ฉีกทุกความคุ้นเคย วี วิโอเลต เตรียมปล่อยอิเล็กทรอนิกป๊อปเพลงแรก ก็แค่ไม่มีฉัน
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayot
หลังจากที่ปล่อยเพลงโฟล์กอบอุ่นอย่าง อยากฟัง ออกมา แฟน ๆ หลายคนของ วี วิโอเลต ต่างรอคอยให้เธอมีผลงานเพลงออกมามากขึ้น แต่ช่วงนึงที่เธอหันไปรับงานแสดงจึงทำให้เราได้เห็นความสามารถด้านอื่น ๆ แต่ตอนนี้เธอกลับมาทำเพลงแล้ว และพร้อมปล่อย ก็แค่ไม่มีฉัน ที่แม้สีสันจะแตกต่างจากเพลงก่อน แต่ยังคงอัดแน่นด้วยตัวตนของเธออย่างเต็มเปี่ยม 9 มิถุนายนนี้
แนวเพลงเปลี่ยนไปไหม
เปลี่ยนเลย ก่อนหน้านี้วีทำเดโม่มาหลายอัน ดำน้ำไปหลายครั้งมาก ทั้งที่เป็นอิเล็กทรอนิกจ๋ามาก ก็รู้สึกว่าอันนั้นไม่ใช่วี วียังมีความออแกนิกอยู่ในตัว วีเลยหอบข้าวของไปหาบิลลี่ วง Tilly Birds ที่เป็นรุ่นน้องของวี แล้วมานั่งคิดว่าเราต้องการอะไร หรือจริง ๆ แล้วเพลงเราควรจะเป็นยังไงกันแน่ เพราะเพลงที่แล้วเหมือนมีแต่เสียงวี ไม่มีเอกลักษณ์ทางดนตรีที่บอกความเป็นวีเลย ทีนี้ก็เลยลองมาทำเองจริง ๆ กับบิลลี่ จนลองหาไปหามาก็ออกมาเป็นเวอร์ชันนี้ เริ่มรู้สึกว่ามาถูกทางแล้วก็เลยลองหาคนที่จะมาโปรดิวซ์ให้ ก็นึกถึง พี่โหน่ง The Photo Sticker Machine เพราะเคยทำงานกับเขาตอนเพลง ฝากไว้… แล้วชอบ เลยลองส่งเดโม่ไปให้เขา แล้วเขาก็สนใจ ระหว่างที่ทำวีก็คิดว่า อยากได้เสียง handpan เข้ามาในเพลงด้วย ก็ลองใช้คอมคีย์กัน แต่เสียงมันไม่เหมือนกับมือที่โดนเหล็กจริง ๆ เลยคิดว่าจะใช้ handpan จริง ๆ ดีไหม ก็เลยลองเซิร์ชไปเจอว่ามีพี่ Honon รู้จักเขาวันนั้น ก็ติดต่อวันนั้น ให้มาอัดวันนั้นเลย แล้วเขาก็นั่งรถมาจากชลบุรีแล้วมาตีอัดกัน ซึ่งผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก แล้ววีรู้สึกว่าเพลงมันคือวีมากเลย มันมีความออแกนิกอยู่ แต่ก็มีความสมัยใหม่ของอิเล็กทรอนิกเข้ามาเกี่ยวข้อง สุดท้ายมันคือแนวอะไรก็ไม่สามารถพูดได้ จะเป็นอิเล็กทรอนิกเลยไหม หรือออแกนิกไหม ก็พูดได้ไม่เต็มปากเหมือนกัน ถ้าถามว่าป๊อปไหม ก็มีส่วน ถ้าได้ฟังแล้วคิดว่ามันคืออะไรก็ช่วยบอกหน่อยก็ดี วีดันเป็นคนที่ไม่มีทฤษฎีทางดนตรีที่จะมาอธิบายได้ ส่วนเนื้อเพลงก็ได้ พี่เย่ Slur กับพี่บิว Lemon Soup แล้วก็มีพี่อ๊อฟ Rats Records มาช่วยกันแต่งเนื้อเพลง ตอนแรกวีก็เริ่มจากมีไอเดียแล้วเขียนท่อน verse ไป แล้วเอาไปให้เขาฟัง ช่วยกันเขียนตอน pre hook แล้วก็ hook จนออกมาเป็นเพลงนี้
ก็แค่ไม่มีฉัน เป็นเพลงเกี่ยวกับอะไร
เนื้อหาก็เกี่ยวกับผู้หญิงที่ไม่อยากอยู่ใต้ความสัมพันธ์ที่จู้จี้จุกจิกมากเกินไป เคยใช่ไหมเวลาไปไหนจะโดนถามว่า อยู่กับใคร ทำอะไรอยู่ ทำไมต้องไป คนนี้ใคร ตลอดเวลา แล้วมันน่ารำคาญมาก ๆ จนกระทั่งคนคนนี้ตัดสินใจว่า ถ้าเธอรับไม่ได้ ฉันก็จะไม่เปลี่ยนตัวเองอีกเพื่อสร้างความประทับใจให้เธอ วีไม่ได้บอกว่าเป็นประสบการณ์ตรงของวีนะ (หัวเราะ)
ใช้เวลาในการทำนานขนาดไหน
วีแต่งเพลงนี้เสร็จตั้งแต่กันยา แล้วก็ไม่ได้ arrangement ที่ถูกต้องสักที จนมาเจออันนี้กับบิลลี่ตอนมกรา แล้วเพลงเสร็จประมาณเดือนเมษาแหละ มาสเตอร์ได้เมื่อต้นเดือนพฤษภาที่ผ่านมา มันยาวนานมาก แต่ที่นานเพราะเรากดดันตัวเองด้วยมั้ง พอเราเริ่มตั้งคำถามว่า แล้วดนตรีของเราคืออะไร เราดันเป็นคนที่เข้ากับทุกอันได้ดีมาก แล้วเราก็ดันชอบหลายอย่างเหลือเกิน มันก็ทำให้เราเป๋ ทำให้ยากในการสร้างสิ่งที่มันบอกความเป็นเราขึ้นมา แล้วรู้สึกว่า ถ้าเราหา identity เจอ ในเพลงต่อ ๆ ไปก็จะง่ายเพราะเรารู้แล้วว่ามันควรจะเป็นอะไร ซึ่งมันหาความพอดียากมาก จนในที่สุดก็เจอ เอาจริง ๆ มันเนื้อยเหนื่อย เครียดมาก แต่พอผ่านมาแล้วมองกลับไป จริง ๆ ก็สนุกดีเพราะได้ลองทำอะไรหลายอย่าง
ช่วงนี้ฟังเพลงอะไรอยู่
วีฟังไปเรื่อย ๆ ของวีอยู่แล้ว ปกติวีก็ฟังมาหลากหลายเหมือนกัน อย่าง handpan วีชอบมาตั้งแต่ปี 1 ตอนไปค่ายต่างจังหวัดกับคณะที่ปาย แล้วเจอฝรั่งนั่งเล่นอยู่ก็สงสัยว่าอีจานบินนี่คืออะไร แต่ชอบเสียงมันมากตั้งแต่นั้นมา แล้วก็รู้สึกว่า มันคงจะดีเหมือนกันนะถ้าได้ใช้เสียงนี้ใส่ในเพลง ก็เลยตอนทำคัฟเวอร์กับบิลลี่ก็ถามว่าลองใช้อันนี้ได้ไหม แล้วพอใส่เข้ามาในเพลงที่ร้องด้วยกันแล้วรู้สึกว่าเวิร์ก ก็เลยอยากลองเอามาใส่ในเพลงตัวเองด้วยเพราะยังไม่มีใครทำ
รอบนี้ใครทำ mv ให้
วีได้พี่ปิงมากำกับ ทีแรกก็ส่งเพลงไปให้ฟัง พี่ปิงก็ชอบ แล้วบอกว่าอยากทำ คืองานนี้วีตั้งใจมาก วีอยู่กับมันตั้งแต่กระบวนการแรกจนถึงกระบวนการสุดท้าย วีวางลุคเอง วีเลยอยากให้ทุกอย่างออกมาดี แล้ววีโชคดีมากที่มีพี่ปิงก็เป็นผู้กำกับ mv นี้
ตั้งใจจะ rebrand ตัวเองจากเพลงก่อนหน้าหรือเปล่า
เป็นการตั้งใจทำเองจริง ๆ มากกว่า ไม่ถึงขั้น rebrand หรืออะไร วีรู้สไตล์ของตัวเองค่อนข้างชัด แค่ภาพในสื่อมันอาจจะไม่ได้ชัดขนาดนั้น ตอนนั้นไปคุยกับใครสักคนแล้วเขาบอกว่า การปั้นศิลปินจริง ๆ มันต้องคิดเป็นระบบยังไงบ้าง ก็เลยได้รู้ว่าจริง ๆ อย่างแรก เราต้องวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเราก่อน เราวิเคราะห์ตลาดของเราเอง วางแผนของเราทุกอย่าง แต่เราไม่ได้ทำตามใจกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ คือเราทำตามใจตัวเองด้วย และเรารู้ว่าถ้าทำในแบบของเรามันก็จะเวิร์กต่อแฟน ๆ ของเราเหมือนกัน
การเป็นศิลปินของวีไม่ได้เป็นแค่การถ่ายทอดศิลปะอย่างเดียว แต่ใช้การตลาดเข้ามาช่วยด้วย
คือเพลงมันเอา strategy มาใช้ด้วยไม่ได้ เพลงมันควรจะเป็นศิลปะล้วน ๆ มันคือตัวของมันเอง แต่เรื่อง ลุค หรือ mv เป็นอีกเรื่องนึงที่น่าจะเอามาใช้กับ strategy การตลาดพวกนี้ได้ ซึ่งจริง ๆ มันก็สำคัญ ซึ่งอันนี้เราก็ทำเองด้วย เก่งป้ะล่า (หัวเราะ)
กังวลไหมว่า feedback ของเพลงนี้จะดีไม่เท่าเพลง อยากฟัง
ไม่กลัว รู้สึกว่าตอนนี้ภูมิใจกับเพลงนี้ ฉันแฮปปี้กับสิ่งนี้ แล้วฉันรู้ว่าในอนาคตถ้าฉันเอาเพลงนี้ไปเล่นในคอนเสิร์ต ฉันก็จะมีความสุขในการร้องเพลงนี้อีก แค่นี้พอแล้ว
คิดเผื่อเพลงอื่นไว้แล้วหรือยัง
จริง ๆ ตั้งใจทำเป็น EP เพลงสากล แล้วทางค่ายบอกว่าอยากให้ทำเพลงไทยก่อน ก็เลยมีเพลงนี้อยู่ แล้วตอน ปลายปี ค่ายก็บอกว่าถ้ายังไม่ได้ arrangement สักทีก็เลิกทำเพลงนี้แล้วทำ EP เลยก็ได้นะ แต่ด้วยความที่ฉันอีโก้ ความมั่นใจของฉันบอกว่าฉันจะทิ้งอย่างนี้ไม่ได้ ก็เลยลองทำดูก่อน จนสำเร็จ แล้วจะต่อด้วย EP ทันที คือระหว่างที่โปรโมตซิงเกิ้ลตอนนี้ก็ทำ EP ไปด้วย แต่เพลงนี้จะไม่รวมใน EP
EP ถึงไหนแล้ว
มีเพลงครบแล้ว แต่ยังไม่ได้ arrange เขียนไว้แล้ว ถ้าย้อนไป ถ้าตอนนั้นล้มเลิกว่าไม่ทำเพลงไทยเพลงนี้ EP 4 เพลงที่จะปล่อยจะไม่ใช่ 4 เพลงนี้ เพราะเรายังไม่ได้ตกตะกอน
วีถนัดทำเพลงภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทย
ใช่ แต่พอไม่ได้ทำนาน ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างนั้นได้ไหม เพราะสิ่งที่เราโฟกัสมันหลุดไปเยอะเหมือนกัน เหมือนมันไม่เสร็จสักทีจนวีตัดสินใจหยุดรับงานสามเดือน เพื่อที่วีจะได้ทำเพลงจริง ๆ สักที แล้วไปอเมริกาด้วยแปปนึง ไปพักผ่อน นอนดูซีรีส์ที่บ้านรุ่นพี่ (หัวเราะ)
การทำเพลงไทยกับเพลงสากลวิธีคิดเหมือนกันไหม
สำหรับวีก็รู้สึกว่าเหมือนนะ เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้อยากให้เพลงไทยเราฟังได้แค่ในเมืองไทย เพราะถ้าเกิดว่าเราทำเพลงไทยให้คนไทยฟังอย่างเดียว มันก็อยู่แค่นี้ เลยรู้สึกว่าถ้าทำเพลงไทย แต่คิดแบบฝรั่ง ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจความหมาย ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะฟังเพลงนี้ของเรา เพราะบางครั้งเราก็ฟังเพลงที่ไม่รู้ความหมายเหมือนกัน ก็พยายามคิดให้มันสากลที่สุด ภาษามันเป็นแค่ barrier เล็ก ๆ ดนตรีมันไม่จำเป็นต้องเข้าใจภาษาร้อยเปอร์เซ็นต์ บางเพลงมันไม่มีเนื้อร้องด้วยซ้ำ
แล้วทำไมค่ายถึงอยากให้ทำภาษาไทย
ก็คงต้องการเจาะตลาดไทยมากกว่า เอาจริงต้องยอมรับว่าศิลปินไทยที่ทำเพลงภาษาอังกฤษก็ยังไม่ได้โดดเด้งหรือแมสขนาดนั้น ก็ยังเป็นอินดี้กลุ่มนึงอยู่
ทำไมเพลงแรกถึงทำเป็นโฟล์กป๊อป
เราไม่รู้เหมือนกันว่าป๊อปไหม แต่มันโฟล์กมาก แล้วมันจริงมาก เพราะอันนั้นเราแต่งเองร้อยเปอร์เซ็นต์ คือมันเหมือน.. ชอบเพลงเปล่า ๆ มากกว่าใส่เครื่องดนตรี แล้วการใส่เครื่องดนตรีมากไปมันเป็นการทำลายเพลง แล้วเพลง อยากฟัง คือหนึ่งในเพลงพวกนั้นที่ถ้าใส่เยอะ เสน่ห์ของเพลงมันจะหาย เราเลย tone down ให้มันเหลือแค่นั้นพอ มันเหมาะกับอันนั้นที่สุด แล้วมันเป็นตัววีมาก แต่มันเป็นตัววีตอนอายุเท่านั้น
จากสองปีที่แล้ว วีเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
มากที่สุดในโลกเลย มันเหมือนโตเร็วอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจออะไรมาเยอะมาก ในแง่ตัวเพลงเองเหมือนเราฟังอะไรหลากหลายขึ้น เหมือนบางครั้งเราฟังเพลงตามกระแส อิเล็กทรอนิกมันกำลังมา อย่าง The Chainsmokers หรืออะไรพวกนั้น ถึงมันจะแมสมากแต่เราก็ต้องยอมรับว่า enjoy เพลงพวกนี้อยู่ หรือถ้าเพลงอินดี้มาก ๆ โฟล์กมาก ๆ เราก็ชอบหมดเลย มันกว้างมากจนเราเสพทั้งหมด แล้วเราก็เปลี่ยนไปตามสิ่งที่เราฟัง ถ้าช่วงที่เราฟัง Lily Allen บ่อยเราก็จะเริ่มเขียนเพลงประชดประชัน (หัวเราะ) หรือถ้าฟัง Lana Del Rey คนอาจจะคิดว่า เฮ้ย ทำไมมันดาร์กได้ขนาดนั้น ก็แล้วแต่ว่าเราฟังอะไรไปมันก็จะมีอิทธิพลกับเราไปในทางนั้น ซึ่งตัวตนมันก็ค่อย ๆ สร้างมาจากสิ่งที่เราฟังแหละ แล้วช่วงสองปีที่ผ่านมา ดนตรีเมืองนอกเขาหลากหลายมากและโตไวมาก เพราะฉะนั้นเราก็เลยได้บริโภคอะไรประหลาด ๆ มาอยู่ในตัวเราเหมือนกัน
อะไรคือจุดเด่นของวงการอินดี้ไทยในตอนนี้
ถ้าวีไม่ทำงานที่ Cat Radio วีจะไม่มีทางรู้เลยว่ามันมีศิลปินไทยที่เพลงดี ๆ เยอะมาก หลากหลายแนวมาก แต่แค่มันไม่เปิดกว้าง คนข้างนอกในกลุ่มแมสบางคนเขาไม่รู้ว่ามันมีตรงนี้อยู่ ตรงนี้มันเป็นวงการเล็ก ๆ แต่สนุกมาก มีคนทำเพลงเยอะมาก ผุดเป็นดอกเห็ด แล้วแบบ เฮ้ย คนนั้นคนนี้ทำออกมาอีกแล้ว ทำไมมันเก่งจังวะ
อยากให้มันแพร่ออกไปไหม
จริง ๆ มันควร spread ไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมมันถึงไม่ไปไหนวะ ที่เขาเสพวิทยุกระแสหลักกันเพราะเขาไม่รู้ต้องไปหาอย่างนี้เสพที่ไหน ทุกอย่างเข้าถึงง่าย อันนี้ต้องเข้าเว็บ เข้าอะไร ถ้างั้นมันก็เป็นหน้าที่ของ distributor หรือคนจัดคอนเสิร์ตที่จะจัดเฟสติวัลแล้วเอาวงน้องใหม่มาเผยแพร่บ้างให้คนรู้จัก เพราะถ้าเกิดว่าเอาแต่เบอร์ใหญ่ ๆ มาตลอดมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
แล้วเห็นข่าวดราม่าวงอินดี้ที่ไปโผล่ใน line up เสม็ด In Love แล้วโดนคนดูแสดงความไม่พอใจหรือเปล่า
อันนี้ต้องเป็นเรื่องของวงการเพลงที่เขาต้องจับมือช่วยกันแล้วล่ะ
นอกจากทำเพลงของตัวเองแล้วทำคัฟเวอร์กับบิลลี่ด้วย
ไม่มีอะไรหรอก ก็เป็นรุ่นน้องคณะแล้วชวนกันไปร้องเพลง ช่วงนั้นเราก็อยากหาอะไรทำเหมือนกัน คัฟเวอร์เอาสนุกเฉย ๆ
เสน่ห์ของการคัฟเวอร์คืออะไร
คือการได้ร้องเพลงของเขา งงปะ คือเราชอบเพลงนั้น มันดีจนเราอยากร้องเพลงของเขา แล้วทำไงได้ในเมื่อมันมีคนอื่นมาร้องแล้ว เราเลยทำให้เพลงที่เราชอบกลายเป็นของเราด้วยการไปร้อง เหมือนหลอกตัวเองน่ะ ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ดีกว่าด้วยนะ เราแค่เกลียดที่เขาเพลงออกมาดีมาก ๆ แล้วทำไมเราเป็นคนเขียนเพลงนี้ไม่ได้วะ (หัวเราะ)
การทำเพลง การแสดง และจัดรายการวิทยุ ให้เปอร์เซ็นต์ความชอบในการทำงานแต่ละอย่างอย่างละเท่าไหร่
การจัดรายการวิทยุเหมือนไปนั่งเม้าท์กับเพื่อนเฉย ๆ มันคือการได้พัก ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้เราปวดหัว สิ่งที่เราจะพูดออกไปมันอาจจะไม่คิดเยอะ ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมแหละ แต่มันไม่ได้ทำให้วีเหนื่อยขึ้น แล้ววีไม่รู้สึกว่าเป็นงาน คือวี enjoy กับมันประมาณนึง หรืองานเพลงกับงานแสดง วีให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งสองอันเลย วีชอบทั้งสองอย่างมาก ถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างนึงวีทำไมได้ คือวีคิดกับมันคนละแบบเพราะงานทั้งสองมันทำไม่เหมือนกัน งานแสดง เราทำเองไม่ได้ แต่ถ้ามันมีเข้ามาเราก็ทำ ถ้าไม่มีไม่เป็นไร เราก็ทำงานเพลง เพราะงานเพลงเราทำของเราเองออกไปได้ เราไม่ต้องรอ ก็แค่แบ่งโฟกัส เช่นตอนนี้
เรียนจบแล้ว จะทำงานประจำอย่างอื่นด้วยไหมหรือเอาแค่เพลงกับงานแสดง
แค่นี้ก็เยอะแล้ว จริง ๆ อยากให้เพลงมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่มันก็มีการตั้งคำถามแบบมนุษย์ว่าที่ทำอยู่นี้มันจะยั่งยืนไหม เราจะอยู่รอดไหม เพราะมันไม่ได้อยู่กับเราไปตลอด วันนึงเราทำผิดแล้วมันสามารถหายไปได้ในพริบตา หรือเราควรจะมีงานอะไรบางอย่างที่มั่นคง แต่เอาจริงก็ไม่รู้จะทำอะไรนอกจากสิ่งนี้เพราะเราก็ไม่ได้เรียนมาตรงสายขนาดนั้น เรียนเอกภาพยนตร์ โทการละครคณะอักษรศาสตร์ แล้วก็มานั่งคิดว่า ทำไมไม่เลือกโทโฆษณาวะ (หัวเราะ) เดี๋ยวก็นึกออกเองแหละ แต่เราก็มีความรู้สึกว่า ยังไงฉันก็ไม่อดตายหรอก ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ แค่บางครั้งมันมีคำถามว่า เอ๊ะ ถ้าไม่มีล่ะ จะทำยังไง
การมาเป็นศิลปินแต่สื่อไม่โฟกัสผลงานแล้วมุ่งเป้าไปที่เรื่องส่วนตัวของเรา รู้สึกยังไงบ้าง
ก็เข้าใจนะ เพราะเหมือนถ้ามีข่าวคนอื่นเราก็ตามเหมือนกัน (หัวเราะ) ข่าวบันเทิงมันก็ควรจะบันเทิง ถึงแม้ว่าบางคนจะไม่บันเทิงด้วย แต่จะทำไงได้ ถ้าเขาโฟกัสข่าวของเราแล้วทำให้เห็นผลงานเราด้วยก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไม่เห็นเลย เขาก็น่าสงสารเนาะ มีความเป็นคนขี้ตัดสินคนอื่น วัน ๆ ตามแต่เรื่องแบบนี้ (หัวเราะ) บางครั้งเราก็หงุดหงิดแหละว่าฉันก็มีอย่างอื่นนะทำไมไม่สนใจ ไม่ใช่หงุดหงิดว่ายุ่งอะไรนักหนา หรือบางครั้งคนเรามันก็ต้องมีผิดพลาดบ้างปะวะ เราทำอะไรผิดนิดหน่อยก็มาว่าเราเหมือนไปทำอะไรให้เขามาแต่ชาติปางก่อน หรือดูถูกเรา ซึ่งในหัวเราคือ …เดี๋ยวนะ รู้จักฉันจริง ๆ หรอ แต่ก็เข้าใจได้ (ยิ้ม)
จะมีงานแสดงที่ไหนเร็ว ๆ นี้
เริ่มเล่น 1 กรกฎาคม ช่วงนี้ให้เพลงมันทำงานก่อน มีงาน Cat Foodival กับ Wet & Wild ที่พัทยา วันเดียวกันเลย วิ่งรับงาน
ฝากผลงาน
ตอนนี้กำลังดู EP ภาษาอังกฤษอยู่นะคะ ยังไงฝากเพลง ก็แค่ไม่มีฉัน วันที่ 9 มิถุนายน และ mv จะปล่อย 23 มิถุนายนด้วยค่ะ เพราะมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการทำงานหมดเลย เลือกพระเอกเองด้วยค่ะ นายแบบหล่อมาก เพื่อนถึงขั้นถามว่านี่จะหาแฟนหรือหาพระเอกเนี่ย (หัวเราะ) ตั้งใจมาก ๆ ค่ะ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ วี วิโอเลต ได้ที่ https://www.facebook.com/weloveviolette/