รวม MV กระโปรงบานขาสั้น ทำไมเราถึงอินกับ Puppy Love ครั้งนั้นอยู่นะ
- Writer: Montipa Virojpan
เคยสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมมิวสิกวิดิโอหลาย ๆ เพลงถึงชอบหยิบยกเรื่อง puppy love ความรักครั้งแรก หรือรักในวัยเรียนมานำเสนออยู่บ่อย ๆ เหตุผลหนึ่งคือคนที่เสพเพลงป๊อปส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนที่เวลาวันหนึ่งถูกใช้ไปมากกว่าการอยู่บ้านตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งอาการของวัยรุ่นตอนต้นที่กำลังเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มสาว หรือวัยฮอร์โมนพุ่งพล่านเนี่ย ยังไง้ยังไงก็ไม่พ้นเรื่องปิ๊งปั๊งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนในห้องอย่างแน่นอน ยังไง ๆ ก็ต้องอิน
ส่วนคนที่โต ๆ กันแล้วที่ได้มานั่งดู mv เหล่านี้ก็จะเผลออมยิ้ม แต่บางคนก็จะเกิดความรู้สึกแปล๊บ ๆ อยู่ทุกครั้งไป ก็เพราะทุกคนล้วนแต่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนทั้งสิ้น อดีตที่ไม่ต้องคิดกังวลอะไรมากมายยังไงก็เป็นสิ่งที่หอมหวานเสมอ แม้บางทีในความสุขนั้นก็ซ่อนความเศร้าไว้เพราะเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขหรือรักษาไว้ได้อีก แต่แปลกที่ความทรงจำอันกระจัดกระจายมักจะมีห้วงหนึ่งที่แจ่มชัดขึ้นมาทุกครั้งที่เรานึกถึง เพราะแบบนี้ เพลงที่พูดถึงห้วงความคิดถึงหรือโหยหาอดีต จึงมักมีไม้ตายเป็นสตอรี่กระโปรงบานขาสั้นอยู่เสมอ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามี mv อะไรบ้าง
Lord Liar Boots – นาฬิกา
มิวสิกวิดิโอเพลงนี้น่าจะเป็นการเล่าถึงความคิดถึงอดีตอันสดใสได้สะเทือนใจมาก ๆ ชิ้นนึง ที่เริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิตน้อย ๆ จับกลุ่มกันหัดเล่นดนตรี และเริ่มมีความรักเป็นครั้งแรก จนได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขกับคนคนนั้นแม้เขาจะไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเราแม้แต่น้อย แล้วต้องแยกห่างกันไปเมื่อเรียนจบ เพราะความล่วงเลยของเวลาแปรผันตรงกับความร่วงโรยของร่างกายที่ทุกชีวิตมีความยาวของลมหายใจที่ไม่เท่ากัน ทำให้วันที่เขาเฝ้ารอจะกลับมาพบกับเธออีกครั้งไม่ได้เกิดขึ้นจริง องค์ประกอบของอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ในอดีตของเพลงนี้ทำให้เรื่องราวทวีความคลาสสิกขึ้นไปอีก
Scrubb – รอยยิ้ม
เป็นเพลงที่ทำให้เรายิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยท่วงทำนองบีตป๊อปฟังสบายแต่เพราะเอามาก ๆ เพลงนี้ของ Scrubb ทำให้เรารู้สึกว่าช่วงเวลาในอดีตนั้นหอมหวานเหลือเกิน เมื่อกลุ่มเพื่อนที่เรียนจบกันไปแล้วกลับมาเจอกันในงานปาร์ตี้ริมสระน้ำที่บ้านของเพื่อนสักคนหนึ่ง ชั่วขณะที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับในอดีตทำให้เขาและเธอนึกย้อนไปถึงสมัยมัธยมปลาย อะไรกันนะที่ทำให้เรารู้สึกกลัวในการเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่าย นี่น่าจะเป็นความคิดของหลาย ๆ คนที่กลัวว่าเราจะเสียเขาไปเพียงเพราะเราชอบเขาแต่เขาไม่ชอบเราต่ออย่างนั้นเหรอ? ถ้าเราไม่ผ่านจุดนั้นมาก็คงคิดไม่ได้หรอกว่าก็แค่บอกไปก็สิ้นเรื่อง แต่เชื่อเถอะว่าทุกทีที่นึกย้อนไปเราก็ต้องตลกกับการกระทำของเราที่ดูป้ำ ๆ เป๋อ ๆ เพราะเขินอีกฝ่าย แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะเสียดายที่ไม่กล้าบอกเขาไปตรง ๆ เพราะก็มีหลายครั้งนะที่อีกฝ่ายรู้สึกแบบเดียวกับเราอยู่
What & Dolph – ฉันยังเก็บไว้ (Girl & Boy)
ถือเป็นเพลงที่คนพูดถึงมากในช่วงหนึ่งกับการเล่าเรื่องความทรงจำอันงดงามที่ไม่มีอีกต่อไปแล้ว บรรยากาศของเด็กหอมหาลัยที่ต้องใช้จักรยานในการโดยสารภายใน เดินตลาดนัดหลังมอหาของกินด้วยกัน ช่วยกันติวหนังสือ เป็นอะไรที่ทำให้นึกถึงตอนเรียนมาก ๆ ถึงคนไม่มีแฟนก็อินอยู่ดีเพราะได้ทำกิจกรรมเหล่านี้กับเพื่อน ๆ แต่ความน่าสนใจในเพลงนี้คือสามารถตีความเพลงออกมาให้ทันกับป๊อปคัลเจอร์ ที่สมัยนี้บ้านเรามีวงการไอดอลเกิดขึ้น และมักจะได้ยินกฎข้อหนึ่งที่บอกว่าห้ามไอดอลมีแฟน (aka มีก็ได้แต่อย่าให้ชาวโลกรู้) ทำให้ไอดอลบางคนต้องเลือกระหว่างความรักกับความฝัน ซึ่ง mv ก็หยิบเอาโมเมนต์ของคู่รักที่ต้องเลิกกันไปด้วยความจำเป็นที่ฝ่ายหญิงเลือกที่จะทำตามความใฝ่ฝัน กลับมาเจอกันในงานแฟนมีต ที่ฝ่ายชายต้องยืนต่อคิวกับผู้ชายคนอื่น ๆ เพื่อจับมือกับคนที่เขารัก จากที่เคยกุมมือกันไว้ได้ตลอด ก็ถูกจำกัดเวลาเหลือแค่ 8 วินาทีเท่านั้น
Yented – ถ้าหาก (If)
ถึงขนาดตั้งชื่อให้มิวสิกวิดิโอตัวนี้เป็นหนังสั้นเรื่องหนึ่งว่า ‘High School Sweethearts’ กันเลยทีเดียว เรายังจำได้ดีตอนที่ได้ดู mv เพลงนี้ครั้งแรก แล้วรู้สึกว่าเขากล้านำเสนอพื้นที่สีเทา ๆ ที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่เหมาะไม่ควร แต่เกิดขึ้นจริงในวัยเรียน (ของบางคน) ออกมาได้เรียลเหลือเกิน ซึ่งเนื้อเพลงในเพลง ถ้าหาก ก็สอดคล้องกับความเชื่อที่ว่าความรักที่ขับเคลื่อนตามอารมณ์พุ่งพล่านเป็นอะไรที่ไม่จีรังยั่งยืนเท่าไหร่ (สำหรับบางคน) และการเปลี่ยนผ่านจากมัธยมสู่มหาลัย จากมหาลัยสู่ชีวิตจริง ก็เป็น pace ที่สั้นมาก จะหวังอะไรที่มั่นคงแน่นอนตั้งแต่ตอนนั้นก็คงเป็นเรื่องยาก บางคนตอน ม.ปลายรักกันดี แต่พอขึ้นมหาลัยสอบติดกันคนละที่ ไหนจะเรียนหนัก เจอธีสิส ปิ๊งคนที่คณะ โอ้ย สิ่งยั่วยุมันเยอะไปหมด ก็คงต้องจบไว้ด้วยประการฉะนี้
Anatomy Rabbit – ยังเยาว์
เพลงนี้อาจจะมีความหมายคล้ายกับมู้ดของมิวสิกวิดิโอด้านบน แต่ใช้การเปรียบเปรยว่าเรายังเด็กน้อยยิ่งนักเรื่องความสัมพันธ์ได้อย่างเห็นภาพ การที่ให้เป็นเด็กชายเด็กหญิงชั้นประถมตัวเล็ก ๆ เล่นชักกะเย่ออาจจะแปลได้ว่าพวกเขามองความรักเป็นการแข่งขัน ขณะเดียวกันอาจมองว่าเป็นการ push and pull ในความรักครั้งนี้ คือบางทีฉันจะแล้วเธอก็ยังจะถึงฉันไว้ หรือบางทีก็กลับกัน เธอกลับปล่อยเชือกนั้นอย่างง่ายดายจนฉันต้องเจ็บตัว แหนะ ยังจะฉุดดึงฉันขึ้นมาจากพื้นอีก แล้วฉันก็รับความช่วยเหลือนั้นจากเธอเสียด้วยสิ หรือพอฉันจะทำให้เธอประทับใจ ต่อให้ทำดีแค่ไหนเธอก็ไม่เห็นค่าสิ่งที่ฉันตั้งใจทำให้เธอเลย
The Toys – พูดไม่ออก (Just Wonder)
บางมิวสิกวิดิโอก็ไม่ได้หยิบเรื่องราวสมัยเรียนมาเพื่อเล่าอดีตเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความที่บรรยากาศของโรงเรียนและชุดนักเรียนจะมีมนต์ขลังบางอย่างอยู่ ทั้งในแง่ความสดใหม่ไร้เดียงสา ความเป็นกลุ่มก้อนหนึ่งเดียว หรือกับบางคนก็เป็นความแฟนตาซีหรือรสนิยมส่วนตัว ภาพเหล่านี้เลยเป็นสิ่งที่เรามักจะได้เห็นบ่อย ๆ ในการ์ตูนญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน อย่างใน mv เพลงนี้ของ The Toys ก็ทำให้เรานึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่ตัวละครจะมีความเหนือจริง และสร้างสถานการณ์ป่วง ๆ ในโรงเรียนชายล้วนที่ฝึกให้นักเรียนทุกคนกลายเป็นหนุ่มหน้าเด๊ด จนวันหนึ่งมีสาวสวยหนึ่งเดียวเข้ามาสมัครเป็นนักเรียนหญิงคนแรก ก็ทำให้ทุกคนเก็บอาการตื่นเต้นไม่อยู่ เรื่องแบบนี้ถ้าให้เทียบเคียงกับความเป็นจริงก็คงจะคล้าย ๆ กับเวลาที่โรงเรียนของเรามีนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาติมาเรียนด้วยแหละนะ
นี่ก็แค่ตัวอย่างของบรรดาเพลงที่มีธีมเป็นความรักสมัยเรียน ส่วนเพลงอื่น ๆ ก็หยิบบรรยากาศเหล่านั้นมาใช้แบบต่าง ๆ กันไป ทั้ง Jetset’er – คิดถึงเธอ (Badly), Plastic Plastic – Summer Hibernation, Tattoo Color – เผลอไป, Mattnimare – ความรัก, ก้อ ณฐพล – The Diary, Lomosonic – ขอ, Palmy – ซ่อนกลิ่น, The Parkinson – เพื่อนรัก, AB Normal – พูดไม่ค่อยถูก ลองไปหาดูนะ