อยากปล่อยเพลงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ TuneCore ช่วยได้ ง่ายและเป็นมิตร!
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul
- Visual Designer: Fahsai Intharak
TuneCore คือหนึ่งในผู้นำด้านแพลตฟอร์มการจำหน่ายเพลงดิจิทัลของโลก ซึ่งจะพาให้เพลงของทุกคนไปถึงแพลตฟอร์มฟังเพลงสตรีมมิ่งและโซเชียลมีเดียชั้นนำด้วยการอัพโหลดเพลงเพียงครั้งเดียว เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นสายจนถึงปลายน้ำ TuneCore จะดูแลเพลงของศิลปินทุกคนให้อย่างดีแน่นอน ศิลปินอิสระท่ีมีแพลนจะปล่อยเพลงเร็ว ๆ นี้ห้ามพลาด! มาทำความรู้จัก TuneCore ให้มากขึ้นไปด้วยกัน
แนะนำตัวกับชาวฟังใจ
Cyrus: สวัสดีครับ ผม Cyrus Chen, ผู้บริหาร TuneCore, SEA ครับ
Tune: สวัสดีค่ะ ตุ่น–สมวลี ลิมป์รัชตามร Country Director ค่ะ
TuneCore คืออะไร
Cyrus: TuneCore คือหนึ่งในผู้นำด้านแพลตฟอร์มการจำหน่ายเพลงดิจิทัลของโลก ธุรกิจนี้เริ่มต้นปี 2005 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และปัจจุบันได้ขยายออกไปมากกว่า 20 ประเทศ
เราเชื่อมช่องว่างระหว่างศิลปินและสตรีมมิ่งเข้าด้วยกัน ผมมองว่าเราเปรียบเสมือนผู้ช่วยทางด้านเทคโนโลยีสำหรับนักดนตรีและศิลปินทุกระดับ เพื่อที่จะนำเพลงออกไปสู่ร้านค้าดิจิทัลทั่วโลก รวมไปถึงแพลตฟอร์มฟังเพลงสตรีมมิ่งทั้งหลายอย่าง Spotify, Apple Music, JOOX, และ KKbox ตลอดจนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, TikTok, และ YouTube โดยศิลปินเพียงแค่อัปโหลดผลงานและข้อมูลต่าง ๆ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเราจะส่งมันไปยังอีกมากกว่า 150 ร้านทั่วโลก ซึ่งเป็นร้านที่เป็นพันธมิตรโดยตรง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคนกลางในการดำเนินงาน
ส่วน Business Model ของเราก็ธรรมดาทั่วไปครับ จะเก็บบริการจากค่าสมาชิกรายปี ก็เหมือนกันกับ Spotify ที่เก็บค่าบริการรายเดือนนั่นแหละครับ เพราะแบบนี้ เราจึงสามารถคืนรายได้ให้ศิลปินได้อย่าง 100% จริง ๆ แล้วเรามีแผนสำหรับ Youtube, Facebook, Instagram, TikTok และ Resso ด้วย ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่วงหน้าเลย แต่จะเก็บจาก 20% ของรายได้ที่ได้แทน และสำคัญที่สุด คือ คุณสามารถปล่อยผลงานออกมาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะ 10 หรือ 100 ผลงาน คุณก็จ่ายในราคาเท่าเดิม ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับแผนที่คุณจะเลือกด้วย)
สุดท้ายนี้พวกเรายังช่วยดูแลเรื่องลิขสิทธิ์เพลงซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานได้เมื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยครับ
มุมมองด้านดนตรีเปลี่ยนไปอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
Tune: ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา วงการดนตรีมีการพัฒนาจากแผ่นเพลงเข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล แต่ก่อนประเทศไทยเองก็เคยผ่านช่วงเวลาอันน่าเจ็บปวดของแผ่นผีซีดีเถื่อน ซึ่งส่งผลกระทบที่รุนแรงมากต่อค่ายเพลงและศิลปิน จนกระทั่งการสตรีมมิ่งเริ่มต้นขึ้น มันเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของอุตสาหกรรมนี้ ทั้งค่ายเพลงและศิลปินต่างก็มีอิสระเสรีมากขึ้น ฉันบอกได้เลยว่าสตรีมมิ่งได้นำยุคทองของอุตสาหกรรมดนตรีมาสู่ทุกคนและสำหรับทุกคนค่ะ
มีเพลงที่ชอบฟังช่วงนี้บ้างไหม
Tune: เป็นคำถามที่ยากมากเลย เพราะชอบหลายเพลงมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงจากยุค 90’s ค่ะ
COVID-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสตรีมมิ่งอย่างไร และมีอะไรที่สามารถแบ่งปันให้เราฟังได้ไหม
Tune: มันส่งผลกระทบในแง่ดีค่ะ เพราะในขณะที่การแสดงดนตรีสดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สตรีมมิ่งเพลงกลับมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับศิลปินและค่ายเพลงที่ไม่ลดละความเชื่อมั่นในหน้าที่การงาน ถ้าสังเกต มันง่ายมากเลยค่ะ ที่จะหาค่ายเพลงและศิลปินที่มีตัวเลขการสตรีมเพลงและรายได้เพิ่มขึ้นสองถึงสามหลักในช่วงปีที่มี COVID-19 และมีผลงานจำนวนมากที่มีความสร้างสรรค์มากกว่าสมัยก่อน พูดง่าย ๆ ว่า COVID-19 ส่งผลอันตรายเกือบทุกอย่างยกเว้นการสตรีมมิ่งเพลงนั่นเองค่ะ ฉันคิดว่าหลังจากนี้ความท้าทายที่สำคัญคือการที่จะต้องหาวิธีก้าวข้ามการเติบโตที่สร้างขึ้นในช่วง COVID-19
จำเป็นไหมที่ศิลปินจะต้องเล่น TikTok ในปัจจุบัน
Tune: TikTok เป็นช่องทางที่ดีเลยค่ะสำหรับการโอกาสในการเกิดคอนเทนต์ที่เป็นไวรัล และดึงคนไปช่องทางออฟฟิเชียล ไม่ว่าจะเป็นออดิโอหรือวิดิโอ ซึ่งการที่จะทำให้มันมีประสิทธิภาพก็ต้องแน่ใจว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องผลิตคอนเทนต์แบบเดียวกันกับคนอื่น ๆ เหมือนกับที่ไม่จำเป็นต้องเต้นถ้าคุณไม่พร้อม เพราะใน TikTok มีอะไรอีกมากมายที่สร้างสรรค์และสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามมันจะออกมาดีเสมอถ้า 1. มาจากความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง คุณได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ และ 2. เชื่อมกลับไปยังช่องทางออฟฟิเชียล ทั้ง 2 ข้อนี้จะทำให้ TikTok สร้างผลตอบรับที่ยิ่งใหญ่ให้งานของคุณค่ะ
อะไรคือความแตกต่างระหว่างสมัยก่อนและปัจจุบัน
Cyrus: ปัจจุบันตลาดดนตรีได้เติบโตขึ้น จากที่ศิลปินจะปล่อยเพลงไม่กี่อัลบั้มหรือปล่อยเพียง 1 อัลบั้มต่อปี มาสู่การปล่อยเพลงที่บ่อยและสม่ำเสมอมากขึ้นเพื่อให้อยู่ในใจแฟนคลับและคนทั่วไป ทั้งนี้แผนใหม่ของเราทำให้ศิลปินสามารถปล่อยเพลงได้อย่างต่อเนื่องและเข้าถึงได้มากขึ้น โดยเราให้สิทธิในการควบคุมการปล่อยเพลงได้อย่างไม่มีจำนวนจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเพลงเดี่ยวหรืออัลบั้ม
ผมคิดว่าในตอนนี้พวกเราเป็น “ศูนย์กลางของศิลปิน” มากกว่าที่เคยเป็นมา นอกจากจะได้รับบริการระดับสูงและเงินที่สูงขึ้นแล้ว ศิลปินของเรามีการจำหน่ายแบบไร้ขีดจำกัดที่สุดในตลาดด้วย
พวกเราต้องการส่งเสริมให้ผู้ผลิตระเบิดศักยภาพทางศิลปะของพวกเขาอย่างเต็มที่ที่สุดครับ
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการแบ่งรายได้
Cyrus: เราได้พูดคุยกับศิลปินและค่ายเพลงโดยตรงในช่วงปีที่ผ่านมา และความคิดเห็นที่ได้รับบ่อย ๆ คือศิลปินต้องการที่จะทดสอบเพลงใหม่แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายก่อนที่จะกระจายออกให้กับทุกบริการ ดังนั้นก็เลยนำมาสู่แผนสำหรับศิลปิน “ฟรี” ซึ่งเป็นทางออกแบบครบจบที่ไม่เหมือนใคร โดยสามารถเพิ่มให้ศิลปินปล่อยเพลงอย่างไม่จำกัดไปยังคลังเพลงของ Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube (รวมถึง Shorts, Content ID และ Youtube ของศิลปิน) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นพบและทำให้ผลงานไวรัลบนโซเชียลมีเดียหลัก ๆ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมล่วงหน้าและจ่าย 80% ให้ศิลปิน แผนนี้จึงเหมาะสำหรับศิลปินที่เพิ่งเริ่มต้นหรือศิลปินหน้าใหม่ เพราะจะทำให้สามารถสร้างรายได้ในขณะที่ทดสอบเพลงได้ครับ และเมื่อพวกเขารู้สึกพร้อมที่จะเผยแพร่ผลงานของตัวเองไปยังร้านค้าดิจิทัลกว่า 150 แห่งของเรา ตอนนั้นเขาจะสามารถเลือกการจ่ายเงินได้ และยังสามารถได้รับเงินคืนถึง 100% ของรายได้ทั้งหมด
สิ่งนี้ช่วยนักดนตรีในประเทศไทยได้อย่างไร
Tune: เราคือความหมายที่แท้จริงของ “อิสรภาพ” เลยค่ะ มันมอบความเท่าเทียมกันให้แก่ศิลปินทุกคน ในการที่จะเข้าถึงผู้คนและแสดงให้โลกใบนี้เห็นว่าคุณมีพรสวรรค์แค่ไหน และไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปินระดับเริ่มต้นหรือเป็นใครก็ตาม ทุกคนสามารถใช้บริการของพวกเราได้ค่ะ มากไปกว่านั้นค่าธรรมเนียมที่เราเรียกเก็บก็อยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ในขณะเดียวกันคุณสามารถเข้าถึง DSP ได้ทั้งหมดทั่วโลก
ทำไม TuneCore ถึงสำคัญสำหรับคนทั่วไป ไม่ใช่แค่ศิลปิน
Cyrus: อืม…ผมคิดว่าเกือบทุกคนฟังเพลงเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งศิลปินสามารถปล่อยเพลงกับพวกเรามากเท่าไร คนทั่วไปหรือแฟนเพลงก็จะได้รับฟังเพลงที่หลากหลายประเภทมากขึ้นเท่านั้น ผมไม่ได้บอกว่ามันสำคัญนะครับ แต่นี่คือข้อเท็จจริงที่เราเล็งเห็นสำหรับการดนตรีในขณะนี้
คาดหวังผลตอบรับจากแผนใหม่ไว้อย่างไรบ้าง ?
Cyrus: ณ ตอนนี้เราได้ลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการปล่อยเพลงลงมามากแล้ว เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรากำลังจะได้เห็นศิลปินของเราปล่อยเพลงด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นนะครับ นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสให้ศิลปินได้เล่นกับความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ได้ลองทำเพลงมากขึ้น ไปจนถึงการได้ร่วมมือกับศิลปินท้องถิ่นและภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ผมหวังว่าแผนใหม่นี้จะช่วยให้ศิลปินสามารถพึ่งพาการสตรีมเพลงมากขึ้นเพื่อเป็นรายได้สำหรับพวกเขาครับ
มีอะไรอยากพูดทิ้งท้ายไหม ?
Tune: ให้โอกาสตัวเองในการดึงความสามารถออกมา และให้โอกาสแฟน ๆ ในอนาคตได้รู้จักกับคุณ และเราจะมอบโอกาสเหล่านั้นเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเองค่ะ ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ให้ TuneCore ได้ช่วยคุณนะคะ Just do it!
Cyrus: สิ่งที่เราคาดการณ์ไว้คือ เอเชียจะกลายเป็นตลาดเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2028 ครับ นั่นคือ จีน, อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศเหล่านี้ในอนาคตจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากกว่าสหรัฐอเมริกาอีก และประเทศไทยที่เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นหนึ่งในตลาดเพลงที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างแน่นอนครับ ซึ่งนั่นนับเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับศิลปินไทยในปัจจุบันและอนาคตของเรา ผมเองก็หวังว่าคุณจะตื่นเต้นมาก ๆ เหมือนผมนะ !
พิเศษตอนนี้ !! สำหรับ ศิลปินแฟน ๆ ฟังใจและกำลังมองหาลู่ทางในการเผยแพร่ผลงานเพลงของตัวเอง
สมัครใช้งาน TuneCore ตอนนี้ พร้อมส่วนลดค่าแรกเข้า 20% แถมรับคอร์สดนตรีจาก Fungjai Academy ไปเลย
รายละเอียดเพิ่มเติม Click
ช่องทางการติดต่อ
Line official: @tunecorethailand