เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงประพันธ์ทำนองโดยยืนพื้นจากดนตรีแจ๊ส ครบทุกเพลง เนื้อเพลง

Quick Read Snacks

48 เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

  • Writer: Montipa Virojpan

เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทุกเพลงพระราชนิพนธ์นี้เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ทรงประพันธ์ทำนองโดยยืนพื้นจากดนตรีแจ๊ส จากนั้นจึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระวโรกาสให้พระสหายหรือนักแต่งเพลงคู่บุญหลายท่านได้ร่วมสร้างสรรค์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งมี เพลงพระราชนิพนธ์  จำนวนหนึ่งที่พระองค์ทรงประพันธ์ทั้งคำร้องและทำนองด้วยพระองค์เอง

1. แสงเทียน หรือ Candle Light Blue

“ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่”

เพลงบลูส์พระราชนิพนธ์ เพลงแรกครั้งเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ที่ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย แต่ยังไม่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้เผยแพร่ในเวลานั้นเพราะจะทรงแก้ไขทำนอง และคอร์ดบางตอน จึงเผยแพร่ได้ในเวลาต่อมา โดยได้รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ

2. ยามเย็น หรือ Love at Sundown

“แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์ เหมือนดังนภาไร้ทินกร”

แม้จะเป็น เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงที่สอง แต่ก็เป็นเพลงแรกที่แผยแพร่สู่ประชาชน เพลงในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อตที่ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาอังกฤษ แล้วพระราชทานให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน บรรเลงในงานของสมาคมปราบวัณโรค ที่ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2489

3. สายฝน หรือ Falling Rain

“เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว ต้นไม้พลิ้วลู่กิ่งใบ”

เพลงที่สามนี้ทรงทดลองในจังหวะวอลท์ซ นิพนธ์คำร้องไทยโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ และยังทรงแต่งเนื้อภาษาอังกฤษร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีรับสั่งถึงความลับของเพลงนี้ว่า “…เมื่อแต่งเป็นเวลา 6 เดือน ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้เขียนจดหมายถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไปเข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง ก็เห็นคนกำลังซักผ้าแล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝนและก็ซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด…ที่จริงความลับของเพลงมีอย่างหนึ่ง คือเขียนไป 4 ช่วง แล้วก็ช่วงที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เสร็จแล้วเอาช่วงที่ 3 มาแลกช่วงที่ 2 กลับไป ทำให้เพลงมีลีลาต่างกันไป…เป็น 1 3 2 4…”

4. ใกล้รุ่ง หรือ Near Dawn

“ใกล้ยามเมื่อแสงทองส่อง ฉันคอยมองจ้องฟ้าเรืองรำไร”

เพลงที่สี่ที่ได้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร มาประพันธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ประพันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษเช่นเคย โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลงครั้งแรกในวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ในปี 2489

5. ชะตาชีวิต หรือ H.M.Blues

“We’ve got the Hungry Men’s Blues. You’ll be hungry too, if you’re in this band.”

เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์หลังเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ และได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงพระนิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ

สำหรับเพลงนี้มีคนพยายามจะทายว่า H.M. ในชื่อเพลง แปลว่าอะไร ส่วนใหญ่จะคิดว่าย่อมาจาก His Majesty ‘s Blues ที่แปลว่าเพลงบลูส์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่จริง ๆ แล้ว H.M.Blues คือ Hungry Men’s Blues คือเพลงบลูส์ของผู้หิวโหยต่างหาก

ส่วนคำร้องภาษาไทย ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์ต่างจากความหมายดั้งเดิมเพราะต้นฉบับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และคำร้องภาษาฝรั่งเศส น.ส.เปรมิกา สุจริตกุล เป็นการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกที โดยใช้ชื่อเพลงว่า Pauvre Destin

6. ดวงใจกับความรัก หรือ Never Mind The Hungry Men’s Blues

“เปรียบดวงดาวและดวงเดือน ก็เหมือนแม้แววมโนรมย์ เปล่งแววไปเปลี่ยนใจชม ด้วยจินตนาอารมณ์นานาประการ”

ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยพระราชทานชื่อภาษาอังกฤษเป็นการตอบปริศนาคำทายที่ว่า H.M. แปลว่าอะไร ของเพลง H.M. Blues ส่วนคำร้องภาษาฝรั่งเศส ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ น.ส.เปรมิกา สุจริตกุล แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาฝรั่งเศส โดยใช้ชื่อเพลงว่า Soleil d’Amour

7. มาร์ชราชวัลลภ หรือ Royal Guards March 

“เราทหารราชวัลลภ รักษาองค์พระมหากษัตริย์สูงส่ง”

พระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม โดยมีพันตรี ศรีโพธิ์ ทศนุต แต่งคำร้องภาษาไทย แต่ต้องขอพระราชทานทำนองเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับคำร้องที่มีห้องเพลงยาวกว่าเดิม ซึ่งก็ได้พระเจนดุริยางค์มาช่วยตรวจทาน

8. อาทิตย์อับแสง หรือ Blue Day และ

“เคยชม ร่วมภิรมย์ใจ ด้วยความรักจริงยิ่งใหญ่ รักพันหัวใจเรามั่น”

9. เทวาพาคู่ฝัน หรือ Dream of Love Dream of You

“In Wonderland of love with you. The rainbow gleams and roses bloom.”

ทรงพระราชนิพนธ์ขณะประทับแรมบนภูเขาในเมืองดาโวส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

ในงานเลี้ยง ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2492 หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ทรงขับร้อง เพลงพระราชนิพนธ์ Blue Day และ Dream of Love Dream of You หลังพระกระยาหารค่ำ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพระธำมรงค์หมั้นในวันนั้น

10. คำหวาน หรือ Sweet Words

“ชื่นอารมณ์สมปอง แว่วเพลงร้องคมคำ พลอดความรักเพ้อพร่ำ ด้วยถ้อยคำงามสม”

เพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในระยะแรกที่เสด็จพระราชดำเนินนิวัติพระนครทีได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ มานิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย เป็นเพลงจังหวะเร็วกว่า เพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับก่อน ๆ โดยมีความพิเศษในเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่มี verse 20 ห้อง แล้วนำเข้าสู่ท่อน refrain ที่มีเฉพาะในเพลงนี้เท่านั้น

11. มหาจุฬาลงกรณ์

“นิสิตพร้อมหน้า สัญญาประคอง ความดีทุกอย่างต่างปอง ผยองพระเกียรติเกริกไกร”

เพลงประจำสถาบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา และ สุภร ผลชีวิน เป็นผู้ประพันธ์เนื้อเพลง เป็นเพลงแรกที่ใช้ทำนองแบบ pentatonic scale ต่อมา นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล นำทำนองเพลง มหาจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีทำนองเพลงสากลมาปรับปรุงให้มีทำนองไทยเดิมเพื่อใช้สำหรับเป็นเพลงโหมโรงก่อนการบรรเลงดนตรีไทย และบรรเลงถวายด้วยวงปี่พาทย์สองครั้ง นับเป็นเพลงไทยเพลงแรกที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากเพลงไทยสากล ต่อมา เมื่อนายเทวาประสิทธิ์ไปสอนดนตรีไทยให้แก่ชมรมดนตรีของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้นำ “เพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์” มาสอนนิสิตชมรมดนตรีไทย และใช้เป็นเพลงโหมโรงในการบรรเลงดนตรีไทยของชมรม ฯ ตลอดมา

12. แก้วตาขวัญใจ

“If you love me as much as I love you, The whole world, dear, will be so fair”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระองค์ทรงนำเสียงหลายระดับในสเกลที่ต่างกันมาจัดวางได้อย่างไพเราะ และยังท้าทายผู้ร้องพอสมควร คือต้องเป็นคนหูไม่เพี้ยนเพราะมีการใช้ครึ่งเสียงอยู่หลายจุดในเพลงและต้องอาศัยความแม่นยำในการจำท่อนคำต่าง ๆ ด้วยโดยเพลงนี้ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

13. พรปีใหม่

“ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย”

ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเสด็จนิวัตพระนครและประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรด้วยบทเพลง และได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานวงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ปี 2495

14. รักคืนเรือน หรือ Love Over Again

“สายลมแปรปรวนไปได้ ใฝ่พัดมาฝ่าพัดไป เปลี่ยนเหมือนใจคนเรา”

 

ประพันธ์คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2495

15. ยามค่ำ หรือ Twilights 

“When the day is blending with the night, life is so serene, a dusky screen covers the world.”

เพลง standard jazz นี้ยังคงได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วได้พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสราญรมย์ ปี 2495 เป็นเพลงที่เปลี่ยนคอร์ดและไล่โน้ตได้อย่างสง่างาม และอบอุ่น

16. ยิ้มสู้ หรือ Smiles

“ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้”

เพลงนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระประสงค์ที่จะให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทยเพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจคนตาบอด โดยพระราชทานให้บรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอดในพระบรมชูปถัมภ์ ปี 2495 ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นำบทกลอนชื่อ Smiles ในหนังสือ Bed Time Stories มาแปล และเรียบเรียงใหม่

17. มาร์ชธงไชยเฉลิมพล หรือ The Colours March

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานแก่กองทัพไทย เพื่อใช้ในการเชิญธงไชยเฉลิมพลในพิธีการของกองทัพ

18. เมื่อโสมส่อง หรือ I Never Dream

“My life was like an endless journey night and day, like travelling through the night without the moon above”

เพลงนี้ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้บรรเลงในงานรื่นเริงประจำปี ของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมื่อปี 2497 ต่อมาจึงได้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทย

19. ลมหนาว หรือ Love in Spring

“อันความรักมักจะพาใจฝัน เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง”

 

พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เป็นผู้นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้บรรเลงครั้งแรกในงานประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ในปี 2497 ต่อมา ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยาแต่งคำร้องภาษาไทย

20. ศุกร์สัญลักษณ์ หรือ Friday Night Rag

“Friday night rag rag rag rag getty rag. One, two, three, four-miss a beat, One, two, three, four-play it neat”

ทรงพระราชนิพนธ์ใน 2497 เพื่อเป็นเพลงประจำวงลายคราม วงดนตรีแจ๊สส่วนพระองค์ ที่ทรงตั้งขึ้นหลังจากเสด็จนิวัตประเทศไทย บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. (อัมพรสถาน) โดยคำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษประพันธ์โดยหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช

21. Oh I Say

“Oh let me say, Just to say, What I’ll say”

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ บรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ ในปี 2498

22. Can’t You Ever See

“Life is meaningless. I’d never find my happiness, Without you I would die”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เป็นผู้นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ บรรเลงครั้งแรกในงานรื่นเริงประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ในปี 2498

23. Lay Kram Goes Dixie

เพลงพระราชทานแก่ วงลายคราม ซึ่งเป็นวงดนตรีแจ๊สส่วนพระองค์ บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส.

24. ค่ำแล้ว หรือ Lullaby

“Evening’s nigh, soon the moon will sail across the sky. Time goes by, tiny stars will glimmer up on high”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอิเล็กโทนเพลง Lullaby ขณะที่อ้อมพระกรข้างหนึ่งอุ้มสมเด็จพระเทพ ฯ อยู่ จนสมเด็จพระเทพ ฯ ทรงหลับไป ซึ่งเพลงนี้ก็ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษร่วมกับ ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา โดยมีท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

25. สายลม หรือ I Think Of You

“โอ้ลมหนอลมพัดคืนวัน โบกโบยเพียงไหนกันพัดจนไม่รู้วันสงบเอย”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย บรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2500

26. ไกลกังวล หรือ When หรือ เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย

“อยู่ไกลกังวลชนม์ชื่นฉ่ำ หาดทรายและน้ำนำไกลเศร้า”

 

เพลงนี้ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขณะประทับอยู่ที่วังไกลกังวล เพื่อพระราชทานให้เป็นเพลงประจำวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ได้ใช้บรรเลงเป็นเพลงสุดท้ายก่อนเลิกเล่นดนตรี บรรเลงครั้งแรกในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2500 นายวิชัย โกกิลกนิษฐเป็นผู้ประพันธ์คำร้องภาษาไทย ต่อมาจึงให้ Rual Maglapus อดีตสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ จนปี 2514 สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แต่งคำร้องภาษาไทยในเพลงชื่อ เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย เพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักและหวงแหนแผ่นดินไทยจากสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่น่าไว้วางใจ

27. แสงเดือน หรือ Magic Beams

“ชมแล้วชมเล่า เฝ้าชะแง้แลดู เพลินพิศเพลินอยู่ ไม่รู้ลืมเลือน”

 

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย และได้อัญเชิญไปประกอบการแสดงบัลเล่ต์ในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2501 ต่อมาได้นำออกบรรเลงในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ในปีเดียวกัน

28. ฝัน หรือ Somewhere Somehow หรือ เพลินภูพิงค์

“Somewhere within the lonely wide world. There must be a place that’s cozy, my little world.”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และนายศรีศักดิ์ พิจิตรวรการ ประพันธ์คำร้องเพลง ฝัน บรรเลงครั้งแรกในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาและสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2502 จนเมื่อปี 2509 เมื่อสมเด็จ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถเริ่มเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ทรงประทับพระราชหฤทัยในความงามของภูมิทัศน์ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานทำนองเพลงนี้ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แต่งคำร้อง เพลินภูพิงค์ ขึ้น

29. มาร์ชราชนาวิกโยธิน หรือ Royal Marines March

“รบรันฟันฟาดไม่ขลาดหวั่นไหว มีศึกมาใกล้ไม่หวั่นครั่นคร้ามริปู”

พล.ร.ต.สนอง นิสาลักษณ์ ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธินในขณะนั้น ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานเพลงประจำกรมนาวิกโยธิน ซึ่งได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทาน ประพันธ์คำร้องโดย พลเรือโทจตุรงค์ พันธุ์คงชื่น และ พลเรือโทสุมิตร ชื่นมนุษย์ และบรรเลงครั้งแรกในปี 2502 โดยวงดนตรีประจำกองเรือที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา ในโอกาสที่นาวิกโยธินอเมริกัน ประจำกองเรือที่ 7 ของสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนประเทศไทย

30. ภิรมย์รัก หรือ A Love Story

“With your love song, you taught me, dear. How to live, to feel, to see, to hear.”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแยกและเรียบเรียงเสียงประสานด้วยพระองค์เอง โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ A Love Story และพลเรือตรี ปรีชา ดิษยนันทน์ ประพันธ์คำร้อง ภาษาไทย ภิรมย์รัก โดย A Love Story เป็นส่วนหนึ่งของ เพลงพระราชนิพนธ์ ชุด กินรี หรือ Kinari Suite ที่ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ ประกอบการแสดงระบำบัลเล่ต์ชุด มโนห์รา มีวงดนตรีสุนทราภรณ์บรรเลงประกอบการแสดง ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร โดยทรงควบคุมการฝึกซ้อมด้วยพระองค์เอง

เพลงพระราชนิพนธ์ ชุดนี้ประกอบด้วย A Love Story, Nature Waltz, The Hunter และ Kinari Waltz

34. แผ่นดินของเรา หรือ Alexandra

“ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี”

ทรงพระราชนิพนธ์โอกาสที่เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเคนท์ สหราชอาณาจักรเสด็จเยือนประเทศไทยในปี ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปรับด้วยพระองค์เองที่สนามบินดอนเมือง พระองค์ทรงประพันธ์ทำนองเพลงระหว่างที่รอเครื่องบินลงจอดภายในเวลาไม่กี่นาที จากนั้นก็ทรงส่งโน้ตให้หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ประพันธ์เนื้อร้องให้ทันที และออกบรรเลงครั้งแรก ณ ศาลาผกาภิรมย์ สวนจิตรลดา ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถมีพระราชดำริว่าน่าจะใส่คำร้องภาษาไทยได้ จึงให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ประพันธ์คำร้องภาษาไทย แผ่นดินของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพิจารณาเห็นว่า เพลง Alexandra นี้มีเพียง 16 ห้องเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพิ่มเติมจนครบ 32 ห้องเพลง

35. พระมหามงคล

เพลงที่ผสมผสานสามจังหวะดนตรีทั้งฟอกซ์ทร็อต แท็งโก้ และแมมโบ้นี้ ทรงพระราชนิพนธ์ในปี 2502 พระราชทานแก่นายเอื้อ สุนทรสนาน ให้เป็นเพลงประจำวงสุนทราภรณ์เนื่องในวาระครบ 20 ปี นายเอื้อ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้งชื่อเพลงว่า พระมหามงคล และได้อัญเชิญมาบรรเลงนำประจำวงสุนทราภรณ์มาจนทุกวันนี้

36. ยูงทอง

“ทรงธรรมปานดังตราชูเด่น ทรงเป็นดวงธรรมนำทางให้”

เพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่แต่เดิมเป็นเพลงทำนองมอญดูดาว ที่ประพันธ์โดยขุนวิจิตรมาตรา จนปี 2504 นักศึกษากลุ่มหนึ่งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระองค์รับสั่งว่าจะทรงพระราชนิพนธ์เพลงประจำมหาวิทยาลัยพระราชทานให้แก่นักศึกษาธรรมศาสตร์ และทรงบรรเลงทำนองเพลงที่จะพระราชทานให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย โดยนายจำนงราชกิจประพันธ์เนื้อร้องขึ้นตามที่หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ร่างไว้ ซึ่งชื่อ ยูงทอง มาจากหางนกยูงฝรั่งที่พระองค์ทรงปลูกไว้ห้าต้นที่หน้าหอประชุมใหญ่ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

37. ในดวงใจนิรันดร์ หรือ Still on My Mind

“When night’s curtain starts to fall and light fades away, my thoughts fly back to that day, you were so near.”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองเป็นเพลงแรก ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

38. เตือนใจ หรือ Old-Fashioned Melody

“Now there’s no word that can say, I can’t tell you in anyway. Let me tell you with this Old-fashioned melody.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษในปี 2508 แล้วจึงให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

39. ไร้เดือน หรือ ไร้จันทร์ หรือ No Moon

“What do I care’ bout moonlight, I have your smile, love, that’s shining just as bright.”

อีกเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย ไร้จันทร์ ส่วน ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทยชื่อ ไร้เดือน

40. เกาะในฝัน หรือ Dream Island

“Like old time, we’d listen to the sea which is like music leading to ecstasy.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

41. แว่ว หรือ Echo

“Soft lights – Gliding through empty space ‘yond cloudy skies, remind me of your dear face and lovelight in your eyes.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์คำร้องภาษาไทย บรรเลงเป็นครั้งแรกโดยวงสุนทราภรณ์ในงานสังคีตมงคล ครั้งที่ 1 ณ บริเวณพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในปี 2509

42. เกษตรศาสตร์

“เขียวนาป่าไพร แผ่นดินถิ่นไทย ไพบูลย์หนักหนา”

เพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นผู้ประพันธ์คำร้องกล่าวไว้ว่า ท่านใช้เวลาแต่งเพลง ใกล้รุ่ง เพียงชั่วโมงครึ่ง แต่เพลงเกษตรศาสตร์นั้น เวลาผ่านไปเกือบปีหนึ่งยังไม่สามารถขึ้นต้นได้ เพราะเป็น เพลงพระราชนิพนธ์, เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเนื้อเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ดีเยี่ยม ผู้เขียนกลัวว่าจะไม่สามารถประพันธ์ได้ไพเราะใกล้เคียงกับเพลงดังกล่าว จนมีพระราชดำรัสถามถึง ทำให้ผู้เขียนต้องรีบประพันธ์ขึ้นมาให้ได้ เพลงนี้บรรเลงครั้งแรกในวันทรงดนตรีร่วมกับ KU Band เมื่อปี 2509 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

43. ความฝันอันสูงสุด หรือ The Impossible Dream

“จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง”

ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ได้รับพระราชเสาวนีย์จาก สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ให้เขียนบทกลอนแสดงความนิยมส่งเสริมคนดีให้มีกำลังใจทำงาน เพื่ออุดมคติ เพื่อประเทศชาติ พระราชทานกลอนที่พิมพ์ใส่การ์ดใบเล็กแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน เตือนสติมิให้ท้อถอยในการทำความดี และกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่ทำนองเพลงในคำกลอน ความฝันอันสูงสุด

44. เราสู้

“บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า”

นายสมภพ จันทรประภา ได้ประพันธ์กลอนสุภาพ 4 บท จากพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เข้าเฝ้า ฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มาเขียนเป็นคำกลอนถวาย เมื่อทรงเกิดแรงบันดาลพระราชหฤทัยที่จะทรงพระราชนิพนธ์เพลง เราสู้ พระราชทานให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ทหาร อาสาสมัครและตำรวจชายแดน ทรงหยิบซองจดหมายใกล้พระหัตถ์มาตีบรรทัด 5 เส้น เพื่อทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง เสร็จแล้วพระราชทานให้ วง อ.ส.วันศุกร์ ซึ่งกำลังบรรเลงอยู่ในงานวันขึ้นปีใหม่ ปี 2517 นำออกบรรเลง ณ พระราชวังบางปะอิน และทรงแก้ไขอีกสองครั้งจนพอพระราชหฤทัย

45. เรา-เหล่าราบ 21 หรือ We-Infantry Regiment 21

“หลั่งเลือดโลมพสุธาปฏิญาณ แม้นภัยพาลรุกถิ่นแผ่นดินไทย”

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้ร้อยตำรวจโทวัลลภ จันทร์แสงศรี แต่งเนื้อเพลงให้แก่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือพระราชินี) แล้วนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงพระราชทาน

46. Blues for Uthit

ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่นายอุทิตต์ ทินกร ณ อยุธยา นักดนตรี วง อ.ส.วันศุกร์ ที่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2522 และได้พระราชทานให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. ในสี่วันให้หลัง

47. รัก

“รักดาราส่องแสงสุกสว่าง รักน้ำค้างอย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมดทั้งสิ้นที่ได้ยล รักนวลนางรักจนหมดสิ้นใจ”

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงสำหรับกลอนสุภาพ 3 บท ที่สมเด็จพระเทพ ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อพระชนมายุ 12 พรรษา และให้วง อ.ส. วันศุกร์ บรรเลงทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม 2537 ต่อมาให้นายแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ นำไปเรียบเรียงเสียงประสานเพื่อทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส.วันศุกร์ในงานพระราชทานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2538 ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง และแจกคำร้องเพลง รัก แก่แขกผู้ได้รับเชิญทุกโต๊ะไว้ล่วงหน้า และเชิญแขกชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปร้อง เพลงพระราชนิพนธ์ บนเวที โดยทรงบรรเลงดนตรีนำด้วยพระองค์เอง และออกอากาศทาง จ.ส.100 เมื่อต้นปี 2538

48. เมนูไข่

“เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน”

ทรงพระราชนิพนธ์เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพครบ 72 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ด้วยทรงรำลึกได้ว่า สมเด็จพระเชษฐภคินีโปรดเสวยพระกระยาหารที่ทำจากไข่ และทรงพบโคลงสี่ เมนูไข่ ที่สมเด็จพระเทพรัตน ฯ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ต่อมาพระราชทานให้พลเรือตรี หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช นำไปเรียบเรียงเสียงประสาน เพื่อให้วง อ.ส.วันศุกร์นำออกบรรเลงและขับร้องในงานพระราชทานเลี้ยงฉลองสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ ณ ศาลาดุสิตาลัย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2538

บทความอ้างอิง
https://web.ku.ac.th/king72/2530/
http://www.oknation.net/blog/coma/2011/07/15/entry-2

สามารถรับฟังเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบนฟังใจได้แล้ววันนี้

Facebook Comments

Next:


Sarun Pinyarat

ท้อป ศรัณย์ ภิญญรัตน์ เคย: เรียนออกแบบที่ไทยและฟินแลนด์ / ทำงานที่ Startup ใน Sillicon Valley ชอบ: ฟังเพลง / ดูหนัง / อ่าน / การเล่าเรื่อง / บูมบูม เป็น: ผู้ก่อตั้งฟังใจ / นักออกแบบ / คนคิด / คนเจรจา / คนลงมือทำ / นักเขียนจำเป็น