Quick Read Snacks

8 เทศกาลดนตรีรับลมหนาว

เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว เป็นจังหวะที่ promoter และ organizer คอนเสิร์ตหลายรายตั้งใจจะจัดเทศกาลดนตรีท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการฟังดนตรี กินลม ชมวิวแบบชิว ๆ งานนี้ฟังใจซีนเองก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมลายแทงงานคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงงานดี ๆ ที่ผ่านไปแล้วให้เราคอยติดตามต่อไปในปีหน้า แล้วเดี๋ยวจะแถมเทศกาลดนตรีในประเทศละแวกใกล้เคียงที่ควรค่าแก่การไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางดนตรีเป็นอย่างยิ่ง ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบเลื่อนลงมาดูกันเลย

Big Mountain Music Festival

 

นี่คงเป็นเทศกาลดนตรีที่จะนึกถึงกันเป็นงานแรก ๆ ด้วยพื้นที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุด และผู้เข้าชมงานเยอะที่สุด พร้อมชวนให้ทุกคนไปมันระเบิดระเบ้อกับหลากหลายสายพันธุ์ดนตรี ตั้งแต่วงดังระดับแถวหน้า ไปจนถึงวงเล็กหน้าใหม่ที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามอง นอกจากนี้แล้วบางปีก็มีศิลปินต่างประเทศมาร่วมโชว์ด้วย ยิ่งกลายเป็นตัวดึงดูดคนฟังเพลงทุกเพศ ทุกวัย ทุกแนว มารวมตัวกันในหุบเขาที่มีกิจกรรม และสารพัดความบันเทิงให้เราได้ไปลองลิ้มชิมรสกันดู แต่การจะไปนอนค้างอ้างแรมกลางป่าเขาก็มีโซนกางเตนท์ที่ตั้งชื่อได้น่ารักกรุบกริบ ปีนี้ใช้ชื่อเป็นร้านขนมไทยเจ้าดังของจังหวัด เช่น แม่กิมลั้ง แม่กิมลุ้ย แล้วที่ขาดไม่ได้เลย เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ที่นี่เขาก็มีโซนของกินให้เลือกจับจ่ายกันตามสะดวก ความคิ้วท์อย่างหนักเลยก็คือ มีการประกวดข้าวไข่เจียวจ้าาาา นึกภาพการที่เราได้เดินช็อปเมนูแสนอร่อยที่ดาหน้ากันเข้ามาให้เราเป็นผู้ตัดสิน แล้วได้กินกันร้อน ๆ หอม ๆ ตอนอากาศหนาว ๆ นี่ฟินใช่ย่อย ไม่ใช่แค่นี้ พวกเขาไม่ได้มาเล่น ๆ ยังมี installation สุดเพี้ยน เวทีที่ตกแต่งได้ไม่เหมือนใคร สร้างสีสันและเป็นเหมือน landmark ภายในงาน อลังทั้งแสง สี เสียง จากทีมงานคุณภาพ การันตีจากการที่เราเคยไปเมื่อสองปีก่อน งานจัดระบบระเบียบอะไรของเขาค่อนข้างสะดวกสบายใช้ได้ ตามปกติแล้ว BMMF จะจัดที่เขาใหญ่ แต่ในครั้งที่ 7 นี้ พวกเขาจะมาในชื่อ “มหกรรมโจ๊ะหมู่ เพื่อบูชาวงการเพลงไทย” แค่ชื่อก็โจ๊ะแล้ว งานนี้ยังมีเวที และย้ายรกรากกันไปสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่แก่งกระจาน ใครอยากไปสัมผัสมุมมองใหม่ของเพชรบุรีที่จะมีเสียงดนตรีเข้ามาสร้างความบันเทิงตลอดทั้งสองวัน เจอได้ 19-20 ธันวาคมนี้ ที่ แก่งกระจาน คันทรี คลับ เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bigmountainmusicfestival.com/

 

Stone Free Music Festival

 

จัดกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สี่แล้วกับเทศกาลดนตรีสุดดิบที่ปลดปล่อยอิสระทางโสตประสาทให้กังวานก้องไปในหินผา ความฟินในบรรยากาศของงานนี้ล้นเหลือถึงขนาดว่ามีปีนึงที่เว้นวางไปไม่ได้จัด ก็มีกระแสของผู้เข้าชมปีก่อน ๆ ออกมางอแงอยากให้จัดด้วยความเสียดาย แต่ปีนี้ก็กลับมาตามคำเรียกร้องพร้อมเซอร์ไพรส์ที่ได้วงญี่ปุ่นถึงสามวงมาร่วมแสดงด้วย ถ้าให้ถามหลายคนที่เคยไปงานนี้มาคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาจะฟินกับครั้งแรกมากที่สุด ด้วยช่วงนั้นเป็นเหมือนงาน pilot ที่ออกโปรเจคมาซาวด์เสียงว่าคนอยากดูเทศกาลดนตรีประมาณนี้ไหม ซึ่งในครั้งแรกนี่ก็มีคนให้ความสนใจประมาณนึงเลยล่ะ ความพีคคือทีมจัดงานเรียกเก็บค่าเช่าตามกำลังศรัทธา! แล้วงานปีแรกก็มีปริมาณผู้เข้าชมกำลังดี ซึ่งเมื่อประสบความสำเร็จแล้วจึงต้องทำตามคำเรียกร้องให้จัดงานในครั้งต่อ ๆ มา ซึ่งก็มีการย้ายโลเคชันไปยังหุบเขาต่าง ๆ มีวงมาเล่นมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการจัดการที่เป็นระบบมากขึ้น นอกจากจะมีการแสดงดนตรีจากวงนอกกระแส ทั้งวงหน้าใหม่ที่น่าสนใจ วงในตำนานที่โผล่มาเซอร์ไพรส์แบบไม่ทันตั้งตัว แล้วช่วงกลางวันจะมีการอ่านบทกวี ช่วงเช้ามืดมีเปิดแผ่นค่อย ๆ ปลุกคนดูจากภวังค์ ถ้าจะถามถึงความฟินส่วนตัวของเราแล้ว มันคือประสบการณ์ร่วมที่เราได้รับไปพร้อม ๆ กับเพื่อนใหม่ที่ได้เจอกันที่งาน เพราะเหมือนขามาเราก็นั่งรถตู้กันมา ขากลับอาจจะได้เพื่อนที่คุยแลกเปลี่ยนกันถูกคอพากันไปแฮงเอาท์กันต่อในเมืองก็มี ความพิเศษของงานนี้คือเสียงที่ออกมาจากแอมพลิฟายเออร์มันสะท้อนกังวานไปทั่วบริเวณ การนั่งฟังซาวด์คว้าง ๆ ล่องลอย ในภูมิทัศน์ที่เราไม่สามารถหาได้ในกรุงเทพ ฯ มันคืออะไรที่แปลกใหม่จริง ๆ งานเขาจะจัดในวันที่ 11-13 ธันวาคมนี้แล้ว รีบตามไปต่อกันได้ที่ https://www.facebook.com/StoneFreeMusicFestival/ ก่อนบัตรจะหมดนะ

Wonderfruit Festival

 

ยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นการโปรโมทเฟสติวัลนี้ได้ แอบอุทานดัง ๆ ในใจว่า นี่มันโมเดล Coachella ชัด ๆ ก็ดีใจสิที่บ้านเราจะมีเฟสติวัลที่มีดนตรีกับศิลปะแบบแนวหน้าเต็มรูปแบบกับเขาแล้ว เอาจริงว่าแค่หน้าเว็บเขาก็ทำดีแล้ว art direction ก็ไม่ธรรมดา แถมวงที่มาเล่นก็มีทั้งวงดนตรีนอกกระแสในไทย วงชื่อดังจากต่างประเทศ และดีเจฝีมือฉกาจหลายสิบชีวิต ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้ง installation ที่ได้ทีมงานจัดเฟสติวัลมาจากประเทศอังกฤษ มีการแสดงงานศิลปะจากศิลปินทั้งไทยและเทศ หรือจะเป็นร้านอาหารชั้นนำที่แห่กันมาเสิร์ฟอาหารแสนอร่อยกันอย่างเนืองแน่นทั้ง Bad Motel, Bao & Buns, Broccolli Revolution, Maison Jean Phillippe, Peppina, Rocket, The Never Ending Summer มีกิจกรรมเพื่อสุขภาพกายใจและเวิร์คช็อปต่าง ๆ สำหรับคนทุกเพศทุกวัย แล้วยังมีที่พักพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสุดสบายและกิ๊บเก๋มาก 17-20 ธันวาคม นี้แล้ว ที่สยามคันทรีคลับ พัทยา ที่เดิม จับจองบัตรกันหรือยัง http://wonderfruitfestival.com/

 

Shambhala in Your Heart Festival

 

ไม่น่าเชื่อว่างานดนตรีศิลปะเล็ก ๆ นี้จัดมาเป็นปีที่ 6 และกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 7 ในวันที่ 12-20 กุมภาพันธ์ ปีหน้า โดยงานนี้จัดที่ ค่ายเยาวชนอนุรักษ์ดอยหลวงเชียงดาว เชียงใหม่ ที่โลเคชันมันใช่มาก มีทั้งภูเขา ต้นไม้ ลำธาร น้ำพุร้อน แต่ปีนี้เห็นว่าจะย้ายที่ ก็ต้องรอดูว่าจะย้ายไปที่ไหนกัน เอาจริงว่าเราแอบเล็งงานนี้มานานแล้ว แต่ยังจัดเวลาให้ลงตัวไม่ได้สักที ก็คิดว่ารอบหน้านี้จะลองไปสัมผัสความอบอุ่นกันเองของงานนี้ดู เพราะเราได้แอบถามคนที่เคยไปงานนี้มาบอกกับเราว่านี่คือเฟสติวัลที่แท้จริง ที่ทุกคนมาใช้เวลาร่วมกันสิบวัน เป็นเหมือนชุมชนเล็ก ๆ ที่เราได้คลุกคลี ทำความรู้จัก จิบชา โยคะ กายกรรม ระบำพื้นเมือง เวิร์คช็อปต่าง ๆ ร้องเล่นเต้นรำกับเพื่อนใหม่ โอย กิจกรรมเยอะจริงไม่รู้สิบวันจะได้ทำครบทุกอย่างไหม แต่น่าสนใจมาก ๆ ที่กิจกรรมพวกนี้ก็มาจากคนที่ร่วมงานที่จัดหามาเอง เฟี้ยวมาก งานนี้มีชาวต่างชาติเยอะเพราะในกลุ่มคนไทยเองยังไม่ค่อยแพร่หลาย แต่ละคนที่นี่เฟรนด์ลีขนาดที่ไม่รู้จักก็พร้อมที่จะทำความรู้จักและยิ้มให้กันอย่างจริงใจ หลายคนเลือกจะไปนั่งล้อมกองไฟเล่นดนตรีกันชิว ๆ หรือบางคนก็ไปเดินเลือกซื้อสารพัดของทำมือในงาน หรือไปฟังดนตรีจากศิลปินที่เราอาจจะไม่คุ้นชื่อนัก แล้วงานนี้ก็เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมมาก ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอีกงานสำหรับใครที่รักอิสระและการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติห้ามพลาด ลองไปดูภาพได้ที่ https://www.facebook.com/shambhalafestival/

Keep On The Grass Folk Music Festival

 

งานลูกคู่ที่ถ้าเราพูดถึงสโตนฟรีก็จะต้องมีชื่อนี้ตามกันมาติด ๆ แต่ KOTG คราวก่อนจัดที่ภูอุทัย มวกเหล็ก เป็นงานที่เน้นดนตรีโฟล์คสเกลเล็กน่ารักที่แทบไม่ใช้เครื่องขยายเสียงในคอนเซปต์ “A laid back afternoon under the cloud, a night on the grass” ที่คำโปรยล่อตาล่อใจสายชิวขนาดนี้ เพราะเขาจะพาเราไปลองฟังเสียงเครื่องดนตรีอะคูสสติกผ่านบรรยากาศที่แท้จริงของบริเวณโดยรอบ และหลายวงที่แม้จะเคยเล่นเดือด ๆ ก็ผันตัวมาเล่นโฟล์คกันในบรรยากาศสบาย ๆ ฟังแค่นี้ก็ฟินแล้ว คือหลายคนอาจจะเข้าใจว่าโฟล์คมันเหมาะจะฟังแล้วน่านอน แต่ความเฟรนด์ลีของบรรยากาศรอบข้างมันน่าสนุกมากกว่าจะหนีไปนอนในเตนท์ งานจัดมาแล้วสามครั้ง และมักจะจัดทุก ๆ ต้นปีที่อากาศยังหนาวอยู่ ซึ่งงานได้ให้โอกาสวงจากทางบ้านส่งผลงานมาเพื่อได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงในงาน บางปีมีศิลปินเมืองนอกมาสร้างสีสันด้วยอีกเหมือนกัน รอติดตามความเคลื่อนไหวกันได้ที่ https://www.facebook.com/KeepOnTheGrassMusicFestival/

 

Folk and Friends Music Festival

 

งานในครั้งแรกจัดที่เวิร์คช็อปเฟอร์นิเจอร์ไม้ชื่อ The Jungle ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แยก 12 ของแก๊ง if i were a carpenter ซึ่งงานวันนั้นน่ารักมาก แม้เป็นพื้นจะเป็นคอนกรีตกับกรวดก็จริง แต่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรอบ ๆ แล้วเล่นกับไฟดวงเล็ก ๆ มีเวทีเล็กกะทัดรัดที่ใช้ไม้แผ่นมาปะ ๆ เป็นแบคกราวด์ แล้วทีมงานรอบคอบมาก ๆ ด้วยการคาดการณ์กันว่าฝนจะตก ก็เลยเอาเสื้อกันฝนใส่มาในซองที่วาดลายน่ารัก ๆ ไว้ พร้อมกับโปสการ์ดและเมล็ดอะไรไม่รู้แจกคนที่ซื้อบัตร แล้วสรุปว่าฝนตกจริง แต่ตกปรอย ๆ คิ้วท์ ๆ แปปเดียวก็หยุด หลังจากนั้นอากาศเย็นสบาย ลมพัดตลอด แบบ บรรยากาศงานนี้คือฟินทูเดอะแม็กซ์ ซึ่งนั่นคือบรรยากาศของงานครั้งแรกที่เราได้ไปร่วมงานมา สำหรับในครั้งที่สองนี้ก็ย้ายกันไปไกลถึงอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่ กับวงดนตรีมากกว่า 30 วง อัดแน่นเต็มตาราง เตรียมอ้าแขนรับความเย็นกันถึงจุดขีดสุด ฟินกว่าหนแรกแน่นอน ใครอยากไปลองสัมผัสบรรยากาศน่ารัก ๆ กันอีกครั้ง 28-29 พฤศจิกายน นี้ เชิญไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/Folk-And-Friends-1518907218332864

 

Grass Tone Sound Music Festival

 

เทศกาลดนตรีน้องใหม่กลางป่าโคราชที่จัดขึ้นเป็นปีที่สองหลังจากประสบความสำเร็จในปีแรก กับการได้ไปค้นพบวงหน้าใหม่ฝีมือไม่ธรรมดา มีคนเปรยว่าเป็นงาน Fat Festival ยุคกลาง ๆ ที่ย้ายไปจัดกันในป่าเลยทีเดียว และคราวนี้พวกเขาก็กลับมาในธีม “ซาฟารีอีสาน” ที่ line up เดือด เด็ด โดน กว่าเดิม 2 วัน 40 วง เราเห็นชื่อวงเองนี่ยังร้องซี้ดปากเลย ไปซี้ดปากพร้อม ๆ กันได้ที่ https://www.facebook.com/GTSmusicfestival แล้วจะรู้ว่าแซ่บแค่ไหน งานจัดวันที่ 11-12 ธันวาคมนี้แล้ว ใครยังไม่มีบัตรขอให้รีบ

 

Rock And Roll Come Back

เพิ่งจัดกันไปหมาด ๆ เมื่อไม่นานมานี้กับงานจิตวิญญาณฮิปปี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลดนตรีเพื่อสันติภาพในปลายยุค 60s อย่าง Woodstock โดยงานปีแรกจัดที่นครปฐม ส่วนในปีต่อมาจัดที่สระบุรี มี installation จรวดยักษ์ตั้งตระหง่านกลางงาน กลายเป็นภาพจำของหลาย ๆ คน พร้อมทั้งได้ซึบซาบบรรยากาศธรรมชาติและจิตวิญญาณเสรีชนกันอย่างเต็มอิ่ม กับวงร็อคสายเก๋าทั่วฟ้าเมืองไทยที่ตบเท้ามาให้ความมันกับพวกเรา แต่ครั้งล่าสุดนี้ย้ายกลับเข้ามาในเมืองที่ตลาดสยามยิปซี รามคำแหง 100 ใครสนใจอยากไปลองงานดนตรีทางนี้ดูเชิญติดตามต่อได้ที่ https://www.facebook.com/Rockandrollcomebackthailand

นอกจากนี้ยังมีงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ที่เราต้องรอดูอัพเดทว่าจะจัดขึ้นอีกทีวันไหนอย่าง Pig Art & Music Festival, ผิงไฟ ฟังเพลง ตีนภู หรือที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ คือ บ้าหอบฟางอีสานเร้กเก้, Rimpha Music Festival, Overcoat Music Festival, พรรคเขียว Music Festival จิ้มตามลิงค์ที่ทิ้งไว้ให้เพื่อไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนใครถ้าได้ไปงานไหนมากระซิบบอกฟังใจหน่อยก็ดีนะ ต้องน่าสนุกแน่ ๆ ส่วนถ้าเราไปงานไหนมาก็จะมาเล่าให้ฟังเหมือนกัน รอติดตามกันได้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก จุฑามาศ ธนูสาร, ชลัท ศิริวาณิชย์ และปณพรรธน์ แก้วฉ่ำ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้