‘VinylFromHome’ ยกทัพตัวโหดของวงการมาเปิดแผ่นให้เราฟังกันสด ๆ เปิดประเดิมด้วย ป๋าเต๊ด, อู๋ The Yers, หมึก Nite Spot
- Writer: Montipa Virojpan
VinylFromHome อีกหนึ่งรายการไลฟ์ทางเฟซบุ๊กที่เราอยากชวนทุกคนมาดูกัน เพราะนอกจากจะได้เห็นหน้าค่าตานักร้อง นักดนตรี ศิลปิน นักจัดรายการวิทยุ และเซียนที่ช่ำชองในสาขานั้น ๆ ในแวดวงดนตรี มาเปิดเพลงจากคอลเล็กชันแผ่นเสียงของพวกเขาแบบที่เราคาดไม่ถึง รวมถึงอาจได้ฟังเขาเล่าเรื่องราวของบุคคล สถานที่ ความทรงจำ ที่อยู่เบื้องหลังบทเพลงที่คัดเลือกมาด้วย
อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา สายภาพยนตร์ ดนตรี อีเวนต์ และคอนเสิร์ต ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทำให้หลายบริษัท entertainment ไม่สามารถดำเนินกิจการตามกลยุทธทางการตลาดเดิมได้ หลายคนก็เริ่มหันมาทำ live video content กันมากขึ้น หวังพึ่ง engagement ทางออนไลน์เพื่อต่อชีวิตให้ธุรกิจอยู่รอด
“ถ้าลูกค้าไม่มาหาเรา เราก็ต้องสร้างงานด้วยตัวเองก็ได้ ถ้าไม่มีใครบรีฟเรา เราบรีฟตัวเองก็ได้” คุณราม รัตนะพร Music Director แห่ง Muse Corporation ออแกไนเซอร์ ผู้จัดอีเวนต์ดนตรี เล่าให้เราฟังถึงที่มาของการเริ่มทำโปรเจกต์ Vinyl From Home “เราเห็นศิลปินไลฟ์กันทุกคืน แต่ไลฟ์ไวนิลยังเห็นไม่ค่อยเยอะ ส่วนตัวก็ชอบไวนิลอยู่แล้วเลยคุยกับทีมงานของ Muse จากที่ทุกคน work from home ว่างกันหมด เลยคิดว่าลองทำ live vinyl dj ดีไหม สร้างจากความถนัด จากความชอบของเรา พอคิดแล้วก็ทำเลย ก็เริ่มต้นเปิดเพจ แล้วก็ชวน Big Tiger Record Studio เป็นร้านแถวโชคชัย 4 เปิดแผ่น ขายเบียร์ มีดีเจมาเปิดอยู่แล้วให้มาทำด้วยกัน”
แล้วไวนิลก็ไม่เหมือนเปิดเพลงจาก YouTube มันต้องใช้เวลากว่าจะเลือกแผ่น เลือกแทร็ค นั่งดูรูปปก artwork กว่าจะวางลงเครื่องเล่น มันเป็นความรื่นรมย์หมดเลย หรือเวลาเล่นบางทีก็เปิดผิดแทร็ค วางเข็มไม่ตรงต้นเพลง มีเสียงกรอบแกรบ มันเป็นความไม่เพอร์เฟกต์ที่เกิดขึ้นได้หมด
คุณรามบอกว่าเขาตั้งใจให้งานนี้เป็น ‘from home production’ อย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งคือให้ความร่วมมือกับนโยบายสาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค เช่นกันกับที่เทคโนโลยีในทุกวันนี้ทำให้หลายคนสามารถสร้างโปรดักชันง่าย ๆ ได้จากทางบ้าน เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตก็สามารถทำรายการออนไลน์ได้แล้ว โดยทีมงานของ VinylFromHome และดีเจรับเชิญ ก็ประสานงานกันผ่านทางออนไลน์ทั้งสิ้น
“ช่วงเวลาที่คนฟังเพลงมักจะเป็นตอนค่ำ ๆ ไปแล้ว ถ้าเราไลฟ์ 3 ทุ่ม เสร็จเกือบ ๆ เที่ยงคืน ให้ออกไป operate ทำระบบก็ไม่ได้เพราะมีเคอร์ฟิว เราเลยทำทุกอย่างที่บ้านของใครของมัน ดีเจก็ไม่ต้องให้เขาออกไปสตูดิโอถ่ายทำ หรือไปที่ร้านที่เขาเล่น”
ความพิเศษของ VinylFromHome คือการได้ศิลปินและผู้ที่เคลื่อนไหวในวงการดนตรีหลากหลายสายอาชีพ ที่มีความชื่นชอบในแผ่นเสียงมาเปิดเพลงในเราฟัง แน่นอนว่าหลาย ๆ คนในที่นี้ไม่ค่อยได้ออกหน้ากล้อง ไม่ค่อยได้เป็นปากเสียงของทางวงที่เขาเป็นสมาชิก และไม่เคยเป็นดีเจ!
“รายการนี้มันเหมือนคนเปิดเพลงไป คุยไป เหมือนจัดรายการวิทยุสมัยก่อนคนก็ไม่เหงา กลายเป็นสิ่งที่คนยิ่งชอบ บางคนมีเตรียมสคริปต์ แต่พอถึงเวลาก็จะประหม่า ความ real หรือความไม่สมบูรณ์แบบอันนั้น มันกลายเป็นเสน่ห์ของ live ซึ่งเราไม่ตั้งใจให้มันเพอเฟกต์ เราได้เห็นพวกเขาในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ
“อย่างพี่ปอย Portrait เห็นแกนิ่ง ๆ แต่แกเล่าเรื่องดีมากในแต่ละพาร์ต ความรู้เรื่องดนตรีเขาเยอะมาก ป๋าเต๊ดก็เล่าว่าเพลงนี้เคยเปิดที่คลับไหน สมัยไหน มีประวัติยังไง คนได้ความรู้เรื่องดนตรีไปอีก อย่างพี่ชัช Bodyslam ปกติเขามีพี่ตูนเป็น spokeperson ของวง คราวนี้เขาต้องมาเปิดแผ่น และทำให้เราได้รู้ว่าเขาก็เป็นคนดนตรีตัวจริงเช่นเดียวกัน ใครจะไปคิดว่าต้นรายการเขาเปิดเมทัล แล้วตอนท้ายเขาเปิดฮิปฮอป ได้รู้ตัวตนอีกด้านของเขา”
ไม่ได้เป็นแค่เพียงโปรดักชันโฮมเมด ต้นทุนไม่สูง VinylFrom Home ยังมีความมุ่งหมายที่จะให้ดนตรีเป็นยารักษาโรค ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘vinyl kills virus’ พวกเขาเชื่อว่าดนตรีมีพลังที่สามารถดึงดูดคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กันมาอยู่รวมกัน และคนกลุ่มนั้นก็มีความประสงค์ดีที่จะใช้พลังของสื่อตรงนี้ระดมทุนช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ โดยคนที่เข้ามารับชม สามารถบริจาคเงินไปที่สภากาชาดไทยได้ด้วย
“ผมมองว่ามันกลายเป็น vinyl connection เหมือน power of music ลิงก์คนได้ อยุดี ๆ ก็โยงความชอบของคนได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ทำมา 3 อาทิตย์กว่า มีคนไลค์ 5,000 กว่า organic ล้วน ๆ ทีแรกน้อง ๆ ถามว่าจะซื้อโพสต์ไหม ผมก็บอกไม่ต้องบูสต์หรอก ดูว่ามันจะทำงานยังไง ถ้าเราคัดเลือกคนที่เป็นคนดนตรีจริง ๆ มันก็จะดึงคนพวกนี้เข้ามาเรื่อย ๆ บางคนทักเข้ามาขอเปิดด้วย” หลังจากที่ EP 1 ถูกปล่อยนำร่องออกไป โดยเริ่มจากการชักชวน vinyl collectors เพื่อน ๆ ดีเจที่เปิดตามร้านมาลองดูก่อน กลับได้ผลตอบรับที่ดี จนเกิดเป็น EP 2 (โคตรจะไลฟ์) ที่ได้คนที่เซียนดนตรี (โคตร ๆ) มาร่วมสนุก ทั้ง ป๋าเต๊ด, เป้ อารักษ์, โดม ปกรณ์ ลัม และอีกมากมาย
และใน EP 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็ได้คนดนตรีจากหลากหลายสายอาชีพ หลายไลฟ์สไตล์มาร่วมเป็นดีเจสมัครเล่นกันในรายการ ทั้ง หมึก—วิโรจน์ ควันธรรม ผู้จัดรายการวิทยุในตำนาน Nite Spot Show (อันที่จริงคุณรามได้เทียบเชิญ ป้าแต๋ว—วาสนา วีระชาติพลี คู่ดูโอ้ของแกมาเปิดด้วย แต่ป้าบอกป้าไม่ไหว แง) แล้วยังมี WJMild เน็ตไอดอลที่รักเพลงร็อกเป็นชีวิตจิตใจ ไหนจะ กิ กิรตรา หนึ่งในโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต Have You Heard? ที่เราเคยรู้จักเธอในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปวง Niece และมีผลงานเดี่ยว บุ๊ค—อลงกต เอื้อไพบูลย์ ผู้กำกับโฆษณา และผู้กำกับมิวสิกวิดิโอชื่อดังจากยุค 90s อ๊อฟ Big Ass โซ่ ETC เป๊ก Zeal อู๋ The Yers ที่จะมาในชื่อ DJ Torrayot บอกเลยว่าหลากหลายสไตล์มาก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
อย่าลืมตามดู EP 3 ‘Vinyl Normal’ เมื่อไวนิลกำลังจะกลายมาเป็นอีกหนึ่ง ‘new normal’ ในชีวิตใครหลาย ๆ คนเริ่มอังคารที่ 19 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม ดูตารางดีเจแต่ละคนในทางเพจ Vinylfromhome กันเลย แล้วไม่ใช่แค่รายการไลฟ์ เขายังมีคอนเทนต์และเกร็ดน่ารู้สนุก ๆ ให้คนรักแผ่นเสียงและคนที่กำลังจะหัดเล่นได้เข้าไปอ่านด้วยนะ
อ่านต่อ
Record Store Day วันที่คนรักแผ่นเสียงตั้งตารอให้วนกลับมาทุกปี
Strange Fruit ไวนิลบาร์ย่านสุขุมวิท เปิดบ้านต้อนรับเพื่อนใหม่ที่รักแผ่นเสียง
‘ถึงจะไม่ทำเงิน แต่ Dub หล่อเลี้ยงจิตใจ’ ฟังเหตุผลที่ แก๊ป T-Bone ยังไม่หยุดทำ GA-PI ในงาน จับหูชนปาก 8
2019: การกลับมาของ Drum and Bass ดนตรีอิเล็กทรอนิกจาก 90s ที่จะยังคงอยู่