Article Interview

Penguin Villa เจาะลึกอัลบั้ม ‘J’ และคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 14 ปี ‘Why Fly?’

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

‘หมู่บ้านเพนกวิน’ หนึ่งในสถานที่ที่หลายคนแวะไปเยี่ยมเยียนจนได้ค้นพบกับเสียงดนตรีที่ชุบชูจิตใจจาก เจ—เจตมนต์ มละโยธา มาวันนี้ก็นับได้เกือบ 14 ปีแล้วที่เรา ออกไปข้างนอก จนสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่เลยต้องพากัน ‘กลับเข้าข้างใน’ มานั่งพูดคุยถึงวันเก่า ๆ ของ Penguin Villa ในอัลบั้มเต็มชุดที่สอง J อัดแน่นไปด้วยผลงานจากช่วงเวลาหนึ่งที่เรายังไม่มีโอกาสได้ฟัง และคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของเขา Why Fly?

Penguin Villa ปรากฏตัวครั้งแรกหลังจากพักเล่นสดไปนานในงาน ฟังใจลอย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจ comeback หรือเปล่า

ใช่ครับ คือฟังใจลอย เป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาเล่นจริงจัง เคยคุยกับพี่เล็ก Greasy Cafe แกพูดว่าเราชอบทำเพลงใหม่อยู่เรื่อย เพราะเราอายที่จะไปเล่นแต่เพลงเก่า’ ผมก็รู้สึกว่า ‘กูต้องเริ่มอายแล้วป่าววะ’ (หัวเราะ) พองานนี้ชวนไปเล่นก็คิดว่าน่าจะมีเพลง exclusive เพื่อประชาสัมพันธ์งานด้วย ก็เลยเขียนเพลง เธอคือความจริง ขึ้นมา ไม่คิดว่าจะได้เป็น official single กับค่ายด้วยครับ ก่อนหน้านั้นสามปีมี Good Morning ออกมา พออยู่ในระบบก็รู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ความที่ผมไม่อยากให้มันจะจริงจังไปเลยส่งเพลงนี้ไปแบบกองโจร คือส่งให้ ฟังใจ เอง ไม่ได้ผ่าน Smallroom จนคนแชร์กันแล้วค่ายเพิ่งรู้ พี่รุ่งถึงบอกว่า ‘เฮ้ย ทำอะไรทำไมไม่บอกกัน’ (หัวเราะ

พอ เธอคือความจริง ออกไปเพลงก็ทำงานของมันเอง มันเข้าถึงคนฟังได้ ก็เริ่มมีการไปเล่นตามงานต่าง ๆ ผนวกกับปีนั้นมี Cat Expo ครั้งแรกด้วยถือเป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะ จากนั้นสองปี (2018) ก็มี Smallroom Holiday Party ครั้งแรก เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายที่ค่อนข้างพิเศษ ก็อยากทำเพลงใหม่เหมือนกัน เป็น ร้อยล้านวิว ออกมา แล้วงานวันนี้บรรยากาศดี Penguin Villa เริ่มเชื่อมกับคนฟังรุ่นนี้ได้ พี่รุ่งก็รู้สึกว่าเราผ่อนคลายและคงถึงเวลาแล้ว มีหลายเพลงสะสมมาจนเกิดภาพที่ว่าจะกลับมาทำได้จริง ๆ พอลงจากเวทีแกบอกว่าลุยอัลบั้มใหม่ได้เลย 

ถ้าสังเกต เพลง เธอคือความจริง ล้อกับชื่อเพลง เธอคือความฝัน เล่าให้ฟังหน่อย เผื่อบางคนยังไม่รู้ว่า เจ เคยเป็นสมาชิกวงพราวมาก่อน

เป็นมือกีตาร์วงพราวครับ แล้วก็ร่วมแต่งเพลง เธอคือความฝัน กับพี่เล็ก (สุรชัย กิจเกษมสิน) เพลงนี้เกิดจากแรงบันดาลใจช่วงมหาลัย ประมาณปี 2537 ทีแรกเพลง เธอคือความจริง จะชื่อเพลง วัน เพราะมันมีคำว่า ‘วัน’ เยอะมาก ทั้งเพลงยี่สิบกว่าคำ ปรากฏว่ามันไปซ้ำกับ Singular ชื่อเพลง One ก็คิดว่า ชื่ออะไรดีวะ ไม่ต้องอยู่ในเนื้อเพลงก็ได้มั้ง พอพูดถึงคนรักกับลูก ก็เลยใช้ชื่อ เธอคือความจริง

ทำไมถึงเลิกทำพราว

เราเหมือนเห็นสภาวะของยุคอัลเทอร์เนทิฟกำลังล่มสลาย คิดว่าน่าจะต้องแยกย้าย ไม่น่าจะได้ทำต่อ มีคอนเสิร์ตปิดอัลบั้มด้วย ผมจบมหาลัยก็ไม่ได้ทำงานตรงสาย มีวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ เศรษฐกิจฟองสบู่ ต้มยำกุ้ง ทำให้งานสถาปัตย์น้อย เลยวนกลับมาทำเพลง พี่พิซซ่า วงพราว เนี่ยแหละครับชวนมา ช่วงนั้นก็เริ่มก่อตั้ง Smallroom ขึ้นมาด้วยการรับทำเพลงโฆษณา แล้วก็ได้ทำ Penguin Villa ตอนนั้น เหมือนไม่รู้จะทำอะไร สอบโทก็ไม่ได้ ไว้รอสอบปีหน้า ช่วงรอก็กลับมาทำเพลง แล้วก็ยาว (หัวเราะ)

ตอนแฟนเพลงบอกว่าอยากฟังเพลงใหม่ อยากฟังอัลบั้มใหม่ รู้สึกกดดันไหม

ช่วงทำเพลง Good Morning ก็หยุดรับงานโฆษณาที่เป็นงานหลักของ Smallroom ไป ได้เดโม่มา 4-5 เพลง แต่มันใช้เวลานานแล้วเลยต้องกลับมาทำเพลงโฆษณาและพักการทำอัลบั้มสองไว้ จนตอนนี้พี่รุ่งไฟเขียวละ แต่ผมกลับรู้สึกว่า ‘มันจะได้หรอ จะเอาเพลงที่ไหน’ พี่รุ่งก็บอกว่าเอาเดโม่ตอนที่ทำ Good Morning นั่นแหละมามิกซ์ ตอนแรกคิดว่าต้องมาอะเรนจ์ใหม่ พี่รุ่งก็มานั่งเรียงเพลงแล้วบอกว่า ‘เนี่ย สิบเพลง ได้อัลบั้มละ’ โห เป็นความผ่อนคลายเลยครับ เห็นเป้าหมายค่อนข้างชัดแล้วว่าเรามีกระบวนการต้องทำอย่างไร ในสิบเพลงนั้นอาจจะมีแต่งเนื้อใหม่บ้าง อย่าง ความลับในฝูงปลา ก็เป็นเดโม่เก่าแต่เนื้อใหม่ แต่ที่ใหม่จริง เลยคือเพลง เว คือดูบาลานซ์ของอัลบั้มแล้วผมก็อยากมีเพลงเปียโนกับเขาบ้าง เพราะเพลงส่วนใหญ่เป็นกีตาร์โปร่ง เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา

อายุรวมของเพลงในอัลบั้มนี้ประมาณกี่ปีได้

ถ้าจากอัลบั้มแรกมัน 14 ปี แต่ถ้านับเพลงที่เก่าที่สุดคือ นาน กับ พร มาด้วย อันนั้นน่าจะห่างประมาณ 12 ปีได้ แต่ด้วยการมิกซ์ มาสเตอร์ มันก็ทำให้ได้ภาพรวมเกาะกันอยู่ประมาณนึง

แปลกใจที่เพลงพร ไม่เคยอยู่ในชุดไหนเลยทั้งที่เป็นเพลงที่ทุกคนร้องได้

คือแกอยากจะล้างทุกอย่างให้มาอยู่ในซีดี เข้าที่เข้าทาง

ลองสังเกตว่าในอัลบั้ม J ครึ่งแรกเป็น full band แล้วครึ่งหลังส่วนใหญ่เป็นอะคูสติก

ตอนเรียงทีแรกจำฟีลไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าตอนหลังอยากให้มันน้อย ภาพดูเล็กลงมา ช่วงแรก ให้เป็นภาพกว้าง

ในฐานะคนฟัง รู้สึกว่าดนตรียังอัดแน่นความเป็น Penguin Villa ยุคแรก ๆ แต่ในฐานะคนทำ ชุด J มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

ชุด J เหมือนเป็นการรวบรวมงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชื่อ J มันเกิดจากชุดแรกมัน ออกไปข้างนอก ชุดนี้ก็เลย ‘กลับเข้ามา’ ด้วยทิศทางของอัลบั้มมันมีความค่อนข้างจะเป็นเดโม่ ไม่อยากอัดใหม่ด้วยเพราะอัดใหม่แล้วจะไม่ได้อารมณ์นั้นแน่ มีแค่ ร้อยล้านวิว กับ ลำพัง เพราะเป็นเพลงที่เพิ่งทำ มันเลยเป็น studio recording จริง กลองจริง ที่เหลือก็อัดสดเหมือนกัน แต่จะเป็นกลองโปรแกรม

สิ่งที่ต่างไปชัด ก็น่าจะเป็นวิธีร้องแหละ ถ้าใครสัมผัสได้สไตล์ร้องมันจะค่อนข้างต่างกัน มันผ่านเวลามาอย่างกับคนละคนเลยครับ คนที่ร้องเพลง นาน กับคนที่ร้องเพลง เวมันคนเดียวกันปะเนี่ย (หัวเราะ) กับเนื้อเพลง ชุดแรกไม่ค่อยขัดเกลาอะไร มันเลยมีเนื้อเพลงหลายแบบปะปนกันเยอะ มีตั้งแต่ที่เขียนช่วงมหาลัย เพลงที่แต่งใหม่ ๆ อย่าง กลับไปที่โลก ก็จะเป็นอีกแบบนึง เขียนอะไรได้ก็เอาเลย ไม่ได้กรอกในช่องอาชีพว่าเป็นนักแต่งเพลง เพราะชอบที่จะคิดไลน์ดนตรีมากกว่า แต่ตอนหลังเวลาร้องหลายเพลงในอัลบั้มแรกก็เริ่มเขิน ๆ มันมีความเด็ก แล้วเราก็เลยวัยรุ่นไปแล้ว ชุดนี้เลยใช้เวลากับมันค่อนข้างเยอะ เขียนให้ร้องแล้วไม่เขิน จนเริ่มรู้สึกชอบการเขียนเพลง แต่ตอนนี้ไม่เขินกับชุดแรกแล้ว

อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้เขียนเพลงหวานได้ หว๊านหวาน (Good Morning, เธอคือความจริง) ส่วนเพลงเศร้าก็ระดับทำลายล้าง (กลับไปที่โลกพร, เว)

เหมือนพอเขียน Acrophobia มันจะค่อนข้างกุ๊กกิ๊ก พอตอนขึ้นทำนองเพลงใหม่มาก็รู้สึกว่ามันหม่น ก็อยากเขียนเนื้อเพลงให้มันเศร้าไปเลย จะได้ contrast กับ Acrophobia ท่าอากาศยาน อย่างตอนเขียน กลับไปที่โลก ตอนนั้น ความพยายามก็ยังไม่เท่ากับ เว นะ มันจะเป็นกลอนพาไป ไม่ค่อยไตร่ตรองมาก แต่ตอนหลังเราเริ่มมีประสบการณ์การเขียนมากขึ้น อาจจะมีแพตเทิร์นหรือคลังคำที่มีมากขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าคำที่ร้องง่ายต้องมาก่อนการเล่าแล้วเข้าใจทันที ลำดับเรื่องไม่ต้องเรียงขนาดนั้น เพลง เวกับ ความลับในฝูงปลา ผมจะใช้สูตรว่า ถ้าเราต่อแถวกันสิบคน แล้วร้องประโยค ‘โอ้ทะเลเจ้าจงคืนคำที่เคยร่วงหล่น’ ผมว่าคนที่สิบก็ไม่น่าจะผิด

เล่าที่มาที่ไปของแต่ละเพลงเลยละกัน

ความลับในฝูงปลา

พอดีมันเป็นผลผลิตของช่วง Good Morning เป็นความพยายามที่จะหาซิงเกิ้ลสองเลยเคี่ยวกับการทำให้เดโม่แต่ละเพลงนิดนึง แบบ ‘โอ๊ย เดโม่นี้ก็ไม่ผ่าน’ ไลน์ดนตรีก็จะหนักหน่วง แต่เนื้อเพลงเก่าเป็นเพลงรักจีบสาว รู้สึกว่าต้องแก้ แต่เป็นช่วงอีกสองเดือนจะเดดไลน์อัลบั้ม เลยเอาดนตรีที่เป็นเดโม่เปล่า ๆให้หลายชายที่เรียนดุริยางค์ ศิลปากร แต่งเนื้อมาเลย ในเครดิตก็จะเป็นชื่อหลานกับชื่อผม ซึ่งเขาแต่งทำนองมาได้ดี แต่เนื้อร้องไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เลยมานั่งเขียนลองไหล ไปก่อน ประโยคแรกยังไม่ได้ ไปหาประโยคสองสาม ไม่จำเป็นต้องเป็นประโยคที่ง่ายก็ได้แต่มันต้องคล่องปาก พอดนตรีแอบมีความบอสซ่าเลยนึกถึงเรื่องทะเล เพราะก็ไม่เคยแต่งเกี่ยวกับทะเลเลย เลยได้โอ้ทะเลเจ้าจงคืนคำที่เคยร่วงหล่นจากเมโลดี้ของหลาน คราวนี้ก็งอกเรื่องราวต่อจากนี้ว่าจะเล่าอะไรต่อ ไม่ได้คิดพล็อตก่อนเลยว่าเพลงนี้จะพูดถึงอะไร ให้คำที่เกิดขึ้นมันพาเราไป เหมือน message in the bottle บันทึกเรื่องราวในอดีตไว้ แล้วเราไปทวงถามว่าความจริงมันเป็นยังไง

นาน

น่าจะเก่าสุด ดนตรีก็จะใกล้ชุดแรก มีความ Teenage Fanclub ความ bubblegum pop จะมีความวงสก็อตอยู่ เนื้อเพลงมาจากทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ ที่บอกว่าถ้าเอามือไปจับเตารีดร้อน แค่แปปเดียว จะรู้สึกว่านานมาก เหมือนกับระยะเวลาขึ้นอยู่กับผู้สังเกต ประมาณว่าเวลาที่อยู่กับคนที่เรารัก ชั่วโมงเดียวทำไมรู้สึกสั้นเหลือเกิน

ลำพัง

อันนี้เป็นเดโม่ตั้งแต่ที่ทำ Good Morning ตอนนั้นเนื้อร้องมาจากลำปาง หนาวมากที่คนบอกลำปางไม่หนาวเท่าลำพัง’ (หัวเราะช่วงนี้จะอินความโซล ไม่ค่อยอินอัลเตอร์เท่าไหร่ เลยทำ ลำพัง เวอร์ชันโซลเป็นเดโม่ แต่พี่รุ่งรู้สึกว่าไม่ใช่ เพราะเขาคิดไว้แล้วว่า mv จะเป็นอย่างนี้ ผมก็เลยต้องทำเพลงให้เป็นซาวด์แทร็ค mv ของพี่รุ่ง (หัวเราะ) พอเป็นพระเอกขี่ช็อปเปอร์ จากความโซลเลยมีความร็อกขึ้นมา ผมเลยเอาเดโม่ไปปล่อยเล่น ในเฟซบุ๊ก คนก็ดูจะชอบ แชร์กระจาย แล้วเวอร์ชันที่อยู่ในอัลบั้มก็มีแบบเต็ม กับแบบอะคูสติก สรุป ลำพัง มีสามเวอร์ชัน

Vintage Pic

ด้วยเนื้อกับทำนองของ Solitude is Bliss ก่อนเลย คือถึงผมจะเคยแต่งเพลงเทา ๆ แต่มันก็ไม่มี 4 คอร์ดวนแบบนี้ มันเลยต่างจากเพลงของ Penguin Villa มาก ๆ ตอนทำ Fungjai Crossplay ก็เลยอยากให้ดนตรีต่างจากของผมไปเลย แล้วเพลงนี้กับเพลง ส่วนที่หายไป  ของ อารักษ์ อาภากาศ ที่เคยทำประกอบหนัง ‘ฝนตกขึ้นฟ้า’ มันก็ดูมีความเชื่อมโยงกัน จะมีความ Radiohead เป็นอีกภาคนึงของผม (หัวเราะ) กับเนื้อเพลงที่ร้องว่า ‘ไม่มีวันหวนกลับมา’ เวลาเล่นก็จะเล่นติดกัน แต่แล้วเหมือนจะมีปัญหานิดหน่อยเรื่องลิขสิทธิ์ในเพลงส่วนที่หายไป พี่รุ่งก็เลยถ้าไม่ได้ส่วนที่หายไป ก็ไม่ต้องมี Vintage Pic!ตอนแรกผมโอเค แล้วมานอนคิดว่า ถ้าไม่มีเพลงนี้ สีของอัลบั้มจะหายไปสีนึง ผมบอกพี่รุ่งว่า Vintage Pic ก็ดึงคนฟังใหม่ ให้มารู้จัก Penguin Villa ได้เยอะเหมือนกัน ก็เลยได้เพลงนี้มา เกือบจะไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม J

ผูกพัน

เป็นเดโม่จาก Good Morning เป็นการเรียบเรียงดนตรีให้การเล่นสดมันสนุก ก็จะมีลีลา แต่ให้เล่นไม่ยากมากในดนตรี ก็จะเน้นริธึมกับแพตเทิร์นในดนตรี ด้วยไลน์กีตาร์ เมโลดี้ร้องอาจจะมีบางคอร์ดที่ทำให้นึกถึงวงพราว

เว

จริง ๆ ทำนองแต่งไว้เพื่อใช้เป็นเพลงโฆษณา แต่เนื้อเพลงทีแรกก็ไม่ได้เศร้าแบบนี้ครับ มีความหวังว่าจะได้พบเจอกัน แต่ดนตรีมันเศร้าไปลูกค้าเลยขอเปลี่ยน ก็เลยเก็บทำนองนี้ไว้ พอถึงเดดไลน์ก็รู้สึกว่าอยากมีเพลงเปียโนในอัลบั้มก็เลยเอาทำนองมาใส่ ส่วนเนื้อเพลงที่แต่งเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม เหมือนเพลงความลับในฝูงปลา ไม่ต้องคิดว่าจะพูดเรื่องอะไร ลองร้องไปเรื่อย แล้วให้เมโลดี้มันสร้างคำขึ้นมา เพลงนี้ไม่ได้ประโยคแรกก่อน ได้ความต่างที่ฟ้าและพื้นดินก็ไม่อาจเข้าใจมันมีอะไรน่าสนใจก็จดไว้ ก็ข้ามประโยคนี้ไป ได้ประโยคไหนก็ค่อยมาเติมคำในช่องว่าง ทีแรกอยากให้เพลงนี้เป็นอารมณ์แบบเหมือนตอนแต่งเพลงโฆษณา แต่พอได้ประโยคนั้นจะคิดเรื่องอะไรก็ต้องให้อันนี้เป็นหลัก จะไม่มีอะไรมาแก้ เลยกลายเป็นหวังว่าจะได้เจอกันในอนาคต แต่อาจจะอีกมิตินึงแทน (หัวเราะ) ส่วนไอ้ประโยค ‘ส่วนหนึ่งของเวลา มีคำว่า ‘ลา’ อยู่ในตอนท้าย’ ที่ทุกคนชอบ กัน น่าจะฟังเพลง Polycat เยอะมั้งครับ (หัวเราะ) มันจะมีประโยคที่เป็นโควตได้ แต่จริง มันมาจากมุขที่ Bodyslam มีคำว่าชีวิตใช่ไหมครับ The Parkinson มี ‘baby’ หรือว่ากูจะมีคำว่าเวลาดีวะ ตลกดี ผมก็เลยใส่คำว่าเวลาไป น่าจะมาจากประมาณนี้แหละ แต่ไม่เท่าเมโลดี้มันพาไป

แปรผันตาม

อันนี้ดิบมาก เลย เพลงนี้เป็น end credit สารคดีวงดนตรีคุณลุง Bennetty ในตอนแรกให้ทีมงานเลือกสองเพลง ทีมงานเลือก จุดเดิม แต่ผู้กำกับ พี่คงเดช จาตุรันต์รัศมี (สี่เต่าเธอ) ชอบเพลงแปรผันตาม เลยเอาไปใส่ พี่รุ่งก็อยากให้เป็นเวอร์ชันนั้นก็เอามามิกซ์ทั้งอย่างนั้น เอาเลย ฟีลนี้เลย

ร้อยล้านวิว

ตอนแต่งทำนองมันมีคำว่า ‘will’ ไม่ใช่วิวทิวทัศน์แบบนี้ แต่ไป มา ก็เลยคิดว่า แต่งเพลงแบบ ร้อยล้านวิว ละกัน คือมันมีช่วงที่คนรู้สึกว่า ‘เฮ้ย YouTube มีคนฟังร้อยล้านวิวว่ะ’ มันดูประสบความสำเร็จ เลยลองเขียนล้อกันไป แต่เป็นเพลงที่พูดเรื่องวิวทิวทัศน์แทน (FJZ: ซึ่งออกใกล้ กับของแสตมป์) (หัวเราะ) อย่างเหวอ พอเสร็จ คุยกับสตรีมมิงทุกอย่างเตรียมส่งเพลงแล้ว วางแพลนว่าอาทิตย์หน้าจะออก คืนนั้นแสตมป์มีภาพอินสตาแกรมเขาขึ้นมาว่าร้อยล้านวิวมันไม่น่าใช่ยอดวิวเพลงแสตมป์ มันต้องเป็นชื่อเพลงแน่ ถ้าเราเห็นแล้วปล่อยเลยเว้ยอาจจะมีการทำไมทำงั้นทำงี้ ก็เลยคุยกันก่อนว่าจะทำไงดีโทรหาเลยแสตมป์ครับ เดี๋ยวพี่จะมีเพลงชื่อเดียวกันออก แต่พี่ปล่อยก่อนเลยกลายมาเป็นแคมเปญจับมือแลกป้าย ชื่อเพลงเดียวกัน (หัวเราะ) แล้วก็แลกกันฟังด้วยก่อนจะมาถ่ายรูปคู่ 

ถึงแม้จะพูดถึงทิวทัศน์แต่ปรากฏว่าคนละเรื่อง ของแสตมป์จะเหมือนไปเที่ยวเพื่อลืมเธอแต่ลืมไม่ได้ แต่ของเราเป็นไปเที่ยวแล้วแต่รู้สึกว่าไม่อยากไปไหน กูอยู่บนรถตู้ดีกว่า

วันที่ฟ้าเป็นใจ

ช่วงตอนทำ Good Morning เป็นช่วงที่ดนตรีแพรวพราวเหลือเกิน มีโซโล่ outro ที่ร้องอีกแบบไปเลย ชอบอะเรนจ์ให้เพลงมีหลายท่อน ร้องจะไม่เยอะ สังเกตว่า ผูกพัน วันที่ฟ้าเป็นใจ จะร้องน้อย เล่นซะเยอะ แต่ความลับในฝูงปลา หรือ เวเนี่ย ร้องซะเยอะเลย เพลงนี้เหมือนขอให้ครั้งต่อไปที่เราได้เจอกันมันเป็นเวลาที่ดี ตอนนี้มันมีพายุ อะไรแบบนี้

รัก 5-6 เส้า

เพลงธีมของละครเวทีเรื่อง ‘รัก 5-6 เศร้า’ เป็นละครเวทีเรื่องแรกและเรื่องเดียวของ Fat Radio ผมเป็น music director ให้เรื่องนี้ วีเจจ๋า (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) กับ โย่ง Armchair เล่น Polycat ตอนนั้นยังอัลบั้มแรกอยู่เลยมั้ง มาเล่นแบคอัพเป็นสกอร์ ใช้เป็นเพลงประกอบเป็นเพลงคัฟเวอร์ชาวแฟตเยอะมาก เพลงเล่าเรื่องเลย อยากให้ฟีลมันคล้าย  ‘Moulin Rouge’ ขึ้นมาแบบ ผ่าง!ท้องเรื่องเกิดขึ้น…’ ก็เล่าว่า ถ้าเกิดเธอได้กลับไปในอดีต แล้วรู้ว่ามีคนรอบตัวมาชอบเธอ ปัจจุบันจะเปลี่ยนไหม คือในเรื่องจ๋าก็มีคนมาจีบเยอะ ประมาณนี้

พร

เพลงสิบปีที่แล้ว น่าจะเป็นแนวคิดที่อยากจะแต่งเพลงจริงจัง เพราะ Acrophobia มันขำ ก็เลยมีเพลงช้าที่เริ่มพูดถึงการจากไปอยู่คนละมิติ ก็เริ่มรู้สึกว่าการเขียนแบบนี้หนุกดี (หัวเราะ) หนักหน่วง มีเครื่องสาย อยากให้มันดูแกรนด์

เธอคือความจริง

ด้วยความที่ทีมก็ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้มันจะเป็นซิงเกิ้ลสองหลังจากเพลง Good Morning ได้ไหม ก็ให้ลองเปิดแต่ในฟังใจละกัน ส่วนเนื้อเพลงก็ช่วงหลังเริ่มเขียนจริงจังหากเรียงร้อยวันที่ผ่าน อาจสื่อสารความในใจก็ไม่ได้คิดว่ามันจะกลายเป็นเพลงประจำตัวไปได้ คือก็มีความพยายามแหละครับมีความคิดว่าอยากมีเพลงที่ลบภาพขอบันไดหน่อยอย่างนั้นอยู่ เลยพยายามเขียนเพลงที่ซีเรียสเหลือเกิน ตอนหลังผมก็คิดว่า ขอบันไดหน่อย’ มันก็ดีแล้วนี่ (หัวเราะ)

Good Morning (demo)

ทีแรกก็ให้ Good Morning แบบที่มี mv ไปอยู่ในลิสต์อัลบั้มสอง แต่มันมี EP ไปก่อนก็เลยไปอยู่ในนั้น พี่รุ่งบอกงั้นเอาไปอยู่ในไวนิลอัลบั้มแรกที่จะทำใหม่ แล้วเอาเวอร์ชันเดโม่มาอยู่อัลบั้มสองละกัน คนชอบเยอะ (หัวเราะสนุกมาก ส่วนเนื้อเพลงก็เกิดจากตอนนั้นไปบ้านคุณกอล์ฟ Superbaker เดินในสวนในคอนโด ก็รู้สึกว่าเวลาดี อย่างนี้ เธออยู่ไหนได้ประโยคนึงมา เพลงนี้ผมแต่งประมาณว่า คนรักกันอาจจะอยู่คนละที่กัน แค่นั้นเอง แต่เคยมีคนมาบอกว่าฟัง Good Morning ตอนอกหักแล้วรู้สึกว่าทำไมเพลงนี้มันช่างเจ็บปวด ผมเพิ่งมารู้ว่าเพลงนี้เศร้า’ กลายเป็นอย่างงี้ไปได้ไงวะ (หัวเราะ) มันก็คงจะอยู่ที่บริบทคนฟังด้วยมั้ง เขาตีความเป็นว่าจากกัน เลิกกันไปแล้ว เธออยู่ไหน

รู้สึกยังไงที่งานคัฟเวอร์อย่าง ส่วนที่หายไป กลายเป็นหนึ่งในเพลงดังของ Penguin Villa ไปแล้ว

เออ พอขึ้นเปียโนมาคนนี่ร้องเฮทุกครั้งเลย ก็ไม่เคยคิดนะ ช่วงส่วนที่หายไป มา มันหลังจาก Good Morning ก็ไม่มีเพลงมาสักพัก แล้วก็ไม่ได้คิดจะทำเพลงต่อ มันน่าจะมีคนฟังจากอีกช่วงเวลานึงกลับมาเจอ แล้วอาจจะสะใจในความหม่นของเพลงนี้ ความเท่มั้งครับ คล้าย Vintage Pic เลยครับ คือเพลงนี้คอร์ดวน น้อย เป็นเพลงที่ผมก็แต่งไม่ถูก คิดว่ามีเพลงแบบนี้มาก็แก้เลี่ยนดี แต่ปรากฏว่าเป็นเพลงที่ผมร้องแล้วโคตรอิน (หัวเราะ) คือเพลงที่ผมแต่งถึงแม้ว่ามันจะแต่งมาจากเรื่องราวของผม แต่มันจะพูดถึงสภาวะรวม แต่ส่วนที่หายไปมันพูดถึงตัวเรามาก พี่อารักษ์แต่งให้เราแน่นอน เวลาร้องคืออาจจะยิ้ม อาจหัวเราะ ใครเล่าจะรู้โคตรใช่

ตอนทำเพลงนี้ เป็นเอก รัตนเรือง เลือกให้หรือเจเลือกเอง

พี่ต้อมเลือกให้ครับ คือเคยทำสกอร์ให้ ‘Last Life in the Universe’ (เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล) พอแกมีหนัง ‘ฝนตกขึ้นฟ้า’ ก็ส่งเพลงนี้มาให้ผมคัฟเวอร์ จะทำยังไงวะ เป็นโฟล์กคอร์ดวน เหมือนร่ายบทกวี ร้องน้อย ก็ดีเหมือนกันมีเพลงแบบนี้ ก็พยายามคลี่คลายออกมาให้ดูห่างจากของเดิม

ล่าสุดเห็นว่าทำเพลงประกอบให้ BNK48 ร้องในหนังเรื่องใหม่ของคงเดช ‘Where We Belong’ ด้วย 

ทีแรกพี่เดชแกดีดกีตาร์ขำ กับมิวสิค กับ เจนนิษฐ์ ใส่เป็น end credit แล้วทางสำนัก BNK48 ก็บอกว่า เพลงนี้มันเป็นซิงเกิ้ลได้ โดนเลย พี่เดชก็รู้สึกว่า ในเวลาอันสั้นนี้ คนที่จะทำถูกใจเรา ก็มีแต่เจ (หัวเราะเหมือนพี่เดชบอกว่าอยากให้มันแนว (หัวเราะ) อินดี้ ๆ เท่ ไปเลย ‘มันต้องสะใจแน่เลยเจ BNK48 แต่เพลงเป็นกีตาร์แบนด์’ สบายใจแล้วเราไม่ต้องพยายามเป็น BNK48 เวลาน้อยมาก อาทิตย์เดียว ผมฟังทำนองแล้วก็คิดถึงดุ่ย Youth Brush อยากได้ดนตรีแบบนั้น เหมือนจะเป็นอีกแทร็คนึงในอัลบั้มได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำสกอร์แล้วครับ เป็นพี่ป๊อด Moderndog ทำ

ตอนนี้รับบทบาทใหม่เป็นโปรดิวเซอร์ ทำให้ศิลปินคนไหนบ้าง

Postbox เหมือนไปเป็นที่ปรึกษาช่วงเดโม่ พออัดก็ไม่ได้ดูละ เขาไปอัดที่บ้านแล้วให้เขาดูกันเอง แต่ว่า Solitude is Bliss นี่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับวง เพราะวงทำเดโม่มาแล้ว ผมแค่ไปดูการบันทึกเสียงที่เชียงใหม่ มันง่ายกว่าการให้น้อง 5 คนลงมากรุงเทพ

การเป็นโปรดิวเซอร์ ทำเพลงโฆษณา เพลงสกอร์ หรือเป็น music director ในละครเวที ศาสตร์เหล่านี้มีความยาก ง่าย เหมือน หรือต่างกัน ยังไงบ้าง

มันจะมีพวกอาวุธที่หยิบฉวยแบบ ‘Crouching Tiger, Hidden Dragon’ ว่าจะใช้อะไรในสถานการณ์ไหน ก็ไม่ค่อยต่างกันครับ อย่างล่าสุดพอไปโปรดิวซ์ให้ Solitude is Bliss ผมก็ได้ทดลองว่า ไหนลองทำอันนี้อย่างงี้ พอเจอปัญหาใหม่ แล้วก็ได้ประสบการณ์ที่น้องมอบให้ ถ้าผมมีอัลบั้มหน้าก็เหมือนได้อาวุธใหม่มา เรื่องทัศนคติถึงจะต่างกัน แต่ผมจะชัดเจนว่าถ้าผมมีไอเดียอะไร ผมจะให้วงเป็นคนตัดสิน ถ้าวงยอมรับก็โอเค ถ้าวงไม่ยอมรับก็จะไม่ไฟต์ ไม่เถียง มันจะยาวครับ เพราะผมเคยผ่านจุดนี้มา แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะโอเค ทิศทางความชอบคล้าย ๆ กัน ช่วงเวลาการทำงานไม่ค่อยมีปัญหาตรงที่น้องเขาเล่นดนตรีกลางคืน ทำงานตอนกลางวัน เดี๋ยวนี้ผมมีครอบครัวก็จะทำงานช่วงกลางวัน จะให้เป็นแบบตอน Smallroom ออฟฟิศเก่าที่เอกมัย เริ่มกันเย็น เสร็จตีสอง ก็ไม่ใช่ (หัวเราะ)

จะมีโอกาสได้ร่วมงานกับรุ่นน้องคนอื่น บ้างไหม

เหมือน จินตะ จะให้ไปแจม คือผมรู้สึกว่าวงไหนที่ทำงานด้วยง่ายก็คงโอเคครับ แต่วงยุคนี้ที่เริ่มมีตัวตนกันแล้วผมว่าก็ทำงานง่าย แต่เขาก็ทำกันเองดีมากแล้ว ผมงงตั้งแต่ตอนที่ Solitude is Bliss จะให้ผมไปโปรดิวซ์ ‘เอ กูจะไปช่วยอะไรมันได้วะ’ พอไปก็ดูมีประโยชน์ พอช่วยได้ (หัวเราะ) เหมือนกับวงก็อยากได้คนมาช่วยตัดสินครับ

ตามงานของศิลปินรุ่นใหม่บ้างไหม

พอสมควรเลยครับ ไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าศิลปินไทยเก่งเลยนอกจากพวกโปรดิวเซอร์หรือวงรุ่นใหญ่ แต่ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าวงอายุเท่านี้เดี๋ยวนี้มันเก่งจังวะ ทำได้ขนาดนี้คือเจริญแล้ว รู้สึกว่าวงการดนตรีไทยรุ่งเรืองมากตอนนี้ มีวงแบบที่ทำกันเอง พรีเซนต์กันเอง mv ก็ทำเอง

Musical genre ตายไปแล้วจริง หรือเปล่า มีแต่คนบอกอย่างนี้เพราะเดี๋ยวนี้แนวเพลงมันเป็นการผสมรวมกันหมด

ผมว่ามันน่าจะเป็นลูป ตอนนี้เพลงที่กีตาร์แตก ดุ สาด กราฟมันลง อาจจะพักไปก่อน สักวันอาจจะกลับมา แต่ไม่รู้ว่าด้วยกระแสโลกหรือว่าชีวิตของมนุษย์ คือเพลงที่คนนิยมก็จะเป็นเพลงที่ผ่อนคลาย เสียงเคลียร์ ถึงแม้จะสนุกมันก็จะไม่ drive มาก เท่าที่เห็นวงที่อยู่ในกระแสคือถึงแม้ว่ามันจะสนุกหรือ drive คน ดนตรีจะไม่ได้หนักหน่วง จะมีช่องว่างอยู่เยอะ

ในฐานะคนทำเพลงโฆษณา คิดยังไงกับวิธีการบิดโน้ตจากเพลง reference ที่ลูกค้าอยากได้มาใช้ในโฆษณาเพื่อไม่ให้ผิดลิขสิทธิ์ แต่คนที่ฟังเพลงยังไงก็ฟังออก

ด้วยความสนุก ความสุข ความเศร้า หรือความมันของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน มัน subjective มันต้องทำอย่างนั้นแหละ (หัวเราะเราเลยต้องมี reference ว่าสนุกแบบไหน จะแดนซ์คือแดนซ์แบบไหน คนทำเพลงก็พยายามจะบิดให้ไม่มีทางโดนฟ้อง แต่ด้วยความที่ลูกค้าติดดนตรีที่เขาฟังแต่แรกก็อยากให้มันใกล้เคียง อย่างตัวผมไม่ค่อยเจอแล้วนะครับ เพราะต้องเซ็นสัญญาไม่ให้ลอกใครมา ผมก็เป็นหนึ่งในกลไก ต้องมีความรับผิดชอบ แต่หลัง เนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นเพลง corporate เขาไม่อยากเสี่ยงดราม่า ถ้าเจอปุ๊บเขาต้องถอดคลิปนั้นออก เอาแค่ว่าถ้าเรารู้สึกว่ามันได้แค่ความสนุกตรงกันก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาดนตรีเหมือน แค่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน

จากวันแรกที่เจทำวงจนถึงวันนี้ การมองตัวเองในฐานะศิลปินหรือคนในวงการเปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหน

ตั้งแต่พราวเลยละกัน มันชัดมากครับ ตอนที่ทำพราวผมรู้สึกว่าคนที่เท่คือมือกีตาร์ เพราะผมเป็นมือกีตาร์ที่อยู่ข้าง คอยร้องประสาน ทำให้ตอนที่มันเป็น Penguin Villa พอผมต้องมาอยู่ตรงกลางก็จะทำตัวไม่ถูกอยู่ เพราะผมชอบจะเป็นคนข้าง มากกว่า แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มคุ้นเคย มันก็เป็นหน้าที่ละ ทำเพลงตัวเองก็ต้องอยู่ตรงกลางดิวะ แล้วพอวงพราวเริ่มกลับมาเล่นกัน ผมก็ยังเป็นคนข้าง เป็นมือกีตาร์วงพราว แล้วตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าภาพมันชัดขึ้นกับการเป็นมือกีตาร์ของวงวงนึงแล้วมาทำโปรเจกต์เดี่ยว ก็เหมือนมือกีตาร์ของหลาย วง… เพราะงั้นมันก็ยังเท่อยู่ (หัวเราะ)

ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่ชัดในความคิดและความเป็นตัวเรา คือผมไม่ได้คิดว่าจะทำเพลงไปตลอดชีวิต หรือว่าแต่งเพลง เพราะตอนที่ทำเพลงโฆษณา ไม่ได้แต่งเพลงตัวเองเท่าไหร่ อาจจะมีแต่งเพลงให้คนอื่นบ้างเพราะไม่คิดจะทำ Penguin Villa แล้ว น่าจะตอนที่เริ่มกลับมาตั้งแต่ เธอคือความจริง เรื่อยมาจนตอนนี้ ก็รู้สึกว่า การแต่งเพลงน่าจะเป็นสิ่งที่ผมอยู่กับมันได้ตลอดชีวิต เรื่องร้องกับเล่นดนตรีเนี่ย ก็ยังมีภาพตัวเองในตอนแก่เฒ่าอยู่นะครับ อาจจะไม่มีเรี่ยวแรงแต่ขอแค่ยังได้เขียนเพลงอยู่

เล่าถึงคอนเสิร์ตใหญ่ Penguin Vill Why Fly? ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เหมือนคล้าย อัลบั้มครับ พี่รุ่งบอกว่า ‘ถึงเวลาแล้ว คอนเสิร์ตใหญ่’ ผมก็รู้สึกเหมือนกันกับตอนทำอัลบั้มคือ ‘จะดีหรอ’ (หัวเราะ) จะเล่นเพลงอะไรดี สมมติมีงาน full show ชั่วโมงนึง ก็เล่น 15 เพลง แล้วที่ที่ไปเป็นที่ของเราทั้งนั้นเลย แต่อันนี้ต้องเล่นสองชั่วโมง 20 กว่าเพลง ก็คิดว่า พอเป็นงานเราก็เป็นที่ของเราแหละ พอเห็นภาพประมาณนี้แล้วก็คลายความกดดันไปได้นิดนึง ก็เริ่มลิสต์เพลงละครับ เวลาไปเล่นแล้วคนถามถึงเพลงที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ ก็น่าจะมีเพลงหลายเพลงที่เอามาเล่นได้ แล้วเดี๋ยวเล่นไปสิบเพลงจะมีเกสช่วงกลาง มาติดกันสามคนช่วยให้ผมพัก (หัวเราะ) แต่ยังบอกไม่ได้ว่าใคร

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย

มีอัลบั้มใหม่แล้วนะครับ ชุดที่สองชื่อ J และคอนเสิร์ตใหญ่ Why Fly? หลายสื่อบอกว่าคอนเสิร์ตนี้จะพาคุณบินไปจริง ไม่ใช่นะครับ มันคือ ‘ทำไมต้องบิน ไม่เห็นต้องบินเลย’ เพราะเพนกวินบินไม่ได้! (หัวเราะ) ตอนคิดชื่อมันมาจากผมเคยสกรีนเสื้อว่า ‘I believe I can’t fly’ พี่รุ่งก็เอาคำนี้มาเล่นกับคำเดิม ก็เป็นคอนเสิร์ตที่คงจะไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากเพลงที่ไม่เคยเล่น จะเอามาเล่นในงานนี้ เท่าที่เห็นก็มีพี่น้องในวงการ คงเหมือนงานคณะแบบตอนที่เล่นที่ Play Yard แหละครับ ตอนนี้ผมเริ่มไม่ค่อยเกร็งแล้ว เพราะซ้อมทุกวัน แล้วผมเหมือนไปเจอซามูไรที่หลบซ่อนตามจุดต่าง ในประเทศ ผมไปเที่ยวฉะเชิงเทรา เจอคนเข้ามาพูดว่า ‘เดี๋ยวจะไปดูคอนเสิร์ตนะครับ’ เจอพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เข้ามาพูด ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน อยากให้คนที่ซ่อนอยู่แล้วยังไม่รู้ข่าว ผ่านมาอ่านสิ่งที่คุยกับ Fungjaizine ในวันนี้ ได้มาเจอกันที่งานนะครับ

Why Fly?

ถึงตอนนี้บัตร early bird ของ LEO Presents Penguin Villa WHY FLY? Concert จะหมดแล้ว แต่ยังเข้าไปซื้อราคาปกติ 1,000 บาทได้ ที่นี่ นะ แฟน ๆ Penguin Villa ไม่ควรพลาด

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้