเอาความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวมาถ่ายทอด และร้อยเรียงเป็นเรื่องราว เหมือนได้ฟังเรื่องราวความรักในรูปแบบต่าง ๆ ได้ภายในไม่กี่นาที เพลงของเธอก็เลยเข้าไปติดอยู่ในเพลย์ลิสต์ของใครหลาย ๆ คน ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้ ARII ก็กลับมาพร้อมกับเพลงล่าสุดที่รอให้ทุกคนได้ฟัง กับ จะฟังไม่ฟัง (Uso)
จะฟังไม่ฟัง (Uso) เล่าถึงความไม่สัมพันธ์กันระหว่างสมองและหัวใจ เมื่อวันหนึ่งเรากลับไปนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเวลาที่เราพูดถึงเรื่องความทรงจำ คนเราส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงแต่ความทรงจำดี ๆ จนบางครั้งก็ลืมนึกไปว่า ความทรงจำดี ๆ เหล่านั้นมันก็อาจจะไม่หวนคืนกลับมาอีกแล้ว แต่เราก็ยังคิดถึงแต่เขา และทุกอย่างที่เคยทำด้วยกันกับเขา จริง ๆ มันก็ฟังดูเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจ บางครั้งเราก็เข้าใจมันแหละว่าเขาจะไม่กลับมา สมองของเราก็รับฟังสิ่งนั้น แต่หัวใจนี่สิ ไม่เคยทำตามที่สมองสั่งเลย มักเผลอดื้อไปคิดถึงเขา ไม่ยอมฟังสักที ส่วนในด้านดนตรี ด้วยจังหวะที่ช้าก็เข้ากับมู้ดในเพลงได้เป็นอย่างดี ผสมกับเสียงร้องของ ARII ที่กลมกล่อมเข้ากันจน ทำเราซึมได้แบบไม่รู้ตัว
ส่วนชื่อเพลงที่วงเล็บไว้ด้านหลังว่า Uso นี้ก็มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า “อุโสะ” ( うそ) ที่แปลว่าโกหก ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงการโกหกตัวเองที่ยังรอและยังคิดถึง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะไม่กลับมาแล้วนั่นเอง ฟังแล้วเจ็บจึ้ง เหมือนโดนเขย่าตัวแรง ๆ ให้เลิกคิดถึงอะไรที่ไม่ย้อนคืนกลับมาแล้วเถอะ เป็นอีกหนึ่งเพลงเพราะ ๆ ที่เต็มไปด้วยความเศร้าเคล้าน้ำตาจาก ARII ก็ขอฝากใหม่นี้เอาไว้ด้วยน้าา
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
The Kastle – PLUTO (พลูโต)
กลับมาอีกครั้งกับวงดนตรีที่หลายคนคิดถึง กับ The Kastle วงดนตรีจากค่าย BOXX Music ที่ประกอบไปด้วย คูน ธรรมธร มัคคสมัน (ร้องนำและกีตาร์) , ชีต้า ภูริสร์ ขำพลับ (เบส) และ บูม บุญญฤทธิ์ ผ่องแสงแก้ว (กลอง) ที่ล่าสุดพวกเขาก็ได้มาขอร้องอ้อนวอนให้เธอ อย่าตัดผม ซิงเกิลที่กลับมาเรียกความคิดถึงจากแฟน ๆ รวมไปถึงบทเพลงเพราะ ๆ ก่อนหน้านี้ที่ติดหูเราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง กอดอีกครั้ง, เวลาสุดท้าย รวมไปถึงเพลงฮิตอย่าง ชีวิตเธอดีอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขาได้แวะมาส่งเพลงใหม่อย่าง PLUTO เพลงน่ารักจากชาวคอนโด ที่อยากได้เธอที่อยู่ดาวพลูโตอันแสนไกล
PLUTO (พลูโต) เพลงใหม่จากพวกเขา The Kastle ที่นอกจากจะเป็นชื่อเพลงแล้ว พลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่ไกลที่สุด ในระบบสุริยจักรวาล ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับความรักของเราที่ห่างไกลจนแทบเป็นไปไม่ได้เลยน่ะสิ เพลงนี้ได้เล่าถึงความรักที่ดีเกินฝัน ผ่านการเปรียบเทียบระหว่าง ‘ความรัก’ และ ‘ดาวพลูโต’ ที่อยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน ผ่านดนตรีแนวเร็กเก้ที่ถือเป็นความแปลกใหม่ที่พวกเขาแอบใส่ลงเพิ่มความสนุกกลบความเซ็งไปได้ รวมไปถึงเนื้อเพลงน่ารัก ๆ ที่ฟังรอบเดียวก็ติดหูเราไปได้เลย “เธอคือพลูโต แต่เราอยู่คอนโด กี่ร้อยล้านกิโลก็คงโคจรไม่ถึงเธอ” กลายเป็นเพลงแอบเศร้าติดตลก ฟังได้แบบเพลิน ๆ ไม่มีน้ำตาผสมแน่นอน!
เหมาะกับใครหลายคนที่อาจจะกำลังไปปิ๊งใครที่น่ารักมาก ๆ แต่รู้สึกว่าเขากับเรานั้นอยู่ห่างไกลกับเราเสียเหลือเกิน เราก็ทำได้แต่เฝ้ามองและชื่นชมเขาอยู่ตรงนี้ไกล ๆ เพราะไม่มีวันที่เราจะได้เจอกัน เอาเป็นว่าเพลงนี้น่าจะแทนใจใครที่กำลังอยู่ในอารมณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี ยังไงก็ขอฝากซิงเกิลใหม่จากพวกเขาเอาไว้ด้วยนะ
ฟังเพลงนี้บนฟังใจ
____
