หลังจากประกาศไลน์อัพ Phase 1 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คราวนี้ Maho Rasop Festival 2019 ก็ได้ฤกษ์ประกาศรายชื่อศิลปินออกมาครบเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเทศกาลดนตรีที่ยกศิลปินจากทั่วโลกมารวมตัวกันในงานเดียวกัน ซึ่งรายชื่อที่ได้ประกาศเพิ่มมานั้น นำโดยแร็ปเปอร์อเมริกัน/เกาหลี Junoflo (KR), BBNO$ (CAN), DCNXTR (TH), ONRA (FR), No Party For Cao Dong (TW), Maft Sai (TH), Nuh Peace (TH), Gulf of Meru (ID), Martian Child (TH) ซึ่งศิลปินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น ที่หลายคนต่างชื่นชอบ

หากใครที่ไม่อยากพลาดความสนุกที่มีกระแสการตอบรับอย่างท่วมท้นจากงานปีที่แล้ว ปีนี้ก็เรียกได้ว่าน่าจะคงความเดือดได้ไม่แพ้กันเลยหลังจากที่ทุกคนได้เห็นรายชื่อศิลปินทั้งหมดแล้ว ก็บอกได้ว่าทางผู้จัดทั้งสามอย่าง HAVE YOU HEARD?, Seen Scene Space และ Fungjai จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะงานนี้จะมีทั้งความสนุกจากศิลปินที่มาพร้อมโชว์การันตีได้ว่าเล่นเต็มที่ เต็มเวลาอย่างแน่นอน ซึ่งครั้งนี้จะมีทั้งหมด 3 เวทีด้วยกัน คือ มโหฬาร Stage, คำราม Stage by LEO และ ยกล้อ Stage by Vespa อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงน้ำเขียวในตำนานจากข้าวหอมสุขเพียว ๆ ที่หลายคนรอคอยก็กลับมาให้ทุกคนได้เอนจอยกันด้วย

หากใครที่สนใจไปร่วมสนุกด้วยกันอย่ารอช้า เพราะราคาตอนนี้คือ 3,490 บาท (สามารถเข้าได้สองวัน) และยังได้เพิ่มบัตรเข้างานวันเดียวในราคาเพียง 2,490 บาทเท่านั้น ได้ทาง Ticketmelon แล้วไปเจอกันในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2562 ที่ Live Park พระราม 9 รับรองว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไปเลย

กดที่นี่เพื่อซื้อบัตร Maho Rasop Festival 2019

มาทำความรู้จักกับศิลปินใน Final Line-Up งาน Maho Rasop 2019 ให้มากขึ้นอีกซักนิด

Junoflo (KR) 🇰🇷(Samuel Juno Park) คือแร็ปเปอร์อเมริกันเชื้อสายเกาหลีผู้เติบโตในแคลิฟอร์เนีย เขาเคยเป็นช่างภาพให้กับศิลปินฮิปฮอปในเมืองซานดิเอโก้ ลอสแอนเจลิส ก่อนผันตัวเข้าสู่วงการในฐานะแร็ปเปอร์ และเริ่มเป็นที่รู้จักจากเรียลลิตี้โชว์แร็ปเปอร์ชื่อดัง Show Me the Money ซีซัน 5 และ 6 จนเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ Junoflo ได้เป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่ได้เล่นตอนพักครึ่งการแข่งขัน NBA

BBNO$ (CAN) 🇨🇦(อ่านว่า  Baby No Money) หรือ Alexander Gumuchian คือแร็ปเปอร์และนักร้องจากแวนคูเวอร์, แคนาดา BBNO$ เป็นที่รู้จักจากเพลง Lalala ที่เขาทำร่วมกับ Y2K ทั้งคู่ร่วมกันโปรโมตเพลงนี้ผ่าน TikTok, Tinder, โฆษณาใน Craiglist รวมไปถึงคอลเซนเตอร์ จนดังไปทั่วโลก มีคนใช้ในวิดีโอ TikTok กว่า 1.1 ล้านวิดีโอ ซึ่งปัจจุบันก็ทำให้เขามีผู้ฟังใน Spotify มากกว่า 18 ล้านคน นับเป็นอันดับที่ 121 ในโลกนี้

DCNXTR (TH) 🇹🇭(อ่านว่า เดอ คอนเนคเตอร์) ประกอบไปด้วย ลูกน้ำ—พิรุณภา กลัสนิมิ (ร้องนำ & ซินธิไซเซอร์) และ ชาลี นิภานันท์ (ซินธิไซเซอร์) ซึ่งเคยอยู่ในวงอิเล็กทรอนิกร็อกมาก่อนทั้งคู่ พวกเขาอยากจะเดินทางให้ลึกไปถึงความแตกต่างของดนตรีขั้วตรงข้ามอย่างดรีมป๊อป และดนตรีสังเคราะห์แอมเบียนต์ที่สร้างความฟุ้งฝันในสภาวะสงบสุข โดยแต่งเติมเสียงดนตรีนั้นด้วยพลังอันเหลือล้นและเมโลดี้สุดละเมียด DCNXTR ผสมผสานดีเจเซ็ตเข้ากับดนตรีสด ซึ่งทำให้พวกเขาแตกต่างจากวงอื่น ๆ ในซีนอิเล็กทรอนิก

ทำความรู้จักกับพวกเขาได้ที่ DCNXTR: เชื่อมต่อความคิดผ่านเสียงดนตรี

ONRA (FR) 🇫🇷หรือ Arnaud Antoine Rene Bernard คือหนึ่งใน beat-maker จากฝรั่งเศสที่น่าจับตามองมาก ๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาได้รับอิทธิพลมาหลากหลายทั้งจากแจ๊ส ฟังก์ ไปจนถึง r&b ซึ่งทำให้เขารังสรรค์ซาวด์ ฮิป-ฮอป โซล เฉพาะตัวที่ชุบชีวิตให้กับดนตรีแบบดั้งเดิม ที่ผ่านมา Arnaud ได้โปรดิวซ์มาแล้ว 6 อัลบั้มและ EP หลากหลายชุดรวมถึง Long Distance ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสำเนียงฟังก์ยุค 80s ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งแฟน ๆ และสื่อ นอกจากนี้เขาก็มีผลงานรีมิกซ์แนว boogie อัลบั้มซาวด์จีนอย่าง Chinoiseries ซึ่งเขาได้แซมป์ดนตรีจีนตอนที่เขามาเที่ยวเอเชีย ในปี 2018 เขาก่อตั้ง NBN Records ค่ายของตัวเอง ซึ่งเป็นค่ายลูกของ All City

No Party For Cao Dong (TW) 🇹🇼ประกอบไปด้วย Wood Lin (ร้อง, กีตาร์) Chu Chu (ร้อง, กีตาร์) Sam Yang (ร้อง, เบส) และ Fan Tsai (กลอง) พวกเขาโด่งดังมาจากซีนอินดี้ร็อกของไต้หวันตั้งแต่ช่วงปี 2015 ก่อนจะปล่อยอัลบั้มแรก The Servile ในปีต่อมา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสิ้นหวังในหมู่วัยรุ่นชาวไต้หวัน เคล้ากับสำเนียงร็อก พังก์ กรันจ์ และดิสโก้ โดยในปี 2017 พวกเขาได้รับรางวัล Golden Melody Awards ถึงสามรางวัลใหญ่จากทั้งหมดหกรางวัล ทั้งเพลงแห่งปี ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และวงดนตรียอดเยี่ยม ซึ่งหลังจากที่เคยเล่น sold out โชว์ทั่วโลกในปี 2016 ทั้งที่สหรัฐอเมริกา ไต้หวันและจีน ในปีนี้พวกเขาก็ได้สยายปีกไปทั่วโลกอีกครั้งกับโชว์ sold out ที่อัมสเตอร์ดัม นิว ยอร์ก สิงคโปร์ โตเกียว โตรอนโต และอีกมากมายรวมถึงได้ไปเล่นที่งานใหญ่ของประเทศอังกฤษอย่าง Glastonbury อีกด้วย

Maft Sai (TH) 🇹🇭คือนักสะสมแผ่นเสียงและดีเจผู้ถ่ายทอดสำเนียงดนตรีใต้ดินจากทั่วโลก รวมเอาส่วนผสมที่หลากหลายทั้งลูกทุ่งดั้งเดิม หมอลำ ไปจนถึงเร็กเก้ แอฟริกันตะวันตก เอธิโอเปีย ไซคีจากตะวันออกไกล ฯลฯ นอกจากนี้ เขายังได้นำเอาดนตรีของเขาไปยังดินแดนไกลบ้านทั้งเวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ในปี 2007 เขาเปิดค่ายเพลงและร้านขายแผ่นเสียงในชื่อ Zudrangma Records โดยเชี่ยวชาญในด้านฟังก์ไทย ลูกทุ่ง และหมอลำ

Nuh Peace (TH) 🇹🇭คือดีเจ ศิลปิน แฟชั่นดีไซเนอร์ เควียร์ จากกรุงเทพ ฯ และนิวยอร์ก เขา*สร้างสรรค์ศิลปะผ่านวัฒนธรรมคลับ และปะติดปะต่อดนตรีใต้ดินเข้ากับดนตรีคลับสายทดลองจากทั่วโลก ในปี 2018 Nuh Peace ได้ก่อตั้ง Cyber Baptism ปาร์ตี้แนวทดลองสไตล์ post-apocalyptic church โดยเป็นพื้นที่เชิงอุปมาที่อ้างอิงมาจากความไม่สงบทางการเมือง ความลื่นไหลทางเพศ และบริบททางศาสนาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการต่อติดความสัมพันธ์ของมนุษย์อีกครั้งผ่านเครือข่ายไซเบอร์ เพื่อทำลายล้างความไม่เท่าเทียมใด ๆ ในสังคมให้หมดไป (เขาในที่นี้หมายถึงสรรพนาม They)

Gulf of Meru (ID) 🇮🇩หรือ FA Poetra Tiardha คือโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง ชาวจาการ์ตาผู้สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลาย เขาเริ่มทำเพลงตั้งแต่ปี 2007 โดยมีเป้าหมายเพื่อเล่าเรื่องราวของยุคนี้ที่เทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเสียงดนตรีให้มีลักษณะเฉพาะตัวหลากหลายแบบ สำหรับเขาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คือศาสนา Gulf of Meru อยากให้ผู้คนได้สัมผัสความมืดมิดและความลึกลับในดนตรีของเขาซึ่งจะนำไปสู่สภาวะจิตอันว่างเปล่า โดยอัลบั้มที่กำลังซุ่มทำอยู่มีหลากหลายแนวทั้งแอมเบียนต์ โพสต์-ร็อก อิเล็กทรอนิก และ experimental ซึ่งรวมกันอยู่กันเป็นอัตลักษณ์ ทำให้ยากจะจำกัดเป็นแนวดนตรีแนวใดแนวหนึ่งได้

Martian Child (TH) 🇹🇭หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jeeraw คือดีเจและช่างภาพแฟชั่นผู้ใช้เสียงดนตรีสะท้อนตัวตนและประสบการณ์ของเขาที่มีกับวงการแฟชั่น เขาเริ่มผสมผสานจังหวะและเสียงดนตรีในปี 2017 โดยในโชว์ของเขา Martian Child จะส่งทั้งต่อเซนส์แฟชั่นของเขาและดนตรีเฮาส์ รวมถึงแนวอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงมาให้ทุกคนได้สัมผัส ที่ผ่านมาเขาได้แสดงในแวดวงดนตรีคลับใต้ดิน อย่าง BEAM, Saferoom, De Commune และ A Taste of Wonder ที่งาน Wonderfruit Festival 2018 รวมถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของแฟชั่นโชว์ทั้งหลาย

ศิลปินที่ขึ้นโชว์ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ประกอบไปด้วยศิลปินดังนี้

King Gizzard & The Lizard Wizard / The Horrors / Cuco / Phum Viphurit / Benny Sings / The Fin. / Junoflo / Lite / Onra  / Pomrad / No Party For Cao Dong / Folk9 / Stoic / Nuh Peace / Gulf of Meru / Supergoods

ศิลปินที่ขึ้นโชว์ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ประกอบไปด้วยศิลปินดังนี้

Bombay Bicycle Club / The Drums / Badbadnotgood / Deafheaven / Swim Deep / Summer Salt / Youngohm x Young bong / BBNO$ / Cosmo’s Midnight / Never Young Beach / DCNXTR / Chai / Say Sue Me / Maft Sai / คณะเบียร์บูด / TonTrakul / Martian Child

รับประกันว่า Maho Rasop Festival 2019 นี้จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และจะเป็นประสบการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของคุณอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ยังไม่มีบัตรในครอบครองสามารถจับจองได้ที่ : https://ticketmelon.com/mahorasop/mahorasop2019

การันตีโดย 3 ผู้จัด Have You Heard?, Fungjai และ Scene Seen Space

อ่านรีวิวงานปีที่แล้วได้ที่: Maho Rasop Festival สุขเพียว ๆ ที่ทุกคนสัมผัสได้

• Twitter
• Line