“ถ้าเราทำเพลงนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันคงจะออกมาเป็น หากโลกนี้ไม่มีความรัก ที่มีความเกรี้ยวกราด มองโลกกันแบบพุ่งพล่านและเต็มไปด้วยบาดแผล เพราะถ้าใครฟังเพลงของ Lomosonic มาตั้งแต่ตอนเราอายุ 20 ต้น ๆ จะเห็นว่าเรายังมองความรักที่ผิดหวังในแง่ลบอย่างเดียว”

แต่เพราะเพลงนี้เกิดขึ้นในวันที่สมาชิกทั้งสี่ของ Lomosonic บอย—อริย์ธัช พลตาล (ร้องนำ), ป้อม—ฉัตรชัย งามสิริมงคลชัย (กีตาร์), ปิติ สหพงศ์ (กีตาร์) และ ออตโต้—ชาญเดช จันทร์จำเริญ (กลอง) บอกว่า พวกเขาเติบโตขึ้นจนมีความเข้าใจเกี่ยวกับความรักมากกว่าแต่ก่อน หากโลกนี้ไม่มีความรัก ซึ่งเป็นเพลงล่าสุดที่ถูกเลือกมาทำ mv จากอัลบั้ม ANTI-GRAVITY อัลบั้มชุดที่ 3 ของพวกเขาจึงพูดถึงความรักใน 2 มุมมองที่ต่างขั้ว แม้ว่าความรักนั้นจะไม่ได้จบลงด้วยความสมหวังก็ตาม

โดยคนที่มาทำหน้าที่ถ่ายทอดอีกมุมมองของความรักในเพลงนี้ ทั้งในเรื่องการเขียนเนื้อเพลงและการร้อง ก็คือ ป๊อด ธนชัย อุชชิน ศิลปินที่วง Lomosonic โตมากับการฟังเพลงของเขาตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มเล่นดนตรีอย่างจริงจังเสียอีก

“Modern Dog เป็นวงที่เปิดโลกในการฟังเพลงให้เรา ถ้าฟังในรายละเอียดเพลงจะรู้เลยว่าเราทำเพลงนี้ในฐานะแฟนเพลง คือทำในฐานะที่รู้ว่าพี่ป๊อดทำอะไรได้แค่ไหน อย่างวิธีการร้องในเพลงนี้จะทำให้นึกถึงคาแร็กเตอร์การร้องของพี่ป๊อดในชุด เสริมสุขภาพ ที่เป็นชุดแรกของเขาเลย ส่วนเรื่องท่อนแร็ป มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างทะลึ่งตึงตังของพวกเราตั้งแต่เมื่อ 3-4 ปีก่อนตอนที่เริ่มทำเพลงนี้ว่า ถ้าให้พี่ป๊อดมาร้องแบบปกติ มันก็ธรรมดาไป”

การได้ ป๊อด ธนชัย มาเติมเต็มมุมมองของความรักที่มองความเสียใจด้วยสายตาของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนเข้าใจ จึงกลายเป็นบทสรุปของเพลงนี้ที่พูดเรื่องเดียวกันในแง่มุมที่ต่างกัน

นอกจากนี้ เพลง หากโลกนี้ไม่มีความรัก ยังเป็นครั้งแรกของ Lomosonic ในการทำเพลงร่วมกับศิลปินอื่นด้วย ซึ่งพวกเขาบอกว่าแม้ว่าการทำงานด้วยจะไม่ยากเท่าที่คิด แต่เบื้องหลังคือการทำการบ้านกันอย่างหนักของสมาชิกในวง เพื่อให้เกิดความกลมกล่อมในเนื้องาน

“การที่เราเชิญพี่ป๊อดมาร้องแร็ปไม่ใช่ว่าเรานึกสนุกอย่างเดียว แต่เราต้องดูกันก่อนว่าเคมีของคนที่จะมา featuring กันเป็นอย่างไร วัยวุฒิขนาดไหน พูดเรื่องอะไรได้ พูดเรื่องอะไรไม่ได้บ้าง เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะว่าถ้าเอาคนคนหนึ่งเข้ามาในชิ้นงานแล้วก็ควรจะต้องเท่ากันในความสำคัญ และชิ้นงานควรจะเต็มไปด้วยความให้เกียรติซึ่งกันและกัน และท้ายที่สุด งานมันควรจะออกมากลมกล่อมมาก ๆ ถ้าทำอย่างนั้นไม่ได้ เราก็ไม่อยากทำ” นั่นคือความรู้สึกของ Lomosonic เบื้องหลังการทำเพลงนี้

สำหรับชื่อภาษาอังกฤษของเพลงนี้ Lomosonic เลือกใช้ชื่อว่า Everyday Occurrence ด้วยเหตุผลว่า “เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน แม้แต่ ณ เวลาที่เราคุยกันหรือเวลาที่คุณอ่านบทความนี้อยู่ มันมีทั้งคนที่มีความสุข คนที่ร้องไห้ คนที่มีพลัง คนที่ผิดหวัง คนที่อยากมีชีวิตต่อ และคนที่อยากตาย ความรู้สึกและความรักมันเกิดขึ้นทุกวัน”

• Twitter
• Line