รวมพิพิธภัณฑ์ดนตรีที่เหล่า Music Lover ต้องไปเยือนให้ได้!
- Writer: Malaivee Swangpol
ขึ้นชื่อว่าพิพิธภัณฑ์อาจมีบางคนรู้สึกว่าน่าเบื่อ เชย โบราณ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทุกคนอินอย่างเรื่องดนตรีล่ะ? วันนี้ Fungjaizine ขอพาทุกคนไปเยือนพิพิธภัณฑ์ดนตรี — music museum ที่ไม่ควรพลาด ถ้าหากมีโอกาสในชีวิตนี้ก็ควรตีตั๋วไปชมให้ได้ซักครั้ง พร้อมแล้วก็กำตั๋วให้แน่น ตามเรามาชมสถานที่เก็บประวัติศาสตร์ทางดนตรีแสนทรงคุณค่ากัน
Rock & Roll Hall of Fame and Museum
สถานที่ตั้ง: Ohio, USA
สถานที่ที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ผู้ที่มีส่วนร่วมในการวางรากฐานเพลงร็อกมากว่า 36 ปี เพราะในทุก ๆ ปีทางพิพิธภัณฑ์จะเป็นผู้จัดงาน induction ceremony นำชื่อศิลปินร็อกเข้าจารึกไว้ที่ rock & roll hall of fame โดยอาคารพิพิธภัณฑ์ทรงพิระมิดนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง Cleveland, Ohio ภายในมีการจัดแสดงสิ่งของที่มีคุณค่าจากศิลปินร็อกมากมาย เช่น พร็อพจาก mv Burn the Witch ของ Radiohead อุปกรณ์และเรื่องราวหลังเวทีจาก The Who เนื้อเพลงดราฟต์แรกของเพลง Bruce Springsteen – Born To Run, เครื่องเล่นพินบอลล์ของ Slash ฯลฯ ซึ่งในแต่ละเดือนทางพิพิธภัณฑ์ก็จะมีการจัดอีเวนต์เล็ก ๆ ตามธีม เช่นธีมงาน Woodstock หรือบางครั้งถ้ามีการมาจัดคอนเสิร์ตอย่าง Vans Warped Tour ผู้ซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตก็จะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีด้วย
ดูรายละเอียดได้ที่: Rock & Roll Hall of Fame
Museum of Pop Culture – MoPOP (ชื่อเก่า EMP)
สถานที่ตั้ง: Washington, USA
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมป๊อปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งดนตรี ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดย Paul Allen co-founder ของ Microsoft ตัวอาคารก่อสร้างโดยได้แรงบันดาลใจจากความเหนื่อยยากในการวางรากฐานดนตรีร็อกแอนด์โรลล์ โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีหนึ่งในจอ LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการให้ผู้เข้าชมไปเล่นดนตรีต่อหน้าผู้ชมแบบ virtual นิทรรศการรวมสิ่งของจากวงดนตรีใหญ่ที่สุดในโลกของศิลปิน Nirvana และ Jimi Hendrix ฯลฯ ที่สำคัญคือพิพิธภัณฑ์นี้สนับสนุนการศึกษาเป็นอย่างมาก มีการตั้งกิจกรรมประกวดดนตรีเพื่อเด็ก ๆ มี Pop Conference เพื่อพูดคุยกันเรื่องวัฒนธรรมป๊อปไม่ว่าจะแง่นักดนตรี นักวิจารณ์ การศึกษา และอีกมากมาย
ดูรายละเอียดได้ที่: MoPOP
The Grammy Museum at L.A. Live
สถานที่ตั้ง: California, USA
พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งเพื่อความเข้าใจดนตรีในทุก ๆ รูปแบบ ตั้งแต่กระบวนการคิดไปจนถึงกระบวนการผลิตเพลง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ในเชิงดนตรี และเพื่อให้พวกเขาสามารถลงมือสร้างดนตรีในรูปแบบใหม่ขึ้นมาเช่นเดียวกัน พิพิธภัณฑ์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 โดย The Recording Academy ผู้มอบรางวัล Grammy Awards และร่วมมือกับ AEG ในพิพิธภัณฑ์จะใช้เทคโนโลยีชวนตื่นเต้นมากมาย โดยนิทรรศการที่กำลังแสดงอยู่ ยกตัวอย่างเช่น BACKSTREET BOYS: THE EXPERIENCE ที่รวบรวมสิ่งของที่เกี่ยวกับวงไม่ว่าจะเสื้อผ้า หรือจะของใช้ส่วนตัว ที่สำคัญคือมีบูธให้สารภาพรักกับวง หรือจะเป็นประวัติศาสตร์ดนตรีผ่านกีฬาเบสบอลไม่ว่าจะเป็นโน้ตเพลงเบสบอล ไมค์ของผู้ประกาศ และการรวบรวมเพลงสำคัญ ๆ ที่เล่าเรื่องราวกีฬาเบสบอลในแต่ละยุค กับทุก ๆ แนวดนตรีที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น
ดูรายละเอียดได้ที่: Grammy Museum
Museum of Making Music
สถานที่ตั้ง: California, USA
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือสำนักงานใหญ่ของ NAMM งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมดนตรีระดับโลกที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากไป โดยภายในจะมีการจัดแสดงการเครื่องดนตรีตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน ผ่านนิทรรศการแบบ interactive หลากหลายชุด ไม่ว่าจะในแง่มุมของการมีส่วนร่วมในดนตรีสมัยนิยม นวัตกรรมในกาาผลิตเครื่องดนตรีแต่ละยุค การขนส่ง การตลาดของการขายเครื่องดนตรี และเรื่องราวการเอาตัวรอดของเหล่าร้านขายเครื่องดนตรีผ่านวิกฤติการเงินแต่แต่ละสมัย รวมถึงมีหอแสดงดนตรีและกิจกรรมสนับสนุนการศึกษามากมาย โดยอีกความตั้งใจของพิพิธภัณฑ์ก็คือเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดนตรีทั่วโลก
ดูรายละเอียดได้ที่: MUSEUM OF MAKING MUSIC
New Orleans Jazz Museum
สถานที่ตั้ง: Louisiana, USA
สโลแกนของพิพิธภัณฑ์นี้คือ ‘Jazz in the very place it was born’ โดยพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในโรงกษาปณ์เก่า มีเป้าหมายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของดนตรีแจ๊สผ่านนิทรรศการแบบ interactive กิจกรรมสนับสนุนการศึกษา เอกสารสำหรับการวิจัย และการแสดงมากมายที่มีมากกว่า 365 ครั้งปี โดยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีการรวบรวมสิ่งของที่บันทึกประวัติศาสตร์ของดนตรีแจ๊สไว้เยอะที่สุดในโลก กว่า 25,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นคอร์เน็ตเครื่องแรกของ Louis Armstrong แผ่นเสียงต่าง ๆ รวมถึงแผ่นเสียงเพลงแจ๊สแผ่นแรกในโลก เครื่องดนตรีจากนักดนตรีแจ๊สในตำนาน ฟุตเทจจากงานคอนเสิร์ตในยุคก่อน โน้ตเพลงแจ๊สที่ภายหลังก็มาเป็นเพลงสแตนดาร์ดแจ๊ส อุปกรณ์ตกแต่งในร้านแจ๊สระดับตำนาน ฯลฯ ซึ่งบอกเลยว่าคอแจ๊สต้องอ้าปากค้างแน่นอน
ดูรายละเอียดได้ที่: NEW ORLEANS JAZZ MUSEUM
The Museum at Bethel Woods
สถานที่ตั้ง: New York, USA
ถ้าถามถึง Bethel Woods เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดถึง Woodstock Festival ทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน โดยสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ก็อยู่บนเนิน ณ สถานที่จัดงาน Woodstock เมื่อปี 1969 นั่นเอง พิพิธภัณฑ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bethel Woods Center for the Arts ที่สนับสนุนศิลปะทุกแขนง โดยในพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของงาน Woodstock ผ่านสิ่งของต่าง ๆ ที่หลงเหลือจากยุค 60s เพื่อให้ทั้งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ได้เรียนรู้เรื่องราวไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของวงดนตรีที่ได้เล่นในงาน ทั้งก่อน และหลังเล่น รวมถึงประวัติศาสตร์ที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ให้กับวงการดนตรีอเมริกัน ความฝันของหนุ่มสาวยุค 60s ที่อยากให้โลกมีแต่สันติสุข ซึ่งเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในโลกนับแต่นั้น นอกจากดนตรียังมีการจัดแสดงชิ้นส่วนจากการลงจอดของ Apollo 11 ที่ลงจอดก่อนงาน Woodstock จัดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมในยุคนั้น
ดูรายละเอียดได้ที่: The Museum at Bethel Woods
National Music Centre
สถานที่ตั้ง: Alberta, Canada
พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าในเมือง Calgary ซึ่งเก็บเครื่องดนตรีหายากไว้กว่า 2,000 ชิ้น อย่าง Harpsichords จากศตวรรษที่ 16 เปียโนของ Elton John ซินธืไซเซอร์ ที่ Stevie Wonder ใช้ ฯลฯ โดยพิพิธภัณฑ์นี้แบ่งออกเป็น 5 ชั้น ในแต่ละชั้นก็จะไล่ลำดับเรื่องราวของดนตรี ตั้งแต่เรื่องราวของศิลปินในแคนาดา จากนั้นเป็นเรื่องดนตรีกับร่างกาย ว่าทำไมเราถึงร้องไห้ หรือหัวเราะไปกับเพลงได้ รวมถึงเรื่องเพลงที่ส่งผลกับสังคมและการเมือง ชั้นต่อมาก็ให้ลองเล่นดนตรีแจมกัน โดยให้เด็ก ๆ ทำเครื่องดนตรีด้วยตัวเอง และชมการซ่อมแซมสิ่งของจัดแสดงต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์ จากนั้นชั้นสุดท้ายจะเป็น hall of fame ที่รวบรวมเรื่องราวและสิ่งของจากศิลปิน นักแต่งเพลงแห่งแคนาดา โดยนอกจากในตึก ยังมีการจัดแสดงสตูดิโอเคลื่อนที่ของวง The Rolling Stones ที่สามารถซื้อบัตรเข้าไปเยี่ยมชม รวมถึงเช่าไปใช้ได้จริง ๆ ด้วย
ดูรายละเอียดได้ที่: Studio Bell
British Music Experience
สถานที่ตั้ง: Liverpool, England
ถ้าคุณคือแฟนตัวยงของศิลปินจากเกาะอังกฤษ คุณไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ที่ใช้เทคโนโลยีสนุก ๆ ชวนทุกคนมาเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับศิลปินอังกฤษชื่อดังไปพร้อม ๆ กัน และยังมีการจัดแสดงสิ่งของทรงคุณค่าอย่างเนื้อเพลงลายมือ Adele ชุดของ Freddie Mercury โฮโลแกรมของ Boy George รางวัล Brit Awards กีตาร์ของ The Beatles ฯลฯ นอกจากนี้ ผู้ชมยังสามารถเล่นดนตรี ร้องเพลง หรือจะเต้นตามศิลปินสายแดนซ์สุดฮิตในแต่ละยุค โดยนอกจากการเดินชม ก็ยังมีกิจกรรมที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ เช่นคอนเสิร์ต tribute วง กิจกรรมรำลึกความหลังถึงซีนดนตรีในเมือง Liverpool ยุคเก่าแก่ หรืออย่างส่วนลด (เฉพาะช่วง) สุดเท่ ที่คนใส่เสื้อวง Def Leppard มาพิพิธภัณฑ์แล้วลดราคา 20% ไปเลย
ดูรายละเอียดได้ที่: British Music Experience
นอกจากนี้ ในไทยก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ ของมหาวิทยาลัยมหิดลจำนวน 6 ชั้น ที่รวบรวมเครื่องดนตรีที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ดนตรีในภูมิภาคอุษาคเนย์ที่อาจถูกวางทิ้งไว้ตามบ้าน ตามโรงเรียน ตามวัด อย่างไม่สนใจมาทำให้มีคุณค่ากับชนรุ่นหลัง โดยรวบรวมทั้งเครื่องดนตรีพื้นบ้านและราชสำนัก รวมถึงมีนิทรรศการดนตรีหมุนเวียนและเวทีแสดงดนตรี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
อ่านต่อ
ชวนสาย Blues, Rock N’ Roll แวะ Sun Studio ตามรอย Elvis Presley ที่ Memphis
บินไปเรียน Popular Music Performance ที่ประเทศไหนดี
