Interview

ร็อก Lo-Fi ไซคีเดลิก สไตล์ดนตรีที่ไม่จำกัดของ Zee เวหยุทธ์ เกตุปัญญา

  • Writer: Montipa Virojpan

เราอาจจะคุ้นหน้าของ ซีเวหยุทธ์ เกตุปัญญา ในฐานะมือกีตาร์จากวงของ แดเนียล ดิษยศริน แต่หากเราเป็นผู้ใช้สตรีมมิงฟังใจสายแรนด้อม ก็น่าจะจับพลัดจับผลูไปเจอศิลปินที่ชื่อ Zeedox ที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะทำเพลงแนวไหนกันแน่เพราะมีทั้งเพลงกรันจ์เท่ ไปจนถึงเฮาส์ และแอมเบียนต์โลไฟที่ล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้น จนไป มา เราเพิ่งมารู้ว่าทั้ง Zee และ Zeedox คือคนคนเดียวกัน! รวมถึงมีโปรเจกต์ร่วมกับเพื่อน ในชื่อ Le Putin และตอนนี้ซีก็กลายมาเป็นศิลปินของค่ายสนามหลวง มีเพลงแหวกขนบปล่อยออกมาแล้วถึงสองเพลง มาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นก่อนไปฟังเพลงล่าสุดที่จะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันเร็ว นี้กันดีกว่า

Zee

ก่อนหน้านี้เห็นลงเพลงกับฟังใจตลอด รู้จักฟังใจได้ยังไง

แรกสุดเลยคือตอนวง Somkiat ปล่อยอัลบั้ม ผมเห็นเขาลงในสตรีมมิงฟังใจ ช่วงนั้นปล่อยไล่เลี่ยกับ Slur เลยมั้ง คือ YouTube เขาก็ยังไม่ปล่อยผมก็ไปไล่ฟังทั้งอัลบั้ม พอฟังไปเรื่อย เห็นมี New Release ของศิลปินคนอื่น กับผมเห็นว่า เออ ฟังใจให้มีปล่อยเพลงได้ด้วยหรอ ผมก็ลองดูบ้าง ไหน จะปล่อยกับฟังใจก็ลองอัดให้ดีขึ้นหน่อย ส่งมิกซ์ มาสเตอร์ ให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนมาลง เพลงแรก รักจนแก่

แล้วแนวเพลงที่ทำมาก่อนหน้านี้คือกระจัดกระจายมาก ทำไมสนใจหลายแนวขนาดนี้

ผมว่าผมชอบทุกแนว พอทำเพลงก็ไม่ได้อยากทำแค่แนวเดียว อยากทำเรื่อย ตามอารมณ์ แรกสุดผมบ้าเพลงร็อก พวกกรันจ์ ร็อกแอนด์โรล สมมติช่วงนี้ผมบ้าดีเจก็อยากลองทำเฮาส์บ้าง ลองไปเรื่อย จนตอนนี้ก็กลายมาเป็นแบบปัจจุบัน ก็พยายามเอาทั้งหมดมารวมอยู่ในที่เดียวกัน

มีอะไรที่เป็นจุดร่วมในเพลงของ Zee

ถ้าให้บอกจริง ก็ยังไม่รู้ว่าลายเซ็นคืออะไร (หัวเราะ) อาจจะเป็นซาวด์ลอย ชอบเอาเครื่องดนตรีแปลก มาใส่ บางทีก็ไม่ใช่เครื่องดนตรีแต่เป็นการเคาะกุญแจแล้วเอาไปใส่ในเพลง ก็ค่อนข้างจะทดลองนิดนึง การที่เราบ่งบอกคนฟังว่าเราเป็นซีอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นร็อก คือถ้าเราฟังดนตรี เราฟังไปได้เรื่อย ไม่ต้องจำกัดแนวก็ได้.. อาจจะเป็นกีตาร์มั้งครับ เป็นเครื่องดนตรีที่ผมเล่นได้ดีสุดแล้ว พอจะไปลองเล่นเปียโนเหมือนมือเราล็อกกับกีตาร์แล้ว พอจะไปฝึกเปียโนมือมันก็สลับด้านกัน ก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เลยพยายามใส่ไปเท่าที่ใส่ได้

เท่าที่เห็นการแสดงออกผ่านโซเชียลหรือในเพลงต่าง จะมีเรื่องเกี่ยวกับไซคีเดลิก อะไรทำให้อินแนวคิดเหล่านี้

เกิดจากการที่เราค้นพบว่าบางอย่างไม่ต้องตายตัวแค่สิ่งเดียวก็ได้ แต่เราสามารถทดลองอะไรใหม่ เข้ามาใน element ของเราได้เรื่อย โดยที่ยังไม่รู้ว่ามันจะไปอยู่ตรงไหน อันไหนได้ก็ได้ อันไหนไม่ได้ก็เอาออก ก็พยายามถ่ายทอดออกมาในเพลงของผม ผมชอบในเชิงที่มันหลากสี ไม่ได้เป็นสีโทนเดียว แต่มันจะมีสีที่พิเศษเข้ามา

แต่ช่วงหลังมางานออกเป็น lo-fi dream pop psychedelic

มัน lo-fi ในเชิงการอัด ไม่ได้ไปอัดในสตูมีซาวด์เอนจิเนียร์ดี ด้วยความที่เรางบน้อย อัด low quality ในห้องนอนตัวเอง เอากีตาร์ใส่ interface กลองก็เขียนเอา แต่ทำให้มันดูมีซาวด์ดีไซน์หน่อย ให้มันไม่จืด

มาร่วมงานกับสนามหลวงได้ไง

แรกสุดผมเล่นกีตาร์ให้แดเนียลที่ก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แดนก็บอกว่าจะไปอยู่สนามหลวง ก็ชวนผมไปเล่นกีตาร์ด้วย แล้วผมก็อยากลองเข้าไปอยู่ในโลกของดนตรีอีกแบบ อยากเข้าไปรู้ว่าข้างในมันเป็นยังไง งานแรกที่ไปเล่นคือที่ Jam Factory ก็เจอพี่เปิ้ลที่เขาคุมค่ายสนามหลวง แดนก็พาผมไปแนะนำตัวแล้วผมก็โม้ตามประสาเด็กอะว่า ผมก็ทำเพลงเหมือนกันนะ ปล่อย YouTube เล่น เขาก็บอกลองส่งเพลงมาสิเผื่อมันใช้ได้ ผมก็ลองส่งไปในเฟซบุ๊ก เขาก็ขอบคุณค่ะไม่ได้อะไรมาก สักพักนึงสองสามวันพี่เปิ้ลทักมาใหม่ว่าว่าง ก็เข้ามาที่ตึกบ้างก็ได้นะเผื่อมาเซ็นอะไรงี้ ผมก็ลองเข้าไปคุยเรื่องสัญญา ผมก็ไม่เคยเห็นอะไรหรือรู้อะไรแบบนี้มาก่อน ไม่ได้คิดว่าเขาจะให้มาทำอะไรแบบนี้จริง การแบ่งเปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องเป็นราว การทำเพลงให้คนฟัง ผมก็แบบ มันคงเป็นอะไรที่น่าจะดีก็ได้ ตอนเข้าไปคุยก็พูดว่าถ้าได้ล้านวิว มีดาวน์โหลด ยอดสตรีมมิงต่าง คุณอาจจะได้เงินเท่านี้ ก็จัดเลย ไม่รอแล้ว โอกาสมาขนาดนี้

Zee

ชอบการทำงานแบบมีค่ายไหม

ตอนนี้ผมชอบนะ เพลงเราเหมือนมีค่ากว่ามาปล่อยใน YouTube แล้วใครจะฟังก็ไม่รู้ ผมก็ไม่ได้ดัง ปล่อยมาก็ 500-600 วิว แต่พอปล่อยค่ายแล้วมันเป็นงานขึ้น พวก pr คอนเซ็ปต์ที่ต้องใช้โปรโมต มันต้องแคร์เรื่องพวกนี้มากขึ้น ไม่ใช่แบบวันนี้อยากลงเพลงก็ลง แต่มันก็มีพวกเพลงที่ทำกับเพื่อนผมเด็บบี้ เป็นมิกซ์เทปเพลงเก่า ไม่ใช่อะไรที่ผมทำเอง เดี๋ยวปล่อยกับค่ายจะโดนค่าลิขสิทธิ์ ส่วนเพลงอื่นอย่างเพลงอังกฤษ ผมก็ไม่มั่นใจพอจะปล่อยกับค่าย Bad Trip เนื้อหาก็ไม่น่าจะโอเค (หัวเราะ)

ปกติเวลาเล่นคือเล่นคนเดียวแล้วเปิด MD เอาหรือมีเพื่อนมาช่วยเล่น

วงที่ผมเล่นด้วยทุกวันนี้คือ Le Putin เป็นอีกวงที่ผมทำอยู่ แล้วเขาก็มาช่วยเล่น คือช่วงที่ผมทำเพลงเยอะ ผมก็ชวนมาทำด้วย แต่เขายังไม่พร้อม ตอนนั้นผมก็เลยไม่ได้รอเพื่อน เลยลองดูก่อนว่าเป็นไง แล้วช่วงนี้วงผมเริ่มมีไฟ ไปคอนเสิร์ตแล้วอยากทำเพลง ผมก็กลับมาช่วยวงมากขึ้น คือเพลงเดี่ยวมันทำได้เรื่อย ตามใจ แต่ของวงบางทีเราทำเพลงมาแต่เพื่อนยังไม่มีอารมณ์มาแจมกัน มันก็คนละฟีลกัน

Le Putin จริง มีเพลงที่ดีมาก ชื่อ Rail Rose

เพื่อนผม จีเนียส นักร้อง เขาแต่ง แล้วลงเดโม่ใน YouTube ผมก็ถามว่าอยากเอาเพลงนี้มาอัดใหม่ แล้วทำให้มันเป็น mv ดี ดูมั้ย ผมกะทำส่งอาจารย์เฉย แต่ดนตรีมันดีจริง นะ แล้วอย่างน้อยเราก็ร้องภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นอะไรใหม่ ที่ดีก็ได้ เหมือนพยายามจริงจังกับวงนี้ขึ้น เป็นวงที่เราต้องดูแลกัน ทำดนตรีในแบบที่ผมกับเพื่อนอยากเล่น ไม่ได้ตีความว่าต้องเป็นอะไร แต่ตอนนั้นมีคนเขียนถึงว่าเป็นไซคีเดลิกร็อก Pink Floyd อะไรก็ว่าไป เราก็เลยคุยกันว่า เออ ตามแต่เขาบัญญัติ อะไรออกมาคงจะเป็นแบบนั้นหมด ตอนนี้อัดเพลงใหม่แล้ว ตอนแรกจะปล่อยเดือนนี้ แต่ตังผมหมดก่อน ยังไม่มีตังไปส่งมิกซ์ มาสเตอร์ ไว้เดือนหน้ามีตังก็รอดูกันครับ

เนื้อหาส่วนใหญ่ในเพลงของ Zee เองอยากเล่าเรื่องอะไร

เกือบทุกเพลงที่ผมปล่อยมันก็เกี่ยวกับความสัมพันธ์ผู้ชายผู้หญิงตลอด แต่ไม่อยากให้มันตรงตัว มันดูน้ำเน่า เธอรักฉัน ฉันรักเธอ เลยพยายามหาภาษาให้ metaphor ให้คนคิดต่อไม่ใช่ฟังแล้วซึมซับไปได้เลย

เล่าถึงแต่ละเพลงที่ปล่อยมาหน่อย เริ่มที่ สิ่งที่อยากบอก

พอผมคุยกับพี่เปิ้ลเรื่องส่งเพลง เพลงที่ผมปล่อยลง YouTube เขาก็บอกให้ลองทำเพลงใหม่มาส่งได้ไหม แล้วในโทรศัพท์ผมมันก็มีเดโม่ เป็นเพลงสองคอร์ดโง่ ลองเอาเพลงนี้มารีอะเรนจ์กับดนตรีดู คิดสักพักเลยนะว่าจะเอาดนตรีทำให้ออกมาแนวทางไหนให้มันเข้ากับการปล่อยกับค่าย สรุปผมคิดมากเกินเรื่องดนตรี ก็เลยให้มันจะเป็นยังไงก็ให้มันออกมาตามฟีลละกัน แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ เนื้อหาประมาณว่าเรากำลังรออะไรบางอย่าง แล้วเหมือนเรายังไม่ได้คำตอบจากสิ่งนั้น ก็ไม่อยากทำให้ตัวเองเครียด ก็ต้องปล่อยตัวเองไปเรื่อย พยายามไม่ยึดติดกับสิ่งเดียว มันอาจจะเจออะไรที่ดีกว่าข้างนอกก็ได้

ฝันไปพอ ค่อนข้างซับซ้อนกว่าเพลงแรก

เนื้อเพลงมีการใช้การเปรียบเทียบเยอะนะ แต่ถ้าเราตัด metaphor ออกมันก็เป็นเพลงอกหักเพลงนึง เหมือนบอกว่า เธอแค่ฝันอยู่แหละ ช่างแม่ง แล้วเพื่อนผม STNG ที่เป็นแร็ปเปอร์ในเพลงอยู่มหาลัยเดียวกัน แล้วเขาก็ออกซิงเกิ้ลกับแก๊งเขาชื่อ ยันเช้า มีสองล้านวิว ก็เริ่มรู้สึกว่ารอบตัวเริ่มมีคนที่เรารู้จักทำเพลง เราก็ชวนมาทำด้วยกัน ให้มาแร็ปเผื่อจะเป็นอะไรที่โอเค มันก็จัดเลย แต่งเนื้อแล้วส่งมาให้ดูปึบ ๆๆๆ ผมอ่านรอบแรกแล้วหลงรักมากเลย เป็นเนื้อแร็ปที่สุดมาก ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน ซึ่งความแปลกคือมันเป็นเพื่อนผมไง ก็เซอร์ไพรส์ เลยให้มันเข้ามาอัดเลย คือเพลงนี้ผมทำก่อน สิ่งที่อยากบอก ด้วย นานมาก แล้วรู้สึกว่ามันจะเป็นเพลงที่ดีเหี้ย เลยไม่อยากรีบ คิดอะไรได้ก็ค่อย ยัดเข้าไป พอรู้สึกว่าเริ่มใกล้เวลาจะปล่อยก็เอาเนื้อไปเซ็นกับค่ายแล้วเริ่ม wrap up ทำให้มันเสร็จเป็นก้อนชิ้นนึง แล้วลองปล่อยไป ผมก็รู้สึกว่าเพลงนี้จริง แล้วสำหรับผมมันก็ป๊อปนะ แต่ไม่ได้ป๊อปที่มีช่วงติดหูวนกลับมาเรื่อย แต่มันป๊อปที่ต้องฟังไปก่อน เริ่มมาคือผมใส่กลองก่อน พวกซินธ์ เบส ยังไม่ได้ใส่ อยากได้ให้เป็นดิสโก้ กับกีตาร์โปร่ง แล้วรู้สึกว่าดิสโก้มันต้องมีอะไรบ้างวะ ต้องมีท่อนเบสกรูฟ ก็มาลองแงะดู ได้เบสไลน์นี้มันก็สะเดิด หน่อย มันก็โอเค ดูหมอลำ ดี แล้วผมคิดอะไรไม่รู้ตอนนั้นไปขอนแก่น เจอแคนกลับมา อยากเอาแคนเข้าไปในเพลงก็ลองอัดเป็นลูปซ้ำไป ท่อนที่คล้ายออแกนจริง เป็นเสียงแคนแหละ แล้วก็เริ่มอัดกีตาร์ไฟฟ้าลงไปอยากให้มันเป็นสายน้ำ ตอนแรก ตอนท้าย ตอนกลาง มันไม่เหมือนกันสักอย่าง ผมก็คิดว่าคนคงเข้าใจแหละ

เพลงล่าสุดที่กำลังจะปล่อย ไม่พักผ่อน

ตอนผมส่งเนื้อให้ค่าย ผมส่งพร้อม ฝันไปพอ แต่เพลงนี้ผมยังไม่ได้อัดเลย มีแค่เดโม่อยู่ในโทรศัพท์แล้วรู้สึกว่าคอร์ดเพลงนี้เหมือนจะลงป๊อปแจ๊ส คอร์ดมันไหลดี ไม่ได้ดูเป็น 4/4 เปลี่ยนคอร์ดได้เลย แต่เริ่มมีลูกเล่นมากขึ้น รู้สึกว่าพอเสร็จ ฝันไปพอ ก็กะจะทำเพลงนี้ต่อดีกว่า แล้วตอนหลังก็เปิดดีเลย์เอฟเฟกต์กีตาร์ขยี้ให้มันหมุนไปเรื่อย อัดสามอันแล้วค่อยเอามาตัดให้มันเชื่อมกันให้ได้ ตอนแรกมันเหมือนจะป๊อปแล้วใช่ไหม ผมรู้สึกแบบ มันจะป๊อปไปปะวะ เลยลองใส่ท่อนหลังเพิ่ม ให้เป็นท่อนส่งคนเข้านอน ขยี้ก่อนที่เพลงจะจบเดี๋ยวมันแห้งเกินไป ส่วนเนื้อหาเพลงนี้ประมาณว่า ชีวิตรักของคู่นึงที่คนนึงเขาต้องการความเพอร์เฟกต์ในชีวิตเขา ซึ่งพอเขาต้องการความเพอร์เฟกต์ก็ไม่ได้ตัดสินใจจะหยุดอยู่ที่เดียว ก็คือออกไปหาความเพอร์เฟกต์อยู่เรื่อย เพื่อที่จะหาสิ่งที่เพอร์เฟกต์ที่สุด แต่สิ่งนึงที่เขาลืมคือการพักผ่อนหยุดอยู่กับตัวเอง ทบทวนทุกอย่างรอบ ตัวเอง แต่ไปมองอยู่เรื่องเดียวคือหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ได้

Zee

จริง เพลงที่ปล่อยกับสนามหลวงก็แอบฟังยากอยู่นะ

สำหรับผมเพลงมันก็คือเพลง ไม่ได้มานั่งตีกรอบอะไร ผมก็แค่ทำที่ผมชอบทำ แต่ทำให้มันดูฟังง่ายพอที่คนจะพอเก็ตได้ ไม่ได้หลุดดาร์ก หรือลึกมาก ถ้าเราปล่อยออกไปมันก็น่าจะมีสักคนที่พอเข้าใจ ลองคิดดูมันมีคนที่ฟังเพลงตลาดมานาน ถึงจุดนึงเขาจะไม่ลองฟังเพลงอย่างอื่นดูหรอ เบื่อแบบนี้แล้วลองหาอะไรใหม่ ฟังหน่อยดีกว่า

จะกลับไปทำเพลงร็อกแบบ รักจนแก่ อีกไหม

ผมก็อยากทำร็อกนะ ก็เล่นร็อกมาตั้งแต่เด็ก แต่พอผม 21 แล้วรู้สึกว่าทำไมอยู่ดี เพลงร็อกมันเหนื่อย ผมเล่นกีตาร์กับเพื่อนก็สนุกทุกรอบ แต่พอเริ่มทำเพลงช้า แล้วไปเล่นร็อก รู้สึกเหนื่อย ต้องขยี้ เอเนอร์จี้เรายังมากไม่พอ แต่วันไหนรู้สึกอยากออกไปเล่นมัน หรือได้ไปเล่นบนเวทีบางทีฟีลมันก็กลับมา อย่างยิ่งได้ไปดู Foals ยิ่งอยากทำเพลงร็อกเลย ผมอยู่ข้างหน้าตรงเขามอชพิตกัน ตอนเล่น Providence ผมไปมอชกับฝรั่งตัวใหญ่ ผมล้มยับเลย จบเพลงนี้ผมรู้สึกหน้ามืด พอ Spanish Saraha คนอื่นเฮ แต่ผมนอนอยู่ข้างล่าง หายใจไม่ออก คลานออกไปหายใจ ไปพักข้างนอก พอ Inhaler ค่อยเข้ามาใหม่

มีรุ่นพี่ชอบบอกว่าเด็กรุ่นนี้พลังน้อย

ใช่ ไม่กรันจ์ ไม่พังก์กันแล้ว แต่ผมเชื่อว่าสายหนัก ก็มี แค่มันอาจจะไม่ได้ไปพังก์กับร็อก แต่พังก์กับแทร็ปแทน มันก็ไวบ์เดียวกัน

ร็อกจะกลับมาตอนไหน

อาจจะกลับมาตอนที่คนหาอะไรจากฮิปฮอปไม่ได้แล้ว เพราะตอนที่ร็อกมันบูมมันเป็นของใหม่และเป็นของที่ดีมาก พวกพังก์อังกฤษ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนกลุ่มเดียวกับพวกฮิปฮอปนะ แต่แค่เป็นกลุ่มที่ซึมซับมาคนละวัฒนธรรม แต่กลุ่มหลัก ของพวกเขาคือคนที่ชอบอิสรภาพแหละ เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมา จริง มันไม่ได้หายไปไหน มันก็ยังอยู่ เด็กบางคนเผลอ ฟัง Guns N’ Roses ลึกกว่าผมอีก แค่ตอนนี้โลกยังเบื่ออันนั้นกันอยู่

เห็นชอบพูดเรื่องความสันติ ความสงบ ในโลกอุดมคติของ Zee อยากจะเห็นอะไร

อย่างแรกเลยคือคนต้องถูกปูพื้นฐานสิ่งแวดล้อมมาก่อนเลยว่ามันสำคัญกว่าอย่างอื่น เพราะเงินอะไรก็ตามที่ได้มา เริ่มแรกสุด resource ของมันก็ได้มาจากโลก สภาพแวดล้อมปะ มาเห็นใจโลกดีกว่า อย่างน้อยเราก็เป็นคนตัวเล็ก ที่อยู่บนโลกใบใหญ่ มันเหมือนเราไปเหยียบหน้าโลกโดยที่ไม่รู้ว่าโลกคืออะไร มันก็ไม่ดีอะ ตอนนี้มันไม่สวยงาม มันแย่มาก ถ้าคนไม่คิดจะทำอะไรก็ได้แค่ปลง

เคยคิดจะเขียนเพลงเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ไหม ตอน Human World เขียนถึงอะไร

พูดถึงสิทธิ์ของมนุษย์ที่เราจะทำอะไรก็ได้ เพราะเราใช้คำว่า human rights เป็นข้ออ้าง ซึ่งจริง แล้วบางอย่างมันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ผมอยากจะทำเรื่องธรรมชาติตอนที่ผมจะกลับมาใส่ใจเรื่องนี้จริงจัง ก่อนหน้านี้ผมมีไฟมาก ว่าอยากจะทำให้โลกนี้ดีขึ้น แต่แค่ความฝันกับเพลงมันยังเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ตอนนี้ผมค่อนข้างปลงเลยไม่ได้ยึดอะไรเรื่องนี้เป็นหลัก ทำเรื่องตัวเองก่อน แต่เดี๋ยวก็คงกลับมาทำอะไรสักอย่างแหละ

ศิลปินหลายคนเริ่มไม่สู้ต่อแล้วเหมือนกันนะ

ช่วงนี้มันมีวงใหม่ขึ้นมาเรื่อย แล้วเท่าที่ผมเห็นบางวงเพลงก็ดี แต่เขาไม่ได้ทำต่อ เหมือนเขาทำมาหนึ่งเพลงแล้วได้ไม่พอ ก็เลิกไปทำโปรเจกต์ใหม่ ไม่ก็แยกย้ายไป ผมว่าทำต่อก็ไม่ใช่เรื่องแย่ปะ ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย ถ้าเขามีความสุขกับเพลงที่เขาทำก็ไม่รู้เขาจะเซ็งไปทำไม

เป้าหมายของ Zee เองล่ะ

ผมอยากทำเพลงให้ได้ตังพอที่จะไม่ต้องขอเงินแม่ การมีเงินใช้จากการทำเพลงเป็นอะไรที่โอเคมาก มีคนโหลดเพลง เอาเงินมาให้เราได้ไปทำเพลงต่อ กับทำเพลงมาเยอะพอที่คนจะเก็ตว่าที่ผมทำเป็นแนวนี้ และให้คนเปิดใจพอที่จะให้ผมทำแนวอะไรก็ได้ ไม่ต้องมานั่งคิดมากว่าเฮ้ย คนจะฟังป่าววะ

เดี๋ยวมีงานเล่นที่ไหนอีก

วันที่ 30 สิงหาคม เล่นกับแดเนียล เล่นเปิดให้ Bomb at Track แล้วก็เดี๋ยวมีงาน สนามหลวงสวนสนาม เป็นงานใหญ่ของค่าย

Zee

ฝากผลงาน

ฝากเพลง ไม่พักผ่อน เป็น mv แรกที่มีโปรดักชันถ่ายจริงจัง เป็นรุ่นพี่ผมที่ ABAC ทำ mv ให้ Clockwork Motionless เพลงปล่อย กับ ไกล เขาก็อยากทำ mv ดี ให้ผม มาช่วยฟรี เลยใจดีมาก เพลงนี้คิดเนื้อเรื่องให้คนดูตามเพลงได้ ขยายตามเพลง ไม่ได้ล่องลอยไปเรื่อย แล้ว ตั้งใจทำจริง ฝากด้วยครับ

อ่านต่อ
Le Putin – Rail Rose
ZEE ft. STNG เพลงเท่สุดสะกดที่เราไม่ควรมองข้าม ฝันไปพอ (FPP)
Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้