วิถี ดนตรี สังคม เพื่อ…’ชีวิต’ ในแบบของ TaitosmiTH
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul
‘เพื่อชีวิตมันดิ้นได้’ คำที่เรามักได้ยินอยู่เสมอจาก TaitosmiTH วงดนตรีเพื่อชีวิตแห่งยุคที่ทุกเรื่องเล่าและทุกการแสดงสดของพวกเขามัดใจคนฟังได้อย่างอยู่หมัด เรามาทำความเข้าใจวิถี ดนตรี สังคม และคำว่าเพื่อชีวิตในรูปแบบของ TaitosmiTH ให้มากขึ้นไปพร้อมกันกับเตรียมตัววอร์มขาและกล่องเสียง ก่อนจะไปมันส์ยกค่ายกับ GeneLabCon ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้!
“ไททศมิตร” นิยามตัวเองว่าเป็น ‘เพื่อชีวิต’ กัน แล้วชีวิตในแบบของไททศมิตรคืออะไร ?
จ๋าย: โอ้โห มันตอบยากมากเลย
โมส: คุณเจตค่อนข้างเซียนนี่ ชีวิตที่เป็นอยู่ช่วงนี้เป็นไงบ้าง
เจต: นอนอย่างเดียวอะดิ
ฟังใจ: แอคชัน!
โมส: อ้าว ตัดเลย!
จ๋าย: จริงจังละ คือมันตอบยากตรงที่ไลฟ์สไตล์ของคนทั้ง 6 คน มันก็ต่างกัน ถ้าจะให้นิยาม บางคนก็เล่นเซิร์ฟสเก็ต, กินครัวซองต์, เข้าแคมป์, เทรดบิดคอยด์ แบบมันเป็นชีวิตปอน ๆ รู้สึกว่าชีวิตเราก็เป็นคนชนชั้นกลางปกติ ไม่ได้หรูหรา ไม่ได้ลำบาก ถ้าจะให้จำกัดนิยามของคำว่าชีวิตของพวกเราก็คงจะเป็นคำว่า ‘ชนชั้นกลาง’
คิดว่าเพลงเพื่อชีวิตจำเป็นจะต้องมีพาร์ตดนตรีปลุกใจเสมอหรือเปล่า? เพราะบางคนเข้าใจแบบนั้น ช่วยอธิบายความหมายของเพลงเพื่อชีวิตเพิ่มเติมให้หน่อยได้ไหม
จ๋าย: เราเคยพูดเอาไว้แล้วว่าเราเข้าใจว่าเพื่อชีวิต ไม่ใช่แนวดนตรี เพราะเพื่อชีวิตสำหรับพวกเรามันเป็นวิถี เป็นมู้ดแอนด์โทนหรือว่าเป็นฌองของเรื่องที่เล่ามากกว่า เพราะว่าถ้าจับวงที่เป็นเพื่อชีวิตเอาแค่ในประเทศเรา ทุกวงไม่มีวงไหนที่มีดนตรีเหมือนกันเลยนะ เหมือนพี่ปู–พงษ์สิทธิ์ก็เป็นอัลเทอร์เนทีฟ–ร็อกไปเลย
มีน: ที่เมืองนอกเขาก็เล่ากันหลากหลายรูปแบบนะ
จ๋าย: ใช่ คือพอมันไม่ใช่แนวดนตรีแล้วมันก็เลยไม่ได้มีแนวดนตรีมาคลุมคำว่าเพื่อชีวิต ก็คือเพื่อชีวิตมันดิ้นได้
มีน: อืม มันไม่จำเป็นครับ
การออกมาเล่าความจริงของสังคมผ่านเพลง ต้องแลกกับอะไรบ้างไหมที่ผ่านมา
จ๋าย: ยังไม่มีนะเพราะเท่าที่ผ่านมาก็ยังคงมีแค่งานเดียวที่หายไป หลังจากนั้นก็ยังไม่มีงานไหนหายไป ผมรู้สึกว่าตราบใดที่เรายังเล่นงานกาชาดได้อยู่ ก็นับได้ว่าเขาก็คงยังรักเราอยู่
มีน: ชอบ ๆ ๆ ๆ
จ๋าย: ส่วนตัวผมว่ามันเป็นเรื่องของขอบเขตมากกว่าครับ การแสดงออกของเรามันชัดเจนก็จริง แต่เราไม่ได้รุนแรงนะ อืม เราตรงไปตรงมาจริง แต่เราไม่ได้แบบไร้กาลเทศะขนาดนั้น
มีน: เพราะถ้าไม่มีขอบเขตมันจะต้องมีเรื่องหมั่นไส้กันส่วนตัวแน่นอน
จ๋าย: เรื่องบางเรื่องพวกผมคิดว่ามันละเอียดอ่อน แล้วก็อย่างที่บอกเรื่องกาลเทศะ ถ้าอยู่ในพื้นที่ของเรา เราก็สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่บางทีเราอยู่ในพื้นที่ของเขา เราก็ต้องให้เกียรติเขา บางทีเขาก็เป็นผู้จ้างเรา เพราะในความเป็นเพื่อนมนุษย์แล้วเขาไม่ได้ผิดอะไร
ได้เข้ามาทำงานในฐานะศิลปินของค่าย Gene Lab มาพักนึงแล้ว มีความแตกต่างอย่างไรกับตอนที่เป็นศิลปินอิสระไหม เล่าให้ฟังหน่อย
มีน: เราจริงจังมากขึ้นเพราะว่า เราทำงานกับนายทุน เพราะว่าเราได้รับเงินเข้ามาและเราต้องบริหารมันทำให้มันเกิดประโยชน์ที่สุด จริงจังในเรื่องของ Quality กับ Promoter มากขึ้น จริง ๆ ก็หลายอย่างอ่ะแม้แต่โชว์ก็ยังจริงจัง
จ๋าย: เพราะเหมือนเรามีผลประโยชน์ร่วมกันอ่ะเนอะ คือเมื่อก่อนมันแค่เราไง
มีน: ใช่สมมติเรามีเงินกัน 4000 ถ้าเราทำพัง เจ๊งแม่งก็เจ๊งไง ก็ไม่เป็นไร แต่นี่แบบ สมมติทำเขาเจ๊งก็คือจะไม่มีโอกาส… น่าจะยากที่จะได้รับโอกาสต่อไป ความไว้ใจก็จะน้อยลง
จ๋าย: คือเรามองในมุมมองของถ้าสมมติเราเป็นนักลงทุน เราจะไปซื้อหุ้นที่มันตก มันก็ไม่ใช่เรื่องถูกไหม? เพราะฉะนั้นในฐานะศิลปินเราก็ต้องฝึกฝนและพยายามสร้างผลงานที่ดีออกมาอยู่แล้ว คือมันก็ต้องจริงจังขึ้นถ้าเทียบกับเมื่อก่อน มันจะแบบ “แม่งเปื่อยว่ะ วันนี้ไม่อยากตื่นละ กูไม่อยากทำ ไม่อยากมา” ก็ไม่ได้ไง เราต้องมืออาชีพมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น
อนาคตของวง TaitosmiTH จะเป็นยังไงต่อ หรืออยากจะทำอะไรต่อหลังจากนี้บ้าง เพราะถ้านับความสำเร็จในวงการเพลงก็ถือว่าเดินทางมาไกลมาก ๆ แล้ว
จ๋าย: ถ้าไม่นับช่วงนี้ที่เป็นช่วงขาลงนะฮะ ก็คงพยายามจะทำเพลงให้ดีที่สุดแหละ ถามว่าทิศทางดนตรีจะไปในทางไหนก็คือพวกเราไม่ได้กำหนดไว้เลยนะ
โมส: ครับ
จ๋าย: อ่าว มึงพูดแค่นี้หรอ
โมส: ก็ส่งมาเท่านี้อะ
จ๋าย: ก็ในอนาคตล่ะจะเป็นวงโง่ ๆ ก็ได้
โมส: ไม่ เราฉลาด
จ๋าย: แต่วิธีการเราโง่มากเลยนะ
มีน: มาด้วยกันปะเนี่ย
จ๋าย: คือเราพยายามเน้นคุณภาพด้วยแล้วก็เน้นจำนวนด้วย เพราะว่าพวกเรามีสิ่งที่จะพูดจะเล่าเยอะมาก แล้วก็พยายามทำงานทำเพลงให้มันออกมาทัน เพราะในยุคนี้เค้าคงไม่นิยมการทำเพลงเยอะ ๆ ต่อปีกันมั้ง ปล่อยเป็นซิงเกิลไปใช่ไหมล่ะ
มีน: ต่างจากเมืองนอกเนอะ ของเมืองนอกนี่แบบเขาปล่อยมาเป็นอัลบั้มเลย แล้วคนก็ไปไล่ฟังมันอิมแพคกว่า แต่บ้านเราคนเขาปล่อยเป็นซิงเกิลกันอะ
จ๋าย: แต่ด้วยตัวศิลปินเองเราก็รู้สึกว่าเราอินอัลบั้มมากกว่าอยู่ดี เหมือนเราเป็นจิตรกรอะ คุณวาดรูปมาถ่ายรูปมาเราก็ไม่อยากจะแปะมันเป็นรูปหนึ่งแล้ว เพราะก็อยากมีนิทรรศการเป็นของเราเอง ถูกไหม?
มีน: ฟังแค่เพลงเดียวแล้วไม่รู้ไง
เร็ว ๆ นี้เราจะสามารถเจอ TaitosmitH ได้ที่ไหนบ้าง
จ๋าย: ช่วงนี้พวกเรามีทัวร์คอนเสิร์ตทุกเดือนเลยครับ สามารถติดตามที่เพจ TaitosmiTH ได้เลยครับ ส่วนใครที่อยู่ กทม. หรือละแวกใกล้เคียง ต้องห้ามพลาดงานนี้เลย GeneLabCon นอกจากวงเราแล้ว พวกเรายังขนกันมาแบบยกค่าย GeneLabCon เดือดแน่งานนี้
GeneLabCon ขนความมันส์มายกค่ายแบบนี้ TaitosmitH เองแอบสปอยล์ความพิเศษที่เตรียมไว้ให้แฟน ๆ ฟังได้หรือเปล่า
จ๋าย: ก็สำหรับใครที่พลาดโชว์ของพวกเราจากงาน มาราธอน คอนเสิร์ตเฟส ไป ครั้งนี้ต้องห้ามพลาดครับ เพราะเราจัดหนักจัดเต็มด้วยแบคอัพ 100 กว่าชีวิต คอรัส 100 กว่าชีวิต แดนเซอร์ 1000 กว่าชีวิต รับรองว่าเวทีถล่มแน่นอน (หัวเราะ)
ทิ้งท้ายและฝากผลงาน
ยังไงก็อย่าลืมวอร์มร่างกาย วอร์มเสียงให้พร้อม และเตรียมกดซื้อบัตร บอกเลยว่าคุ้มมากกับกองทัพศิลปินที่ขนกันมาแบบยกค่าย GeneLab (ยีนแลป) แล้วมาสนุกกันในงาน LEO Presents GENELABCON (ลีโอ พรีเซ็นต์ ยีนแลปคอน) จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ ยูเนี่ยน ฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ ครับ จำหน่ายบัตรยืนราคาเดียว 1,500 บาท วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ซื้อบัตรได้ทางแอปพลิเคชัน THE CONCERT หรือเว็บไซต์ THECONCERT.COM สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Gene Lab และ GFest สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่เพจ TaitosmiTH ได้เลยครับ แล้วพบกันครับ