เล่นใหญ่กว่าเดิม! กลับมาแล้วกับเทศกาลดนตรียิ่งใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ Chang Music Connection Presents ‘เชียงใหญ่เฟส 2’
ส่งท้ายปลายปี แบบอิ่มหูครบทุกความประทับใจ จบลงไปอย่างสวยงามกับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ Chang Music Connection Presents ‘เชียงใหญ่เฟส 2’ ที่ขนเอาความสนุกสุดมันส์โดย ‘GMM SHOW’ หนึ่งในยูนิต จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่ร่วมมือกับ Zaap Party 2 วัน 2 คืนเต็ม เมื่อวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ที่ เดอะ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟ คลับ จ.เชียงใหม่ ด้วยผลตอบรับอย่างล้นหลามจากในปีแรกจากผู้เข้าชมงานจำนวนมากทำให้ปีนี้ทางผู้จัดได้ขยายงานเพิ่มเป็น 3 เวที เวทีดอยสเตจ (DOI STAGE) / เวทีคูลเมืองสเตจ (COOL MEUNG STAGE) / เวทีรถแดงสเตจ (ROD DANG STAGE) รองรับผู้เข้าร่วมงานให้มาร่วมเปิดประสบการณ์ความสนุกไปด้วยกัน งานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาดโรค โดยมีจุดตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน และมีการกั้นโซนแต่ละเวที
ต้อนรับคนที่มางานด้วย Mapping ประตูเมืองเชียงใหญ่ โดยได้ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง Brightside ศิลปินชาวเชียงใหม่มาออกแบบ ตกกลางคืนประตูเมืองเชียงใหญ่จะถูกฉาบแสงด้วยภาพเคลื่อนไหว ไลท์ติ้งอาร์ต 3 มิติ ให้ได้แวะมาถ่ายรูปสวย ๆ กลับไปกัน ภายในงานยังมีพื้นที่ กาดเชียงใหญ่ โซนของกินที่คัดแต่ร้านเด็ดร้านดังจากเชียงใหม่ มาปรุงกันสด ๆ เรียกว่างานนี้ไปกินของอร่อยเคล้าเสียงเพลงจากศิลปิน ไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มต้นความสนุกแบบยิ่งใหญ่ชนิดที่ครบทุกแนวดนตรีทั้ง Pop, Rock, Hip-hop, Indie, Folk ทุกศิลปินต่างขนเอาเพลงสุดฮิตมาร้อง มาเต้น มาสนุกกันทั้ง 3 เวที ให้ทุกคนได้เลือกไปมันส์ไปสนุกกับศิลปินที่ตัวเองรัก
มาถึง เวทีดอยสเตจ ที่รวมศิลปินตัวท็อปสุดจี๊ด ประกอบไปด้วย Somkiat, Mean, Getsunova, เป๊ก ผลิตโชค มาโชว์รัว ๆ ไปกันต่อแบบไม่หยุดพักกับ Klear, หนุ่ม กะลา, Big Ass ที่ทำเอาเหล่าแฟนเพลงร้องตามกันไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลงของตัวเอง หรือการขนเพลงฮิตในอดีตมา cover ใหม่ในรูปแบบของวงตัวเอง ปิดท้ายความเดือดด้วย Lomosonic ระเบิดเพลงฮิตให้โดดกันสุดมันส์ ความสนุกต่อเนื่องมาถึงวันอาทิตย์ เวทีดอยสเตจ เปิดตัวด้วย Atom, Polycat, Paradox, Cocktail, Palmy ออกมาส่งเพลงสนุกชวนเต้นทำเอาผู้ชมนั่งกันไม่อยู่กับที่ ลาบานูน ขนเพลงฮิตมาให้ทุกคนได้ฟัง ปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสนุกกับ Potato ทำให้เวทีนี้จบอย่างสมบูรณ์แบบ
ความน่าสนใจของ เวทีคูลเมืองสเตจ คือการเลือกวง indie mass ที่กำลังมาแรงได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นวันเสาร์ นำโดย Tilly Birds, Bowky Lion, Whal & Dolph, Three Man Down และ The Yers ที่ล้วนแต่ผีมือจัดจ้านและการแสดงสดที่เก่งฉกาจไม่แพ้วงรุ่นพี่จากเวทีดอยเสตจ ปิดท้ายด้วยวงเพื่อชีวิตเลือดใหม่ ไททศมิตร เพิ่มดีกรีความเดือดท่ามกลางอากาศเย็น ส่วนในวันอาทิตย์ เวที คูลเมืองสเตจ ก็แปลงร่างเป็นเวทีฮิปฮอป เปิดเวทีด้วย Meyou แล้วต่อด้วยแกงค์ YUPP! จัดโชว์พิเศษมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นำโดย LAZYLOXY, MILLI, BEN BIZZY, MAIYARAP, BLACKSHEEP, NAMEMT, AUTTA ลุกเป็นไฟกันต่อกับ ฟักกลิ้งฮีโร่ มาโชว์ลีลาแร็พสะกดทุกสายตาของผู้ชม งานนี้มีเซอร์ไพรส์แขกรับเชิญพิเศษ เมื่อ เป้ วงมายด์ ขึ้นมาแจม จัดจังหวะมันส์ ๆ แบบคูณสองกับ Already Deadd โดยมี YOUNGOHM, FIIXED, YOUNGGU, DAIMOND, YOUNGBONG, GAVIN D, 1 MILL ปิดท้ายด้วยแร็พเปอร์ตัวพ่อ โจอี้บอย ให้ลุกขึ้นมาสาละวัน เรียกได้ว่าเวที เวทีคูลเมืองสเตจ เป็นค่ำคืนที่แฟนเพลงฮิปฮอปได้โยกสะบัดหัวกันอย่างสุดเหวี่ยง
และในส่วนของ เวทีรถแดงสเตจ ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของ ‘เชียงใหญ่เฟส 2’ ครั้งแรกที่นำรถแดงสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่มาดีไซน์ และยังเป็นนิมิตหมายอันดีที่งานเฟสติวัลระดับใหญ่ เริ่มให้พื้นที่กับวงดนตรีนอกกระแสที่พร้อมนำเสนอทางเลือกของแนวดนตรีใหม่ๆ ให้ผู้ชมดนตรีกระแสหลักได้ทดลองชิมกัน โดยวันเสาร์ประกอบไปด้วยไลน์อัพที่น่าสนใจอาทิ YONLAPA วงดนตรีแนว pop lo-fi เจ้าถิ่นที่กระแสกำลังมาแรงในปีนี้, เยนา วงดนตรีเพื่อชีวิตนอกกระแสเนื้อหาจัดจ้าน, Tontrakul ศิลปินที่นำดนตรีอิสานมาผสมกับ electronics หลากหลายแนว โดยเสียงดนตรีถิ่นเคล้าภาพวิวทิวเขานี้แหล่ะสื่อถึงภาคเหนือได้ดีสุด ๆ ต่อกันด้วยดนตรีจากศิลปิน psychadelic rock เจ้าถิ่นกันอีก 3 วงได้แก่ Vega, คณะสุเทพฯ, Solitude is Bliss ที่ในเรื่องการแสดงสดไม่เป็นสองรองใคร ส่วนวันอาทิตย์ก็ขนไลน์อัพ indie folk ที่กระแสแรงที่สุดมารวมตัวกัน ประเดิมด้วย T_047, คณะขวัญใจ, อภิรมย์ ต่อด้วย เขียนไขและวานิช ที่ดนตรีเข้ากับบรรยากาศในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตก ทำให้เกิดโมเมนต์ที่แสนน่าจดจำ ปิดท้ายด้วย สนิมหยก และ จุลโพฬาร มาด้วยเสียงกีตาร์ละมุนละไม ปิดเวทีไปอย่างอิ่มอกอิ่มใจแฟน ๆ สาย folk ไปอย่างสวยงาม
เรียกว่าทั้ง 2 วัน 2 คืน นับเป็นปรากฎการณ์เฟสติวัลเมืองเหนือสุดประทับใจที่สุด แม้ในวันแรกจะเกิดเหตุขลุกขลักบ้าง ในเรื่องของน้ำดื่มและการเดินทาง แต่ก็ต้องชมสปิริตและการแก้ปัญหาของผู้จัดที่แก้ปัญหาเรานี้ได้อย่างรวดเร็วภายในวันที่สอง ทำให้แฟนเพลงชาวเชียงใหม่ได้รับประสบการณ์การชมดนตรีที่หลากหลายแนวทาง ทั้งในและนอกกระแสได้อย่างเต็มอิ่ม เติมเต็มสีสันใหม่ ๆ ให้กับชีวิต สำหรับงาน Chang Music Connection Presents “เชียงใหญ่เฟส 2” แล้วพบกันใหม่ในปีหน้า
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ChiangYaiFest.com / www.facebook.com/ChiangYaiFest