6 หนังเก่าน่าดู แถมมีเพลงฮิตติดหูจนเราต้องเปิดเพลงมาฟังซ้ำ
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Art Director: Thanaporn Sookthavorn
ก่อนหน้านี้ผมได้อ่านบทความอันหนึ่ง ชื่อว่า ‘Perspective: Millennials seem to have little use for old movies‘ ซึ่งคนเขียนให้ความเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่หรือที่เราเรียกว่า Millennials อันหมายรวมถึงคนที่อายุยังไม่ถึง 30 เนี่ย ไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือไม่ดูหนังเก่ากันแล้ว เพราะพวกเขามองว่าหนังคือแฟชันอย่างหนึ่งที่ต้องใหม่และยังตอบสนองสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เขายกมาคือหนังเรื่อง ‘Spider-Man’ ที่บอกว่าการรีเมกหนังเรื่องนี้คือการหักหลังเหล่าวัยรุ่นที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้ ถ้าเทียบกันระหว่างเวอร์ชันแรกที่ Tobey Maguire กับเวอร์ชันที่ Andrew Garfield เล่น ก็พอเห็นความแตกต่างได้นะ เพราะประเด็นสำคัญในหนัง Spider-Man คือตัวเอกที่เป็นเพียงวัยรุ่นแต่ต้องแบกรับพลังเหนือมนุษย์กับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตฮีโร่ให้สมดุล ถ้าพลาดไปเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้ชีวิตวอดวายได้ แต่เวอร์ชันรีเมกกลับตัดทอนส่วนนี้ลงและให้ความสำคัญกับฉากบู๊มากกว่า ทำให้เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่นี่ไม่ได้สนใจศิลปะของหนังเลย
ต่อให้เราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ เราก็อยากให้เด็กรุ่นใหม่หันมาดูหนังเก่ากันมากขึ้น เพราะมีหนังดี ๆ มากมายไม่ได้ถูกพูดถึงเพราะตัวเองเกิดไม่ทัน แต่ถ้าเราได้ศึกษาหนังเก่า ๆ ก็อาจทำให้เราดูหนังยุคใหม่ได้เข้าใจมากขึ้นก็ได้ เพราะแรงบันดาลใจมันก็ส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ แหละ เพลงก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่เราควรศึกษากันไว้ หนังเก่าหลายเรื่องก็มีเพลงประกอบที่ดีมาก ๆ ทั้งช่วยส่งให้หนังเข้าไปหนังอยู่ในใจพวกเราได้ง่ายขึ้น และผลักดันให้ตัวเองเข้าถึงหูคนฟังในวงกว้างมากขึ้น เราเลยอยากลิสต์หนังเก่าที่มีเพลงประกอบเด่น ๆ ให้ทุกคนลองดู เผื่อได้ฟังเพลงแล้วจะอยากดูหนังมากขึ้น มีเรื่องอะไรบ้างลองไปดูกัน
She’s All That
วัยรุ่นทุกคนน่าจะต้องเคยได้ยินเพลง Kiss Me นี้ซักครั้งในชีวิตแน่นอน หรืออย่างน้อยวัยรุ่นตอนปลายหลายคนก็น่าจะรู้จักเพราะมันกระหึ่มอยู่บนคลื่นวิทยุช่วง 90s มาก ๆ เหมือนเป็นเพลงแรก ๆ ที่คนเริ่มฟังเพลงสากลจะเลือกฟังด้วยทำนองที่น่ารักสนุกสนานกับเสียงร้องหวาน ๆ ของนักร้องนำ Sixpence None The Richer แต่เด็กยุคก่อนที่โตมากับหนังก็คงจะคุ้นเคยกับเพลงนี้เหมือนกันเพราะมันประกอบหนังเรื่อง ‘She’s All That’ เกี่ยวกับ แซค หนุ่มสุดป็อปของโรงเรียนที่เด่นทุกด้านทั้งเรียนและกีฬา แถมได้ควงดาวโรงเรียนอีกด้วย แต่สุดท้ายดาวโรงเรียนก็ทิ้งเขาไปหาดาราทีวี ทำให้เขาสูญเสียชื่อเสียงในโรงเรียนไปจนหมด สุดท้ายก็ลงเอยตบปากรับคำท้าเพื่อนซี้ว่าจะเปลี่ยน เลนีย์ สาวเฉิ่มประจำโรงเรียนให้กลายเป็นดาวดวงใหม่ได้ภายในหกสัปดาห์ โดยหารู้ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปเลยเหมือนกัน จัดเต็มความโรแมนติกคอมเมดี้จนกวาดรายได้ไปทั่วสหรัฐ ดันให้เพลง Kiss Me ดังเป็นพลุแตกไปด้วยเพราะเพลงก็ลงตัวกับหนังมาก หนังก็สนุก เพลงก็เพราะ จะดูกี่รอบก็ไม่เบื่อเลย แถมหนังเรื่องนี้ยังมี Paul Walker ผู้ล่วงลับเล่นด้วยนะ ยังหนุ่มฟ้ออยู่เลย
Coyote Ugly
‘Coyote Ugly’ อาจเป็นชื่อหนังที่ดูหวาดเสียวมากว่ามันจะเป็นหนังยังไงฟะ มีฉากโป๊รึเปล่า แต่อย่างหนึ่งที่รู้แน่เลยคือหนังเรื่องนี้เคยดังมาก ๆ ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้เคยดังแค่ไหน มันดังจนนำคำว่า โคโยตี้ มาเป็นคำไทยไว้เรียกสาวนักเต้นในผับบาร์เลยทีเดียว แต่เรื่องหาของหนังไม่ได้ดาร์กเหมือนคำนี้ซักเท่าไหร่ เกี่ยวกับการดิ้นรนทำตามความฝันของ ไวโอเล็ต ที่ออกจาก safe zone อันปลอดภัยในอ้อมอกพ่อของเธอมาทำตามฝันในการเป็นนักแต่งเพลงในเมืองใหญ่ สุดท้ายความฝันของเธอก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเพราะไม่มีที่ในยอมรับในตัวเธอเลย ก่อนที่จะอดตาย เธอก็ได้จับพลัดจับผลูมาทำงานในบาร์ชื่อ Coyote Ugly ที่ให้พื้นที่กับสาว ๆ ได้เต้นและร้องโชว์ลูกค้าอย่างสนุกสนาน สาว ๆ ทุกคนในร้านก็มีเป้าหมายชีวิตที่แตกต่างกัน ไวโอเล็ต กลับพบกับความหวังที่นี่ โดยเธอยอมแลกทั้งรักแท้และความฝันเพื่อให้ได้แสดงความสามารถของตัวเอง ซึ่งซาวด์แทร็กของหนังเรื่องนี้อย่าง Can’t Fight The Moonlight ก็เป็นเพลงที่นางเอกเขียนในเรื่องนั่นเอง ซึ่งสุดท้ายเธอจะทำตามฝันได้สำเร็จมั้ยต้องไปลุ้นกัน หน้าหนังอาจดูเซ็กซี่หน่อย ๆ แต่พูดเล่าเรื่อง coming of age ได้ดีเหมือนกัน เพลงนี้ก็ดังมาก ๆ จากหนังเหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็นเพลงสำหรับสาวแกร่งเลยทีเดียว
Armageddon
อีกหนึ่งเพลงฮิตตลอดกาล ที่ได้หนังช่วยทำให้เพลงนี้เข้าถึงคนฟังทุกกลุ่มมากขึ้น ยิ่งมันไปอยู่ในหนังอย่าง ‘Armageddon’ แล้วยิ่งทำให้เนื้อหาของเพลงลึกซึ้งกินใจขึ้นเยอะเลย เมื่อมีอุกาบาตไฟพุ่งเข้ามาชนโลกจนเกิดวินาศสันตะโรไปทุกหย่อมหญ้า นาซ่าก็พบว่าอีก 18 วันจะมีอุกกาบาตลูกยักษ์พุ่งชนโลกและมนุษยชาติได้ถึงกาลอวสานแน่นอน เขาจึงต้องเฟ้นหาและส่งทีมขุดเจาะที่เก่งที่สุดบนโลกขึ้นไปเพื่อเจาะทำลายอุกกาบาตลูกนี้ให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะจบสิ้น แม้หนังเรื่องนี้จะเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่าโม้เหม็นและผิดหลักวิทยาศาตร์เกือบทั้งหมด แต่ถ้าตั้งใจดูมันก็เป็นหนังดราม่าอีกเรื่องที่อาจทำให้เราร้องไห้ได้เลยทีเดียว กลุ่มพระเอกก็ล้วนแบกความหวังของคนที่ตัวเอกรักขึ้นไปด้วยโดยที่รู้ว่านี่อาจเป็นภารกิจฆ่าตัวตายชัด ๆ ทำให้เพลง I Don’t Want to Miss a Thing ดังขึ้นมาในหนังเมื่อไหร่เราก็รู้สึกเห็นใจตัวเอกจริง ๆ กับบทสรุปที่ยากเกินจะคาดเดาเลยว่าจะมีใครรอดชีวิตกลับมาหาคนที่พวกเขารักรึเปล่า
Space Jam
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเด็กสมัยนี้เกิดทันดูเจ้ากระต่ายจอมกวน กับเป็ดสีดำจอมเปิ่นที่ค่อยวิ่งหนีการไล่ล่าของนายพรานอย่างสนุกสนานรึเปล่า หรือเจ้านกน้อยสีเหลืองที่คอยหลบหนีแมวดำตัวป่วนจากการถูกจับกิน ที่พูดมาทั้งหมดคือหนึ่งในตัวละครของ Looney Tunes ซี่รี่ส์การ์ตูนที่ดังมาก ๆ สมัยก่อนของ Warner Bros. ซึ่งฉายบนจอทีวีในไทยด้วยนะ แต่ถ้าใครชอบดูหนังจะรู้ว่าตัวการ์ตูนเหล่านี้เคยขึ้นจอเงินด้วย แถมได้กระทบไหล่กับนักบาสเก็ตบอลชื่อดังอย่าง Michael Jordan อีกด้วย (เออ น้อง ๆ จะรู้จักมั้ยเนี่ย) ซึ่งเป็นหนังไม่กี่เรื่องในสมัยก่อนที่ใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟกต์เกือบทั้งเรื่องเพื่อให้คนกับการ์ตูนมีชีวิตจริง ๆ บนแผ่นฟิล์ม เรื่องเกี่ยวกับจุดอิ่มตัวในการเป็นนักบาสของ ไมเคิล จอร์แดน ทำให้เขาหันไปเอาดีทางด้านเบสบอลเหมือนพ่อของเขาแทน แต่เขากลับทำฟอร์มได้ไม่ดีเลย ซึ่งอีกด้านหนึ่งโลกของเราก็ถูกเอเลี่ยนบุกอย่างเงียบ ๆ ซึ่งพวกมันหมายตาเหล่าตัวการ์ตูนจอมป่วนของลูนีย์ทูนส์ไว้เพื่อจับไปเป็นทาสที่สวนสนุกของมัน เหล่าลูนีย์ทูนส์จึงท้าพวกมันแข่งบาสกัน พวกมันเลยจับไมเคิลจอร์แดนมาช่วยทีมโดยไม่เต็มใจ แต่หารู้ไม่ว่าเหล่าเอเลี่ยนก็ไปขโมยพรสวรรค์ในการเล่นบาสของนักบาสใน NBA มาถึง 5 คน ศึกนี้ใครจะอยู่ใครจะไปล่ะเนี่ย
ซึ่งเนื้อเรื่องอาจไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมาก แต่การละลายเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับการ์ตูนออกไปก็ทำให้เราสนุกกับหนังได้ไม่ยาก แถมมีตัวการ์ตูนที่เราคิดถึงด้วยแล้วก็ทำให้เรารักหนังเรื่องนี้เลย หนังก็เลือกใช้เพลง I Believe I Can Fly มาประกอบหนังที่พูดถึงความมุ่งมั่นของไมเคิล จอร์แดน จนมันกลายเป็นเพลงประจำตัวของเขาไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว เพราะทักษะที่เฉียบขาดอย่างหนึ่งของนักบาสคือต้องดังค์ลูกกับแป้นบาสได้ เหมือนเรากำลังบินอยู่ กลายเป็นเพลงที่ส่งแรงใจให้กับนักบาสได้ด้วย ให้อารมณ์เหมือน ตูน Bodyslam พูดว่า “อยากเห็นคนไทยบินได้” ประมาณนั้นเลย
Notting Hill
การโคจรมาพบกันของเจ้าพ่อและเจ้าแม่หนังโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง Hugh Grant และ Julia Roberts ทำให้หนังเรื่องนี้มีทั้งพลังความรักอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด ทั้งความสุข เสียงหัวเราะและคราบน้ำตา เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ครบรสมาก ๆ ถ้าใครอยากดูหนังรักเบา ๆ ซักเรื่องต้องไม่พลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง เรื่องเกี่ยวกับชายหนุ่มเจ้าของร้านหนังสือที่มีชีวิตอันเรียบง่ายแต่ว้าเหว่ เขาคิดเสมอว่าตัวเองไม่น่าจะมีความรักได้ แต่วันหนึ่งฟ้าก็ส่งนักแสดงสาวระดับโลกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเขา แม้ชีวิตของเธอจะดูเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง แต่ด้านหนึ่งเธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่อยากได้ผู้ชายซักคนมาดูแล พรหมลิขิตทำให้พวกเขาได้มาเจอกัน แต่พรหมลิขิตจะนำพาให้ทั้งสองที่มีชีวิตอันแตกต่างกันสุดขั้วมาลงเอยกันได้มั้ย แค่ตัวหลักสองคนก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ไว้ใจได้ คือสนุกแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งตบท้ายด้วยเพลง When You Say Nothing At All ที่โคตรจะโรแมนติก ทำให้บทสรุปของหนังมันเรียบง่ายและลงตัวสุด ๆ เป็นหนังรักดี ๆ จากอังกฤษอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด เพลงนี้คนมักคิดว่า Ronan Keating เป็นคนแต่ง แต่ความจริงแล้วต้นฉบับเป็นเพลงคันทรี่ร้องโดย Keith Whitley มาก่อนจ้า
Music and Lyrics
หนังอีกเรื่องที่ Hugh Grant ฝากผลงานไว้ได้น่าประทับใจมาก ๆ พร้อมกับ Drew Barrymore เจ้าแม่หนังโรแมนติกคอมเมดี้อีกหนึ่งคน กับเรื่องราวของ อเล็กซ์ ราชาเพลงป็อปที่เคยโด่งดังมากต้องมาเผชิญกับช่วงขาลงของตัวเอง แต่วันหนึ่งเขาก็ถูกว่าจ้างให้แต่งเพลงรักให้กับนักร้องวัยรุ่นที่ดังสุดขีดในตอนนี้ซึ่งเป็นตั๋วที่นำพาชื่อเสียงกลับมาให้เขาได้อีกครั้ง เขาจึงต้องหาคนมาช่วยแต่งเพลงนี้ให้สมบูรณ์ให้ได้เพราะเขาไม่ได้แต่งเพลงมาหลายปีแล้ว หลังจากคัดเลือกนักแต่งเพลงอยู่นาน เพื่อนของแม่บ้านเขาก็ช่วยแต่งเนื้อเพลงท่อนหนึ่งด้วยความบังเอิญ ทำให้เขาต้องตื้อเธอให้มันช่วยเขาให้ได้ จนเกิดเป็นความรักและเรียนรู้ถึงความผิดพลาดของกันและกัน จนถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงที่หวานหยดย้อยอย่าง Way Back into Love ได้อย่างสวยงาม เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่พาเราเข้าไปสัมผัสเบื้องหลังวงการดนตรีได้หอมปากหอมคอ ทำให้เราเห็นการทำงานและจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันของพวกเขา แถมยังได้ผลผลิตอย่างเพลงที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองจนกลายเป็นซาวด์แทร็กของคนมีความรักอยู่ช่วงนึงไปเลย
ใครมีหนังเรื่องไหนที่ชอบเพลงประกอบของมันมาก ๆ เลย ก็แชร์ให้เราไปตามฟังก่อนหน่อย