Robert Henke ต้นขั้วซาวด์อิเล็กทรอนิก ขนโปรดักชันเทพมาไทยในงาน Monolake VLSI Surround
- Writer: Teeraphat Janejai
เชื่อว่าชาว Fungjaizine คงจะคุ้นเคยกับการฟังเสียงสังเคราะห์หรืออิเล็กทรอนิกซาวด์จากหลากหลายเพลงในยุคดิจิทัล รวมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเริ่มกลายมาเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ดนตรีในแบนด์ จากเดิมที่เคยนิยมเฉพาะฝั่งดีเจเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในฐานะของคนฟังเพลงเราก็คงนึกไม่ออกว่าเสียงประหลาด ๆ ที่ไม่เหมือนกับเสียงที่มาจากเครื่องดนตรีทั่วไปเหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เราคงไม่มีความรู้มากพอที่จะมาลงลึกกันในทางทฤษฎีดนตรี แต่เรามีซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งที่เป็นที่นิยมใน music production และ live performance
โปรแกรมที่ว่าชื่อ Ableton Live
Robert Henke
คุณ Robert Henke เป็นศิลปินชาวเยอรมันที่ทำงานด้าน audiovisual installation และ ดนตรี เขามีความหลงใหลในความสวยงามของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว หยิบนำมาพัฒนาเป็นเครื่องดนตรีและอัลกอริธึม จนกลายมาเป็นวัตถุดิบหลักของเขาในการสร้างโปรแกรมเสียงและภาพสังเคราะห์ บันทึกเสียง ภาพถ่าย จัดแสงแบบ real time
ความสามารถและความสนใจของเขาทำให้เกิดโปรเจคต์ดนตรีส่วนตัวชื่อว่า Monolake ในปี 1995 ถือว่าเป็นงานที่เป็นไอคอนของวัฒนธรรมดนตรีอิเล็กทรอนิกในเมืองเบอร์ลิน
Ableton Live
ในปี 1999 Robert ก็ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมคิดค้นและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Ableton Live ที่กลายมาเป็นซอฟต์แวร์มาตรฐานสำหรับการทำเพลงแนวอิเล็กทรอนิก และเป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นใหม่สำหรับการแสดงสดในซีนดนตรีอิเล็กทรอนิก
ซอฟต์แวร์สำหรับการทำเพลงที่นักดนตรีและโปรดิวเซอร์มักใช้กันก็มี Cubase และ Logic pro แต่สิ่งที่ทำให้ Ableton Live แตกต่างและโดดเด่นจากซอฟต์แวร์ตัวอื่นคือ มันเหมาะกับการใช้เล่นดนตรีสดด้วย และคุณไม่จำเป็นจะต้องเล่นดนตรีเป็นก็สามารถบันทึกเสียงจนกลายเป็นเพลงก็ได้ (แต่ถ้าเป็นก็จะยิ่งง่ายเข้าไปอีก)
โดย Ableton Live เป็นที่นิยมในหมู่ของโปรดิวเซอร์ ดีเจ และนักดนตรีที่ทำเพลงแนวอิเล็กทรอนิก ด้วยความสามารถในการโปรดิวซ์และสามารถใช้ร่วมในการแสดงดนตรีสดได้ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าแม้จะไม่มีความสามารถในการเล่นดนตรีก็สามารถทำเพลงออกมาได้ เพราะซอฟท์แวร์ตัวนี้มีฟังก์ชันในการแปลงเสียงที่บันทึกสดมาเป็น MIDI ได้ในทันที สรุปง่าย ๆ คือ แม้ว่าคุณจะตีโต๊ะ ปรมมือ หรือทำเสียงบีทบ็อก Ableton Live ก็สามารถแปลงสัญญาณมาเป็น MIDI กลองได้ โดยยังมี plug – in เพื่อปรับเป็นเสียงที่คุณต้องการ ยังไม่นับถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการทำเพลงในหลากรูปแบบ
ส่วนโหมดสำหรับเล่นสด Ableton Live ก็เปรียบเสมือนซินธิไซเซอร์ตัวเทพชิ้นหนึ่ง และถ้ามี Ableton Push ที่เป็น controller จะสามารถทำให้คุณควบคุมซอฟต์แวร์ได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังสามารถส่งสัญญาณ MIDI ออกไปเพื่อควบคุมระบบแสงสีภายในงานได้เพื่อยกระดับความสนุกภายในงาน วงดนตรีไทยที่ใช้ Ableton Live ในการทำเพลงและแสดงสดก็เช่น Polycat, Cyndy Seui, TELEx TELEXs, Gramaphone Children, DCNXTR
ถือได้ว่าการเกิดขึ้นของ Ableton Live ได้เปลี่ยนภาพเดิมและเพิ่มมิติของการเล่นคอนเสิร์ตไปอีกระดับหนึ่ง และทำให้การนำคอมพิวเตอร์พกพาขึ้นไปแสดงสดบนเวทีไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไป
Monolake VLSI Surround
เป็นโอกาสดีสำหรับคนไทยที่จะได้ชมซาวน์ดนตรีอิเล็กทรอนิกจากแหล่งกำเนิด เพราะ Robert กำลังจะขน live set ทรงพลังที่ถูกออกแบบให้ระบบเสียงเป็นแบบเซอร์ราวนด์ พร้อมกับการแสดงสดและดีเจเซ็ทจากศิลปินและดีเจ – โปรดิวเซอร์ทั้งไทยและต่างชาติที่มีเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์งานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเฉพาะต้วและลงลึกในรายละเอียดของดนตรีสังเคาะห์ที่จะมาปลดปล่อยและสร้างจินตนาการในการรับรู้ที่แปลกใหม่
นำโดย Electric Indigo นักดนตรีอิเล็กโทรนิคหญิงผู้บุกเบิกวงการดนตรีอิเล็กโทรนิคของประเทศออสเตรีย เดินทางแสดงมาแล้วมากกว่า 40 ประเทศ Koichi Shimizu นักดนตรีอิเล็กโทรนิคชาวญี่ปุ่น ผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลง SO::ON DRY FLOWER กับ Live set ใหม่ล่าสุดที่เดินทางแสดงมาแล้วในหลายเทศกาลดนตรีทั่วยุโรปและเอเซีย พร้อมด้วย Space360, Nolens. Volens, SpaceTelexxx, Fundamental harmonics, Frozen, Naoki Imura, Hunnycomb และแสงสีจากทีม Zieght Project งานมีสองวัน 1 – 2 กรกฎาคมนี้ วันแรกเป็นการแสดงสดที่ SRP5 Studio รามคำแหง ส่วนวันที่สองเป็นเวิร์คช็อปและ After party จัดที่สถาบัน SAE ประเทศไทย งานแบบนี้สายอิเล็กทรอนิกส์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ดูรายละเอียดงานและจองบัตรได้แล้วที่ ticketmelon.com/event/eese-ordinary-2017
ที่มาภาพจาก
ableton.com
roberthenke.com
ticketmelon.com
