คุยกับ YEW ถึงทุกเรื่องราวที่ทำให้เติบโตจนได้มาเป็นอีพีใหม่ Nothing Is Unfamiliar And Strange

Interview

คุยกับ YEW ถึงทุกเรื่องราวที่ทำให้เติบโตจนได้มาเป็นอีพีใหม่ Nothing Is Unfamiliar And Strange

  • Writer: Malaivee Swangpol
  • Photographer: Chavit Mayot

ทุกครั้งที่ YEW ปล่อยเพลงใหม่ก็ทำให้เราสัมผัสได้ถึงพลังวัยรุ่นอันเต็มเปี่ยม ที่พร้อมจะบุกลุยไปในวงการดนตรีไทยอีกนาน ซึ่งฟังใจซีนก็มีโอกาสได้ชวน 5 หนุ่มมาพูดคุยกันสบาย ๆ ถึงเรื่องราวตั้งแต่การรวมตัวกัน จากชื่อวงสุดแปลกหู, การมีมือเบสสองคนในวง, ได้เล่นเปิดให้วงในดวงใจ ไปจนถึงบ้านอุ่นรัก ฯลฯ  ถ้าหากมีเวลาซักเล็กน้อย เราก็ขอชวนมาทำความรู้จัก YEW ให้มากขึ้นได้ในบทความนี้เลย

 

ที่มาของชื่อ YEW

ทิ้ว: ตอนแรกเปิดพจนานุกรม แล้วเราทำให้วงมันแคบลงด้วยการหาชื่อที่เกี่ยวกับต้นไม้ เพราะเป็นคนชอบต้นไม้ ผลไม้อยู่แล้ว ตอนแรกอยากได้ชื่อแบบ Mango อะไรงี้ด้วยซ้ำ

YEW: Mango Island (หัวเราะ)​

ทิ้ว: ชอบชื่อพวกนี้เพราะมันแปลกดี ก็เลยไปหาว่าชื่อต้นไม้ภาษาอังกฤษมีชื่ออะไรแปลก บ้าง เจอชื่อ Yew ก็ชอบเพราะเวลาเขียนมันดูน่าจำ

เจด: เขียนแค่ YEW มันก็เท่แล้ว ไม่ต้องทำไรมาก

ใครเป็นคนทำโลโก้วง

แดน: โลโก้ตอนแรกทิ้วทำในไอโฟนก่อน เป็น YEW แล้วมีผลไม้ มีใบไม้อยู่ข้างบนข้างล่าง แล้วมันฮา ไปหน่อยก็เลยเอามาปรับให้มันเป็นกลม

ทิ้ว: เพราะลูก Yew มันเป็นสีแดง

ทรัพย์: เพิ่งรู้ (หัวเราะ)

ทำไมวงถึงเข้าร่วมทั้ง TK Band และ Sunkist Freshly Picked 

ทิ้ว: พลังวัยรุ่นอะครับ (หัวเราะ)

เจด: มันเป็นโอกาส เป็นช่องทางโปรโมตที่ดี

ทิ้ว: ตอนนั้นก็หางานเล่นเรื่อย ๆ เพราะอยาก pr ตัวเอง เราพยายามเก็บหลาย งาน งานไหนส่งไม่ทันก็ไม่ไป

เจด: เคยคิดจะส่ง Tiger Jam แต่พออายุถึงก็ไม่มีงานแล้ว (หัวเราะ)

ได้อะไรจากทั้งสองกิจกรรมบ้าง

แดน: ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ

ทรัพย์: ได้อัดเพลงครับ

ทิ้ว: ทำให้เราได้ปล่อยเพลง เพราะมีกำหนดเวลาบีบให้เราทำเพลง

ทรัพย์: ได้เล่นเวทีแรกที่ TK Band ด้วย

เจด: ตอนนั้นก็รุ่นเดียวกับ Tangled Wires, Uncle Ben

แดน: แล้วก็มี Andrei, FAST DRIVE ON FARAWAY, Henry Beagle

วง Yew ถ่ายหน้ารถตู้

ทำไมทิ้วที่เรียนเอกเบสถึงมาเป็นนักร้องนำ

ทิ้ว: ส่วนตัวเป็นคนชอบแต่งเพลงอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนเข้ามาปีหนึ่งก็คิดว่าอยากแต่งเพลงแล้วร้อง พอตอนเฟรชชี่ไนท์ (คอนเสิร์ตของนักศึกษาปี 1) เค้าก็ตั้งวงกันมาแล้วก็หานักร้องกัน ผมก็เนียน ๆ เสนอตัวไปว่าผมก็ชอบร้องเพลงนะ พอดีช่วงนั้นก็ยังหานักร้องกันไม่ค่อยได้ ก็เออ ลองเล่นกันดู ไป ๆ มา ๆ ก็ชอบ สไตล์เดียวกัน

พี: ตอนเล่นเฟรชชี่ไนท์ก็อยู่กันในกลุ่ม ๆ เพื่อน ๆ นี้เลย เจอกันตั้งแต่ปีหนึ่งเลย

แล้วทุกวันนี้ทิ้วมั่นใจในการร้องเพลงของตัวเองหรือยัง

ทิ้ว: ก็ (หัวเราะ)​ ยังไม่ค่อยมั่นใจครับ แต่ก็ดีขึ้นมาเยอะเหมือนกันจากเมื่อก่อน

แดน: โห แต่แรกนี่ไม่ไหวเลย (หัวเราะ) เครียดเลย

ทิ้ว: เสียงมันไม่ค่อยใส แหบ ๆ

เจด: ร้องก็ยังเค้น ๆ อยู่

อะไรทำให้มั่นใจมากขึ้น

ทิ้ว: คิดว่าการมีงานช่วยเยอะ การกลับไปดูคลิปเก่า ๆ แล้วปรับตัวว่างานที่ผ่านมาเราส่งเอเนอร์จี้ขนาดไหน เราร้องได้ดีขนาดไหน มีเรียนไมเนอร์แล้ว ลงมาสองตัว คือคิดว่าอาจจะยังไม่พอแหละ แต่ต้องพักก่อน จนแล้วครับ (หัวเราะ)

ปกติใครเขียนเนื้อ

ทิ้ว: ผมเขียนเนื้อ แล้วสลับกับแดน

แดน: ผมจะมาเสริมเฉย ๆ ครับ ส่วนมากไม่ได้เป็นคนขึ้นเพลง บางเพลงที่ทิ้วเขียนขึ้นมา แต่มันยังจับใจความไม่ได้ หรือว่าล่องลอยอยู่ก็จะเอามาตบให้มันดูเป็นเรื่องเดียวกันมากขึ้น

เนื้อเพลงของ YEW ได้แรงบันดาลใจจากอะไร

ทิ้ว: ส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เพื่อนเจอ ปกติมันจะไม่ค่อยเป็นเรื่องของตัวเองเท่าไหร่ คือทิ้วเป็นคนชอบตั้งคำถามกับตัวเพื่อนว่าทำไมสิ่งที่เพื่อนเจอต้องเป็นแบบนี้ ทำไมเค้าต้องทะเลาะกัน ทำไมมันต้องเกิดเรื่องแบบนั้น เป็นการเอาเรื่องของเพื่อนที่มันมาระบายให้ฟังตอนกลางคืน กินเหล้า ผมก็จะแอบเก็บไปคิดว่า เออ ทำไมเรื่องเค้าเศร้าจังเลย ผมก็เอาไปเขียนเป็นเพลง

มีตัวอย่างเล่าให้ฟังไหม

ทิ้ว: ลมที่ลาก็เป็นเรื่องของเพื่อนคนหนึ่งที่เค้าเลิกกันไปเพราะคนนึงพูดกับอีกฝ่ายว่า ‘แกยังเด็กเกินไป’ ก็เลยมีคำนึงเด้งขึ้นมา ‘ลมที่ลา เค้าไม่รอให้ลมที่ช้าอย่างเรา’ ลมที่ช้าคือคนที่เราตามไม่ทัน ก็คือเด็กคนนึงที่ตามเค้าไม่ทัน เลยออกมาเป็นเพลง

การที่ทั้งวงเรียนดนตรีกันหลายสาขา มีข้อดีหรือข้อเสียอะไรไหม

เจด: ข้อดีคือความรู้ที่เรามีเวลาเอามาใช้ทำงานมันกว้างมาก ได้จากหลายมุม แต่ข้อเสียก็คือเรื่องเวลา

ทิ้ว: สอบไม่ตรงกัน ขอกูซ้อมไพรเวทก่อน (หัวเราะ)

เจด: แล้วผมกับทิ้วเรียนแจ๊ส มันก็ต้องซ้อมหนักยันปีสี่ พวกผมก็ยังต้องแบ่งเวลาไปซ้อมอยู่ แต่คนอื่นก็ชิวแล้ว

แดน: คิดว่าเรื่องสไตล์ครับ เพราะแต่ละคนจะมีสิ่งที่ชอบที่แตกต่างกันบ้าง มันก็จะเอามารวม ๆ กันได้หลายอย่าง เรฟก็มาคนละสไตล์ แต่ก็มีส่วนที่เอามาปรับเข้าหากันได้

เจดกับทิ้วเรียนเบสเหมือนกัน เคยมีปัญหากันเรื่องไลน์เบสไหม

ทิ้ว: อืม (หัวเราะ)​

ทรัพย์: ประจำอะ (หัวเราะ)

ทิ้ว: แล้วแต่เพลงว่าเจดจะถนัดยังไง

เจด: บางทีทิ้วขึ้นเพลงมาแล้วถ้าไลน์เบสมันดีผมก็ไม่ยุ่งอะไรแล้ว ผมก็เห็นว่าเออ มันก็ดีแล้ว แต่บางทีก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ผมว่ามันติดนิดนึง อยากแก้

ทิ้ว: แต่ก็คุยกันได้ครับเพราะว่าเป็นมือเบสเหมือนกัน ตรงไหนโอเคไม่โอเค

เจด: ผมก็แล้วแต่เพลง บางเพลงก็แก้ไลน์เบสใหม่หมดเลย บางเพลงก็เฮ้ยมึงดีอยู่แล้ว ก็ปล่อยไว้

 

วง Yew อินดี้ ริมทะเล

กระบวนการทำ mv ของ YEW เป็นอย่างไร

เจด: ถ้า mv แรก ๆ เราจะไปนั่งคุยกับทีมเลยครับ บาง mv ก็ไปนั่งคุยนานมากเลยครับกว่าจะได้ทำ

แดน: ส่วนมากก็นั่งคุยเกือบทุก mv นะ (หัวเราะ)

เจด: หมายถึงว่า mv แรก ๆ เราจะใส่ไอเดียเยอะ อยากให้อะไรปรากฏใน mv เราจะบอกเยอะมาก แต่หลัง ๆ เหมือนแค่บรีฟแล้วเราปล่อยให้ทีมงานเค้าไปคิดเอง

แดน: ก็จะเป็นฟีลแบบว่าอยากได้ประมาณไหน สไตล์ ภาพ แบบนี้ไม่เอานะ แต่ถ้าเค้าคิดมาแล้วโอเคแล้วก็ปล่อยเค้าทำเลย

ทิ้ว: บางเพลงเราต้องการให้ผู้กำกับมองเห็นแบบไหนมากกว่า ไม่ใช่ว่าเราอยากทำฝั่งเดียว แต่อาจจะให้ผู้กำกับตัดสินใจเลยว่า เค้ารู้สึกอย่างไรกับเพลงเรา เค้ามองอย่างไร

ที่ผ่านมาหาทีม mv มาจากไหน

แดน: เท่าที่ทำมาก็เป็นเพื่อน ๆ กันบ้าง คนรู้จักบ้าง แต่ยังไม่เคยไปจ้างทีมจริง ๆ ที่เค้ารับทำ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนกัน

ปกติแก้เยอะมั้ย

แดน: แล้วแต่ mv เลยครับ บางอันก็แก้เยอะแบบไปนั่งตัดด้วยเป็นวัน ๆ บางอันก็มาถึงก็โอเคเลย

ทิ้ว: แดนตัดเองก็มี

แดน: เพลงรองเท้าครับ

เจด: อันนั้นทำเองเกือบหมดเลย (หัวเราะ) 

แดน: ถ่ายแล้วก็ตัดเอง

ทำไม mv พูดถึงมีซับภาษาญี่ปุ่น

แดน: อันนี้เป็นไอเดียของผู้กำกับ คือเพราะว่าพูดมันเล่าเป็นนิทานหนูน้อยหมวกแดงที่เป็นนิทานเด็ก

เจด: เพราะไม่ต้องการให้มันชัดเจนกับคนดูมากเกินไป ก็เลยเป็นภาษาญี่ปุ่น

แดน: ภาษาญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องราวนั้นเลย เล่าเรื่องของ mv ย้อนหลังด้วย

เจด: ตามฉากไปเลย

ทรัพย์ มือกลอง วง Yew

วงได้แรงบันดาลใจการแต่งตัวมาจากอะไร

แดน: แต่งกันเองเลยครับ แล้วแต่ว่าช่วงนั้นอินอะไร อยากทำอะไร

เจด: จับ ๆ อะไรมา นัดกันได้ก็เอาเลย

แดน: ก็คุย ref กัน จะเอาประมาณไหน แล้วก็มาลองแต่งกันดูก่อนที่จะไปถ่ายจริง

ทิ้ว: ทุกคนเป็นคนชอบแต่งตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ว่าวันนี้จะเป็นแนวไหนกัน เพราะทุกคนก็มีไอเดียของตัวเองอยู่แล้ว ทำให้เรามีความสุข สนุกไปกับการเล่นดนตรีด้วย ก็คือการเลือกเสื้อผ้า แต่ละคนก็มีสไตล์ย่อยของตัวเอง เลือกเป็นงานว่าจะแต่งแบบไหน

ช็อปปิ้งเสื้อผ้ากันที่ไหน

ทรัพย์: ชินจูกุ (หัวเราะ)

ทิ้ว: แล้วแต่คนเลยครับ อย่างเจดก็จะสาย Instagram แดนก็จะสายเสื้อผ้านำเข้า เกาหลี

แดน: ไปเรื่อยครับ แต่พื้นฐานคือมือสองกันหมด

เจด: ไอจีก็มือสอง

เรารู้สึกอย่างไรการที่ถูกมองว่าเป็นเงาของใคร

แดน: จริง ๆ ก็คิดว่าเป็นสิทธิ์ของเค้าที่เค้าจะมอง

เจด: เราไปห้ามคนคิดไม่ได้ เราควบคุมความคิดของเค้าไม่ได้ ตอนเราทำเราไม่ได้คิดอะไรมาก เราไม่ได้คิดว่าเราอยากเป็นเงาของใคร ทุกอย่างที่เราทำเราทำเพราะชอบ

ทิ้ว: ต้องยอมรับว่าเราได้ inspire จากสิ่งที่เราเสพ แต่ก็ไม่ได้ขนาดว่าเราต้องเป็นแบบใครเป๊ะ ๆ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เราเสพมา เราชอบสิ่งที่เค้าทำ แต่สุดท้ายก็ออกมาเป็นตัวเราเพราะวงผมค่อนข้างมีหลายแนว หลากหลายมากจริง ๆ เราก็ผ่านแนวที่เราชอบมาเรื่อย ๆ สุดท้ายมันก็จะออกมาผสมกันมากกว่า

เจด: เราฟังกว้าง ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงด้วย ช่วงนั้นก็ชอบแบบนี้ ช่วงนี้ก็ชอบแบบนี้

ทิ้ว: วงเราผสมเยอะจริง ๆ

เจด: โอเคมันอาจจะมีบางสไตล์ที่มันเด่นออกมา แล้วคนเห็นตรงนั้น แต่จริง ๆ ถ้าดูดี ๆ มันมีหลายอย่างผสมมากกว่านั้นเยอะ

เวลาไปเล่นต่างจังหวัด เป็นอย่างไรบ้าง

ทิ้ว: ก็ไปเล่นเยอะอยู่ครับ

เจด: สนุกดี

คนร้องตามได้ไหม

ทรัพย์: มีได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่งาน แล้วแต่ที่

ชอบที่ไหนสุด

YEW: มหานิยม

ทรัพย์: มัน

แดน: สนุกมาก แต่ไปที่ ๆ คนร้องไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ เหมือนเราก็ไปเล่นให้เค้าดูว่า วงเราเป็นแบบนี้นะ ไม่ได้คิดอะไรมาก มีอะไรให้เล่นก็เล่น แล้วเดี๋ยวกำลังจะไปขอนแก่นครับ คิดว่าน่าจะสนุกเหมือนกัน

ทรัพย์: Cheeze โคราชก็มันนะ สนุกดี หน้าเซนทรัล ก็มีคนมาดูอยู่

ได้เล่นเปิด Yogee New Waves ด้วย เป็นอย่างไรบ้าง

แดน: สุดยอดเลยครับ

ทรัพย์: ตื่นเต้นครับ

เจด: ดี ดี มากเลยครับ

แดน: รู้สึกเป็นงานที่โชว์ดีที่สุดตั้งแต่เคยเล่นมา

ทรัพย์: ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ทุกอย่างฟินมาก

เจด: เล่นแล้วรู้สึก fullfilled มากเลย เติมพลัง

โชว์ดีเพราะอะไร

แดน: เพราะเราก็เตรียมตัวกันมาดีด้วย แล้วก็เครื่องเสียงด้วย มันราบรื่น แล้วรู้สึกว่าเราทำได้ดีที่สุดตั้งแต่เคยเล่นมา

ทิ้ว: มีคนญี่ปุ่นด้วย ก็ตกใจที่เค้าก็ชอบเราเหมือนกัน เค้าเต้น

เจด: คนญี่ปุ่นเค้า open มากเลย คือไม่มีทางที่เค้าจะเคยฟังเพลงเรา เอนจอย เค้าไม่มีมานั่งกอดอก เค้าฟังเพลง เค้าอยู่กับดนตรี แล้วเค้าก็เต้นไปเลย โดยไม่สนว่าเพิ่งเจอ

ทิ้ว: แต่ก็เคยมีคนญี่ปุ่นมาทักเหมือนกัน แต่คนละงาน เค้าก็บอกว่าชอบ

วงชอบ Yogee New Waves กันอยู่แล้วไหม

แดน: ชอบครับ ตอนที่เค้ามาเมื่อครั้งแรกก็ไปดูเหมือนกัน ที่เล่นกับ the fin. ตอนได้รู้ว่าได้เล่นเปิดนี่ก็ดีใจมาก

เจด: ตื่นเต้นมาเลยครับ กรี๊ดลั่นเลย (หัวเราะ)

พี: ไอ้เจดกรี๊ดเหรอวะ

เจด: ไม่ได้กรี๊ด ๆ ไม่ได้กรี๊ดแบบนั้น กูไม่กรี๊ดให้มึงเห็นหรอก (หัวเราะ)

รูปหมู่วงYew

ชอบเล่นสดเพลงไหนที่สุด

พี: ผมว่าผมชอบรองเท้ามากที่สุดครับ ผมชอบเพราะมันมันดี มันอยู่ที่ช่วงด้วย ช่วงไหนเราอินกับอะไร แล้วช่วงไหนเราฟังอะไรเยอะ ๆ แล้วรู้สึกเบื่อ อย่างช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ฟังสายโพสต์ แต่พอได้ไปเล่นมันเหมือนได้กลับไปยุคที่เราฟังแบบนั้นแล้วมันรู้สึกว่ามันสนุก ก็เลยชอบเพลงนี้สุด

เจด: ของผมจะมีหลายเพลง กังฟู​บอย รองเท้า เหมือนพี แล้วก็โลกซึ่งไร้ลมหายใจของวันวาน

แดน: สรุปชอบทุกเพลง (หัวเราะ)

เจด: นอกจาก ลมที่ลา ก็ชอบเล่นหลายเพลง เพราะมีความสุขที่ได้เล่นเพลงพวกนี้เล่นแล้วเราเอนจอยสุด ด้วยพาร์ทของเรา ด้วยองค์รวมของเพลง ทุกอย่างเลย เล่นแล้วสนุก เล่นละฟีลมันได้ แต่เพลงโลกซึ่งไร้ลมหายใจของวันวานไม่ค่อยได้เล่นเลย (หัวเราะ)

ทรัพย์: ของทรัพย์ชอบกังฟูบอยครับ มันซิ่งดี ตีมันดี ทั้งโชว์ก็คือรอเพลงนั้น อยากเล่นมาก เป็นเพลงที่เฝ้ารอ 

ปกติเอากังฟูบอยไว้ตรงไหนของเซ็ตลิสต์

แดน: บางทีก็ไว้แรก ๆ บางทีก็ไว้หลัง

ทรัพย์: กลาง ท้าย แล้วแต่ช่วง

เวลาเล่นแล้วเป็นอย่างไร ทุกคนร้องตามได้ไหม

ทิ้ว: ไม่รู้ (หัวเราะ)

แดน: ก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่เล่นแล้วสนุกก็เลยเล่นตลอด

คนอื่นชอบเล่นเพลงไหนกันอีก

แดน: ชอบเพลงพูดครับ มันมันดี มันเป็นฟีล 6/8 แล้วก็โยกได้

ทิ้ว: ชอบเพลงที่ยังไม่ปล่อยแต่ได้เล่นแล้ว ชื่อเพลงก้อนหิน เป็นเพลงที่มีแค่กีตาร์กับร้อง หลัง ๆ ได้เอามาเล่นสด ก็ชอบ มันเศร้าดี

แดน: ไม่รู้จะได้ปล่อยเมื่อไหร่ด้วย ไม่อยู่ในอีพีที่จะปล่อยด้วย (หัวเราะ)​

ทิ้ว: ไม่มีตารางปล่อย (หัวเราะ)​ พอเอามาเล่นสดทำเป็นฟูลแบนด์แล้วมันสนุก ติดใจ ชอบครับ

พี: จริง ๆ หลัง ๆ ผมก็ชอบเล่น Summer ด้วย ท่อนฮุกมันทำให้โยก ๆ ฟีลกู๊ด ได้ยินเสียงกีตาร์แล้วอยากเล่น

เจด: ใช่ ๆ Summer ชอบตอน outro

ทรัพย์: ชอบด้วย

แฟนคลับส่วนมากเป็นใคร

พี: ผมว่าวัยรุ่นหน่อย

แดน: จากที่ดูการวิเคราะห์ของโซเชียลต่าง แล้ว ก็มีตั้งแต่ม.ต้น น้อง ผู้หญิง . ปลาย มหาลัย คละ กัน วัยทำงานนิดหน่อย

เวลามีแฟนคลับมากรี๊ดรู้สึกยังไง เกร็งมั้ย

แดน: อ๋อ ก็แปลก นิดนึง ไม่ค่อยชินครับ

เคยมีเรื่องราวประทับใจอะไรกับแฟนคลับไหม

แดน: มีเวลาเค้าทำของมาให้

เจด: วาดรูปมาให้

ทรัพย์: หรือบางคนก็ตามไปดูทุกงานในกรุงเทพ

ทิ้ว: ช่วยยกของก็มี (หัวเราะ)

อย่างทำของมาให้มีอะไรบ้าง

ทรัพย์: ทำสติกเกอร์มาให้

ทิ้ว: มีคนนึงชื่อมะขาม เค้าก็เอามะขามทุกอย่างมาให้ มะขามกวน มะขามอบ อยู่ห้องผม

แดน: มีขนม วาดรูป ปรินท์มาให้

แดนทำซาวด์ด้วย ส่งผลกับการเล่นดนตรีไหม ช่วยในการทำเพลงของตัวเองแค่ไหน

แดน: ทำประจำวง Moving And Cut ครับคือจริง ๆ ก็ไม่มีผลกับการเล่นดนตรีเพราะไม่ค่อยมีงานเล่นครับ (หัวเราะ)​ มันก็มีในมุมที่เราได้ไปทำงาน ได้ไปเห็นการทำงานของวงอื่น แล้วไปปรับใช้กับตัวเองได้ ได้เรียนรู้การไปเจอคน ไปเจอร้านแต่ละที่ ว่ามันสภาพเป็นอย่างไรแต่ละร้าน บางที่ที่ไปคนก็ร้องไม่ได้เลย ที่ไปกับ Moving And Cut บางทีก็คือร้องกันดังจนไม่ได้ยินเสียงจากลำโพง ก็คิดอยู่ว่าถ้าเราไปถึงวันนั้นที่ไปเจอที่ ๆ ไม่ใช่ที่ของเราเราจะรับมือยังไง ยังไม่ค่อยกระทบการทำวงนะครับ เพราะวงไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น ก็แบ่งเวลาไป

PEEYEW มีเพลงเท่ ออกมาหลายเพลงเลย เคยมีเล่นไหม แล้วคิดจะมีเล่นไหม

พี: ยังไม่เคยครับ เดี๋ยวจะมีเล่นอยู่แล้ว เล่นรีไซทอล (การสอบแสดงสด) (หัวเราะ) แต่ผมก็ไม่ได้คิดถึงว่าต้องมีเล่นอะไรขนาดนั้น ผมแค่รู้สึกว่าทำมาแล้วแล้วก็เอาไปล่อยให้คนอื่นฟังก็ได้ ไม่รู้ว่าจะเก็บไปทำไม แค่นั้นครับ ก็เลยเอาลงฟังใจ

พีเป็นมือกีตาร์ แล้วเวลาต้องทำเพลงเองทั้งหมดมีปัญหาอะไรมั้ย

พี: ผมมีแนวคิดว่า สุดท้ายจะทำแย่หรือทำดีมันก็คือตัวผมอยู่ดี ผมก็เลยทำไปเลย ผมเลยรู้สึกว่ามันก็เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นฟังแล้วเป็นไง ผมทำได้แค่ประมาณนี้แหละ ผมก็ทำเองเกือบหมดครับ แต่อย่างเมโลดี้ผมไม่เก่งเลย ก็จะให้ไอ้แจ็ค (วง Sherry) ช่วยบ้าง อย่างกังฟูบอย ทิ้วก็ช่วย แจ็คก็จะแบบ เออมึงลองดูให้หน่อย ผมก็เขียนเนื้อแล้วให้มันลองร้อง ลองเสร็จปุ๊บมันก็มาช่วยดูแบบ ตรงนี้มันเป็นแบบนี้ได้มั้ย แล้วก็อัดเลย เน้นทำเอามันมากกว่า ผมไม่ค่อยคิดมาก อยากให้มันมาจากช่วงเวลาที่มันกลั่นกรองออกมาแบบเร็ว ๆ ไม่ได้อยากให้มันเค้น เพราะรู้สึกว่ามันคือเหมือนฟองครีมของเราที่ตักออกมา สุดท้ายเราเก็บวัตถุดิบมาเยอะขนาดไหน มันก็จะเหมือนเป็นฟองที่กลั่นขึ้นไปข้างบนอยู่ดี ผมก็จะเก็บมาตรงนั้น รอวันที่ผมเก่งกว่านี้ ฟองมันก็จะเยอะกว่านี้ (หัวเราะ) ผมคิดอย่างนั้น

แรงบันดาลใจของ PEEYEW คืออะไร

พี: อย่างเพลงล่าสุด คือผมค่อนข้างเบื่อกับดนตรีอิเล็กทรอนิกมาก ๆ แล้วตอนนั้นผมฟัง The Beatles แล้วผมชอบการที่เขาแพนกลองไปทางซ้าย รู้สึกว่าตอนนนี้มันไม่ค่อยมีคนทำ แล้วผมก็สงสัยว่าทำไมมันจะทำไม่ได้ ผมก็เลยทำ แค่นั้นเลย แล้วเพลงอื่นก็คือ ผมชอบหาอะไรแปลก ๆ แล้วหาจุดที่มันจะเข้าไปด้วยกัน สิ่งที่มันไม่คิดว่ามันจะอยู่ด้วยกันได้ แต่เราปรับจนมันเอามาอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่มันก็มาจากความสนุกอย่างเดียว ผมไม่ได้คิดมากอะไร คือในใจมันก็คือทำเพลงส่งแหละ แต่สุดท้ายผมคิดแบบกบฎ ๆ เพลงส่งก็ส่งยังไงก็ได้ ผมก็เลยส่งแบบนี้ ผมอยากให้มันออกมาเป็นนิสัย ฟังแล้วรู้เลย เดี๋ยวก็ไปก็ต้องทำทั้งอัลบั้มส่งแล้วครับ

แล้วทำไมถึงมี กังฟูบอย อยู่ในอีพีของวงด้วย

แดน: ก็ไหน ๆ ทำมาแล้ว แล้วเราเอาไปเล่นสดด้วย คนที่ซื้อแผ่นเค้าจะได้ฟังบ้าง เพราะในสตรีมมิ่งก็ไม่มีเลย

พี: เพลงลับอะพี่

เจด: มีแค่ในฟังใจ

แดน: ก็คือต้องเสิร์ชว่า PEEYEW เลย ไม่ได้อยู่ในช่องของ YEW

พี: ในเวอร์ชั่นอัลบั้มก็คือผมทำมา แต่ให้ทิ้วมาช่วยร้อง ให้แดนมิกซ์ ​เบสทิ้วก็เป็นคนอัด สุดท้ายมันก็อยู่ในนี้ 

วงเพื่อน ที่อยากแนะนำให้โลกได้ฟัง

เจด: Sherry ครับ อยากให้ไปดู Sherry เล่นสดกันด้วย

พี: Dept นี่คือยังต้องแนะนำอยู่ไหม (หัวเราะ)​ให้มันแนะนำเราดีกว่า แล้วก็มี Landokmai ครับ เป็นคอรัสด้วย เสียงเด็กน้อย ทรัพย์น่าจะฟังบ่อยนะ (หัวเราะ)​

ทรัพย์: มี Yep May Yep

เจด: Saryn

ทรัพย์: Numcha ด้วย กำลังจะปล่อย แอบได้ฟังมาละดี

เจด: จริง ๆ มีอีกเยอะเลย แต่นึกได้ประมาณนี้

เชื่อว่าแฟน หลายคนน่าจะอยากรู้ อะไรคือบ้านอุ่นรัก

พี: บ้านอุ่นรักคือบ้านที่เป็นบ้านเช่า ที่ผม ทิ้ว เบนซ์ (Dept) แจ็ค (Sherry) แล้วก็โจ ก็คือมือกีตาร์ Dept มาเช่าอยู่ด้วยกัน คำว่าบ้านอุ่นรักทิ้วเป็นคนตั้ง ผมก็ไม่รู้ว่ามาจากไหนเหมือนกัน วันนั้นผมไม่ได้อยู่ด้วย แต่อยู่ดี ๆ ก็มีกรุ๊ปบ้านอุ่นรักขึ้นมา

ทิ้ว: แค่ชื่อกรุ๊ปที่เอาไว้คุยกันในบ้าน แบบ เออ วันนี้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ

พี: พอดีทุกคนดันทำวง มี Yew, Dept, Sherry เวลาไปเล่นก็ชอบแพ็คกันไป

ความพิเศษที่ต้อง Special Thanks บ้านอุ่นรักในทุก ๆ mv คืออะไร

พี: เพราะว่าเราทำเดโม่กันที่นั่นเยอะ เพื่อนที่นั่นก็ช่วยกันเยอะ ช่วยฟัง เวลาเราเบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปไหนก็มาที่นี่กัน

ทิ้ว: เป็นสตูเล็ก ๆ เลยครับ ใกล้สอบก็จะมารุมกันที่นั่น ทุกคน

เจด: สอบเสร็จก็ปาร์ตี้ที่นั่นครับ เป็นศูนย์บัญชาการ

เรียนจบแล้วยังจะมีบ้านอุ่นรักอยู่ไหม

พี: นั่นน่ะดิพี่ มันจะไม่มีแล้วพี่ เดี๋ยวเรียนจบแล้วก็ต้องออกกันหมด แต่ละคนก็ต้องกลับบ้านอะพี่ จ่ายค่าเช้าไม่ไหว (หัวเราะ)

ทิ้ว นักร้องนำ วง Yew

เห็นไปอัดเพลงกัน

แดน: อัดอีพีใหม่ 5 เพลง มี Summer, Let You Go ที่เอาไปเล่นสดมาบ้างแล้ว

เจด: ก็จะเป็นดิสโก้นิดนึง

แดน: อีกสามเพลงเป็นเพลงที่ต่างกันหมดเลย มีเพลงช้าด้วย เพลงฟังสบายด้วย

เจด: แทบจะคนละแนว คนละอารมณ์กันหมดเลย

แดน: ร็อกสุด ก็มี รอฟังครับ ที่แคท เอ็กซ์โป

ทรัพย์: ถ้าทันนะ (หัวเราะ)​

YEW: ทันดิ! (หัวเราะ)

แดน: EP ชื่อว่า Nothing Is Unfamiliar And Strange บั้มที่แล้วเป็น Everything เพราะว่าตอนอีพีแรกเราเพิ่งเริ่มทำกันครั้งแรก แล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มของเรา แล้วทุกอย่างมันแปลกไปหมดเลย

เจด: ยังเด็กอยู่อะ

แดน: ไม่คุ้นเคย แบบรู้สึกว่าพอทำเพลงมาแล้วเราทำอะไรลงไป ไม่ใช่ว่าไม่พอใจกับเพลงนะ แต่ก็รู้สึกว่าแต่ละเพลงมันต่างกัน

เจด: ก็มีความรู้สึกว่า งง ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

แดน: แล้วอัลบั้มที่แล้วก็โยงกับความรักด้วย เหมือนคนแยกทางกันแล้วก็รู้สึกแปลก โหวง แต่ว่าพอมาอีพีนี้มันเปลี่ยนเป็น Nothing เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราจะทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ ในด้านของดนตรี ด้านเพลง ไม่มีอะไรแปลกสำหรับเรา จะเป็นแนวไหนก็ได้ แต่ว่ามันก็คือตัวเรา ถ้าโยงในเนื้อหาของเพลง มันก็จะบอกว่า เหมือนเพลงในอีพีนี้จะเป็นการปล่อยวางกับความรัก เข้าใจชีวิตมากขึ้น โตขึ้น

จะมีปล่อยซิงเกิลอีกไหม

ทิ้ว: มีครับ ใกล้ นี้

แดน: ช่วงก่อนแคท กลาง เดือนพฤศจิกายน กำลังคิดอยู่ว่าเป็นเพลงช้า

พี: ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ว่า จะปล่อยทีเดียวสองเพลงหรือจะปล่อยแค่เพลงเดียว

แดน: ตอนแรกวางแผนว่าจะปล่อย Let You Go ก่อน แต่ว่ามันไม่ทัน แล้วก็มาถึงช่วงที่จะต้องปล่อยเพลงช้าพอดี ก็เลยคิดอยู่ว่าจะข้ามไปหรือจะปล่อยสองเพลงเลย

ฝากผลงาน 

แดน: ฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ เดี๋ยวจะมีอีพีใหม่ 5 เพลง ขายที่ Cat EXPO อาจจะมีเสื้อและสติกเกอร์น่ารัก ไปขายด้วย เดี๋ยวจะมี mv ใหม่ กลายเดือนหน้า ฝากติดตามด้วยครับผม

อ่านต่อ

เดินลมปราณ พร้อมเต้นฉีกแข้งฉีกขาไปกับ PEEYEW ในเพลง ‘กังฟูบอย’

เรียนดนตรีที่มหาวิทยาลัยไหนดี (อัพเดต ปี 2562)

การกลับมาครั้งที่สองของพวกเขา ‘Yogee New Waves Tour Blueharlem 2019’

sillyJack จากรั้วศาลายา แผดเสียง Noise Rock เดือด ๆ ในเพลง ‘Grow Up’

 

ติดตามฟังใจได้ที่ ฟังใจ – Fungjai

Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่