การกลับมาของ Postbox วงป๊อปตัวเต็ง กับการเป็นศิลปินรายล่าสุดของสมอลล์รูม
- Writer: Yanabhus Suriyajai
- Photos: Smallroom Bangkok Pop Music Label
เราขอชวนวง Postbox พูดคุยถึงซิงเกิ้ลล่าสุด Friday Girl ที่หลาย ๆ สงสัยเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงได้หวานละมุนเหลือเกิน ไม่เหมือนกับอัลบั้มแรกสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกันดีกว่า
ที่มาของชื่อ Postbox
ป๊อป: คือผมเห็นกล่องไปรษณีย์หน้าบ้าน แล้วก็เห็นอะไรบางอย่างที่น่าจะเอามาตั้งเป็นชื่อวงได้ มันมีการรับสารส่งสารอะ (FJZ: เปรียบจดหมายคือเพลงรึเปล่า) ใช่ครับ ๆ
ดั๊ก: เราเปรียบว่าเราได้เก็บข้อมูลจากคนรอบข้างและสิ่งรอบข้าง จากนั้นเราก็ปล่อยมันออกไปผ่านตัวเพลง
เข้ามาทำงานกับ Smallroom ได้ยังไง
ดั๊ก: พอดีว่าในอัลบั้มแรกเรามีโปรดิวเซอร์เป็น พี่เจ Penguin Villa อยู่แล้ว แถมตอนนั้นเราก็ทำงานกับเงียบ ๆ และเราก็เกรงใจพี่รุ่ง เราก็ยังไม่เปิดเรื่องนี้ พอเราจะทำอัลบั้มสอง เราก็ไปปรึกษากับพี่เจว่าจะเอายังไงกับอัลบั้มนี้ดีครับ พี่เจก็บอกว่า ‘งั้นเราลองเอาไปให้พี่รุ่งฟังดู’ แค่นี้เลยครับ เราก็ได้มาทำงานกับ Smallroom
ทำงานกับ Smallroom เป็นยังไงบ้าง
ดั๊ก: มีความสนุกมาก ๆ และเอาจริงเอาจังกับทุกอย่างเลย ซึ่งมันก็ทำให้วงอินดี้อย่างเราโดนกระตุ้นขึ้นมาอีกระดับนึงเลย
แมน: จากที่คิดแค่เพลง เราก็ต้องมาคิดเรื่องอื่น ๆ ด้วย อย่างการแต่งตัว หรือการโปรโมต มันคิดหลาย ๆ เรื่องมากขึ้น
พล๊อต: เขาให้ข้อมูลเราเพื่อให้เราได้มองมิติอื่น ๆ ด้วยว่าเราควรจะทำอะไรอีก
ที่มาของ Friday Girl
ดั๊ก: คือป๊อบมือกีตาร์เนี่ย มันคงเบื่อตอนรถติด ลองนึกภาพตอนวันศุกร์แล้วฝนตกและรถก็ติด มันต้องไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมงแน่ ๆ เลย ยังไม่ถึงจุดหมายสักทีแล้วเราได้เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่ป๊อปบอกว่าสวยมาก ก็เลยแต่งเพลง แล้วส่งเดโม่มาให้เราฟังเลย ซึ่งตอนเราฟังเดโม่เราก็ตกใจ เฮ่ย มันจะได้มั้ยวะ เพราะ Postbox มันต้องเข้มนะเว่ย แต่เพลงนี้มันหวานละมุนมาก ก็เลยลองไปทำดนตรีดูก่อน
มีวิธีแต่งดนตรีขึ้นมายังไง
ดั๊ก: จริง ๆ เรามีความวาไรตี้มาก ๆ อย่างเพลงนี้เราคิดว่า Postbox ยังไม่เคยทำดนตรีแบบไหน อย่างดนตรีโซลเราไม่เคยทำเลย ทั้ง ๆ ที่ทุกคนถนัดนะแต่ไม่ยอมเล่น ก็เลยลองดูสักครั้งหนึ่ง มันก็เกิด Friday Girl
แมน: มันเป็นการเปลี่ยนโฉมด้วย จากที่ดนตรีเราดูเข้ม หรือมีความเทา ๆ เราก็เลยอยากลองให้มันสดใสขึ้น ฟีลกู๊ดขึ้น
ซาวด์ดนตรีใหม่ ๆ มาจากไหน
ดั๊ก: มันน่าจะเกิดจากเมื่อก่อน เรากับพี่เจทำเพลงโฆษณาด้วยกัน พี่เจก็จะให้เพลงมาทำเรื่อย ๆ เราก็จะได้ปรับตัวตลอด ๆ แล้วเราก็ได้ซึมซับซาวด์แต่ละอย่างมาตลอด และตัวเราเองก็เป็นคนสอนดนตรีอยู่แล้ว เราก็จะได้อะไรใหม่ ๆ จากลูกศิษย์เต็มไปหมดเลย ซึ่งมันคงตอบไม่ได้ชัดเจนว่าซาวด์ต่างๆ ในเพลงของเรามันมาจากไหน มันคงมาจากทุกที่แหละ
เพลงที่กำลังจะปล่อยจะมีเพลงไหนที่คล้ายกับอัลบั้ม ได้ยินหรือยัง ไหม
ดั๊ก: ตอนนี้คิดว่าไม่มีนะ
ป๊อป: มันอาจจะมีแต่ว่าซาวด์มันจะใหม่ทั้งหมด หรือว่ามันกลิ่นบาง ๆ หรือความสะใจบาง ๆ แบบอัลบั้มเก่า
คิดว่าเพลงในอัลบั้มแรกกับอัลบั้มที่กำลังจะปล่อย มีข้อดีแตกต่างกันยังไง
ป๊อป: คือเพลงในอัลบั้มเก่าจะมีความลึกซึ้งในเนื้อหา มันก็ฟังดูเพื่อชีวิตนิดนึง แต่อัลบั้มใหม่เราพยายามจะเล่าเรื่องในประสบการณ์รอบตัว หรืออะไรก็ได้ที่มันสื่อสารกับคนได้มากขึ้น จากอัลบั้มแรกมันเหมือนหนังสือที่ต้องนั่งอ่านและต้องถอดความ แต่อัลบั้มใหม่มันเป็นอะไรที่อ่านง่ายขึ้น
พล๊อต: อย่างเรื่องรถติดเราก็เจอกันอยู่แล้ว หลายคนสามารถเข้าใจได้
แล้วเพลงในอัลบั้มแรกคือแนวอะไร
ดั๊ก: เออ เราก็สงสัยเหมือนกัน (หัวเราะ) เราพยายามกบฎจากความเดิม ๆ แต่มันก็ได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ป๊อป: ก็คืออัลเทอร์เนทิฟแหละ คือมันไม่เหมือนคนอื่น ๆ อะ มันจะฉีกไปเลย
คิดว่าจะยึดความร็อกหรือความป๊อปมากกว่ากัน
แมน: ป๊อป แต่มันคงมีการ arrange ที่เป็นแบบเรา
ดั๊ก: มันเป็นบางเพลงแหละ เราก็ต้องเจาะแต่ละเพลงอีกที อย่างอัลบั้มที่แล้วมันก็มีความร็อกอยู่ 3-4 เพลง มีเพลงป๊อปด้วย แล้วก็อะไรไม่รู้ไปเลย แต่ถ้าให้นิยาม Postbox สั้น ๆ นั้นก็คือ ความหลากหลายนะ แต่มันจะมีกลิ่นอยู่ถ้าคนที่ฟังเรามานานจะรู้ว่ามันมีความ Postbox
แล้วในอัลบั้มใหม่จะเป็นแนวอะไร
แมน: มันก็น่าจะมาในแนวทางแบบ Friday Girl มากขึ้น แต่เราก็ยังคงเป็นวงที่เน้นกับดีเทลของเพลงเหมือนเดิม เหมือนเราอยากให้ดนตรีของเรามันมีอะไรที่แอบซ่อนอยู่ตลอด
พลอต: ในอัลบั้มใหม่เราก็เน้นอะไรที่ไม่ต้องถอดความมาก สามรถรับรู้ตรง ๆ ได้เลย (FJZ: ก็คือฟังง่ายขึ้น?) ช่าย
แมน: มันจะฟังง่ายขึ้นและมีลูกเล่นที่จับต้องง่ายขึ้น
Postbox คิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ของวง
พล๊อต: หน้าตา (หัวเราะ)
ดั๊ก: เอกลักษณ์เราคิดว่าน่าจะเป็นไลน์ของแต่ละคนมั้ง คือไลน์ของ Postbox ทุกคนจะเห็นได้ว่า อย่างกลองก็จะเป็นไลน์แบบหม่อง ไลน์เบสมันก็จะเด่น ๆ อยู่บางที่ ไลน์คีย์บอร์ดมันก็จะมีตำแหน่งที่เด่น ถ้าให้มองง่าย ๆ มันจะเหมือนขบวนการห้าสีอะ สีของแต่ละคนมันจะชัดมาก มันจะไม่คลุมเครือว่าคีย์บอร์ดเล่นอะไรวะ หรือเบสเล่นอะไร ทุกอย่างมันจะส่งเสริมกัน อย่างวงบางวงจะพยายามพรีเซนต์นักร้อง หรือในบางที่จะพรีเซนต์กลอง แต่อย่าวงเราจะพยายามเดินไปด้วยกัน คือพยายามทำดนตรีให้เท่กว่านักร้อง อันนี้เป็นคำพูดพี่เฟิร์ต Slot Matchine
ป๊อป: อย่างพวกเนื้อร้องทำนองเราก็ค่อนข้างซีเรียสนะ เหมือนเราพยายามทำให้ทำนองร้องทุกเพลงมันเพราะ ฟังแล้วรู้สึกเพลิน อย่างถ้าโน๊ตไหนมันยังไม่ได้ก็ต้องหาจนเจอ
เป้าหมายของวง
ดั๊ก: ถ้าตอนนี้คือทำอัลบั้มนี้ให้มันสมบูรณ์ที่สุดแหละ แต่ถ้าถามว่าเราจะไปตรงไหน ยังไม่แน่ใจอะคือแค่ได้ทำมันก็มันแล้ว
แมน: ระหว่างทางมันก็สำคัญอะ เพราะมันทำให้พวกเราห้าคนมีความสุขในตรงนี้ด้วย
ป๊อป: การทำเพลงก็เหมือนทำโปรดักส์ที่เราพอใจที่สุดอะ
แต่ละคนในวงฟังเพลงของศิลปินคนไหนกันบ้าง
แมน: ผมฟัง K Pop ครับ อย่างเช่น Big Bang, EXO
หม่อง: ผมฟังวาไรตี้เลยครับ ไม่ว่าจะแนวไหน ลูกทุ่งหมอลำผมก็ฟัง บางทีก็คิดว่าตัวเองฟังมั่วมาก (FJZ: มีศิลปินคนไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม?) ถ้าชอบเป็นพิเศษจะชอบในแนวโซล ป๊อป หรือ R&B เทือก ๆ นี้ และจะชอบเพลงในยุค 70s-80s มาก ๆ แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างศิลปินที่ชอบ ก็จะมี Babyface, Whitney Houston, Michael Jackson, Lionel Richie หรือ Stevie Wonder ประมาณนี้ครับ
ป๊อป: ผมชอบ John Mayer เพราะเขามีความป๊อปบ้างและคันทรี่บ้าง หรือ Al Pride ที่จะมีความโมเดิร์น และ R&B วงนี้จะมีความครีเอทีฟมิวสิคสูง แล้วก็พวกแจ๊สอย่าง John Scofield อะไรประมาณนี้ครับ
พล๊อต: ของผมก็คล้าย ๆ กับของพี่ป๊อปครับ อย่าง John Mayer หรือถ้าใหม่ ๆ หน่อยก็ Tom Misch หรือ Daniel Caesar ที่กำลังจะมาไทย บางเวลาที่อยู่คนเดียวก็จะชอบเปิดพวกเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีฟัง (หัวเราะ) ผมก็ฟังครบทุกวงนะครับ (หัวเราะ) หน้าตาเสียงผมจำได้เยอะอยู่เหมือนกันครับ
ดั๊ก: เราไม่ขอพูดทั้งหมดละกัน เพราะว่าเราฟังหลากหลายจริง ๆ เอาตอนนี้ playlist สามวงหลักมี Crumb, Mild High Club แล้วก็ Safeplanet อันนี้คือที่ฟังล่าสุดในสองสัปดาห์นี้
แล้วมีศิลปินคนไหนไหมที่ส่งผลต่อการทำเพลงของ Postbox
ดั๊ก: ที่เพิ่งพูดไป ใช่หมดครับ Crumb กับ Mild High Club
เรื่องราวที่นำมาแต่งเพลง
แมน: อัลบั้มแรกก็จะเพื่อชีวิตหน่อย
ดั๊ก: ในอัลบั้มแรกการพูดก็จะซับซ้อนกว่า (แมน: มีความกวีและจริงจังกว่า) ใช่ ๆ แทนที่จะบอกว่าฉันรักเธอแต่บอกว่าฉันเดินรอบ ๆ สวนแห่งนึง มันจะมีความเป็นกลอนเปล่า (แมน: อัลบั้มใหม่มันยังมีความตรงไปตรงมาขึ้น) อย่างเพลง Friday Girl ก็ร้องไปเลยว่า ‘ฉันมองออกไป ขับรถคันหนึ่ง ในวันที่แสนธรรมดา กับวันเวลาที่แสนวุ่นวาย’ อันนี้จะพูดตรง ๆ เลย (FJZ: แล้วชอบการเล่าแบบอัลบั้มแรกหรืออัลบั้มนี้มากกว่ากันไหม?)
พล๊อต: เราก็ชอบการเล่าทั้งคู่แต่เราก็ได้ผ่านการเล่าแบบอัลบั้มแรกมาแล้ว เราเลยมาทำแบบนี้
ป๊อป: แต่ผมจะชอบแบบอัลบั้มใหม่หน่อยเพราะว่าเราอยากสื่อสารกับคนฟังให้มากขึ้น เพราะอย่างอัลบั้มแรกมันต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ
ดั๊ก: อย่าง วิวาห์ ที่คนชอบที่สุดในอัลบั้มแรก มันก็จะมีการเล่าสองแบบเลย อย่างในช่วงแรกที่ร้องว่า ‘อยากฝากเตือนชาย ๆ เรา ๆ ’ คือเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไปแต่งงานใหม่ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเลิกกับคนเก่าไป ซึ่งเพลงนี้ก็มาจากเรื่องจริง สังเกตในช่วงแรกจะพูดตรง ๆ พอหลัง ๆ ก็จะมีความกวี เพลงนี้มันก็จะแบ่งครึ่งกันเลย
การเล่นสดที่ Play Yard ก่อนจะมาอยู่ Smallroom กับมาอยู่ Smallroom แล้ว ความรู้สึกมันแตกต่างกันไหม
แมน: แตกต่างแน่นอนนะ อย่างเล่นล่าสุดความกดดันมันมีแน่นอน เพราะวันนั้นทั้งพนักงานและพี่รุ่ง หรือแฟนเพลง Smallroom เขามาฟังกันหมดเลย และมันเป็นโชว์แรกของการเป็นศิลปินค่าย Smallroom ซึ่งมันห่างจากการเล่นสดคราวก่อนถึงปีนึง สำหรับผมมันยากขึ้นในการถ่ายทอด แต่ด้วยเราเล่นเพลงใหม่ทั้งหมดและมีเพลงจากอัลบั้มแรก 2-3 เพลง คือเพลงใหม่ ๆ มันก็จะเล่าตรง ๆ การถ่ายทอดก็เลยง่ายขึ้น
ป๊อป: วิธีการแต่งเมโลดี้ก็คิดใหม่ด้วย อย่างอัลบั้มที่แล้วเราจะพยายามเค้นแมนไปให้สุดศักยภาพ ในอัลบั้มนี้เราเลยอยากให้มันสบายขึ้น และให้มันเข้ากับแมนมากขึ้น มันน่าจะทำให้โชว์มันลื่นไหลขึ้น
หม่อง: สำหรับผมมันต่างตรงที่ว่ามันกดดันมากขึ้นเหมือนกัน เพราะคนดูมีความคาดหวังมากขึ้น จริง ๆ Play Yard เราเล่นมาแล้วสองครั้ง นับรวมล่าสุดก็เป็นสามครั้ง ครั้งแรกคืองานเปิดอัลบั้มแรก ครั้งที่สองไม่แน่ใจและครั้งนั้นไม่กดดันมาก เพิ่งจะมากดดันมาก ๆ ก็ครั้งล่าสุดนี่แหละ อย่างคนในค่ายก็คาดหวังเรา มันเลยยากขึ้น อย่างการตีกลองของเราก็ปรับเยอะเลย เพราะว่าในอัลบั้มนี้การดีไซน์กลองมันก็ต้องตีเบาลง แน่นอนว่ามือกลองหลายคนไม่ชินกับการตีกลองเบาลงหรอก แต่ถ้าพูดถึงการถ่ายทอดมันก็ค่อนข้างคุ้นเคยเพราะเราก็เล่นกับวงนี้มานานแล้ว
อะไรคือเสน่ห์ในโชว์ของวง
ดั๊ก: เป็นเหมือนขบวนการห้าสีครับ (หัวเราะ) คือมันไม่ได้เด่นที่คนใดคนหนึ่ง เราพยายามจะทำดนตรีให้เด่นเท่ากับนักร้องให้ได้ ซึ่งบางทีก็อาจจะล้นเกินไปด้วยซ้ำ มีหลาย ๆ คนมาบอกว่าเสียงร้องจมไปเลย มันก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย
มีอะไรที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับ Postbox แต่อยากให้คนอื่น ๆ รู้บ้างไหม
ป๊อป: ไม่รู้ว่าเขารู้อะไรกันบ้าง (หัวเราะ) เอาเป็นว่าลองมาฟังกันก่อนดีกว่าว่าซาวด์แบบนี้ หรือการร้องแบบนี้ หรือเนื้อหาแบบนี้ มันเป็นยังไง อยากให้ทุกคนได้ลองทำความเข้าใจกันดูว่ามันน่าสนใจมั๊ยกับวงนี้
พล๊อต: อยากบอกเขาว่า Postbox วงนี้คือ Postbox วงเดียวกับที่ปล่อยเพลง วิวาห์ ไปนะครับ (หัวเราะ) เพราะมีหลายคนส่งข้อความมาว่า ‘ใช่วงเดียวกันรึเปล่าวะพี่?’ ก็ใช่ครับ วงเดิม อาจจะมีการเปลี่ยนโฉมหน่อย
ฝากผลงาน
พล๊อต: ฝากเพลง Friday Girl ซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเราและเป็นซิงเกิ้ลแรกที่เราออกกับค่าย Smallroom ด้วยนะครับ แล้วก็มาติดตามพวกเราได้ที่เพจ https://www.facebook.com/postboxbandofficial/ หรือ Instagram https://www.instagram.com/postboxband/ หรือแชนแนลของ Smallroom https://www.youtube.com/user/SmallroomOfficial ก็ได้ครับ และที่สำคัญสามารถฟังเพลงเราได้ทางฟังใจเอง และสตรีมมิ่งต่าง ๆ ครับผม
Postbox ถือว่าเป็นอีกวงที่มีมิติทางดนตรีหลากหลาย และยังสามารถเล่นได้หลายแนวอีก เพลงต่อไปจะเป็นยังไงดูเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยาก แต่ก็แอบเปรย ๆ มาแล้วว่าเพลงจะมีความคล้ายกับ Friday Night เราคิดว่าปีนี้น่าจะได้ใจคนฟังมากขึ้น เพราะเพลงที่ฟังง่ายขึ้นและเนื้อหาที่หลาย ๆ คนสามารถเข้าใจได้ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะทำผลงานออกมาง่าย ๆ ไปด้วย ในความเป็น Postbox จากที่เราเคยสัมผัสมาจากอัลบั้ม ได้ยินหรือยัง เราเชื่อว่าพวกเขาจะใส่ใจกับทุกรายละเอียดของดนตรี หมายความว่าคนฟังทุกคนจะได้ฟังเพลงที่ป๊อปขึ้นแต่ทุกเพลงจะเป็นเพลงป๊อปคุณภาพแน่นอน