มาพูดคุยกับ BrandNew Sunset ก่อนจะลงใต้ไปกับ The Ginkz และ Pistols99 ใน Wilderer Tour
- Writer: Malaivee Swangpol
- Photographer: Catherine Costa, Graceline Moore
ผ่านไปหนึ่งปีหลังจาก BrandNew Sunset ปล่อยอัลบั้มเต็ม Of Space and Time ออกมา หลาย ๆ คนก็อาจจะมีโอกาสได้ฟัง ได้ดำดิ่งกับเพลงขนาดยาวอย่าง Time หรืออาจจะตกใจกับแนวเพลงที่เปลี่ยนไป
หลังวงเพิ่งลงจากเวทีใหญ่งาน Cat Expo 4 สด ๆ ร้อน ๆ เราชวนสมาชิกทั้งห้ามาพูดคุยกันสักเล็กน้อยก่อนจะออกเดินทางไปนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมทัวร์กับ The Ginkz, Pistols99 รวมถึงวงเจ้าถิ่น Big Cock และ Slow Suicide ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ปล่อยอัลบั้ม Of Space and Time มาหนึ่งปีกว่าแล้ว ผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง
ตูน: ดีนะครับ อัลบั้มนี้ถือว่าตอบรับดีมาก ใครบอกว่าซีดีตายแล้ว ไม่จริง วงก็หันมาพึ่งตัวเองกันเยอะ แต่ละวงก็มี potential มีแฟนเพลงของเค้า ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต้องพึ่งค่ายก็ได้
ก้อง: ก็ดีนะ ทำให้รู้ว่าซีดีเรายังขายได้ ไม่ขาดทุน
เติร์ก: โคตรรวยอะ! ยัง! (หัวเราะ) ทำให้วงอยู่ได้เรื่อย ๆ รู้สึกว่าทำเองแล้วมีคนรอฟัง มีคนซัพพอร์ต ก็รู้สึกโอเคที่ไม่ต้องไปพึ่งใคร แล้วคนยังซื้อพวกซีดีกันอยู่ ไม่ใช่ทำออกมาแล้วขายไม่ได้
ชาย: ก็โอเคนะครับที่คนยังซื้ออยู่อะ มันก็ไม่ใช่ทำวงมีแต่ขาดทุน แต่เราก็ยังไม่ได้รวยขนาดนั้น มันคือขยับไปข้างหน้าได้ ถือว่าโอเค ชุดนี้แฮปปี้เลย มันเป็นแนวทางแบบที่เราควรจะไป
ทำงานกันหมดแล้ว หาเวลามารวมตัวกันยังไง
ยุทธ: ก็หลังเวลาเลิกงานเนอะ ส่วนใหญ่
เติร์ก: มันก็ไม่ได้จะนัดเจอกันได้ตลอด ได้แค่วันเดียวต่ออาทิตย์
ชาย: มันไม่ได้แบบ ต้องซ้อมอาทิตย์ละสามวันเว้ย! มันต้องมีความรับผิดชอบของแต่ละคน เราก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดแบบ ต้องทุกวันพุธนะ ก็ปรับ ๆ กันไป
ยุทธ: งานประจำมันก็สำคัญกว่า เพราะมันคือชีวิต แต่ถ้าเราคิดจะเล่นดนตรี เราก็ต้องปรับกันไป ไม่ว่างก็ไม่ว่าง
ก้อง: ทำงานประจำอย่างเดียวก็อยู่ไม่ได้ ก็ต้องมีอันนี้เสริม เพราะตรงนี้เงินก็เยอะ (หัวเราะ)
อยากให้พี่ ๆ เล่าเรื่องประสบการณ์การทัวร์สมัยทัวร์เอเชียให้หน่อย
ชาย: ก็ไปเหมือนที่เราไปกับพวกไอ้ออม (Pistols99, ผู้จัดทัวร์ Wildest Youth) นี่แหละ เหมือนไปเที่ยว มันก็เหมือนบ้านเรา บางที่ก็เปิดรับมากกว่า บางที่ก็ความคาดหวังมากกว่า บางที่ก็ความคาดหวังต่ำกว่า ก็ต่างกันไป เราไปเราก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เจอเพื่อน ได้เจอคนดูแบบใหม่ ๆ ก็สนุกดี
มีประเทศไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษไหม
เติร์ก: อย่างมาเก๊าครับ ประเทศเค้าซีนดนตรีเล็กมาก ๆ แล้วเราก็เป็นใครก็ไม่รู้ เราไปเล่นเป็นวงปิดวันสุดท้ายของเฟสติวัล แต่คนก็รอดู คนเล่นด้วยทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักเพลงเรา แต่รอซัพพอร์ต คือถ้าซีนเล็กแต่ถ้าคนมันได้ ก็มีแววนะ
ยุทธ: ทุกที่อะ มันก็ต่าง ๆ กันไป ได้กินฟรีครับ พอแล้ว (หัวเราะ) เหมือนเค้ามา enjoy กับโชว์มากกว่า ไม่ได้มาคาดหวังอะไร
ชาย: มันอยู่ที่คนมากกว่าที่ซีนดนตรี เหมือนไปเจอเพื่อน เราได้ไปลองกินข้าวท้องถิ่น
ทัวร์ 1 ปีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง มีอะไรสนุก ๆ เล่าไหม
ตูน: ออกอัลบั้ม Of Space and Time มา โชว์ก็เป็นไปตามมู้ด เพลงมากกว่าอัลบั้มก่อน ๆ ใช้ฟีลลิ่งมากกว่าก่อน อย่างวันนี้ก็ประทับใจ และต้องขอบคุณ Cat Expo เค้าด้วย
ชาย: เหมือนอายุมากขึ้น เอาจริงเราไม่ได้ตั้งใจจะปรับอะไร แต่มันก็เป็นไปตามนั้น ถ้าสังเกตคือแต่ละอัลบั้มก็จะ capture ช่วงเวลาของเราในแต่ละช่วงวัย ต่างกันไปเรื่อย ๆ โชคดีชิบหายเลยเล่นก่อน BNK48 เล่นหลังก็ชิบหาย (หัวเราะ)
เติร์ก: ต้องขอขอบคุณแฟน ๆ BNK48 ด้วย
ตูน: Cat Expo กับแบรนนิวก็โตมาด้วยกัน เล่นมาตั้งแต่ Fat Festival เค้าก็ไว้ใจในตัวเรานะ ที่วางเวลา primetime ให้
ชาย: เล่นตั้งแต่ครั้งแรกสนามม้า
เติร์ก: เค้าก็ให้เกียรติเรานะ เรียกเราตลอด
ก้อง: ตั้งแต่พี่ตูนยังตีกลองอะ (หัวเราะ)
เติร์ก: เอ้า ตูนตีกลองมาก่อนเหรอวะ
ยุทธ: แล้วแม่งตีไม่ได้เรื่องอะ อยากดังเลยมาร้อง (หัวเราะ)
ตูน: แล้วการเจอคนดูที่ไม่รู้จัก BrandNew Sunset ยิ่ง challenge คือเค้าอาจจะเล่นแล้วไม่ response หรือ response น้อย แต่ยังดีกว่าเล่นให้หน้าเดิม ๆ ดู หน้าเดิม ๆ รู้จักเราแล้ว ไม่ท้าทาย แต่วันนี้ก็มีแฟน BrandNew Sunset มาดู เยอะนะ
เติร์ก: มาดู BNK48 นะ (หัวเราะ)
ทัวร์ต่างจังหวัดแตกต่างกับทัวร์ในกรุงเทพยังไง
ตูน: ผมว่าต่างนะ ผมว่าคนที่ต่างจังหวัดเค้าจับต้องพวกเรายากกว่าคนที่กรุงเทพ ฯ
ชาย: โอกาสที่เค้าจะได้เอ็นจอยกับอะไรแบบนี้มันน้อยกว่า
ตูน: แต่ไม่ใช่คนกรุงเทพ ฯ เค้าไม่เอ็นจอยกับพวกเรานะ แต่โอกาสมันน้อยกว่า เดาทางได้
ก้อง: (บางคนคิดว่า) เดี๋ยวก็เล่นอีกละ ไว้ดูครั้งหน้าก็ได้ แต่ต่างจังหวัดเค้าจะมาดู เค้าคิดว่าเราอาจจะไม่ได้มาอีก
ฝากถึง Wilderer Tour ที่กำลังจะไปนครศรีธรรมราชหน่อย
ตูน: คิดถึงทุกคนนะครับ แล้วเจอกัน
ชาย: ได้ยินมานานว่านครศรีธรรมราชเป็นซีนของดนตรีทางเลือก ใต้นี่ร็อกของจริงเลย คาแร็กเตอร์ของแต่ละที่จะต่างกัน เหนือแบบนึง อีสานแบบนึง ก็น่าจะดี นี่เป็นครั้งแรกที่เราไปจังหวัดนี้
ก้อง: คือทางใต้เราอยากไป เพราะซีนเค้าค่อนข้างไม่เหมือนซีนอื่น
เติร์ก: หาดใหญ่ก็มัน หวังว่านครจะมันเหมือนกัน เราเชื่อมั่นในคนนคร
คิดว่าวงดนตรีออกควรหาพยายามไปทัวร์ด้วยตัวเองมั้ย ไม่ต้องรอใครหยิบยื่นโอกาสให้
ชาย: แน่นอน (ตอบทันที) วิธีการที่พวกไอ้ดิว (Wildest Youth) ทำนี่คือเหมือนตอนที่เราเริ่มวง นักดนตรีควรหาโอกาสจากความตั้งใจของตัวเอง มากกว่าจะขอโอกาสจากคนอื่น คือจะทำเพลง จะนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วก็มาบ่นว่าไม่มีงาน แบบนี้เหรอ แผ่นขายไม่ได้ งานก็ไม่มี แบบนี้เหรอ เราถึงชอบไปทัวร์นี้มากเพราะแต่ก่อนเราเคยอยู่ค่าย เราไปกับค่าย ไปงาน มันเป็นอีกแบบ จิตวิญญาณนักดนตรีมันต้องดิ้นรน มันถึงจะมัน คือชีวิตต้องมีหยาดเหงื่อ เวลาได้ (ความสำเร็จ) มามันจะคุ้ม เพราะฉะนั้นพวกที่นั่งอยู่แล้วบ่นว่าไม่มีงาน วงดนตรีมันยาก อย่าบ่น ทำเหอะ จะเล็ก จะใหญ่ จะรอไปเล่นสนามบินเชียงใหม่เหรอ ก็ไม่ใช่ ก็เล่นไปเลย ร้านที่เราแฮปปี้ คนที่อยากดูเรา แค่นี้ก็พอ มันก็คือการขยายผลงาน แค่นี้
เติร์ก: ทุกวงที่ไป ก็น่าจะได้ประสบการณ์กันหมด อย่างออม Pistols99 ผมว่าวงมันได้ฐานเพิ่ม แล้ววงมันก็ดูมี potential นะ
ชาย: ไม่ได้บอกว่าเราแก่นะ แต่ไปกับมันหลาย ๆ รอบพวกนี้คือมันโตขึ้น โตขึ้นเรื่อย ๆ เราเห็นเลย แค่ไปด้วยกันไม่กี่ครั้ง นี่คือจิตวิญญาณของคนที่ดิ้นรนเพื่อดนตรี เราได้เห็นไง มันก็ทำให้เราอยากไป สนุก
อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ ที่ทำเพลงเอง
ชาย: เลี้ยงตัวเองด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ก่อน ก่อนจะเอาดนตรีมาเลี้ยง มันถึงจะยั่งยืน การสร้างสรรค์มันไม่มีจุดสิ้นสุด จุดสิ้นสุดมันคือข้อจำกัดเราเองมากกว่า
ก้อง: ก็คือเราต้องมีงานที่เลี้ยงเราได้ก่อน เราถึงจะอยากทำอย่างที่เราอยากทำได้ แล้วก็จะไม่มีใครมายุ่งเราได้ ที่บอกว่าให้ยืนอยู่บนลำแข้งตัวเองได้ คือมีอาชีพ เพราะเราจะครีเอทีฟไม่ได้ถ้าหิวข้าว
เติร์ก: เหมือนอย่างที่บอกว่า สนุก ชอบ อยากเล่น ก็อย่าไปคาดหวังกับมันเรื่องเงินอะ ถ้าสนุกกับมันก็ทำไป
เราจะได้เห็นอะไรจาก BrandNew Sunset ในช่วงปีหน้ามั้ย
ชาย: ก็คงยังทัวร์เรื่อย ๆ แล้วก็คงมีทัวร์เอเชียมั้ง คุย ๆ ไว้ ยังไม่ลงตัวว่าเมื่อไหร่ อัลบั้มขอเวลาสักแปป ชุด Of Space and Time แล้วคือเค้นไอเดียออกมาเต็มที่ เพราะฉะนั้นอาจจะใช้เวลาซักแปป
ก่อนจะจากกันไป ชวนมาชม documentary สั้น ๆ เกี่ยวกับซีนพังก์ในไทย และฟุตเทจจาก Wilderer Tour สองครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเคยพาดนตรีพังก์นอกกระแสไปเยือนภาคเหนือและอีสาน ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์ใน Khaosod English กันได้ ที่นี่ และดูวิดีโอได้ด้านล่างเลย