รวมมิวสิกวิดิโอน่าดู ประจำเดือนธันวาคม 2559
- Writer: Montipa Virojpan
กลับมาแล้วหลังจากหายไปหนึ่งเดือนเต็มเพราะเป็นช่วงที่เพื่อน ๆ ไม่ได้ปล่อยมิวสิกวิดิโอหรือเพลงกันออกมาเท่าไหร่นัก เดือนธันวาคมนี้เราเลยขอเสนอมิวสิกวิดิโอน่าดูประจำเดือนจาก Solitude is Bliss, Jelly Rocket, The Bandit Boy, Whal & Dolph และ Chanudom มาให้ได้ชมกันจ้า
Solitude is Bliss – ใหม่ซ้ำเดิม
ความรู้สึกหลังจากดู mv นี้จบคือ… เราควรจะหาความหมายของมันไหม ฮ่า ๆ แต่ในความจับต้นชนปลายไม่ถูกก็ดูมีสเน่ห์นะ มันคือวิดิโอคอลลาจกึ่งมอนตาจที่หยิบเอา source และเส้นเรื่องหลากหลายมารวมกันจนตอบโจทย์คำว่า ‘ใหม่ซ้ำเดิม’ ได้ดี (แม้ภาพจะไม่ตรงกับเนื้อหาในเพลงซะทีเดียว) คือมันเหมือนเอาสิ่งที่เห็นในชีวิตประจำวันอยู่แล้วทุกวันมาเล่าใหม่ อย่างฉาก homeless มาขอข้าวป้ากิน แล้วป้าใจดียกข้าวมาให้ แทนที่ตาคนนั้นจะรับชามข้าวกลับเข้าไปตบป้า ส่วนผู้ชายอีกคนที่เหมือนจะช่วยป้าก็ดันมาตบป้าซ้ำ ซึ่งซีนตรงนี้มันเหมือนยั่วล้อกับความ cliche หรือ feel good อะไรพวกนั้น ส่วนอันนี้ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม พอท่อนที่ร้องว่า “ชำเลืองมอง” ก็ตัดรับกับจังหวะภาพได้อย่างพอดีจนเราหลุดขำ และซึ่งถ้าใครบอกว่าไม่ตั้งใจทำเราจะตี เพราะจากอุปกรณ์การถ่ายทำความละเอียดสูง การคัดเลือก texture art ที่นำมาซ้อนกับภาพ เหล่านักแสดงที่มาทำให้เพลงนี้มีชีวิตชีวา หรือความ absurd ในจุดต่าง ๆ ที่แม้เราจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เราว่าเขาก็คงคิดมาแล้ว
Jelly Rocket – This is Real
เมื่อนิทานดิสนีย์หลาย ๆ เรื่อง หรือหนังรักที่เป็นเรื่องราวในดวงใจของเราถูกย่อส่วนให้กลายเป็นเรื่องราวของน้อง ๆ ตัวน้อย ๆ ก็ดูน่ารักดีนะ ซึ่งการนี้เองที่ทำให้เรื่องราวใน mv ที่ออกจะดูขมไปเสียหน่อยดูซอฟต์ลงได้ เหมือนความแฟนตาซีพวกนี้มันเกิดขึ้นตอนที่เรามี puppy love ที่อะไรก็ดูสวยงามชวนฝันไปหมด แต่หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วเราต้องเผชิญกับความจริงที่อาจจะไม่ได้เป็นอย่างในฝันก็ได้ ซึ่ง mv นี้ก็พาเราไปพบกับ Alice (Neo) in Wonderland, Little Mermaid, Aladdin, Eternal Sunshine of the Spotless Mind, In the Mood for Love ในโปรดักชันทำมือสุดน่ารัก
The Bandit Boy – รอยยิ้ม (Reverse)
อีกงานจากค่าย Minimal Records ที่คราวนี้ก็มาแบบคอลลาจเหมือนกัน แต่จะมีความเป็นกราฟฟิกป๊อปอาร์ต คือเลือกคู่สีได้น่ารักมาก ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่วงแนวนี้กลับมี mv ออกมารูปแบบนี้ แต่ไม่ใช่ไม่ดีนะ มันแปลกใหม่มาก คิดว่าเพราะซาวด์ดนตรีที่ซอฟต์ลงเป็น drum & bass ในช่วงแรกด้วย ซึ่งมันก็เข้ากันดี แล้วพอเป็นท่อน screamo เขาก็เลือกใช้สีแดงเหลืองกับการทำวัตถุให้เป็นสี negative เพื่อเข้ามาตัดอารมณ์ในตอนต้นแล้วมันเวิร์คด้วย การเลือกช่วงต่าง ๆ มาใส่ก็สื่อความหมายของเพลงได้ดี รู้สึกว่าเขาตั้งใจทำมาก เพราะmotion หลาย ๆ จุดก็ไม่ได้ทำกันง่าย ๆ นิ
Whal & Dolph – ยิ้ม (Your Curve)
มีความเป็นโฮมวิดิโอคัลท์ ๆ เบา ๆ ในช่วงแรก เพราะเป็นคล้ายการบันทึกการไปเที่ยวของเพื่อน ๆ กลุ่มนึง ดู ๆ ไปก็ให้ความรู้สึกแบบวิดิโอโฆษณาญี่ปุ่นยุคเก่าเหมือนกันนะ แต่โดยรวมก็คือตั้งใจขายรอยยิ้มของน้องนางเอก mv แบบสุด ๆ (เจ้าหลินเลอโฟ กับกุ๊กไก่นาดาว นั่นเองแจ้) ท่อนที่กีตาร์เล่นเบาและช้าลงแล้วให้เราได้ยลยิ้มของน้องกันอย่างจังนี่มัน อื้อหือ สะกดใจนักล่ะ เข้าใจที่เอาประโยคเปิดจากลุงบ็อบมาใช้แล้วให้ตี๋เล็กหน้าเดดเป็นคนพูด มันยิ่งเป็นการ intro เข้าสู่ความน่ารักของ mv นี้
Chanudom – ชนุดม
ในที่สุดพวกเขาก็ปล่อยมิวสิกวิดิโอแรกกับค่าย What The Duck ที่ไม่ทำให้เราผิดหวังแม้แต่น้อย ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะทำออกมาในรูปแบบไหนกันนะ สุดท้ายแล้วก็ออกมาเป็น performing art ที่ใช้ movement การเคลื่อนไหวของร่างกายเล่าเรื่องสื่ออารมณ์นั่นเอง พลังมาก ๆ มาดูกันเลย