Maho Rasop Festival 2019 Lineup ไลน์อัพ 16 ศิลปินที่มาเยือนไทยครั้งแรก

Quick Read Snacks

มารู้จัก 16 ศิลปินจากทั่วโลกที่กำลังจะมาเยือนไทยเป็นครั้งแรกในงาน Maho Rasop Festival 2019!

  • Writer: Malaivee Swangpol

Maho Rasop Festival 2019 Lineup หลังจากที่ประกาศไลน์อัพครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยก็ทำให้งานมหรสพ อัดแน่นไปด้วยศิลปินคุณภาพจากทั่วโลกรวม 35 ศิลปิน! เราเลยขอรวบรวมวงที่จะมาเยือนไทยเป็นครั้งแรกมาให้ทุกคนได้ลองฟัง บอกเลยว่าถ้าพลาดก็คือเสียใจยันมหรสพ 2020 นะ ใครยังไม่มีบัตรในครอบครองก็ซื้อได้ที่ Ticketmelon เลยจ้า

 

Maho Rasop Festival 2019 Lineup รวมวงที่มาไทยครั้งแรก

 

Bombay Bicycle Club

Bombay Bicycle Club คือวงอินดี้ร็อกระดับตำนานจากลอนดอน ผู้เป็นหนึ่งในแกนนำขับเคลื่อนวงการเพลงอินดี้ใน Myspace พวกเขาโด่งดังมาจากการประกวด Road to V ที่ทำให้ได้เล่น V Festival 2006 ก่อนจะออก EP. แรก The Boy I Used to Be ที่ได้ความนิยมจากสื่อในอังกฤษเป็นอย่างยิ่ง

ปี 2008 หลังจากเรียนจบมัธยมปลายมาหมาด ๆ พวกเขาก็ได้เซ็นสัญญากับ Island Records ก่อนจะติดชาร์ทอังกฤษครั้งแรกในปีต่อมากับเพลง Always Like This จากนั้นในปี 2010 พวกเขาก็ชวนเราพักหูด้วยอัลบั้มอะคูสติกอย่าง Flaws ก่อนจะต่อด้วยอัลบั้ม A Different Kind of Fix แล้วทิ้งท้ายก่อนพักวงไปด้วยซิงเกิล So Long, See You Tomorrow ในปี 2014 ซึ่งการเป็นเฮดไลน์ของพวกเขาที่งาน Maho Rasop 2019 นี้ นับว่าเป็นโชคดีของแฟน ๆ ชาวไทย เพราะนี่จะเป็นทัวร์แรกในเอเชียหลังจากพักวงไป 3 ปีเต็ม! ซ้อมฟังแล้วไปตะโกนร้อง Eat, Sleep, Wake, Nothing but you ด้วยกันนะ

King Gizzard & The Lizard Wizard

วงร็อกสุดแสบจากเมลเบิร์น, ออสเตรเลีย ที่ขนเครื่องดนตรีมากมายเกินจินตนาการมาเล่นสด พวกเขาก่อตั้งวงจากกลุ่มเพื่อนในปี 2011 ก่อนจะปล่อยอัลบั้มเต็มในปีต่อมา ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการปล่อยอัลบั้มแบบไม่หยุดพัก ที่ทำให้ปัจจุบันพวกเขามีผลงานถึง 15 อัลบั้มแล้ว โดยในสองอัลบั้มแรกพวกเขามากับซาวด์เซิร์ฟ-การาจร็อกที่ผสมไซคีเดลิก แต่ในอัลบั้มหลัง ๆ ก็มีซาวด์โปรเกรสซีฟ แจ๊ส โซล​ โฟล์ก และเฮฟวี่เมทัลเข้ามาด้วย

ที่หลากหลายขนาดนี้ก็เพราะ King Gizzard & The Lizard Wizard คือนักทดลองตัวยง ในปี 2014 พวกเขาเคยปล่อย Quarters! คอนเซปต์อัลบั้มที่ทุกเพลงยาว 10:10 นาที หรือจะเป็น Nonagon Infinity อัลบั้มที่สามารถลูปได้ตลอดไป รวมถึงการปล่อย 5 อัลบั้มติดในปี 2017! เพราะฉะนั้นห้ามพลาดโชว์ประวัติศาสตร์ครั้งแรกในเมืองไทยของพวกเขาเด็ดขาด เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรสนุก ๆ ขึ้นบ้าง!

The Horrors

The Horrors โพสต์พังก์ขวัญใจชาว Myspace จากเมือง Essex เกาะอังกฤษ พวกเขาโด่งดังมาจากซิงเกิ้ลแรกอย่าง Sheena Is A Parasite ในปี 2006 ที่ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในลอนดอน โดยเมื่อพวกเขาได้เดบิวต์ผลงานสุดแสบทรวงอย่าง Strange House ในปีต่อมา ก็ไปไกลถึงอันดับที่ 37 ใน UK Album Chart และทำให้ The Horrors ได้ออกทัวร์ยาวนานกว่า 18 เดือนที่ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตทั่วโลก

โดยปี 2008 พวกเขาก็ได้ไปอัดอัลบั้ม Primary Colours กันที่เมือง Bath ก่อนจะปล่อยซิงเกิ้ลแรก Sea Within A Sea ในปีต่อมา ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดในปี 2009 จาก NME โดยในปีต่อมาวงได้ปล่อย Still Life ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Skying ที่ปัจจุบันมียอดสตรีมกว่า 13 ล้านครั้งใน Spotify ซึ่งอัลบั้มที่ 4 Luminous ที่ปล่อยในเดือนพฤษภาคม 2014 มากับซาวด์ไซคีเดลิก-ดรีมป๊อป มีซิงเกิลนำจังหวะหนึบ ๆ อย่าง So Now You Know สำหรับ V อัลบั้มล่าสุด The Horrors ก็ได้หวนคืนรากเหง้าความเป็นการาจร็อกอีกครั้ง 

BADBADNOTGOOD

BADBADNOTGOOD คือวง instrumental จากโตรอนโต แคนาดา ที่ผสมผสานเอาเพลงโซล-แจ๊ส ยุค 70s, อัลเทอร์เนทีฟ ฮิป-ฮอป และเอ็กซ์เพอริเมนทัล อิเล็กทรอนิกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งในสองอัลบั้มแรกพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มคัฟเวอร์วงอย่าง A Tribe Called Quest, Kanye West, My Bloody Valentine และ Feist ส่วนในอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 อย่าง IV ก็มีเพลงของตัวเอง รวมไปถึงเพลงที่ collab กับศิลปินฮิป-ฮอปรายอื่นอย่าง Ghostface Killah, Kaytrandada และ Kendrick Lamar  ซึ่งแม้หลาย ๆ เพลงของ BADBADNOTGOOD  จะมีกรูฟละมุนชวนโยก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงนี้โดดเด่นด้วยการแสดงสดสุดคลั่ง ที่ทำให้คนดูไม่สามารถยืนนิ่งได้ ต้องเต้นยุกยิกไปพร้อมกับดนตรีที่คาดเดาไม่ได้ของพวกเขา

Deafheaven

Deafheaven วงเอ็กซ์เพอริเมนทัล-เมทัล จากซาน ฟรานซิสโก ก่อตั้งวงในปี 2010 พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีแบล็ก เมทัล ชูเกซ โพสต์ร็อก อัลเทอร์เนทีฟ ร็อก และแทรช เมทัล พวกเขาเริ่มจากสองสมาชิก คือ George Clarke (ร้องนำ) และ Kerry McCoy (กีตาร์) โดยเริ่มอัดเดโมก่อนจะได้ออกอีพีกับค่าย Deathwish Inc, ในปี 2010 ซึ่งในอัลบั้มเต็ม Roads to Judah (2011) พวกเขาเพิ่มสมาชิกเป็นห้าคน แต่ในปีต่อมาสมาชิกที่เหลือก็ลาออกจนกลับไปเหลือสองคนเท่าเดิม

จากนั้นในอัลบั้มที่มีกระแสดีเยี่ยมอย่าง Sanbather (2013) พวกเขาได้ตามหาสมาชิกจนครบห้า ก่อนจะได้ออกทัวร์ทั่วโลก ต่อมาได้ย้ายค่ายไปอยู่กับ Anti- และออกอัลบั้ม New Bermuda (2015) ที่ติดชาร์ต Top Rock Album ถึงอันดับที่ 16 โดยในอัลบั้มล่าสุด Ordinary Corrupt Human Love Deafheaven ก็ข้ามกำแพงจากแนวเพลงเดิมไปสู่เสียงร้องแบบไซคีเดลิก เครื่องประกอบจังหวะแบบแจ๊ส และเสียงเปียโนสุดซับซ้อน

Junoflo

Junoflo (Samuel Juno Park) แร็ปเปอร์อเมริกันเชื้อสายเกาหลีผู้เติบโตในแคลิฟอร์เนีย เขาเคยเป็นช่างภาพให้กับศิลปินฮิปฮอปในเมืองซานดิเอโก ลอสแอนเจลิส ก่อนผันตัวเข้าสู่วงการในฐานะแร็ปเปอร์ ก่อนจะเริ่มเป็นที่รู้จักจากเรียลลิตี้โชว์แร็ปเปอร์ชื่อดัง Show Me the Money ทั้งซีซัน 5 และ 6 จนเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่ง Junoflo เป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่ได้เล่นตอนพักครึ่งการแข่งขัน NBA ใครที่ได้ชมก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่สไตล์การแร็พยังโฟล์วสมชื่อ กับบีทสนุก ๆ ที่ทำให้สายแร็พต้องโยกตาม เตรียมจับจองพื้นที่หน้าเวทีแล้วมา turnt ไปด้วยกันได้เลย!

Summer Salt

Summer Salt ประกอบไปด้วยสองหนุ่มมากฝีมือ Matthew Terry (ร้องนำ/กีตาร์) และ Eugene Chung (กลอง) จากออสติน, เท็กซัส พวกเขาแนะนำตัวเองว่า ‘เราแต่งเพลงซาวด์แทร็คที่เหมาะสำหรับการชิลริมสระน้ำ ด้วยแรงบันดาลใจจากบอสซา โนวา และเพลง oldies’ อีพีแรกของพวกเขา Driving to Hawaii (2014) ทำให้เรานึกถึงวันหยุดแสนวิเศษซึ่งได้กลิ่นอายของรุ่นพ่ออย่าง the Beach Boys โดยในอีพีต่อมา Going Native (2015) วงได้เพิ่มดนตรีละตินมาเป็นส่วนประกอบ เพราะได้แรงบันดาลใจจากการท่องเที่ยวของ Terry จากนั้น Summer Salt ก็ปล่อยอีพี So Polite (2017) และตามด้วยอัลบั้มเต็มแห่งฤดูร้อนที่ทุกคนรอคอยอย่าง Happy Camper (2018) โดยในอีพีล่าสุด Honeyweed (2019) พวกเขามากับซาวด์แห่งการอาบแดด ซึ่งเป็นซาวด์แทร็คที่เหมาะที่สุดกับหน้าร้อนเลย! (ตอนนี้ก็เหมาะ!)

Benny Sings

Benny Sings (Tim van Berkestijn) ศิลปินจากเนเธอร์แลนด์ กับซาวอาร์แอนด์บี, ดนตรี retro pop สุดสดใจที่อาจนิยมได้ว่าเป็นโล-ไฟ ดิสนีย์ ฮิปฮอป ซึ่งตั้งแต่อัลบั้มแรก Champagne People ในปี 2003 ก็ทำให้ Benny Sings เป็นที่นิยมนหมู่แฟน ๆ ฮิปฮอปใต้ดินทั่วโลก รวมถึงได้เป็นแขกรับเชิญชาวดัชต์คนแรกที่แสดงที่ NPR’s Tiny Desk

หลังจากเขาได้มีส่วนร่วมในเพลง Loving is Easy ของ Rex Orange County ก็ทำให้เขาดังเป็นพลุแตก อัลบั้มล่าสุด City Pop ออกในปี 2019 โดยเขาเขียนเพลงขึ้นในเมืองทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก, ลอส แองเจลิส, โตเกียว และอัมสเตอร์ดัมบ้านเกิด รวมถึงได้แขกรับเชิญสุดเจ๋งจากหลากประเทศทั้ง Hawthorne, Cornelius, Sukima Switch, Mocky และ Faberyayo 

BBNO$

Alexander Gumuchian หรือที่รู้จักกันในชื่อ bbno$ (อ่านว่า baby no money) แรปเปอร์และนักร้องจากแวนคูเวอร์, แคนาดา เขาเรียนเปียโนแต่เด็ก ก่อนจะมาติดใจการเล่นกลอง Djembe ซึ่งทำให้เขาเป็นแรปเปอร์ที่คล่องแคล่ว เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ด้านวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว (Kinesiology) เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี่เอง

bbno$ เริ่มทำเพลงตั้งแต่ปี 2014 ด้วย Garage Band จากนั้นก็เริ่มทำเพลงลง Soundcloud ของตัวเองในปี 2016 กับเพลงแรก ‘Run It Up’ ที่ปัจจุบันมีคนฟังไปกว่า 428,000 ครั้งแล้ว ก่อนที่จะปล่อยเพลงมากถึง 50 ซิงเกิลและ 2 อีพี โดยเขามักจะร่วมงานกับแรปเปอร์คนอื่น ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากเพลง Lalala ที่ทำร่วมกับ Y2K ทั้งคู่ร่วมกันโปรโมตเพลงนี้ผ่าน TikTok, Tinder, โฆษณาใน Craiglist รวมไปถึงคอลเซนเตอร์ จนดังไปทั่วโลก มีคนใช้ในวิดีโอ TikTok กว่า 1.1 ล้านวิดีโอ ซึ่งปัจจุบันก็ทำให้เขามีผู้ฟังใน Spotify มากกว่า 19 ล้านคน นับเป็นอันดับที่ 109 ในโลกนี้

never young beach

วงป็อปร็อกจากญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจอันแรงกล้าจากศิลปินระดับตำนานอย่าง Haruomi Hosono หนึ่งในสามทรีโอแห่ง Yellow Magic Orchestra ทำให้พวกเขามีเมโลดี้แห่งความป็อปที่ไม่เหมือนใคร ด้วยซาวด์ชิล ๆ แบบญี่ปุ่น แต่มีลูกเล่นแบบวงอินดี้ตะวันตก บอกเล่าด้วยเนื้อเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ตรงไปตรงมาน่าฟัง

never young beach รวมตัวกันที่โตเกียว ก่อนที่อัลบั้มเดบิวต์ YASHINOKI HOUSE จะปล่อยในปีต่อมา ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากวงการเพลงญี่ปุ่น ด้วยการได้ไปแสดงเฟสติวัลระดับชาติหลายงาน โดยพวกเขาได้ออกอัลบั้ม A GOOD TIME ที่ปล่อยกับค่าย Victor Entertainment ซึ่งทำให้ทัวร์ยาวกว่า 11 เมืองก็โซลด์เอาท์ทั้งหมด 

Pomrad

Pomrad หรือ Adriaan van de Velde คืออัจฉริยะแห่งวงการดนตรีซินธ์จากเบลเยี่ยม ผู้ยกดนตรีซินธ์ขึ้นไปอีกระดับด้วยการเจือความฟังก์บวกซาวด์ล้ำ ๆ ลงไป ซึ่งเมื่อได้ลองอาบตัวเองด้วยซาวด์หน่วงประสาทที่เล่นด้วยซินธ์หลากหลายชนิดและคีย์ตาร์สุดล้ำ คุณจะไม่มีทางห้ามใจไม่ให้เต้นตามได้ นอกจากนี้ Pomrad ยังเคยร่วมกับ Onra อีกศิลปินจากไลน์อัพของเรา รีมิกซ์เพลงให้กับวง L’IMPERATRICE ในเพลง Entre Deux อีกด้วย

Onra (DJ Set)

Onra (Arnaud Antoine Rene Bernard) คือหนึ่งใน beat-maker จากฝรั่งเศสที่น่าจับตามองมาก ๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาได้รับอิทธิพลมาหลากหลายทั้งจากแจ๊ส, ฟังก์ ไปจนถึงอาร์แอนด์บี ซึ่งทำให้เขารังสรรค์ซาวด์ ฮิป-ฮอป, โซล เฉพาะตัวที่ชุบชีวิตให้กับดนตรีแบบดั้งเดิม

Onra เป็นที่รู้จักจากอัลบั้ม Long Distance อัลบั้มซาวด์ฟังก์ 80’s กับอัลบั้มซาวด์จีนอย่าง Chinoiseries ที่ออกมาแล้ว 3 อัลบั้ม ซึ่งเขาได้แซมป์ดนตรีจีนตอนที่มาเที่ยวเอเชีย ในปี 2018 เขาก่อตั้งค่ายของตัวเองชื่อว่า NBN Records  ซึ่งเป็นค่ายลูกของ All City

CHAI

CHAI​ คือสี่สาวอินดี้ป๊อปสุดแสบจากนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ที่พกพาลูกเล่นและความเฟมินิสต์มาเต็มเปี่ยม ภาพลักษณ์เด็กสาวน่ารัก ๆ ที่ไม่พิมพ์นิยม คอยสร้างความมั่นใจให้ความน่ารัก ในแบบของตัวเองจนน่าเอ็นดู แต่อย่าให้มันหลอกตาเราว่าก็แค่วัยรุ่นธรรมดา เพราะพวกเธอเติมรสชาติจัดจ้านให้ดนตรีอินดี้ป็อปได้แตกต่างและโดดเด่นกว่าใคร ด้วยไลน์กีตาร์ที่ดุดันและสำเนียงดนตรีที่ใครก็ต้องทึ่ง ซึ่งคำว่า N.E.O. Kawaii ที่พวกเธอนิยามตัวเองคือการเชิดชูความน่ารักของทุกคนโดยไม่ต้องไปสนพิมพ์นิยม เสื้อสีชมพูเอวลอยที่ CHAI​ ใส่ก็คือการขบถต่อสังคมญี่ปุ่นซึ่งอนุรักษ์นิยมมาก ๆ ในทัวร์อเมริกาล่าสุดของพวกเธอยังได้ไปทัวร์ร่วมกับ The Drums​ ด้วย

Say Sue Me

Say Sue Me อินดี้ร็อก เกาหลี ที่มีกลิ่นอายของความเป็นเซิร์ฟป็อปเบา ๆ แจกจ่ายความสดชื่นร่าเริงด้วยสไตล์กีตาร์ที่สนุกสนาน หรือเสียงร้องหวาน ๆ น่าหลงใหล เพลงของ Say Sue Me ไม่ได้ชวนติดหูหรือเป็นลูป earworm แต่กล้าที่จะท้าทายรสนิยมทางดนตรีของทุกคนด้วยลูกเล่นทางดนตรีที่สดใหม่ หรือเนื้อเพลงที่หยิบสิ่งรอบตัวมาเล่าได้น่าติดตาม เพลงของพวกเขาดังขึ้นเมื่อไหร่ ใครไม่โยกหัวตามคือบาปมาก

Peachy!

หนุ่มวัย 18 ปีจากแอตแลนต้า, จอร์เจียคนนี้เริ่มทำเพลงตั้งแต่เด็ก ซึ่งผลงานชิ้นแรก ๆ ของเขาเป็นแนว instrumental เพราะยังไม่มั่นใจในเสียงร้องของตัวเองมากนัก ปัจจุบัน Peachy! อาศัยอยู่ที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ สถานที่ที่เขาได้ทำอัลบั้มล่าสุด We Make Characters That Look Like Us To Make Us Feel Less Alone เสียงดนตรีวาไรตี้ป๊อปในอัลบั้มนี้มุ่งเล่าเรื่องราวของการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ กล้าออกไปทำอะไรที่ไม่เคยทำ

Gulf of Meru

Gulf of Meru (FA Poetra Tiardha) คือโปรดิวเซอร์, นักแต่งเพลง ชาวจาการ์ตาผู้สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลาย เขาเริ่มทำเพลงตั้งแต่ปี 2007 โดยมีเป้าหมายเพื่อเล่าเรื่องราวของยุคนี้ ที่เทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเสียงดนตรีให้มีลักษณะเฉพาะตัวหลากหลายแบบ สำหรับเขาซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์คือศาสนา

Gulf of Meru อยากให้ผู้คนได้สัมผัสความมืดมิดและความลึกลับในดนตรีของเขา ซึ่งจะนำไปสู่สภาวะจิตอันว่างเปล่า โดยอัลบั้มที่กำลังซุ่มทำอยู่มีหลากหลายแนวทั้งแอมเบียนต์, โพสต์-ร็อก, อิเล็กทรอนิก และเอ็กซ์เพอริเมนทัล ซึ่งรวมกันอยู่กันเป็นอัตลักษณ์ ทำให้ยากจะจำกัดเป็นแนวดนตรีแนวใดแนวหนึ่งได้

และทั้งหมดนี้คือ Maho Rasop Festival 2019 Lineup ที่คุณจะได้มาสนุกไปด้วยกันในวันที่ 16 – 17 พฤศจิกายน นี้ รับรองว่าเด็ดทุกวง

อ่านต่อ

เตรียมแดนซ์ให้ฟลอร์ลุกเป็นไฟกับศิลปินอิเล็กทรอนิกสุดจี๊ดใน Maho Rasop Festival 2019!

Maho Rasop Festival เผยไลน์อัพสุดท้าย! เตรียมซ้อมร้องเพลงแล้วเจอกัน 16-17 พฤศจิกายนนี้

Maho Rasop Festival เทศกาลดนตรีนานาชาติยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงกลับมาแล้ว

Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่