Quick Read Snacks

7 เพลงแด่ ‘โรคซึมเศร้า’ เสียงแห่งความเงียบงันที่กัดกลืนชีวิต

  • Writer: Sy Chonato

คู่ตรงข้ามของโรคซึมเศร้าไม่ใช่ความสุข แต่คือความมีชีวิตชีวา เหมือนว่าชีวิตกำลังจะไหลซึมออกจากฉันไปในขณะนั้น – Andrew Solomon ได้พูดใน TED Talk หัวข้อ Depression, The Secret We Share

‘โรคซึมเศร้า’ อาจไม่เกี่ยวกับความเศร้าเสมอไป แต่เป็นความทื่อของความรู้สึก ความหนัก ไร้พลังงาน ไร้ทางออก เหมือนเป็นยางรถที่แบนแฟบไปไหนไม่ได้  โลกนี้ไม่มีที่สำหรับเขา ไม่พบเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไป นึกออกได้แต่เรื่องร้าย ๆ และความคิดแง่ลบตลอดเวลา การบอกว่าให้มองโลกในแง่ดีหรือคิดมากอาจไม่ช่วยอะไร

หลายคนอาจมองว่ายิ่งฟังเพลงเหล่านี้แล้วจะยิ่งจมดิ่งรึเปล่า ในวันที่รู้สึกหนักหรือว่างเปล่าภายใน บางทีเราอาจแค่ต้องการเพลงที่บอกว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้

วันนี้ Fungjaizine จึงคัดสรรหยิบหลายเพลงที่เชื่อว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เพลงเหล่านี้บางเพลงได้ถูกลิสต์ไว้โดยสื่อหลาย ๆ เจ้าเช่น NME, Billboard ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม  ซึ่งบางเพลงนั้นศิลปินเจ้าของเพลงก็ไม่ได้ประกาศว่าหมายความว่าอะไรอย่างชัดเจน แต่เราก็สามารถตีความต่อได้เองว่าว่าเข้าข่ายพูดถึงอาการของโรคนี้

Linkin ParkNumb

“I’ve become so numb, I can’t feel you there”

“ฉันกลายเป็นคนไร้ความรู้สึก ฉันไม่สามารถรู้สึกว่าเธออยู่ตรงนั้น”

ขอหยิบเพลงนี้ขึ้นมาเพลงแรก เพลงนี้บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Meteora เชื่อว่าเพลงนี้สามารถสื่อสารความรู้สึกว่าไม่มีใคร ไร้ทางออกของคนที่เป็นโรคนี้ได้อย่างดี

ใน  mv ได้แสดงตัวละครที่มีรอยแผลบนข้อมือ อ่านได้ว่า ‘numb’ แสดงถึงการทำร้ายตัวเอง

คำว่า ‘numb’  แปลว่า ‘หมดความรู้สึก ด้านชา หมดสติ’ เพื่อระลึกถึง Chester Bennington ผู้จากไปด้วยโรคซึมเศร้าและวง Linkin Park ก็เป็นวงในดวงในของคนมากมาย เพลงของวงนี้ช่วยให้วัยรุ่นหลาย ๆ คนผ่านเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกและโดดเดี่ยว รู้สึกโกรธโลก ซึ่ง Chester ค่อนข้างเปิดเผยเรื่องปัญหาส่วนตัวกับสื่อ เช่น การติดเหล้า และโรคซึมเศร้า  

MAX JENMANA – ปีศาจ (Demons)

“คล้ายว่าเข้าใจไม่รู้ทำไมถึงทำไม่ได้
บางอย่างในหัวใจคอยย้ำว่าฉันคือปีศาจร้าย
ถ้าหากว่าฉันไม่เปลี่ยน
เธอจะรับที่ฉันเป็นได้หรือเปล่า”

แม็กซ์ เจนมานะ ได้เขียนเพลงนี้ในช่วงที่รู้สึกดำมืดที่สุดในชีวิตเขา เขาอยากพูดแทนคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนเลวร้าย โดยเฉพาะผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพลงนี้เขียนเพื่ออยากบอกให้พวกเขารู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว โปรดจำไว้ว่าเราไม่ใช่ปีศาจตนเดียวบนโลกนี้

Nine inch NailsHurt

“What have I become, my sweetest friend. Everyone I know goes away in the end”

“ฉันกลายเป็นอะไร เพื่อนรัก ทุกคนที่ฉันรู้จักจะหายไปในที่สุด”

เพลงนี้แต่งโดย Trent Reznor ในปี 1994 และถูกคัฟเวอร์โดย Johny Cash ในปี 2003 มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเองและการเสพติดเฮโรอีน ผู้ฟังบางคนอาจตีความว่าเพลงนี้คือจดหมายลาตายของตัวละครในเพลง แต่บ้างก็บอกว่ามันอาจจะแค่หมายถึงการไม่พบเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไปเฉย ๆ อาจไม่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าโดยตรง เราเชื่อว่าใครฟังก็รู้สึกอินกับความเจ็บปวดของการมีชีวิตได้อย่างสวยงาม

Tame ImpalaSolitude is Bliss

“Space around me where my soul can breathe
I’ve got body that my mind can leave
Nothing else matters, I don’t care what I miss
Company’s okay
Solitude is bliss”
“ที่ว่างรอบตัวฉันทำให้วิญญาณของฉันหายใจได้
ฉันมีร่างกายที่จิตใจของฉันหนีออกไปได้
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้ ไม่สนใจว่าตัวเองจะพะวงถึงสิ่งใด
การมีคนข้างกายมันก็ดี
แต่สันโดษคือความสุขขั้นสุด”

‘ความสันโดษคือความสุขขั้นสุด’ เพลงนี้อาจไม่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แต่คือการพยายามฟังเสียงจากภายในของตัวเอง เราต่างอยู่คนเดยว แปลกแยก เราต่างมีมุมมองชีวิตที่ต่างไป มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน

เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาใน 2010 ถูกตีความว่าหมายถึงการเป็น introvert คนที่ไม่ชอบเข้าสังคม และค้นพบโลกภายในของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็มีคนตีความว่าเกี่ยวกับยาเสพติดหรือสารหลอนประสาท

Kevin Parker ได้พูดถึงเพลงนี้ไว้ว่า “มันสุดยอดแค่ไหนที่เราสามารถอาศัยอยู่ในหัวของเราได้ มันช่างสงบ และสว่างจรรโลงใจ มันดีกับจิตวิญญาณของเรา เหมือนกำลังอาบความเรืองรองของการอยู่คนเดียว มันช่างดีเหลือเกิน ฉันอยู่คนเดียว”

Gary JulesMad World

“And I find it kinda funny, I find it kinda sad
The dreams in which I’m dying are the best I’ve ever had
I find it hard to tell you, I find it hard to take
When people run in circles it’s a very very
Mad world, mad world”

“ฉันรู้สึกว่ามันตลกดี แต่ก็ออกจะเศร้า เมื่อความฝันว่าฉันตายคือความฝันที่ดีที่สุด มันยากที่จะบอกคุณ มันยากที่จะยอมรับ เมื่อผู้คนวิ่งวนเป็นวงกลม มันเป็นโลกที่บ้ามาก โลกที่บ้า โลกที่บ้า”

เราได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกในหนัง ‘Donnie Darko’ (2001) เล่าชีวิตของเด็กหนุ่มที่มีปัญหาในเวอร์ชันของ Gary Jules แต่เพลงนี้แต่งขึ้นโดยวงอังกฤษ Tear for Fears ในปี 1982 เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก นักเขียน ‘Arthur Janov’ (ผู้เขียนหนังสือ ‘The Primal Scream’)  ซึ่งเชื่อว่า ‘ความฝันถึงประสบการณ์ที่เข้มข้นอย่างการตายคือการปลดปล่อยซึ่งความเครียดที่ดีที่สุด’

เวอร์ชันของ Gary Jule ทำให้เพลงนี้ซึมลง นิ่งช้าลงจากเวอร์ชันดั้งเดิมของ Tear For Fear ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกเหนื่อยและล้ากับการมีชีวิตในโลกที่บ้า วนซํ้าไปมา ควบคุมไม่ได้  การฝันว่าตายไปแล้วอาจเป็นความสุขที่สุดของชีวิตจริง ๆ ก็ได้

Wilco – How to Fight Loneliness

“Smile all the time. Shine your teeth till meaningless. Sharpen them with lies …until the first thing that you want will be the last thing you’ll ever need. That’s how you fight it.”

“ยิ้มตลอดเวลา ยิงฟันจนหมดความหมาย ขัดเกลาด้วยคำโกหก จนกระทั่งสิ่งแรกที่คุณต้องการคือสิ่งสุดท้ายที่จำเป็น นั่นแหละวิธีต่อสู้กับความเศร้า”

เรารู้จักเพลงนี้จากหนังเรื่อง ‘Girl, Interrupted’ เกี่ยวหญิงสาวที่ต้องเผชิญโรคทางจิต เป็นเพลงที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับความเหงาเดียวดาย พยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่าเราปกติและมีความสุขสบายดี มันเลยยิ่งดูเศร้าและเหงาขึ้นไปอีก เพราะพยายามประชดว่าความเหงานั้นจัดการได้ด้วยการหลอกตัวเองและหลอกคนรอบตัว เพียงยิ้มตลอดเวลาก็จะหายเหงา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้

Sparklehorse – Sad and Beautiful World

เพลงของ Mark Linkous หรือที่เรารู้จักกันในนาม Sparklehorse นั้นเศร้า นิ่ง ซึมลึก แต่สวยงามเหลือเกิน เหมือนได้กลืนพายุเก็บเอาไว้ภายในไม่ได้แสดงออกมา เขาเคยเกือบตายและรอดมาได้  และเมื่อพบกับความตายของคนใกล้ชิด โรคซึมเศร้าของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเพราะเขาแค่อยากจะมีความสุข

ในปี 2010  Mark Linkous เขาย้ายออกจากเมือง North Carolina หยิบเอากีตาร์ Gibson คู่ใจ คีย์บอร์ด Yamaha แอมป์ และเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งย้ายมาอยู่ในไร่แห่งหนึ่งในรัฐ Tennessee และได้ปลิดชีพตนเองลงเขาอายุได้ 47 ปี เพลงของเขาเล่าความซับซ้อนของความเป็นคนออกมาในบทเพลงที่แสนเบาหวิวและเรียบง่าย เสียงแทบกระซิบของเขาเล่าความเจ็บปวดจากภายในได้อย่างงดงาม ความเงียบคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เตือนใจให้เรารู้สึกว่าคนเศร้าไม่ได้มีแค่เราคนเดียว เพราะโลกนี้มันช่างเศร้าและสวยงามในเวลาเดียวกัน แม้จะมีปัญหาและมีสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่โลกนี้ยังดำเนินต่อไปอย่างสวยงาม

โรคซึมเศร้าที่หลายคนกำลังต่อสู้อยู่อย่างเงียบเชียบ

มีคนมากมายกำลังต่อสู้กับโรคซึมเศร้านี้อยู่โดยแสดงออกหรืออย่างลับ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เริ่มมีกระแสการตื่นตัวเรื่องโรคซึมเศร้ามากขึ้น โรคนี้ดูดกลืนความสดใสกระปรี้กระเปร่า เป็นภัยแฝงอันเงียบเชียบที่พาชีวิตคนมากมายจากไป 

มีศิลปินจำนวนมากกำลังเผชิญโรคนี้ บางคนก็ฝ่าฟันมาได้สำเร็จ มีบทความและหลายคนพยายามเชื่อมโยงโรคนี้กับอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น ศิลปิน นักแสดง และนักเขียน มีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่น แต่คุณ ‘กุ่ย—กวีไกร ม่วงศิริ’ นักจิตวิทยาที่ฟังใจได้ไปสัมภาษณ์ก็ให้ความเห็นว่าา

ถ้ามองว่างานครีเอทีฟนำไปสู่ความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า เรามีแนวโน้มที่จะมองปัญหาหรือแก้ปัญหาผิดจุด ปัจจัยที่เชื่อมโยงไปซึมเศร้าไม่ใช่ความครีเอทีฟ

ฟังใจเคยได้จัดงาน Hed(Young) เพื่อสร้าง Awareness เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามอ่านได้ที่ https://www.fungjaizine.com/article/guru/hedyoung10

สำหรับผู้มีความเสี่ยงต้องการคนรับฟัง มีสมาคมสมาริทันส์ มีสายด่วนรับฟังปัญหารับฟัง โทร. 02-713-6793  ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.samaritansthai.com เพื่อเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้

Facebook Comments

Next:


Sy Chonato

Sy is a messy designer and a curious internet explorer. She falls in love with the category of ‘Scientific Romantic’. She loves information overload and enjoys existential crisis.