Quick Read Snacks

ฝากรัก(?)เอาไว้ในเพลงสักคำ… บางบทเพลงที่มีเสียงของกิจกรรมทางเพศแฝงอยู่

  • Writer: Piyakul Phusri

เสียงบางเสียงที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นสิ่งที่มีความหมายในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความให้ยืดยาว

เสียงกัดฟังกรอด ๆ อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงแห่งความโกรธ หรือความอดทนต่อการถูกกระทำอย่างรุนแรง

เสียงถอนหายใจ อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงแห่งความสบายใจ เปลี่ยวเหงา หรือ สิ้นหวัง

เสียงกรีดร้อง อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงที่สื่อถึงความกลัวอย่างสุดขีด หรือสนุกอย่างสุดเหวี่ยง

แล้วถ้าเป็นเสียงคราง ‘อา……’ ล่ะ คุณนึกถึงอารมณ์อะไร?

 

หนึ่งในเสียงที่เรียกได้ว่าอื้อฉาวที่สุด หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดหลักการทางศาสนาและกฎหมายที่สุด และทำให้เพลงเพลงหนึ่งโดนแบนบ่อยที่สุดก็คือ ‘เสียงของการประกอบกิจกรรมทางเพศ’ ไม่ว่าจะเป็นเสียงขณะร่วมเพศ เสียงขณะช่วยตัวเอง หรือเสียงครวญครางที่สื่อให้รับรู้ถึงกิจกรรมทางเพศ หรือแสดงออกถึงนัยยะทางเพศอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าวงการเพลงไทยจะยังไม่ค่อยมีเพลงที่มีเสียงอะไรแบบนี้ซ่อนอยู่ (อย่างเพลง คืนนี้ (Not Yet) ของ The Parkinson) แต่ในโลกตะวันตก เสียงที่สื่อถึงกิจกรรมทางเพศมีให้ได้ยินในเพลงตั้งแต่ก่อนยุค 1930s เช่น เพลง Moanin’ The Blues ของ Victoria Spivey ที่มีเนื้อหาพูดถึง black snake juice (น้ำหวานจากงูสีดำ อึม…จะให้นึกถึงอะไรดีล่ะ) และจงใจลากเสียงร้องท่อน ‘Aaaaaall…day long’ ให้คำว่า ‘Aaaaaall’ เป็นเสียงเหมือนเสียงร้องคราง

ยังมีอีกหลายเพลงที่มีเสียงที่สื่อถึงกิจกรรมทางเพศทั้งแบบที่อาจจะตั้งใจให้รู้กันไปเลยว่าจะสื่อถึงเรื่องเซ็กส์ และแบบที่แฝงเสียงของเซ็กส์มาเนียน ๆ เราเชื่อว่า playlist นี้อาจจะทำให้บางคนฟังแล้วถึงหน้าแดงได้เลยทีเดียว

 

Serge Gainsbourg และ Jane BirkinJe T’Aime

ถ้าจะพูดถึงเพลงที่มีเสียงของกิจกรรมทางเพศแล้วไม่พูดถึงเพลงนี้ก็คงจะผิดเอามาก ๆ เพลงที่เรียกว่าทั้งวาบหวาม และฉาวโฉ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีร่วมสมัยเพลงนี้ ตอนแรก Gainsbourg แต่งขึ้นเพื่อร้องและบันทึกเสียงกับ Brigitte Bardot ในปี 1967 แต่เวอร์ชั่นที่โด่งดังที่สุดของเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นปี 1969 ที่ Gainsbourg บันทึกเสียงร่วมกับ Jane Birkin ถึงจะเป็นเพลงรักหวานเจี๊ยบก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้เพลงนี้ถูกแบนในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งสเปน สวีเดน บราซิล สหราชอาณาจักร ฯลฯ รวมถึงถูกห้ามออกอากาศทางวิทยุในประเทศฝรั่งเศสก่อน 5 ทุ่ม ก็คือเสียงของผู้หญิงที่กำลังถึงจุดสุดยอดนั่นเอง!

 

Donna SummerLove To Love You, Baby

เสียงครางสุดกระเส่าของ Donna Summer ในเพลงที่แสนจะเซ็กซี่นี้ทำให้หลายคนสงสัยว่าเธอทำอะไรในห้องอัดหรือเปล่าถึงสามารถครางออกมาได้อย่างชวนสยิว ซึ่ง Summer ได้ให้สัมภาษณ์ในปี 1976 ว่าในขณะนั้นเธออยู่ในห้องอัดคนเดียว มีการสัมผัสร่างกายตัวเองและจินตนาการถึงแฟนหนุ่มชื่อ Peter

 

Little AnnieGive It To Me

เสียงซี๊ดปากตลอดเพลง และเนื้อร้องที่แสดงความต้องการที่จะได้อะไรบางอย่างอย่างรุนแรง เร่าร้อน ลึก ๆ เร็ว ๆ มันจะทำให้นึกถึงอะไรอย่างอื่นได้อีกล่ะ…

 

P.J. HarveyThe Dancer

ฟังเพลงนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะนึกถึงบรรยากาศห้องนอนในแฟลตกลางเมืองใหญ่ที่มีแค่แสงไฟสลัว ๆ กับคนสองคนที่อยู่บนเตียงด้วยกัน และเมื่อเสียงร้อง ‘อาาา…..’ แหลมสูงของ P.J. Harvey แผดขึ้นตอนกลางเพลง นั่นก็หมายความว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และกระแทกกระทั้นแล้วล่ะ…..

Chackachas Jungle Fever

เพลงดิสโก้จากเบลเยี่ยมเพลงนี้ทั้งโด่งดังและอื้อฉาวจากเสียงร้องของนักร้องหญิงที่ร้องแบบขาดห้วงเป็นระยะ และเสียงหายใจหอบเหมือนอยู่ระหว่างปฏิบัติกามกิจ จนทำให้ถูกแบนจากสถานีวิทยุ BBC แต่กลับไปโด่งดังในอเมริกา โดยมียอดขายสูงกว่า 1 ล้านก็อปปี้

 

The BuzzcocksOrgasm Addict

ถึงแม้เสียงครางเหมือนการมีเซ็กส์ของผู้ชายมีให้ฟังในเพลงน้อยกว่าเสียงครางของผู้หญิงค่อนข้างมาก แต่ก็ใช่ว่าไม่มีเลย The Buzzcocks วงพังก์จากอังกฤษใส่เสียงร้องครางอา ๆ ๆ ๆ และหอบแฮ่กเข้ามาในเพลงที่ชื่อตรงไปตรงมาว่า Orgasm Addict เป็นการเอาเสียงของเซ็กส์มาใช้แบบเข้ากับเนื้อเพลงและชื่อเพลงมาก

 

Marvin GayeYou Sure Love To Ball

เพลงของราชาเพลงโซลอย่าง Marvin Gaye จำนวนมากมักจะออกแนวโรแมนติก หวานซึ้ง แต่เพลงนี้ Gaye นำพาความโรแมนติกไปสู่ความวาบหวามอีกระดับ ด้วยเสียงครวญครางคล้ายการมีเซ็กส์ในช่วงต้นเพลง จะว่าไปก็ค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่ชื่อเพลงแล้ว เพราะคำว่า ball ก็คือสแลงของคำว่า ‘ร่วมรัก’ นั่นเอง

 

Lil LouisFrench Kiss

เพลง house จากชิคาโก้ที่โด่งดังตามคลับทั่วโลกในปี 1989 นอกจากจังหวะเรื่อย ๆ เต้นสบาย ๆ สไตล์ house แล้ว สิ่งที่ทำให้เพลงนี้โด่งดังและทำให้แดนซ์ฟลอร์ร้อนฉ่ายิ่งขึ้นก็คือเสียงครวญครางอย่างเสียวซ่านของผู้หญิงในช่วงกลางเพลงไปจนถึงช่วงท้ายเพลงนั่นเอง

 

MadonnaJustify My Love

เพลงดังของตัวแม่บันลือโลกอย่าง Madonna ที่ทำให้เกิดทั้งกระแสความชื่นชอบ และ กระแสต่อต้านในหลายประเทศทั่วโลก เพราะความแรงของเนื้อหาที่พูดถึงความต้องการทางเพศอย่างชัดเจน การดีไซน์การร้องของ Madonna ที่ร้องออกมาเหมือนการเปล่งเสียงพูดระหว่างการมีเซ็กส์ และมิวสิควีดีโอที่ร้อนฉ่าจนออกอากาศทาง MTV และช่องโทรทัศน์ในอีกหลายประเทศไม่ได้เลยทีเดียว

 

Britney SpearsBreathe On Me

เสียงหายใจหนักหน่วงตั้งแต่ต้นเพลง การลากเสียงร้องแบบคราง และเนื้อเพลงที่แสดงออกถึงความต้องการให้ชายหนุ่มมาดับไฟ(ราคะ) คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากว่า Britney ใช้เสียงครวญครางอื้อ ๆ อ้า ๆ สื่อถึงอะไร…

 

Guns ‘N’ RosesRocket Queen

Axl Rose และ Adriana Smith ใช้เวลาด้วยกันสองชั่วโมงในห้องบันทึกเสียงในนิวยอร์ก เมื่อเพลงนี้มีเสียงของผู้หญิงร้องครวญครางเหมือนกำลังมีเซ็กส์ จึงเกิดคำถามว่า มันคือเสียงของการร่วมรักกันระหว่างฟรอนต์แมนของ GNR กับ Smith จริงหรือไม่ และ Smith ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างหน้าชื่นตาบานว่า ‘ใช่ค่าาา’ และ Axl Rose ก็ให้เครดิตกับคู่นอนของเค้าว่า Adriana ‘Sex Machine’ Smith ในอัลบั้ม Appetite for Destruction อีกด้วย

 

ที่มา

John and K. Kapsalis. 1996. Aural Sex: The Female Orgasm in Popular Sound, TDR (40)3: 102-111
12 songs that feature sex noises – including One Direction’s Best Song Ever
Welcome To The Pleasuredome – 6 Songs That Simulate Sex

Facebook Comments

Next:


Piyakul Phusri

Piyakul Phusri นักฟังเพลงจับฉ่ายที่มีความเชื่อว่านอกจากการกินอิ่ม-นอนอุ่น การบริโภคงานศิลปะที่ถูกใจก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการมีชีวิตที่ดี