รวมมิวสิกวิดิโอน่าดู ประจำเดือนกรกฎาคม 2561
- Writer: Montipa Virojpan
Petite – It’s Complicated
ภาคต่อบอกเล่าเรื่องราวความรักของ Petite อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าทุกเพลงในนี้ถ่ายทอดมาจากความสัมพันธ์ในชีวิตจริงของเธอเอง ก่อนหน้าเธอเคยด่าแฟนเก่าไปแล้วในทั้งสองเพลงคือ Ai กับ Next ส่วนเพลงนี้ก็เขยิบมาที่ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ ‘จะรักหรือจะกั๊ก’ ทุกคนน่าจะเคยเจอกันมาหมด โดยเฉพาะกับคำว่า ‘ใครรู้สึกมากกว่า แพ้’ มันจริงมากเพราะหลายคนทำให้มันกลายเป็นเกม ภาพที่ออกมาก็เลยยังคงคอนเซปต์ว่าอยู่ใน ‘ห้อง’ สีชมพูอมม่วงเปรี้ยวซ่าของเปอติ๊ด ที่อาจตีความได้ว่าเรากำลังอยู่ในจักรวาลความสัมพันธ์ของเธอนั่นแหละ และครั้งนี้เธอกับเขาก็เปลี่ยนเกมเล่นไปเรื่อย ๆ แต่ในทุกเกม เธอมักจะเป็นฝ่ายแพ้ ไม่ก็เป็นคนที่แกล้งแพ้ซะเอง
Hugo – ดำสนิท
จีน คำขวัญ กลับมาอีกครั้งกับงานที่เธอบอกว่าทุ่มเทตั้งใจสุด ๆ ในการเล่าเรื่องของเพลง ดำสนิท บทเพลงความยาวกว่า 6 นาทีของ Hugo ที่พูดถึงสัจธรรมของโลกที่ทุกคนเกิดมาล้วนเป็นผ้าขาว แต่เมื่อผ่านประสบการณ์ที่ต่างกันไปผ้าของแต่ละคนก็จะถูกย้อมให้เปื้อนด้วยสีต่าง ๆ แต่ในที่นี้เขาได้เปรียบเทียบให้ประสบการณ์นั้นเป็นสีเทา ค่อย ๆ ถมจนเป็นดำ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันเป็นสีที่เลวร้ายอะไรเพราะจากเนื้อเพลงก็บอกอยู่ว่าต่างคนต่างมองเห็นกันไปคนละอย่าง ซึ่งในวิดิโอตัวนี้ต้องเล่ากันยาวนิดนึงเพราะเป็นงานแรก ๆ ของจีนที่มีการเล่าเรื่อง แถมยังมี hidden message อยู่เยอะเหลือเกิน
หลัก ๆ จีนก็ได้ตีความเพลงออกมาเป็นคุกในโลก dystopia ที่มีนักโทษเข้าใหม่ ก่อนเข้ารับการควบคุมทุกคนจะถูกคัดกรองว่าเป็น ‘ขาว’ หรือ ‘ดำ’ เท่านั้น ซึ่งก็มีเด็กน้อยที่เห็นการถูกคุมตัวของพี่เล็กที่บางส่วนบนตัวของเขามีสีดำเปื้อนอยู่และถูกแยกออกไป เด็กน้อยถูกจับใส่ชุดสีขาวและถูกบังคับให้ทำทุกอย่างตามคนสีขาว แต่ด้วยความไร้เดียงสาและขี้สงสัยจึงทำให้เด็กน้อยหลบหนีและได้พบกับความจริงที่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนกันจากที่เราเห็นว่ามีคนมากหน้าหลายตารวมกันอยู่ที่นี่ วิดิโอตัวนี้ไม่ได้พูดแค่เรื่องถูกหรือผิด แต่พูดเรื่องการให้ค่านิยมหรือกฎระเบียบต่าง ๆ ในสังคม ทั้งการทำศัลยกรรมจะถูกตัดสินไปก่อนแล้วว่าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ คนหน้าตาดูมีเรื่องชกต่อยหรือมีรอยแผลจะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี และตอนท้ายก็มีการใช้วิชวลภาพ doodle ชวนพิศวงงงงวยเข้ากับท่อนโซโล่ที่ซับซ้อนลึกลับ กับเทคนิคตัดต่อภาพซ้อนมาทำให้วิดิโอที่เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นดูมีความหลากหลายมากขึ้น ดูเพลินขึ้นกว่าเดิม
จริง ๆ มีอีกจุดที่เราสังเกต ตอนที่เด็กน้อยวิ่งหนีเข้ามาในทางเดินมืด ๆ ตรงนั้นเป็นการนำเสนอด้วยมุม Dutch angle ที่ถ่ายเป็นท็อปวิวมุมเอียงเท่ ๆ แล้วเป็นไฟ overhead ที่ค่อย ๆ ปิดตามการเคลื่อนไหวของเด็ก แบบที่ชอบใช้สร้างความลุ้นระทึกในหนังเขย่าขวัญหลายเรื่อง เป็นงานที่ stylized จัดเหมือนกัน แล้วยังมีการซ่อน controvercial topic ด้วยภาพ The Lovers II ของ Rene Magritte ที่เป็นคนโดนเอาผ้าคลุมหัวแล้วจูบกัน คือเดิมทีภาพนี้ก็สามารถตีความไปได้หลายประเด็นอยู่แล้ว การที่มีผ้าคลุมหน้าคนสองคนที่กำลังจูบกันเนี่ย อาจแปลว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีขนาดนั้นแต่ก็มีความรู้สึกต่อกัน หรืออาจเป็นคนรักที่ไม่ยอมเปิดเผยความลับบางอย่าง หรือต่างคนต่างยังไม่ยอมแสดงตัวตนที่แท้จริงให้อีกฝ่ายรู้ หรือสามารถตีความได้ว่ามันคือความสัมพันธ์ที่ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวจริง ๆ หรือมีเส้นบาง ๆ กั้นไว้หรืออาจเป็นรักต้องห้าม แล้วในตัว mv นี้คือชายหญิงคนนึงใส่เสื้อขาว อีกคนใส่เสื้อดำ ก็อาจพูดถึงเรื่องที่ถูกคลุมไว้ด้วยขนบแต่ทั้งสองเลือกที่จะละเมิดมัน แต่ด้วยการพยายามนั้นเองพวกเขาก็ยังถูกกั้นไว้ให้ไม่สามารถรักกันได้ หรืออาจแปลว่าเป็นความมืดบอดไร้ทางออกในความสัมพันธ์บนความแตกต่าง ที่เขียนมานี่เป็นการวิเคราะห์จากฝั่งของเราคนเดียว ถ้าใครมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่นก็เอามาแชร์ได้นะ
JITIVI – คุณ, คนรัก
เผื่อใครพลาดบทความที่เราเขียนแนะนำเพลงนี้ไปก็ขออนุญาตโฟกัสมาที่วิดิโอเต็ม ๆ เลยละกัน โปรเจกต์ล่าสุดของ ไผ่ วง PLOT ที่ออกผลงานเดี่ยวทำเพลงอิเล็กทรอนิกของตัวเองโดยหยิบเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดของเขามาบอกเล่า และขยี้ความช้ำซ้ำ ๆ ด้วยวิดิโอฝีมือของ Vagina Film ที่เก็บภาพเหงา ๆ ของอาคารบ้านเรือนย่านฝั่งธนที่โดนน้ำท่วมทำให้มัวหมอง เป็นตัวเปรียบเทียบความรักมอซอที่ทิ้งคราบกรังไว้ให้ดูต่างหน้าเป็นหลักฐานว่าสิ่งเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริงที่นี่ แต่มันได้ระบายหายไปสู่เจ้าพระยาเรียบร้อยแล้ว ความรักของเขาก็เช่นกัน
Ga-Pi meets Rootsman Creation – เดิน in Dub
เพลงนี้ฉบับดั้งเดิมเป็นของวงเร็กเก้รุ่นใหม่ Rootsman Creation ในสังกัด Jahdub Stido ที่ภายหลังเจ้าของค่ายอย่างพี่แก๊ป T-Bone หรือ Ga-Pi ก็หยิบเพลงมาใส่ดั๊บเลยทำวิดิโอใหม่ให้มีความ trippy ด้วยการตัดต่อเอามือมาหมุนแผ่นซีดี กับอีกมือที่จับตุ๊กตาดุ๊กดิ๊กมาวาง ให้มันเดินส่ายไปเรื่อย ๆ พร้อมกับเพลง โดยมีพื้นหลังเป็นสีสดกระพริบ ๆ อยู่ แล้วก็สลับเป็นวิชวลหลากสี ไปจนถึงฟุตของเอฟเฟกต์ดั๊บเอามาถ่ายให้ดูเวียนหัว ๆ แล้วก็มีการเอาลูกบอลแก้วกลม ๆ มาถือหน้าตุ๊กตาให้เห็นเป็นภาพลายตาคล้าย kaleidoscope ค่อนข้างมีความเป็นงานคอลลาจลวงตากะเอาให้ ‘เติม’ แล้วมาฟังไปเพลิน ๆ ดูเพลิน ๆ กันเลย
Monomania – ปล่อย
เพลงล่าสุดจาก Monomania หลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของค่าย Macrowave การถ่ายทอดความรู้สึกของการไม่ยอมปล่อยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปในทิศทางที่ควรจะเป็น บางทีเราก็ยังติดอยู่กับความสุขในวันวานที่วันนี้อาจไม่หลงเหลืออยู่แล้วเลยทำให้ต่างฝ่ายต่างทุกข์ใจ วิดิโอใช้เรื่องสัดส่วนของภาพที่เป็นกรอบเล็ก ๆ และความไม่ชัดเจนของภาพมาสร้างความรู้สึกที่เป็นเหมือนความทรงจำเลือนลาง หรือการปิดกั้นตัวเองไว้ สังเกตได้ว่าในช่วงแรกจะเป็นพี่ปลายในชุดดำที่คอยดูแลผู้หญิงในชุดขาวตอนเธอยังไม่ค่อยได้สติ จนเมื่อภาพถูกขยายเป็นมุมกว้างทำให้เราได้เห็นเรื่องราวความเป็นจริงที่เริ่มดำเนินไป สีดำในตอนเริ่มอาจหมายถึงความเย็นชาหรือความจำเป็นที่ต้องประคองให้ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ หรืออาจหมายถึงคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรในตอนแรกเมื่อได้เจอผู้หญิงคนนี้ก็มีความรู้สึกอยากดูแลและมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน แต่ในภายหลังเมื่อเธอหายดีก็กลายเป็นว่าเธอเป็นฝ่ายที่ใส่เสื้อสีดำ และพี่ปลายก็มาเป็นคนชุดขาวที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ ตรงนี้อาจหมายถึงจุดที่ความสัมพันธ์เริ่มจืดจางลง รวมถึงภาพวาดสีดำอาจสื่อถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่พอเต็มผืนผ้าใบแล้วก็ไม่สามารถแต่งเติมอะไรได้อีก นอกจากนี้ยังมีเชือกที่เป็นสิ่งคอยผูกโยงพวกเขาไว้ เมื่อถึงวันนึงจริง ๆ ก็ต้องยอมตัดไปเพราะคงเหนื่อยเกินไปหรือไม่สามารถไปต่อได้แล้ว
Gorn Clw – Hit Me (Ride)
พอได้บทกลับมาทำเพลงและเข้ามาอยู่ในค่าย Tomato Love Records Gorn Clw ก็ปล่อยกันอย่างต่อเนื่องให้หายคิดถึงกันไปเลย โดยเฉพาะกับเพลงนี้ที่ถือว่าใจกล้ามากที่ทำเพลงที่มีอินโทรยาว ๆ กว่าจะเข้าเรื่อง แล้วยังมีความยาวถึง 7 นาทีครึ่ง สำหรับใครที่ชอบเพลงอิเล็กทรอนิกล่องลอยชวนฝัน แต่ยังเสพติดกับความเหงาเป็นอาหารคอยหล่อเลี้ยงความเศร้าและโดดเดี่ยวของคุณ เชิญฟังเพลงนี้พร้อมรับชมวิดิโอคอลลาจที่ใช้ฟุตเทจภาพยนตร์ สารคดี หรือโฆษณาจากยุคเก่ามาเรียงต่อ ๆ กันด้วยการใช้สัดส่วนภาพแปลก ๆ และฉาบด้วยสีสันโทนเรืองแสงให้เราดูกันเพลิน ๆ ซึ่งเจ้าตัวก็เป็นคนทำอันนี้เองด้วยนะ แล้วถ้าใครอยากรู้ความหมายเบื้องลึกเบื้องหลังจริง ๆ ของเพลงก็เข้าไปฟังต่อใน podcast ‘ทำอะไรกันมา โส๊ด สด’ ตอนใหม่ล่าสุดกันได้เลย
He Men Crown – Kodomo
เคยแนะนำไปแล้วอีกเหมือนกันแต่อยากเตือนความจำกันอีกทีสำหรับคนที่ลืมหรือใครที่ยังไม่ได้ดู ใครที่เป็นแฟน X Japan ถ้าได้มาดูหรือฟังอาจจะเกิดอาการปวดตับกับเพลงและมิวสิกวิดิโอของพวกเขาที่ยั่วล้อวงเจร็อกก้องโลกวงนี้แบบทุกเม็ด ตั้งแต่ตัวเพลงเมทัลดุ ๆ แต่มีท่อนบัลลาดเพราะ ๆ เสื้อผ้า หน้า ผม การ hairspinning กันจนคอแทบหลุดแบบที่ชาวร็อกเขาชอบทำกัน ใครเครียด ๆ นี่เรียกเพื่อนมาดูด้วยกันไปเลย แล้วเพลงนี้จะหลอนอยู่ในหัวไปอีกค่อนวัน เชื่อสิ