เหล่าศิลปินทั้งหลาย ถ้าเกิดสมองตันขึ้นมา คิดเพลงไม่ออก จะทำยังไง?
- Writer: Wathanyu Suriyawong
ไม่ว่าอาชีพไหนก็ต้องเคยพบกับอาการตันคิดงานไม่ออกกันมาบ้าง เพราะในชีวิตจริงมันไม่ได้มียาวิเศษเหมือนในหนัง Limitless ที่กินไปแล้วจะคิดจะทำอะไรก็ได้ตามใจ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มันอยู่ที่ว่า เราหาทางออกอย่างไรมากกว่า
เคยพบเห็นบทสัมภาษณ์หนึ่งของ Jonathan Davis นักร้องนำวง Korn ที่เมื่อเขาคิดงานไม่ออก หรือมีอาการตึงเครียด เขาจะเดินไปยังเครื่อง Xbox ของเขาแล้วเล่นเกมโปรด พอทุกอย่างทุเลาลงจึงกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง ความสำคัญของเกมไม่ได้อยู่แค่ห้องทำงานเท่านั้น เขายังทำเคสเครื่องเกมพร้อมชุดทีวี เพื่อสามารถนำมันไปทัวร์กับเขาทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย
อาการตันทางไอเดียเป็นภาษาสากลที่ไม่ว่าศิลปินประเทศไหนก็ต้องพบเจอ มาดูกันว่าในบ้านเรา ศิลปินเขาจะมีแนวคิดในการหาทางออกกับอาการนี้ยังไง ผมได้สอบถามพวกเขาและนำคำตอบมาแบ่งปันกันแล้ว
ปิ้ว TELEx TELEXs
ผมจะกลับบ้านที่เชียงใหม่ครับ กลับไปหาครอบครัว คุยกับแม่ เล่นกับหมา พักผ่อน เลิกคิดเรื่องงานไปพักนึงสัก 2-3 วัน พอเริ่มคิดอะไรออกก็อัดใส่มือถือ หลังจากนั้นก็หาฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ครับ
นิค temp.
ผมว่าจุดประสงค์มันคือ ออกจากแวดล้อมเดิมที่อยู่แล้วคิดไม่ออก ให้บรรยากาศอื่นมันมาเบี่ยงความสนใจเรา ให้เลิกตะบี้ตะบันคิดครับ เพราะส่วนตัวนิคว่าเวลาเราทำอะไรที่มันเป็นงานอิงไปทางศิลปะหน่อย มันบังคับไม่ได้ ถ้ามันจะมามันก็มาของมันเอง
ถ้าให้เลือกระหว่างแก้เพลงจนถูกใจ กับ ทิ้งไปเริ่มเพลงใหม่ดีกว่า ?
สำหรับผมถ้าไม่โดนจะทิ้งเลยครับ เพราะถ้ามันโดนจริงแล้วเราชอบคอนเซปต์มาก แต่งเป็นเดือนก็ยอมทำครับ บางเพลงคิดคอนเซปต์ไว้เกือบปีก็มีครับ
วิน Srirajah Rockers
เวลาที่คิดงานไม่ออก ผมจะออกมาจากตรงนั้นและลืมทุกอย่างที่อยากจะคิด ไม่พยายามคั้นมันออกมาอย่างตั้งใจ ผลที่ออกมาจะตึงเกินไป พยายามเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ ผมจะรอเวลาที่ความคิดที่เราชอบนั้นออกมาอีกครั้ง ทำเหตุและปัจจัยตามความรู้สึกขณะนั้นหลาย ๆ ครั้ง จนมันเข้าไปในจิตใต้สำนึกของมันเอง แล้วมันจะออกมาเองแบบง่าย ๆ สบาย ๆ กลาง ๆ จะพยายามไม่ฝืนเวลาที่คิดไม่ออก คิดไม่ออกก็ช่างแม่ง แต่จะบันทึกของเก่าไว้พัฒนาต่อไป อย่างค่อยเป็นค่อยไป เกือบใช้คำว่าขี้เกียจได้เลยครับ แล้วกลับมาถามและคุยกับตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการอะไร ต้องการแสดงออกอะไร คิดไปจนเบื่อเอง หรือออกเดินทางไปที่สัปปายะสักแห่ง แล้วทำใจให้สงบ ๆๆ สิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกหรือสิ่งที่สั่งสมประสบการณ์มาก็จะประมวลด้วยตัวมันเอง ในขณะที่จิตใจไม่ได้ครุ่นคิดมากมายอะไรครับ
*สัปปายะ=ที่ ๆ สงบ ไร้กังวลใด ๆ
ป้อม Lomosonic
เคยทำเพลงนี้ยากสุด เพราะความรักไม่เลือกเวลาเกิด ปกติเราจะเรียบเรียงเพลงราว ๆ 6-8 ชม. เสร็จ เพลงไหนยากสุดก็ทำแค่ 12-15 ชม. แต่เพลงนี้เราใช้เวลาทำ 5 วัน มีดราฟต์มากกว่า 20 แบบ ก็อัพเดตเวอร์ชันไปเรื่อย ๆ แต่มันจะมีช่วงนึงที่ตันสุด ๆ คิดไม่ออก เวลาอะไรเหนือการควบคุมมาก ๆ เราจะปล่อยไหลเหมือนไม่มีงานนี้อยู่ ก็ไปเดินเล่น ดูหนัง เมาบ้าง นั่งฟังเพลงพร้อม ๆ กับเล่นเกม คือเลิกคิดไปเลย แล้วพอกลับไปนั่งทำ มันจะได้อะไรออกมาเอง
กับการเล่นกีตาร์ก็เหมือนกัน เวลาที่รู้สึกว่าตัวเองเล่นกีตาร์ได้น่าสนใจขึ้น ไม่ใช่เก่งขึ้นนะ มักจะเกิดขึ้นหลังจากเราหยุดเล่นไปซักเดือน หรือสามเดือน พอกลับมาเล่น เราจะตื่นเต้น จะไม่คุ้น สมองมันจะทำงานแบบมันจะหาทางออกใหม่ ๆให้ความกระจอกของตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนวิธีเล่น หาวิธีอื่น ๆ ที่ได้เสียงออกมา
ของเราก็ประมาณนี้แหละ ถ้าตันจริง ๆ
- จดสิ่งที่ยังค้างคา เรียงลำดับงานที่ยังค้างออกมาใส่หน้ากระดาษให้หมด
- ประเมินเวลาที่ใช้ทำงานให้เสร็จ แล้วปิดคอม
- ไปเที่ยว ไปลืมแม่ง ไปทำงานอดิเรก ทำอะไรอย่างอื่นวันนึง
- กลับมาเคลียร์งานที่จดไว้ในวันรุ่งขึ้น
แล้วส่วนมากจะทำเสร็จครับ เราทำงานค่อนข้างมีระบบ เพราะไม่ชอบทำงานนาน ๆ ทำเพลงทำนาน ๆ เพลงมักจะไม่ค่อยเข้าท่า
สมมุติทำได้มาหนึ่งเดโม่ พอฟังไปฟังมามันไม่โดนใจ จะแก้ดราฟต์ใหม่ หรือขึ้นเพลงใหม่เลย
ทิ้งไว้เฉย ๆ ก็เริ่มงานใหม่ งานเก่าก็วางคาไว้ วันนึงมีไอเดียก็กลับไปทำต่อ ทำเพลงอย่าไปทำเหมือนคนบ้า เอาแต่ใจ มันต้องใช้อารมณ์สุนทรีย์ ไม่ใช่ก้าวร้าว เพลงใหม่ก็ขึ้นรอไว้ คือไม่ว่ายังไงคนเราต้องมีแผนสำรองไว้เสมอ ทำได้แบบนี้จะไม่เครียด หัวใจของการทำเพลงคืออย่าเครียด นี่ไม่ใช่งานที่ทำกันหน้าดำแล้วจะได้งานดี ๆ ออกมา แต่เป็นงานที่ต้องหน้ายิ้ม ถึงจะได้งานดี ทำงานหนักไปก็เท่านั้น
อ่านจบกันไปแล้วหวังว่าจะพอช่วยให้หายจากอาการสมองตื้อได้บ้าง แล้วเพื่อน ๆ มีวิธีหาทางออกตอนหัวตันยังไงบ้าง มาแชร์กันได้นะ