ในหนังหลาย ๆ เรื่องที่นอกเหนือไปจากตัวละครที่โดดเด่นจนกลายเป็นภาพจำของหนัง หรือบทพูดสุดจึ้กที่ตรงใจจนต้องซู้ดปาก ก็มีฉากเต้นที่อยู่ดี ๆ อาจจะโผล่มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ดันกลายเป็นกิมมิกของหนังเรื่องนั้นและถูกพูดถึงไม่แพ้องค์ประกอบอื่น ๆ (ไม่นับหนังมิวสิคัลนะ เพราะสายนั้นเขาเน้นเต้นกันอยู่แล้ว) เรามาย้อนดูกันว่ามีหนังเรื่องไหนบ้างที่เราติดใจฉากเต้นจนลืมไม่ลง

The Breakfast Club (1985)

หนัง coming of age เรื่องโปรดของใครหลาย ๆ คนจากยุค 80s ที่เด็กไฮสคูลไทป์ต่าง ๆ ถูกกักบริเวณและต้องมาอยู่ด้วยกันในห้องทัณฑ์บน เป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นความงดงามของความแตกต่าง การได้ยอมรับซึ่งกันและกัน แล้วก็มีฉากเต้นที่เด็ก ๆ อยากจะปลดปล่อยตัวเองไปกับท่าเต้นเฉพาะตามคาแร็กเตอร์ของแต่ละคน กับเพลงร็อกมัน ๆ ในยุคนั้น

Pulp Fiction (1994)

ผลงานขึ้นหิ้งของ Quentin Tarantino กับความไอคอนิกของฉากเต้นฉากนี้ เมื่อ Uma Thurman ถอดรองเท้าเต้นแบบจริงจังเพื่อชิงรางวัลในการประกวดเต้นทวิสต์ที่ไดเนอร์กับ John Travolta (ที่เคยโด่งดังจากภาพยนตร์มิวสิคัลที่มีฉากเต้นเหมือนกันใน ‘Grease’) ลองดูว่าลีลาของพวกเขาที่เหมือนจะเด๋อด๋า แต่จริง ๆ แล้วเต้นเก่งไม่น้อยเลย (แล้วหน้าก็จริงจังกันมาก ๆ ด้วย แบบ อั๊วะจะเอารางวัลกลับบ้าน!)

The Big Lebowski (1998)

สุดยอดความปั่นในตำนาน ที่ไม่ว่าตัวละครในเรื่องนี้จะทำอะไรก็ต้องขำให้กับมันไปเสียหมด ในเรื่องนี้ก็มีฉากเต้นเหมือนกันที่เราดูแล้วต้องร้องว่า วอทเดอะฟัค กับ The Dude ที่ทั้งชีวิตก็ขลุกอยู่แต่กับลานโบวลิง ก็ไม่แปลกอะไรที่ในฝันประหนึ่งรายการโชว์ของเขาจะเต็มไปด้วยสัญญะที่สร้างจาก object เกี่ยวกับโบวลิงทั้งสิ้น

Napoleon Dynamite (2004)

ใครที่คุ้นเคยกับเสื้อ ‘Vote For Pedro’ ก็มาจากเรื่องนี้ที่พระเอกของเราใส่นั่นแหละ เด็กใส่แว่นหัวฟูดูเนิร์ด ๆ ที่ไม่น่าจะเต้นเป็น แต่ออกสเต็ปอย่างพริ้วไปกับเพลงดิสโก้/บูกี้ในงานโชว์ความสามารถพิเศษของโรงเรียน ความเท้าไฟใคร ๆ คาดไม่ถึงทำให้เราถึงกับยิ้มออกมา นี่อาจจะเป็นหนึ่งในต้นตำรับการเต้นหน้าเด๊ดเรื่องแรก ๆ เลยก็ได้

Little Miss Sunshine (2006)

หนังครอบครัวลูสเซอร์รวมใจที่ทุกคนน่ารักน่าเอ็นดูจนเราต้องเอาใจช่วยในทุก ๆ ฉาก แล้วฉากนี้ก็เป็นตอนที่น้องเล็กของบ้านอย่าง Olive ต้องมาประกวดนางงามเด็กรายการ Little Miss Sunshine ที่เธอก็ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเองผ่านการเต้นน่ารัก ๆ ถึงแม้จะไม่ได้รางวัล แต่ความสดใสของเธอและครอบครัวก็เป็นที่หนึ่งในใจเราเสมอ

(500) Days of Summer (2009)

ยังไง้ยังไงก็ต้องมีฉากนี้ จากหนังที่ไม่ใช่หนังรัก แต่เป็นหนังที่เกี่ยวกับชายหนุ่มและหญิงสาว ที่แฟน ๆ ถึงกับแบ่งฝั่งเชียร์ตาทอมฝั่งนึง ยายซัมเมอร์ฝั่งนึง แต่เป็นหนังที่ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ขึ้นทุกครั้งที่ได้ดูและอยู่ในใจเรามาตลอด ซึ่งฉากนี้ก็เหมือนเป็นการถ่ายทอดความฟินหลังจากที่ได้นอนกับสาวในฝันให้เป็นรูปธรรม ว่ามันคงจะแฮปปี้ดี๊ด๊าอะไรประหนึ่งฉากในหนังมิวสิคัลแบบนี้แหละนะ

Silver Linings Playbook (2012)

หนังของคนประสาทแดก เมื่อคนหนึ่งอยากทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างในชีวิต โดยเลือกที่จะลุกขึ้นมาเต้น ก็ชวนกันซ้อมและไปประกวดเต้นจริงจัง และถึงแม้การเต้นของพวกเขาจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็มีลูกบ้าที่อยู่ดี ๆ เพลงเนิบ ๆ ก็กลายเป็นร็อกสุดเหวี่ยง แต่ก็มีโชว์สเต็ปแจ๊สแดนซ์ดี ๆ กับเขาเหมือนกัน คือไม่ใช่แค่กรรมการงง คนดูก็งง แต่ทำให้เรารักตัวละครสองตัวนี้ไปเลย

The Perks of Being a Wall Flower (2012)

นี่เป็นหนึ่งในฉากที่มีชีวิตชีวาที่สุดที่เราเคยดูมา การแท็กทีมเต้นระหว่าง Emma Watson และ Ezra Miller ที่ฟอร์มทีมรั่วอย่างเมามันในงาน home coming ของโรงเรียน และทำให้ Logan Lerman ที่ลอบมองเขิน ๆ อยู่ที่มุมห้องทั้งที่ก็อยากมาเต้นด้วย โดยต้องรวบรวมความกล้าเพื่อเดินออกมา และในที่สุดเขาก็ได้สนุกกับเพื่อน ๆ แบบเป็นตัวเองสุด ๆ และเพลง Come On Eileen ก็กลายเป็นเพลงโปรดของหลายคนหลังดูหนังเรื่องนี้จบ

Moonrise Kingdom (2012)

Wes Anderson เจ้าพ่อหนังที่เป็นผู้นำเทรนด์สีพาสเทลและการตั้งกล้องกลางเฟรม พ่วงด้วยองค์ประกอบน่ารัก ๆ เต็มไปหมด ในภาพยนตร์ coming of age เด็กดื้อของเขาก็ได้อิทธิพลแฟชันและดนตรียุค 60s มาอย่างรุนแรง มีฉากเต้นเพลงของ Francoise Hardy ริมทะเลน่ารักจนเป็นภาพจำหนึ่งของหนังไปเลย

La La Land (2016)

หนังที่ทำให้ดนตรีแจ๊สและภาพยนตร์มิวสิคัลกลับมามีชีวิตในรูปแบบที่ร่วมสมัยมากขึ้น ในฉากนี้เราได้ดู Emma Stone และ Ryan Gosling ได้โชว์สเต็ปเต้น long take สไตล์พ่อแง่แม่งอนที่น่ารักมาก ๆ ได้มาย้อนดูอีกกี่ทีก็ขนลุก คือเป็นซีนที่สวยด้วย และมันทำให้เราพาลนึกไปถึงตอนจบของเรื่องทุกที ฮือ

ยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่มีฉากเต้นในตำนานและกลายมาเป็นบทเรียนในวิชาภาพยนตร์ของหลาย ๆ มหาลัยด้วยทั้ง ‘Singing in the Rain’, ‘Footloose’, ‘Rocky Horror Picture Show’, ‘Hairspray’ (ก็เป็น John Travolta แสดงนำอีกนั่นแหละ) ซึ่งหลาย ๆ เรื่องในนี้ที่มีฉากเต้นก็เป็นเพราะบริบทของยุคสมัยที่ยังนิยมทำภาพยนตร์เป็นมิวสิคัล (หรือมาจากละครเวทีมิวสิคัล) หรือมีดนตรีแจ๊สที่เป็นดนตรีกระแสหลักในยุคนั้น ๆ บางเรื่องแม้จะไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใส่ฉากเต้นเข้ามาก็ทำให้ดูเพลินดีเหมือนกัน งั้นเราจะขอแถมอีกสองเรื่องที่เป็นดนตรีแนวอื่น ๆ แต่ก็มีฉากเต้นที่ไม่แพ้กันไว้ด้วย อย่างซีนฮิปฮอปโอลสคูลอย่าง ‘The Get Down’ ซึ่งเป็นผลงานของ Baz Lurhman ผู้กำกับที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวิงสวายใน art direction และดึงเอาความร่วมสมัยมาใส่ในความย้อนยุคอย่าง  (‘Moulin Rouge’, ‘Romeo+Juliet’, ‘The Great Gatsby’)

หรือเรื่องล่าสุดอย่าง ‘The Umbrella Academy’ ที่อยู่ดี ๆ ก็จับฉากเต้นเข้ามาใส่แบบดื้อ ๆ เหมือนว่าพี่น้อง Hargreeves กำลังอยู่ในความเศร้าหมอง พอสักคนลองเปิดเพลงที่พวกเขาชอบตอนเด็ก ๆ ขึ้นมาก็พากันเต้นโดยอัตโนมัติ

• Twitter
• Line