ไม่เอาอีกแล้ว Jingle Bell! รวมเพลงคริสต์มาสที่ไม่ได้เปิดตามห้างจนหลอนหู
- Writer: Montipa Virojpan
เมื่อปีที่แล้ว Fungjaizine เคยนำเสนอการศึกษาที่ว่า ‘เพลงคริสต์มาสที่เปิดตามห้างอาจทำร้ายสุขภาพจิตได้‘ เราเลยคัดเพลงประจำเทศกาลสำหรับคนที่อยาก festive แต่ไม่อยากเสียสุขภาพจิตกับ Jingle Bell มาเปิดล้างหูหลังกลับจากห้างกันนาจา
The Killers – Don’t Shoot Me Santa
“Oh Santa, I’ve been killing just for fun”
“Well the party’s over kid, because… Because I got a bullet in my gun.”
“A bullet in your what?”
เริ่มกันที่เพลงจากวงอัลเทอร์เนทิฟร็อกในดวงใจที่เพิ่งมาเล่นที่บ้านเรา เหมือนเป็นของขวัญประจำปี 2018 เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า The Killers จะมาเล่นที่นี่จริง ๆ ฮือ อันที่จริงแล้วพวกเขาทำ EP เพลงคริสต์มาส (Red) Christmas ที่รวมซิงเกิ้ลตั้งแต่ปี 2006 จนถึง 2011 ของวง โดยรายได้จะนำไปสนับสนุนโครงการ (PRODUCT)RED™ ของ Bono วง U2 ด้วย แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมันมือกับการทำเพลงเพลงคริสต์มาส เลยสามารถทำออกมาเป็นอัลบั้ม Don’t Waste Your Wishes รวม 11 เพลงจนถึงปี 2016 กันเลย
แต่ที่ต้องเลือกเพลง Don’t Shoot Me Santa มาเข้าทำเนียบนี้เพราะเป็นเพลงที่เขียนออกมาได้เซอร์ไพรส์เราในหลาย ๆ จุด ทั้งอินโทรที่เป็นสโลวร็อก ท่อนร้องสลับพูดเหมือนกำลังเล่น role play กับเนื้อเพลงที่ออกมาดาร์กเกินกว่าความเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนพากันเฉลิมฉลอง ซึ่งอันที่จริงสำหรับบางคนที่รู้สึกว่าช่วงชีวิตตลอดปีที่ผ่านมาไม่ได้ดีเท่าไหร่ ดังนั้นของขวัญที่อยากจะได้รับในวัน Christmas Eve ก็ไม่ต้องการอะไรมาก แค่อย่าให้ชีวิตเลวร้ายลงไปกว่านี้ แล้วพอเข้าฮุกก็กลับสู่จุดอันคุ้นชินเพราะมีความ The Killers มาก ทั้งเมโลดี้ ซาวด์ดนตรี เสียงร้องของพี่แบรนดอน ครบทุกองค์ประกอบของวง ก่อนจะกลับไปเป็นสโลวร็อกช้ำในชีวิตกันอีกรอบ ฟังแล้วตอกย้ำความต๊อแต๊ แต่ mv กวนและน่ารักมาก ลองไปดูกัน ฟีลลิ่งแบบ อยากให้มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตบ้าง โดนโชคชะตาเล่นตลกมาจนสะบักสะบอมไปหม๊ดแหล่ว ปรานีกันอีกหน่อยได้บ่ซานต้าาาา
อันที่จริงเพลงนี้ก็ทำให้นึกไปถึง The Smiths – Please Please Please Let Me Get What I Want ที่คอนเซ็ปต์คล้าย ๆ กัน อาจจะไม่ได้บ่งบอกความ festive มากนัก แต่เนื้อเพลงก็มีความอ้อนวอนต่อโชคชะตา แล้วก็มีการระบุเวลาที่ดูจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง คิดว่าก็เป็นเพลงที่เหมาะอยู่เหมือนกัน /แต่อันที่จริงช่วงที่ชีวิตต๊อแต๊มันเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอให้ถึงเทศกาลก็ได้ฤกษ์หยิบมาฟังกล่อมตัวเองอยู่บ่อย ๆ
Mew – She Came Home For Christmas
Don’t touch her there. He watched her
She knew his look from behind
When she came home for Christmas
ซึมหนักกันต่อในเพลงของอีกวงคุณภาพ Mew จากเดนมาร์กที่เคยมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพ ฯ เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้เล่นเพลงนี้ แค่อยากให้คนที่เคยไปดูโชว์ลองจินตนาการตอนที่วงเล่นเพลงนี้แบบสด ๆ ก็จะสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจแล้ว ทั้งในท่อนโซโล่ที่มีการอิมโพรไวส์เสียงร้องบาดอารมณ์ ดนตรีร็อกหนักแน่นรุนแรงในช่วงท้ายยิ่งกรีดเข้าไปข้างใน เพลงนี้สามารถตีความได้หลายแบบอยู่เหมือนกัน จะมองว่าเป็นการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่จบไป เมื่อเขาและเธอได้หวนมาเจอกันอีกครั้ง คือตัวละครในเพลงอาจจะไม่ได้กลับมาในช่วงคริสต์มาสจริง ๆ แต่อาจเป็นการเปรียบเทียบว่า อย่างที่รู้กันคือคริสต์มาสมันคือเทศกาลแห่งความสุข การกลับมาของเธออาจจะเพื่อมาตามหาความสุขที่หล่นหายหลังจากที่คิดได้เมื่อทำร้ายคนที่เธอรักที่สุดไปแล้ว ขณะเดียวกับที่เขาก็ยังรักเธอเช่นกัน แต่เขากลับจำความรู้สึกที่ถูกทำลายได้อย่างแม่นยำกว่าที่จะยอมให้เธอกลับมา แต่ในเว็บไซต์ Songmeanings มีคนเข้ามาแสดงความเห็นว่าเพลงนี้เกี่ยวกับการถูกข่มขืน! พอลองอ่านเนื้อเพลงแล้วก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน ฮือ ใครคิดเห็นว่ายังไงก็มาแชร์กันได้
No Doubt – Oi to the World
If God came down on Christmas Day
I know exactly what He’d say
He’d say “Oi to the punks and Oi to the skins —
But Oi to the world and everybody wins!”
ถ้าจะไม่รู้ ก่อนที่แม่ Gwen Stefani จะมาเป็นป๊อปดีว่าก๋ากั่น เมื่อก่อนนางเป็นฟรอนต์วูแมนของวงสกาพังก์ชื่อ No Doubt และมีเพลงเท่ ๆ ที่หลายคนน่าจะร้องตามได้ออกมาเยอะมาก ส่วนเพลงนี้รวมอยู่ใน compilation album A Very Special Christmas 3 เมื่อปี 1997 ความพีคคือมีวงอย่าง The Smashing Pumpkins, Chris Cornell, Mary J. Blige, Enya, Tracy Chapman, Patti Smith, Sheryl Crow และ Sting ร่วมออกเพลงในอัลบั้มนี้ด้วย คืองานของแต่ละคนดูไม่น่าจะมาอยู่ในงานชุดเดียวกันได้ แต่นี่คือการหยิบเมโลดี้เพลง Joy to the World มาทอน รีอะเรนจ์เป็นเพลงเท่ ๆ ดึงความเป็นสกาพังก์ออกมาได้ครบถ้วน เสียงทรัมเป็ต กลองหวดเดือด ๆ เสียงเบสยก ๆ กีตาร์ที่สตรัมแบบ skank ผนวกเข้าไปด้วยองค์ประกอบของคริสต์มาส เสียงกระพรวนลากเลื่อน ฟังดูน่าสนุกใช่ไหม แต่สนุกกว่านี้ไปอีกด้วยการที่เนื้อหาเล่าเรื่องของเด็ก skins หรือแก๊งสกินเฮด แล้วพวกนี้มีชื่อเสียงเรื่องการทำเพลงสกาพังก์ ความรุนแรง (ถ้าอยากรู้จักพวกเขามากกว่านี้เข้าไปอ่านที่เราเคยเขียนถึงได้ ที่นี่) ในเพลงก็เลยเล่าฉากแก๊งสกินส์ยกพวกตีกัน เส้นทางลูกผู้ชายมาก แต่ตอนจบคือน่ารักอบอุ่น festive แบบตีกันจนพบกับความสูญเสีย ก็มาตระหนักได้ว่าไม่รู้จะตีกันไปทำไม พากันไปซื้อเหล้าเลี้ยงกันและกันในผับแทน เอ้อ สามัคคีคือพลังไปอี๊ก
The Voidz – I Wish It Was Christmas Today
All I know is that Santa Claus
Don’t care about breaking or applying laws
ใหม่ล่าสุด ที่สุดแล้วนาทีนี้ยิ่งกว่า แม็กซ์ สุรวิทย์ คริสต์มาสเวียนมาอีกทั้งที คนบ้าคนขยันแบบ Julian Casablancas แห่ง The Strokes ก็ไม่ยอมให้โอกาสนี้ผ่านเขาไป หลังจากในปี 2009 เขาเคยหยิบเพลงคริสต์มาสจากรายการ ‘Saturday Night Live’ ที่กลายมาเป็นเพลงคลาสสิกประจำเทศกาลของรายการไปทำในชื่อ Christmas Treat อยู่ในอัลบั้มเดี่ยว Phrazes for the Young ของเขาเป็นเวอร์ชันอัลเทอร์เนทิฟร็อกดีด ๆ มาแล้ว พี่แกคงติดใจมาก ๆ หยิบงานตัวเองมารีเมคอีกซักทีภายใต้โปรเจกต์ The Voidz กับดนตรีที่มีความเท่ปนหลอน เน้นบีตเคาะนุ่ม ๆ ให้เราผงกหัวตาม เสียง distortion ในท่อนฮุกและการร้องวนด้วยเสียงเมา ๆ ของ Casablancas ก็ทำเอาเราตกหลุมรักเพลงนี้ในเวอร์ชันนี้ด้วยเช่นกัน จริง ๆ เขาก็เคยทำอะไรแบบนี้มาแล้วรอบนึงกับเพลง I’ll Try Anything Once สู่ You Only Live Once นั่นแหละ
เวอร์ชัน 2009
Sonic Youth – Santa Doesn’t Cop Out On Dope
ในปี 1996 มีอัลบั้ม compilation วันคริสต์มาสชื่อ Just Say Noël รวมศิลปินจากค่าย Geffen Records ไว้ด้วยกันทั้ง Beck, The Roots รวมถึง Sonic Youth ซึ่งการที่วงนี้จะทำเพลงคริสต์มาสทั้งทีก็จะออกมาแบบธรรมดา ๆ ไม่ได้ จัดไปกับแทร็คสุดปั่น Santa Doesn’t Cop Out On Dope จริง ๆ แล้วเพลงนี้เป็นเวอร์ชันคัฟเวอร์งานใส ๆ ของ Martin Mull ในปี 1973 ที่บอกเด็ก ๆ ว่า ซานตาคลอสไม่ได้เป็นลุงแก่ติดยานะจ๊ะ คือไม่รู้ว่ายุคสมัยนั้นมีข่าวลืออะไรที่ปั่นกันว่าซานต้าไม่มีจริง หรือซานต้าเป็นพวกขี้ยาหรือเปล่า เลยต้องมีเพลงแบบนี้ออกมาสร้างความเข้าใจใหม่ ๆ แต่พอมาเป็นเวอร์ชันของ Sonic Youth ที่แน่นไปด้วยความ no wave, noise rock ซาวด์เพี้ยนพร่าหูหนักขนาดนี้เลยทำให้ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าอย่างไหนจริงอย่างไหนหลอกกันแน่ เป็นการแซวได้น่าหยิกเหลือเกิน
De La Soul – Millie Pulled a Pistol on Santa
Yeah, it seemed that Santa’s ways were parallel with Dillon
But when Millie and him got home, he was more of a villain
เมื่อ De La Soul ตีแผ่เรื่องราวการทารุณทางเพศของคนในครอบครัวผ่านชีวิตของตัวละครสมมติ มิลลี่ เด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูก ดิลลึน พ่อแท้ ๆ ขืนใจ เขาเป็นอาสาสมัครชุมชน เป็นคนที่เพื่อนบ้านชื่นชอบและให้ความไว้วางใจ เมื่อวันคริสต์มาสใกล้มาถึง ดิลลึนรับหน้าที่ไปเป็นซานตาคลอสใจดีให้กับเด็ก ๆ ที่ห้าง Macy’s จากการถูกกระทำทั้งทางร่างกายและจิตใจทำให้มิลลี่ขาดเรียนเป็นสัปดาห์ จนวันนึงเธอตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคนรู้จักให้หาปืนมาให้เธอใช้สังหารพ่อบังเกิดเกล้า แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าการที่ดิลลึนทำคุณงามความดีไว้ให้ชุมชนเขาก็ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น เมื่อไม่มีใครเชื่อเธอ มิลลี่จึงต้องจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง Millie Pulled a Pistol on Santa จึงเป็นเพลงคริสต์มาสโลกไม่สวยที่ทำให้ความฝันช่วงเทศกาลแห่งความสุขชื่นมื่นในครอบครัวกลายเป็นผุยผงไปในทันใด
The Ravionettes – The Christmas Song
Santa’s comin to town
With secrets in his hands
ไม่รู้ว่ายิ่งเสียสุขภาพจิตกันหรือเปล่า แจกแต่เพลงหดหู่ทั้งนั้น (รู้งี้กลับไปฟังเพลงที่เปิดตามห้างดีกว่าว้อย!) ดาร์กกันมาเยอะแล้ว ขอปิดท้ายด้วยแทร็คเท่ ๆ จังหวะกลาง ๆ แต่เนื้อหาสุดจะโรแมนติกจากคณะ The Ravionettes กับทำนองสุดติดหูที่โดดเด่นด้วยไลน์ลีดกีตาร์และ guitar picking ช่วงท่อนโซโล่ เพลงนี้เหมาะเหลือเกินที่จะเปิดฟังระหว่างเดินจับมือกับคนพิเศษ (หรือคนที่แอบชอบ เนื้อเพลงดูจะกระซิบบอกเราแบบนั้น) ดูไฟที่ประดับประดาตามถนนและต้นคริสต์มาสในเมือง น่าเสียดายที่ฤดูหนาวในบ้านเราปีนี้มอบความเย็นได้ไม่สะใจพอที่จะฟินกับเพลงนี้ได้ถึงที่สุด แต่ถ้าได้มีโมเมนต์แบบนั้นจริง ๆ ก็คงจะอบอุ่นใจอยู่ดี เป็นความรู้สึกที่พอได้เดินด้วยกันแล้วก็ไม่อยากจะรีบแยกกันแบบที่ในเพลงเขาว่าเลย