TuneCore เปิดตัวแผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัด ให้ศิลปินสร้างสรรค์เพลงได้อย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น
- Written by TuneCore
TuneCore เปิดตัวแผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดในราคาดีที่สุดให้กับศิลปินอิสระ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่แผนฟรีไปจนถึงแผนสำหรับค่ายเพลง โดยยังคงนำรายได้สูงสุดมาให้ศิลปินเช่นเดิม
กรุงเทพฯ/นิวยอร์ก, 7 มิถุนายน— วันนี้ TuneCore ผู้จัดจำหน่ายเพลงดิจิทัลแบบ DIY ชั้นนำของโลก ประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัวแผนปล่อยเพลงรายปีแบบไม่จำกัด ซึ่งในการนี้ Andreea Gleeson ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทเป็นผู้ออกมาประกาศด้วยตนเอง
นับตั้งแต่ TuneCore (บริษัทจัดจำหน่ายเพลงในเครือ Believe) ก่อตั้งขึ้น บริษัทได้พัฒนาระบบให้ศิลปินสามารถปล่อยเพลงด้วยตัวเองในราคารายเพลง/รายอัลบั้มที่ย่อมเยา และวันนี้ TuneCore เปิดตัวแผนปล่อยเพลงแบบใหม่ ซึ่งศิลปินสามารถปล่อยเพลงได้ไม่จำกัด ทำให้สร้างสรรค์เพลงได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือกตั้งแต่แผนแบบฟรี และสามารถอัพเกรดแผนปล่อยเพลงให้ตอบโจทย์กับการใช้งานได้ยิ่งขึ้นไป
Andreea Gleeson กล่าวว่า “เราใช้เวลา 1 ปีในการพูดคุยกับศิลปินและค่ายเพลง เพื่อปรับบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นไปอีก โดยเราพบว่าศิลปินต้องการบริการฟรีเพื่อทดสอบผลตอบรับของเพลงใหม่ๆ และต้องการปล่อยเพลงอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น แผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดของ TuneCore นี้ จึงเพิ่มความอิสระและตอบโจทย์ของศิลปิน โดยยังคงคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยม มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงอย่างมาก และศิลปินยังได้รับรายสูงสุดจากร้านเพลงเช่นเดิม”
สมวลี ลิมป์รัชตามร Country Director ของ Believe ประเทศไทย กล่าวว่า “Believe มุ่งสนับสนุนศิลปินในทุกย่างก้าวบนเส้นทางดนตรี และหัวใจของ TuneCore นั้นก็คือความเสมอภาคที่เปิดให้ศิลปินทุกคนสามารถกระจายเพลงไปสู่แฟนเพลงทั่วโลกจากที่ไหนก็ได้ และเมื่อไหร่ก็ได้ ด้วยแผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดนี้ ศิลปินจะสามารถนำเสนอผลงานเพลงได้ไม่จำกัด สร้างฐานแฟนเพลงที่กว้างขึ้น และค้นพบเส้นทางดนตรีของตัวเอง TuneCore จึงเป็นนิยามของการเป็นศิลปินอิสระอย่างแท้จริง และนอกจากนี้ การปล่อยเพลงผ่าน TuneCore ยังเป็นใบเบิกทางไปสู่เครือข่ายที่ครบวงจรของ Believe ซึ่งศิลปินจะได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดนตรีและได้รับบริการด้วยเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงเข้าถึงโอกาสบนเส้นทางดนตรีอีกมากมาย”
แผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดของ TuneCore มีให้เลือก 4 แบบดังนี้
- แผน New Artist – ฟรี ศิลปินสามารถปล่อยเพลงได้ไม่จำกัดไปยังคลังเพลงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube (รวมถึง Shorts, Content ID และ YouTube OAC) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และรับรายได้ 80%
- แผน Rising Artist – $14.99 ต่อปี เป็นแผนจัดจำหน่ายเพลงแบบไม่จำกัดที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในโลกอันหนึ่ง โดยรวมทุกบริการในแผน “New Artist” และปล่อยเพลงไปยังสตรีมมิ่งและร้านเพลงกว่า 150 ร้าน เช่น Spotify, Apple Music, JOOX, Deezer และ Tidal โดยที่นำส่งรายได้ให้กับศิลปิน 100% สามารถกำหนดปล่อยเพลงล่วงหน้า ยืนยันโปรไฟล์ทางการใน Spotify และ Apple Music และรับบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 72 ชั่วโมง
- แผน Breakout Artist – $29.99 ต่อปี รวมทุกอย่างในแผน “New Artist” และ “Rising Artist” และรวมการตั้ง Store Automator ซึ่งจะปล่อยเพลงโดยอัตโนมัติไปยังสตรีมมิ่งและร้านเพลงทั้งหมดในอนาคต อีกทั้งมีรายงานการขายที่ละเอียดขึ้น และบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 48 ชั่วโมง
- แผน Professional – $49.99 ต่อปี เหมาะสำหรับค่ายเพลง ผู้จัดการศิลปิน และศิลปินมืออาชีพ เป็นแผนที่รวมทุกบริการจากทั้ง 3 แผนที่กล่าวมา พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น รายงานยอดขายระดับพรีเมียม เครื่องมือช่วยออกแบบหน้าปกเพลง การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ และโอกาสในการโปรโมทเพลงที่เพิ่มขึ้น และแผนนี้ยังให้สิทธิ์ในการเพิ่มจำนวนศิลปิน ($14.99/ต่อปีสำหรับศิลปินที่เพิ่มมา) และบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 24 ชั่วโมง
ในการนี้ Cyrus Chen (Head of TuneCore SEA) เล่าว่า “เมื่อปลายปีที่แล้ว TuneCore เปิดให้ศิลปินสามารถปล่อยเพลงลงแพลตฟอร์มโซเชียลได้ฟรี และตอนนี้เรายังเปิดให้ศิลปินปล่อยเพลงรายปีได้ไม่จำกัดทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย! เรามุ่งมั่นที่จะนำความอิสระและโอกาสในการเข้าถึงเครื่องมือจัดจำหน่ายเพลงที่ดีที่สุดให้กับศิลปินอิสระและค่ายเพลง ซึ่งความตั้งใจของเรานั้นยังมาพร้อมกับรายได้ที่สูงกว่าและบริการคุณภาพ ศิลปินไทยจะได้ใช้แผนปล่อยเพลงในราคาดีที่สุด เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้ต่อเนื่องและไร้ขีดจำกัด”
ด้าน Anatomy Rabbit ศิลปินไทยที่ใช้ TuneCore ปล่อยเพลงมายาวนานก็เล่าว่า “ไลฟ์สไตล์การทำเพลงของเราบางครั้งอาจจะไม่ได้ตีกรอบหรือสร้างกฏเกณฑ์อะไรมากมาย พอมีเวลาเราจะนัดกันทำเพลงทันทีที่สตูฯ ในจังหวัดอุดรธานี และบ่อยครั้งที่เพลงเสร็จ เราก็คิดที่จะปล่อยเพลงกันทันทีเลย มันทำให้เรารู้สึกอิสระในการทำงาน และ TuneCore ก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ สำหรับเราในการทำงานแบบรวดเร็วและมีคุณภาพ”
นอกจากแผนการปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดนี้จะให้อิสระกับศิลปินในการสร้างผลงานเพลงและทดลองปล่อยเพลงในราคาที่ย่อมเยาแล้ว ในก้าวต่อไป ศิลปินยังสามารถเข้าถึงสิทธิ์การรับบริการที่เพิ่มขึ้นจาก Believe Label & Artist Solutions หรือเข้าร่วมโครงการ “Signed By” ของ Believe Artists Services ซึ่งได้ผลักดันศิลปิน TuneCore ให้เข้าถึงโอกาสระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมดนตรีแล้วกว่า 400 คนทั่วโลก
Andreea Gleeson กล่าวต่ออีกว่า “จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือ TuneCore ยังยึดมั่นในความสำคัญของศิลปินเหนือสิ่งอื่นใด และทุกครั้งที่เราปรับปรุงบริการของเรา เราจะคำนึงถึงความต้องการของศิลปินเป็นหลักก่อนเสมอ ในที่สุดแล้ว เราจะอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยให้ศิลปินทุกคนพัฒนาสร้างสรรค์ดนตรีได้สะดวกและมีคุณภาพยิ่งขึ้น และนำพาพวกเขาไปให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นจนถึงที่สุด”
เกี่ยวกับ TuneCore
TuneCore เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกสำหรับนักดนตรีอิสระในการสร้างฐานแฟนเพลงและเติบโตในเส้นทางศิลปิน – ด้วยเทคโนโลยีและบริการที่ครอบคลุมทั้งการจัดจำหน่าย การเผยแพร่เพลง และบริการส่งเสริมการขายต่างๆ บริการของ TuneCore Music Distribution ช่วยให้ศิลปิน ค่ายเพลง และผู้จัดการศิลปินขายเพลงผ่าน Spotify, Apple Music, Amazon Music, Deezer, TikTok, Tencent และร้านค้าดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งกว่า 150 แห่งทั่วโลก โดยที่ได้รับรายได้จากการขายและลิขสิทธิ์ทั้งหมด 100% โดยรวมอยู่ในค่าธรรมเนียมรายปีที่ค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ บริการ TuneCore Music Publishing Administration ยังช่วยเหลือนักแต่งเพลงในเรื่องการดูแลลิขสิทธิ์ การลงทะเบียน การรวบรวมค่าลิขสิทธิ์ทั่วโลก และโอกาสในการขายเพลงเพื่อใช้ในการประกอบภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณา วิดีโอเกม และอื่นๆ ส่วนพอร์ทัล TuneCore Artist Services มีชุดเครื่องมือและบริการที่ช่วยให้ศิลปินสามารถโปรโมตผลงานสร้างสรรค์ เชื่อมต่อกับแฟนเพลงและกระจายเพลงให้ผู้คนได้รับฟัง ซึ่งทั้งนี้ TuneCore เป็นส่วนหนึ่งของเครือ Believe และมีสำนักงานใหญ่ที่บรู๊คลินในนิวยอร์ก และมีสำนักงานอยู่ในลอสแองเจลิส แนชวิลล์ แอตแลนตา และออสติน โดยดำเนินงานทั่วโลกผ่านทีมงานท้องถิ่นในสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยียม อิตาลี รัสเซีย บราซิล เม็กซิโก ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และครอบคลุมถึง 5 ทวีป www.tunecore.com
เกี่ยวกับ Believe
Believe เป็นหนึ่งในบริษัทเพลงดิจิทัลชั้นนำของโลก ภารกิจของ Believe คือการพัฒนาศิลปินอิสระและค่ายเพลงในโลกดิจิทัลโดยการจัดหาโซลูชั่นที่จำเป็นในการเพิ่มจำนวนผู้ชมในแต่ละระดับชั้นของอาชีพและการพัฒนาสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีดิจิทัลของ Believe ทั่วโลกใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับโลกของกลุ่มเพื่อให้คำแนะนำแก่ศิลปินและค่ายเพลง จัดจำหน่ายและโปรโมตเพลงของพวกเขา พนักงาน 1,430 คนในกว่า 50 ประเทศมีเป้าหมายในการสนับสนุนศิลปินอิสระและค่ายเพลงด้วยความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ความเคารพ ความตรงไปตรงมา และความโปร่งใส โดย Believe นำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลายผ่านแบรนด์ต่างๆ เช่น TuneCore, Nuclear Blast, Naïve Groove Attack และ AllPoints Believe มีรายชื่ออยู่ในรายการ A ของตลาดควบคุมของ Euronext Paris (Ticker: BLV. ISIN: FR0014003FE9) www.believe.com