กฎของไฟต์คลับ

กฎข้อ 1 ห้ามพูดเกี่ยวกับไฟต์คลับ
กฎข้อ 2 ห้ามพูดเกี่ยวกับไฟต์คลับ
กฎข้อ 3 ถ้าคู่ต่อสู้ขอให้หยุด อ่อนเปลี้ย หรือหมดแรง การต่อสู้ถือเป็นอันสิ้นสุด
กฎข้อ 4 ในหนึ่งยกสามารถมีคู่ต่อสู้ได้เพียงสองคน
กฎข้อ 5 สู้ได้แค่ครั้งละคู่
กฎข้อ 6 ห้ามใส่เสื้อ ห้ามใส่รองเท้า
กฎข้อ 7 การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปถ้ายังไม่มีใครน็อคเสียก่อน
กฎข้อ 8 หากคุณเข้ามาที่ไฟต์คลับเป็นครั้งแรก คุณต้องเปิดมวย

ประมาณ 2-3 วันก่อน เราเห็นคนเริ่มแชร์คลิป Fight Club Thailand ก็เอะใจว่า มันจะเป็นแบบหนัง Fight Club ของ David Fincher หรือเปล่า พอมาดูคลิปแรก ๆ นี่เขาชกกันหลังวัดเลยฮะ บวกจริง เจ็บจริง แต่ไม่เถื่อนปางตายแบบในหนัง คือทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันไม่ก่อน ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และก่อนชกจะมีข้อตกลงกันว่าถ้าชกกันจนหมดเวลา จะไม่โกรธกัน ต่างคนต่างต้องรู้ในจรรยาบรรณของตน หรือการ “เซฟเพื่อน” นั่นเอง หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า เอ้า! แล้วมันจะมาต่อยกันทำไมวะ

หลายคนอาจจะไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของพวกเขา และคิดว่านี่คือการสนับสนุนความรุนแรง ในตอนต้นของบางคลิป จะมีบรรดาชายหนุ่มออกมาแสดงความคิดเห็น ประกาศจุดยืนก่อนเข้าสู่ช่วงการแข่งขันว่า พวกเขามาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มาลองทำกิจกรรมลูกผู้ชาย แน่นอน คุณอาจจะอยากลองเป็นนักมวยสมัครเล่น อาจจะอยากหวดหมัดดูสักครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต่อยใครไปเรื่อยในชีวิตประจำวัน ที่คือที่ของคุณ ในการชกหนึ่งยกประมาณ 3 นาทีนี้ บางคู่เราจะได้ยินเสียงพวกเขาถามไถ่กันตลอดว่า “เจ็บไหม” “ไหวไหม” “เราขอโทษ” “ไม่โกรธนะ” เฮ้ย! มันดูผิดวิสัยมาก ๆ แต่คิดอีกแง่มันก็เป็นการปล่อยพลังของคนหนุ่มเลือดร้อนที่ถูกจัดการวิวาทนี้ให้เป็นหลักแหล่ง มีกรรมการ มีแพทย์ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด คลิปหลัง ๆ มีกรรมการที่มีความรู้มาให้คำแนะนำด้วยว่าห้ามชกตรงไหนบ้างที่จะทำให้คู่ต่อสู้เป็นอันตรายด้วย

คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่กระหายการต่อสู้นี้เพิ่งเริ่มเคลื่อนไหวกันมาได้ประมาณเดือนกว่า จากที่คลิปแรก ๆ มีเพียงทีมงานและคู่ต่อสู้ไม่เกิน 5 คน จากหลังวัด สู่สนามบาส และใต้ทางด่วน ตอนนี้ชุมชน Fight Club Thailand มีผู้ชมตามมาดูการไฝว้แบบคึกคัก โดยผู้ร่วมก็มีกฎกติกาเช่นกัน คือห้ามส่งเสียงระหว่างแข่งขัน ห้ามถ่ายคลิป แต่ตบมือได้หลังจบยก ซึ่งตอนนี้คลิปก็ถูกปล่อยออกมาใกล้แตะคลิปที่ร้อยไปแล้ว

ก็ต้องจับตาดูกันต่อว่าพวกเขาจะขยับขยายคลับไปได้ไกลขนาดไหน จะเป็นอีกปรากฏการณ์แบบที่ Rap Is Now ได้ RUN วงการไปแล้วหรือเปล่า ระหว่างนี้เรามาฟังเพลงประกอบการชมคลิป กับ 6 เพลงเลือดเดือดก่อนลงสังเวียน Fight Club Thailand

The Octopuss – Fight Club (FC)

เพลงนี้พวกเขาเล่นกันครั้งแรกที่งานฟังใจมัน 2 กับฟังก์ร็อกที่มีท่อนติดหูโดยการร้องซ้ำวนกันว่า “กฎข้อหนึ่งเราไม่พูดเกี่ยวกับเรื่อง” แน่นอนเลยว่าพวกเขาต้องเอามาจากหนังเรื่อง Fight Club ซึ่งแปลกดีกับช่วงเวลาที่เพลงนี้ปล่อยออกมาเข้ากับกระแส Fight Club Thailand แบบพอดิบพอดี

กล้วยไทย – สติมนุษย์สยาม feat. ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า

เดือด ๆ กับวงร็อกไทยค้างฟ้าเพลงนี้ ที่ว่ากันว่าท่อนฮุกได้แรงบันดาลใจมาจากมวยไทย “ใครจะแพ้ชนะ ถ้าจบอย่างนี้ไม่มีความหมาย ใช้สมองแค่นั้น ไม่อาจยับยั้งความคิดสุดท้าย” ท่อนแรปของพี่ตุลนี่โคตรปลุกสติในตัวคุณเลยจริง ๆ

Barbies – ก่อนวันสุดท้าย

โอ้โห ก็จี๊ดใจกันตั้งแต่ intro แล้ว ร็อกเดือดผสมผสานดนตรีอิเล็กทรอนิก ดั๊บสเต็ป กับเนื้อหาที่สนับสนุนให้กล้าทำในสิ่งที่ยังลังเลอยู่ ไปตามความฝันกันเถอะวัยรุ่น แบบว่า ชีวิตนี้ใช้ซะ มันสั้นเหลือเกิน เอ้า ไปบวกกันเล้ยยยยยย

Nobuna – The Rise

มาเจอ post-hardcore, alternative metal สายเลือดไทย แต่ความสามารถไปไกลระดับโลก screamer ว้ากดูดแบบ โอ้โห ทำไมเก่งจังวะ เปิดกันมาด้วยเปียโนพริ้ว ๆ เป็นงานผสมผสานดนตรีร็อก ๆ แต่มีซาวด์สแครทชแผ่นเผิ่นไรด้วย

Sustainer – C.A.S

แค่ปกอัลบั้มของพวกเขาก็บอกได้เลยนะฮะว่าไฝว้คลับขนาดไหน จังหวะดนตรีเร้า ๆ กีตาร์จี๊ดไล่สเกลกันมันหยดแบบนี้มันกระตุ้นอะดรีนาลีนดีเชียวแหละ ท่อนแรปสุดมัน กับเนื้อความในเพลงก็เท่ซะเหลือเกินอะ แต่สังเวียนนี้เขาห้ามใส่ Converse All Star ลงแข่งเด้อ

S.O.L.E – Call Me

ตัดมาฝั่งอิเล็กทรอนิกเดือด aggressive กันบ้าง เพลงนี้โดดเด่นด้วยจังหวะเร็ว ๆ การร้องเหมือนแหกปากปลดปล่อยนี่สามารถเอาไปเปิดในรายการได้เลย ความเท่แบบสติหลุดขาดการยับยั้งเบอร์นี้มันก็ดูหลุดจากทุกข้อจำกัด ว่าการชกกันไม่จำเป็นต้องยกพวกตีกลางคอนเสิร์ต หรือต้องเป็นนักมวยอาชีพเสมอไป

ติดตามพวกเขาได้ที่ https://www.facebook.com/pagefightclubthailand / https://www.youtube.com/channel/UC8GotPjawQzKE8Qj8Dffarw

และเข้าร่วมกลุ่มได้ที่ https://www.facebook.com/groups/898223033639616/

• Twitter
• Line