Interview

Somkiat ชวนฟังงานใหม่ Showhuay เจาะลึกเบื้องหลัง EP สุดวาไรตี้

Somkiat ปล่อย EP สุดครีเอต กับ 5 เพลงวาไรตี้ที่บางทีก็คาดไม่ถึง เหมือนของที่เราจะช็อปในร้านโชว์ห่วย มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ อะไรที่ไม่น่ามีก็มีขาย จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ Showhuay ชุดนี้พวกเขาก็ตั้งใจมอบไว้ให้เราเลือกฟังได้ตามใจชอบ ลดแลกแจกแถมกันแบบไม่มีกั๊ก

ทำไมชอบตั้งชื่ออัลบั้มกวน ตั้งแต่ _SARA

ยิ้ม: มันก็มาจากช่วงอัลบั้ม _SARA แหละ แล้วเราก็ทำเดโม่กันเยอะไปหมด พอช่วงที่เราจะตัดเดโม่เป็น EP เราก็ตกลงกันแล้วเห็นว่า 5 เพลงนี้คนละไอเดียกันหมดเลยนะ เราก็เลยคิดต่อยอดจากมันว่าถ้าทำเป็นภาพจะเป็นอะไรได้บ้าง

แล้วทำยังไงให้ไม่รู้สึกว่าเพลงนั้นโดดไปจากเพลงนี้

ยิ้ม: มันมีหลายอย่างที่ไม่เข้ากันอยู่ด้วยกันก็จริง แต่พอเป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวกันทำเพลง (บอส: เมโลดี้หรือเรนจ์เพลง) เพลงก็เลยมีลายเซ็นของมันโดยที่บางทีเราก็ไม่ได้ตั้งใจ

ทำไมมาลงที่ชื่อ Showhuay

ยิ้ม: คำว่า Showhuay มันไปได้หลายความหมายนะ จะร้านโชว์ห่วย หรือโชว์ความห่วยก็ได้

บอส: ความห่วยไม่ใช่ไม่ดี ห่วยของบางคนอาจจะหมายถึงของสนุกของคนนั้นก็ได้ แล้วร้านโชว์ห่วยมันก็เป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีแล้ว แล้วโชว์ห่วยแต่ละที่ของแทบจะไม่เหมือนกันเลย ตอนนี้มันกำลังค่อย หายไปเรื่อย เป็นของแรร์ไปแล้ว

ปกติไปร้านโชว์ห่วยจะซื้ออะไร

ยิ้ม: น้ำถุง (หัวเราะ) ปลาหมึกแห้งซอง ๆ

โบ๊ท: ขนมน้ำตาลที่เป็นไม้

บอส: ของเล่นดึง

ยิ้ม: เนี่ยพูดมาขนาดนี้ก็ดูไม่ค่อยมีขายที่ไหนแล้ว แล้วมีกิมมิกนึงที่อยู่ใน packaging ของ EP คือตุ๊กตากระดาษ เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งนี้มันแปลก ร้านมันดูขายของทั่วไปแต่ทำไมมีตุ๊กตากระดาษวะ

Track by Track

1-100

โบ๊ท: เป็นเพลงใน EP เพลงแรกเลย ซึ่ง 1-100 คือเราได้มาจากความรู้สึกที่ถ้าเราเป็นคนใกล้กัน ยิ่งสนิทกันเท่าไหร่ ก็จะต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องร้ายซะทีเดียว ที่เรามีเรื่องกันก็เพื่อให้รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ขาดกันไม่ได้หรอก เหมือนลิ้นกับฟัน อยู่ใกล้กันก็มีสะกิดกันบ้าง ก็เลยนึกถึงว่าถ้าเกิดโมเมนต์นั้นขึ้นมาจริง แล้วจะทำยังไงต่อดีวะ ก็ใจเย็นกันดีกว่า นับ 1-100 เลยเป็นที่มาของชื่อเพลงนี้ นับเสร็จปุ๊บก็คงจะหายโกรธกัน

บอส: เวลาทำงานจะเจออะไรแบบนี้บ่อยมาก

แล้วเคยใช้วิธีนับ 1-100 กันจริง หรือเปล่า

บอส: ไม่ถึงอะ (FJZ: หายโกรธก่อน?) ต่อยกันก่อน 1-7 ก็เอาละ ว้อยยยย (หัวเราะ)

มิวสิกวิดิโอเป็นภาคต่อของเพลง คิดถึงขนาด

บอส: เราหากิมมิกสนุก เฉย ต้องการความกวนอยู่แล้ว อยากให้คนดูสนุกกับเรา เห็นภาพและเพลงไปในทิศทางเดียวกัน จะได้รู้ว่าพวกเราเป็นคนยังไง

ยิ้ม: ก็โชคดีนะที่ได้เจอทีม คำขวัญ (คำขวัญ ดวงมณี)

นัท: พอไอเดียฟุ้ง กันก็เอาให้ติดกันไปเลย

แบบนี้คนเลยติดภาพว่าสมเกียรติชอบทำแต่เพลงสนุก ไม่มีเพลงช้าเท่าไหร่

ยิ้ม: มันก็เลยทำให้ EP นี้เราอยากเปิดตัวด้วยเพลงช้า ก็คือ คิดถึงขนาด ที่เอามาเป็นแทร็คสุดท้าย (บอส: แต่ mv ก็ติดตลกอยู่ดี) เราก็เลยเอาตรงนี้ไปคุยกับทีมว่า เราอยากเปิด EP ด้วยเพลงช้า แต่ไม่อยากให้เรื่องมันดราม่า เพราะเราไม่ใช่คนอย่างนั้น เราอยากหาอะไรก็ตามที่ยัง positive อยู่

มึงนี่มัน

บอส: เรื่องส่วนตัว ใครก็เจอเรื่องแบบนี้ เราก็คุยกับโบ๊ทว่าอยากได้เพลงที่เหมือนกำลังระบาย เหมือนตอนเพลง นิสัย อัลบั้มก่อนกับชุดนี้มันมีสิ่งที่คล้ายกันคือเราจะเล่าเรื่องที่เราเจอ ไทม์ไลน์ช่วงนั้นก็เป็นช่วงบ้านเมืองคุกรุ่นประมาณนึง หรือการทำงาน การใช้ชีวิต เราก็โดนเอาเปรียบ มีเรื่องเหล่านี้ที่อยากจะพูด แต่ไม่อยากเจาะจงว่าเป็นเรื่องอะไร

ทำไมมี spoken words แร็ป ลงไปด้วย

บอส: เหมือนเพลงฮิปฮอปไง เราชอบฮิปฮอปแต่เราไม่อยากทำฮิปฮอป เลยเอากลิ่นมันมา เป็นแร็ปนะ แต่ก็ยังเป็นแบนด์อยู่ แค่ลองหาสีอะไรใหม่ ให้ตัวเองก็สนุกดี แล้วการเล่าเนื้อหาแบบนี้พอเล่าเป็นแร็ปมันเหมาะสม มันเข้ากันโดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก

โบ๊ท: ก็เหมือนการระบายแหละ

แล้ว lyrics video ทำไมให้เป็นสังเวียนมวย

ยิ้ม: กรรมการเลือกฝั่งงงไปหมด

บอส: ก็คือต่อยกันแหละ แต่ฝั่งนึงโกง แล้วกรรมการก็ไปเลือกฝ่ายที่โกง คือคนที่ควรตัดสินอะไรให้ยุติธรรมก็ยังไม่ยุติธรรม

ยิ้ม: ทุกคนก็เจอแหละ มันคือเรื่องที่รู้ว่าเป็นปัญหาแต่เราแก้ด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้ ซึ่งเรื่องที่เราเอามาเขียนก็เป็นจุดใดจุดนึงของเหตุการณ์เหล่านี้

บอส: เพลงมันมาเพื่อชูบางอย่างให้คนสนใจ แก้ไขมันด้วยสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำสิ่งที่ผิดต่อ

ยิ้ม: เราอยากจะบอกว่า คนที่ไม่ดีมันก็แค่ทำไมดี ดังนั้นเราก็แค่ทำตัวเราให้ดีและอยู่ในสถานการณ์นี้ให้ได้ เพราะเราไม่อยากจะแค่บ่นอย่างเดียว เราก็ไม่ใช่คนที่ถูกซะทีเดียว

การเอาการเมืองมาใส่ในเพลงจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ช้าเร็วขนาดไหน

ยิ้ม: เราว่าบางคนที่ใหญ่กว่าเรา จะแก้ไขเรื่องแบบนี้ยังทำไม่ได้เลย

บอส: เราแค่ทำให้คนยุคต่อไปได้เห็นถึงปัญหา เราพูดอะไรก็พูดได้แค่กลาง ในฐานะคนที่ไม่ชอบสิ่งที่คนอื่นทำ ไม่ว่าจะฝั่งไหนมันก็ไม่ดีหรอก แต่ต้องระวังเพราะมันมีพลังบางอย่าง ถ้าพูดผิดหรือชี้ทางผิดมันก็ก่ออะไรขึ้นมาซึ่งมันเกิดปัญหาได้อยู่แล้ว

ยิ้ม: เราก็ต้องรีเสิร์ชและระมัดระวังในคำพูดของเรา เพราะเรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อนมาก

บอส: แต่บางทีก็สะใจอะ (หัวเราะ)

ดาวกระพริบ เป็นภาคต่อของ ขอวอน 2 หรือเปล่า

ยิ้ม: ด้วยภาพด้วยแหละ ความที่มันเป็นโรแมนติกคอเมดี้

โบ๊ท: จริง เกือบจะเป็นเพลงเศร้าด้วยซ้ำ ไอเดียแรกสุดเลย มันออกไปทางเหงา มีเหตุร้ายอะไรเดี๋ยวเราไปช่วย นั่นคือการส่งสัญญาณมาหาเราได้เสมอ ดาวกระพริบก็เหมือนกัน ถ้าใครรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ก็เปิดสัญญาณกระพริบเอาไว้

บอส: เหมือนคนต้องการความช่วยเหลือ เหมือนดาวที่มันเหงา คนบ้างคนก็ต้องการใครสักคนที่จะมาอยู่เป็นเพื่อน

โบ๊ท: การเล่าเรื่องดันไปคล้ายกับ ขอวอน 2

ยิ้ม: จริง เพลงมันก็เหงาและเศร้า แต่ตามสไตล์พวกเราก็อยากทำอะไรที่มัน positive ก็เลยออกมาเป็นโรแมนติกคอเมดี้

บอส: อันนั้นเราก็ทำกับทีมที่ Smallroom แหละ อารมณ์นึกถึง เนื้อคู่ประตูถัดไป (ยิ้ม: จะมีพวกอุบัติรัก’) ที่ดูแบบ โง่เหี้ย เสี่ยวเหี้ย ถ้าเป็นซึ้งไปหน่อยมันจะเลี่ยน แต่อันนี้มันดูซิตคอมกว่า คือซึ้งก็ซึ้ง แต่จะมีความอะไรของมัน’ แล้วก็อมยิ้มอยู่

ตอน Fungjai Session ทำไมถึงไม่เล่นฟูลแบนด์

ยิ้ม: อยากให้ฟังแก่นมัน และอยากให้ฟังมู้ดอื่นของเพลงนั้น บ้าง (บอส: มีมึงนี่มันด้วยใช่ไหม) เพราะถ้าเล่นสดไปเลย เมสเสจน่าจะรุนแรง โผงผาง เลยเอาให้มันซอฟต์ลง

บอส: หรืออย่างเสียงกด ใน ดาวกระพริบ เป็นเหมือนสัญญาณขอความช่วยเหลือ (หัวเราะ)

ยากไหมตอนรีอะเรนจ์

บอส: ก็มานั่งแจมด้วยกัน แล้วง่ายด้วยแหละเพราะมันเหลือแค่นี้แต่ละคนก็ถอยออก อย่างปกติจะมีกีตาร์สองตัว จะเล่นคลุมทั้งหมดเลย อันนี้ก็เลยให้บาง โบ๊ทก็จะร้องได้ชัดขึ้น แล้วเราก็หากลิ่นมาเติม ปกติเราก็ชอบเล่นซินธ์กันอยู่แล้ว แต่ว่าเราไม่ได้ใส่มาในเพลงให้มันซินธ์จ๋าขนาดนั้น ก็ลดบางอย่าง แล้วเพิ่มสีบางอย่าง

คำหวาน

บอส: กีตาร์แบนด์ยุคนั้นอะ เราโตมากับยุคนั้น วงเท่ แบบนั้นก็เยอะ ทุกคนเอากีตาร์มาทำเป็นเสียงประหลาดอื่น ซินธ์ก็มีนะ แต่จะเอามาปูพื้นซะส่วนใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้วงกีตาร์สองคนก็ไม่ค่อยเล่นแบบนั้นแล้ว เล่นลิกยัดเข้ามา คนนึงคอร์ด คนนึงโซโล่ แล้วก็เป็นอย่างนั้นยาวเลย แต่อันนี้เราเอากีตาร์มาทำเป็นแค่เสียงสังเคราะห์ที่ต้องการอันนั้น ใช้กีตาร์หมดเลย ก็อยากทำ แล้วเพลงนี้โบ๊ทก็เล่นกีตาร์ด้วย

โบ๊ท: เหมือนทำเพลงบูชาครูแหละ (หัวเราะ) ในช่วงที่เราได้แรงบันดาลใจ พอเวลาผ่านมาเรารู้สึกว่าเพลงเราก็ลงตัวละ ไหนลองทำเพลงบูชาครูดู

บอส: Last Dinosaurs อัลบั้มล่าสุดเขาก็บอกว่าทำบูชาครูเขาคือ The Strokes กลิ่นมันมา

ยิ้ม: ด้วยตัวโครงเพลงตั้งแต่แรกเราไม่ได้เอาโจทย์ว่าอยากจะบูชาครู คือเราเอาโครงเพลงจากโบ๊ทและนนท์มาฟังแล้วรู้สึกว่า เพลงเนี้ย บูชาครูว่ะเพื่อน! (บอส: มันมาเอง)

โบ๊ท: เนื้อหาก็ออกมาจากเรื่องจริงนิดหน่อยเวลาเราเจอ accident ในการทำงาน แล้วมันก็เป็นแบบนี้รอบที่ล้านแล้วนะ แต่เขาก็หาวิธีมาทำให้มันจบอย่างสวยหรูเสมอเลยอะ แบบ เฮ้ยย เอาน่า

บอส: ก็คิดว่าถ้าเพลงนี้ นนท์มาแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าแต่งให้มันมีเนื้อหาเสียดสีได้ แต่ก็จะไม่ negative อยู่ดี สุดท้ายจะไปตกลงที่ว่า อุตส่าห์เชื่อใจ เพราะในธุรกิจแบบเนี้ย คนจะพูดว่าเฮ้ย เดี๋ยวก็ดีเว้ย’ เหมือนเราเจอคนขายฝันอะ ก็มีแต่คำหวาน ซึ่งจริง แล้วเป็นคำลวง เพราะมันสัญญากันไม่ได้ แล้วเราก็เต็มที่ของเรา เอาจริงคำที่น่ากลัวไม่ใช่คำด่า แต่คือคำหวานเอาจริงเพลงเหมือนอัลบั้มแรกเลยนะ สุดท้ายเราเจออะไรมาในสังคม เจออะไรมาก็อยากเล่า แต่คนฟังอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องรักก็ได้

ยิ้ม: EP นี้มันเริ่มต้นมาจากการที่เราเริ่มมองคนรอบข้าง เพื่อน แฟน พ่อแม่ เดโม่หรือเพลงแรก เลยจะออกมาในมู้ดนั้น ว่าอยากพูดถึงคนใกล้ตัว

บอส: อย่างพี่โต Silly Fools เขียนเนื้อมาอย่างแยบยล ฟังตอนแรกเหมือนจะเป็นเรื่องรักใคร่ แต่จริง หมายถึงเรื่องอื่น นั่นแหละคือจุดที่ดีของการเขียนเนื้อเพลง เราทำให้คนเก็ตเมสเสจมัน แต่ก็มีเมสเสจลับ อันนี้แล้วแต่คนจินตนาการเลย เพลงมันมีหลายรูปแบบแล้วแต่จะมอง

โบ๊ท: เหมือนเราไม่ได้ตีกรอบให้คนฟังว่าฟังแล้วจะรู้สึกยังไง

บอส: สมเกียรติก็ไม่มีแนว ตอนเด็ก สมัยเราประกวด เราพยายามเขียนว่าอยากเป็นอะไร (ยิ้ม: โพสต์พังก์ เอ็กซเพอริเมนทัล อัลเทอร์เนทิฟ) (นัท: ยาวเป็นหน้ากระดาษ) เราเปลี่ยนไปเรื่อย เพราะเพลงที่ชอบฟังก็เปลี่ยน อยู่ดี ก็ชอบฮิปฮอป r&b (ยิ้มร้องเพลง Yummy ของ Justin Bieber) ชอบอะไรลึก ก็อยากทำ มันเป็นน้ำเลย แล้วแต่ว่าจะมาเขย่ายังไง เพราะถ้าคนเขย่ายังเป็นคนเดิมยังไงน้ำก็ออกมารสมือไม่เปลี่ยน

คิดถึงขนาด นี่คิดถึงใคร

โบ๊ท: จริง ๆ ปกติทุกเพลงเราอยากจะให้มันเป็นกลาง อยากให้มันตีความได้หลายทางหลายความหมาย (บอสคิดถึงใครก็ได้) ใช่ครับ ไม่ได้อยากจะให้มุ่งไปว่าคิดถึงเพื่อนผู้หญิงรึเปล่าเอ่ย คิดถึงเพื่อนผู้ชายก็ได้ แล้วก็เศร้า มันจะเศร้าซะขนาดนั้นเลยรึเปล่าเอ่ย เปล่าครับ มันอาจจะยิ้มก็ได้

บอส: ใช่ เพราะว่าเอาจริง ๆ เวลาคิดถึงเนี่ย ตอนเกิดความคิดถึงเรายังไม่รู้เลยว่ามันเสียใจหรือว่ามันดีใจ มันแค่คิดถึงมาก ๆ

ขนาด’ = ‘มาก ในภาษาเหนือ

โบ๊ท: อันนั้นก็ด้วย แต่ว่าจริง ๆ ในเพลงเราอยากจะย้ำเรื่องปริมาณที่มันเยอะจนล้มลงทั้งยืน ก็เลยเป็นคำเชื่อมต่อกันเป็นขนาดล้มลงทั้งยืน

บอส: แต่มันจะสื่อออกมาเป็นอย่างนั้นก็ได้ เป็นกิมมิคของคำว่ามาก ๆได้ทั้งภาษาเหนือและอีสาน เราอยากให้มันเล่นได้หลายความหมายไง 

นนท์: จริง ๆ ตอนทำเดโม่เพลงนี้ก็ชื่อว่าคิดถึงขนาด อยู่แล้ว เพราะมันเป็นคำแรกเลยที่ ปั้ง ออกมา คือเราเป็นคนเหนืออยู่แล้ว ก็เลยบอกเพื่อน ๆ ว่าคำนี้มันเป็นคำในภาษาเหนือนะ อะไรแบบนี้

5 เพลงนี้ ถ้าให้แทนกับของในโชว์ห่วย จะเป็นอะไรได้บ้าง

ยิ้ม: 1-100 ให้เป็น ‘ผงซักฟอก’ ด้วยความแบบที่บ้านใช้ ใช้ให้ซักผ้า ให้ไปซื้อของ (บอส: มีซีนใน mv ด้วย)

บอส: มึงนี่มัน ต้อง ‘กระเทียมปา’ เอาแค่ให้มีเสียง แป๊ะ! ให้ตกใจ แต่ไม่เจ็บ

โบ๊ท: ดาวกระพริบ เป็นเก๊กฮวยอาแป๊ะ 5 บาท ร้อน เอามากิน (ยิ้ม: สมัยก่อนมาเป็นแก้วเลย อยู่ในตู้เย็นโบราณที่เป็นบานสไลด์กระจก) วุ้น เย็น

บอส: คำหวาน ลูกอมที่กินแล้วเผ็ดอะ แล้วก็มีลูกอมเปรี้ยวสุดทาง Superlemon สมัยก่อนเพดานปากทะลุเลย (นัท: เปรี้ยวจริงจัง)

ยิ้ม: คิดถึงขนาด เป็น ไบเล่ใส่ถุง เย็น ฉ่ำ RC ถุง ไอติมตัด เผือก (บอส: ไอติมกะทิ ไอติมจู๋หมา ได้หมดแหละ)

คิดว่ากีตาร์แบนด์จะกลับมาไหม

โบ๊ท: แล้วแต่คนที่ทำด้วยแหละ อาจจะเป็นลูปกลับมาก็ได้

ยิ้ม: แต่เราเฉย กับการเป็นลูปกลับมาและการจากไป เราชอบการที่มันมีอะไรใหม่ เยอะ ดี ถ้าสมมติมันกลับมาอีกเราจะรู้สึกว่าย่ำอยู่กับที่ตลอดเวลา

บอส: ก็พยายามหากีตาร์แบนด์ที่เป็นทรงใหม่ วงใหม่ ที่ออกมาเดี๋ยวนี้ก็มีเยอะแยะ (ยิ้ม: ตามเทคโนโลยี ตามสังคมด้วย)

ตอนนี้มีวงอะไรที่น่าติดตาม

สมเกียรติ: (ร้องเพลง Yummy ทั้งวง)

ยิ้ม: ผมว่าชุดนี้มาแน่ แล้วก็มีท่าเต้น คนแกะท่าไปเต้นคัฟเวอร์กัน

บอส: ช่วงนี้โบ๊ทฟัง Summer Salt หวานเจี๊ยบเลย Fire Flower

เริ่มไปเป็นโปสดิวเซอร์ให้วงอื่น บ้างแล้ว ความยากง่ายของการทำเพลงให้คนอื่นกับทำเพลงตัวเองต่างกันยังไงบ้าง

ยิ้ม: ยากพอกัน แต่ทำกับเพื่อนแฮปปี้กว่าเพราะอยู่ด้วยกันมานาน รู้ไส้รู้พุง แล้วก็มีความประณีประนอมในการอยู่ด้วยกันได้อย่างโอเคกว่า แต่สนุกไหมก็สนุก ไปจับสิ่งใหม่ เหมือน refresh ตัวเองตลอดเวลา อย่างวง Mints ค่อนข้างห่างกับเรามาก ด้วยอายุ กับสิ่งที่น้องชอบด้วย ก็ต้องทำการบ้าน

บอส: แต่เราก็อัพเดตเพลงใหม่ วงใหม่ ด้วย เราอายุเยอะขึ้นทุกวัน ถ้าเราหยุดหาอะไรฟังเราก็จะกลายเป็นคนแก่ขึ้นมาจริง

ยิ้ม: ถ้าเอาสตรีมมิง 5 คนมาวาง มันจะมีจุดร่วมกันอยู่ แต่จุดที่มันไม่เหมือนกันก็คนละโลกเลย

นัท: เราฟังกันสะเปะสะปะมาก

บอส: ก่อนหน้าจะมาเป็น Justin Bieber เราก็เปิด Post Malone ลูปมาก่อน

เป็นวงที่มีลายเสื้อน่ารักตลอด อะไรเป็นแรงบันดาลใจเสื้อแต่ละรุ่น

บอส: จิตวิญญาณสตรีทอะ มันคืองานล้อใช่ไหม แต่เราจะล้อยังไงให้น่าสนใจ

ยิ้ม: คำพูดมึงโฆษณามากเลย (หัวเราะ) ทำไมคอลเลกชันนี้ออกมาเป็นแบบนี้ครับ อ๋อ มันเป็นจิตวิญญาณสตรีท

บอส: เหมือนทำแบรนด์เสื้อ เหมือนประสบความสำเร็จในการขาย แต่จริง ทำขายแค่ 200 ตัว (หัวเราะ) อะ ก็เป็นงานล้อ เราก็ชอบสตรีท จริง การแต่งตัวสมัยก่อนถ้าแต่งสตรีทจะเป็นดำ อยู่แต่กับวงร็อก

ยิ้ม: ตอนนี้มันกลายเป็นยุคที่มีแค่ทางการกับไม่ทางการแล้ว เหมือนทุกอย่างมัน mixed culture กันสุด แม้จะทางการก็ยัง casual ซึ่งสนุกนะ เขาก็คง develop ไอเดียกันมาเรื่อย แหละ

โบ๊ท: เดี๋ยวนี้ชอบนะ มิกซ์แอนด์ไม่แมตช์อะ

บอส: สุดท้ายลายเสื้อก็บ่งบอกตัวเราเอง ถ้าเราทำไม่เหมือนที่เราเป็นมันก็ไม่ใช่ ก็เหมือนเพลงเรา

ยิ้ม: สิ่งที่เข้ากันอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมือนกันเสมอไป อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากันที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ (เก๊กเสียง)

บอส: มาขายเสื้อกันเถอะ มา!

ลายเสื้อต่อไปจะเป็นอะไร

บอส: เดี๋ยวไป collaborate กับพ่อหนุ่ม

นัท: จริง ลายเสื้อพวกนี้บางอาจจะยังไม่รู้เลย มันต้องเป็นปัจจุบัน ตอนนั้น

บอส: ต้องคิดแบบ real time ให้ใกล้ที่สุด อย่างที่ผ่านมาก็มี Netflix หรือ Friends 4EVER ที่ออกมาตามเพลงเรา แต่เดี๋ยวคงมีเสื้อใหม่ขายงานใหญ่

ยิ้ม: อาจจะมีร่วมกับกลุ่มนึง เป็นโปรเจกต์พิเศษ ยังบอกไม่ได้

Showhuay

Smallroom Holiday Party จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ยิ้ม: เสาร์อาทิตย์ที่ 5-6 เมษายนนี้ จำนวนวันเยอะขึ้น ศิลปินเยอะขึ้น มันแน่ คราวนี้ไม่ต้องตื่นตั้งแต่สิบโมงเช้าไปดูวงตอนเที่ยงแล้ว

บอส: ปีนี้จัดสองวัน ให้เวลาแต่ละวงได้โชว์เต็มที่ สมัยก่อนขึ้นไป 5 เพลง ยังไม่ทันเครื่องติดเลย

โบ๊ท: ธีมเป็นแดนซ์ กลับไปที่จุดเริ่มต้น ที่จัดที่แรกที่สตหีบ

หลังจากนี้จะมีงานอะไรอีกบ้าง

ยิ้ม: ปีนี้น่าจะมีอัลบั้มแหละ

บอส: วางแผนกันอยู่

ฝากผลงาน

ยิ้ม: ก็ฝาก EP สมเกียรติชื่อ Showhuay เรียนเชิญซื้อไปใช่บริการได้นะครับ ตัว packaging มีฟังก์ชันเยอะแยะมากมาย แล้วแต่คุณจะรังสรรค์ใช้มัน สามารถเป็นรูรับแสงก็ได้ เป็นบ้านก็ได้ เป็นกล่องใส่ทิชชู่ หรือเอาตุ๊กตามาต่อเล่นก็ได้

ปกนี่อาร์ตเวิร์กจีนมาก

บอส: ความรู้สึกของร้านโชว์ห่วยที่จะมีความเป็นไทยจีน คุยกับทีมอาร์ตเลยออกมาเป็นประมาณนี้

ยิ้ม: เราไม่อยากให้มันหยุดอยู่ที่ร้านโชว์ห่วย ซึ่งรูปในนั้นถ้าดูมันก็จะรู้สึกว่า เอองานอาร์ตห่วยดีว่ะ (หัวเราะ) โบ๊ทยืนเก๊กหล่ออยู่ มันคืออะไรเนี่ย แต่ว่ามีอภินิหารอยู่นะ ถือลูกชิ้นด้วยการแบมืออะ

showhuay

showhuay

ติดตามผลงานของ สมเกียรติ และจับจองแผ่น Showhuay ได้ที่แฟนเพจของพวกเขาเลย

อ่านต่อ
เพราะ ‘คิดถึงขนาด’ จึงขอพูดคุยกับ ‘Somkiat’ ในการกลับมาครั้งนี้
Review อัลบั้ม _SARA จากวง Somkiat
Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้