‘ให้มีคนด่า ดีกว่าไม่มีคนฟัง’ เป้ อารักษ์ เล่นใหญ่ในอัลบั้ม BIG อยากให้ได้ฟังจริง ๆ นะ
- Writer: Montipa Virojpan
ศิลปินท่านนี้ได้เผยกับทีม Fungjaizine ว่า ในอัลบั้ม BIG นี้ เขาตั้งใจจะปล่อยทุกเพลง เดือนละเพลง แต่กับเพลง ‘ฉันเห็นหน้าเธอฉันเจอแต่ปัญหา’ ได้สร้าง ‘ปัญหา’ ให้กับเขา ตรงที่พอใส่ชื่อวิดิโอใน YouTube ไปว่า Pae Arak (เป้ อารักษ์) เป็นคนร้อง กลับไม่มีใครกดฟัง! ทำให้เขาแก้เกมในเพลง ‘เพื่อนที่ทำงาน’ ที่เพิ่งปล่อยไป ด้วยการไม่ใส่ชื่อศิลปินซะเลย! มาดูกันว่า ข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริงหรือไม่
(ช่วงโปรโมตทีแรกไม่ใส่ แต่เดาว่าน่าจะมีปัญหาเรื่อง SEO และการเสิร์ชชื่อเพลง เลยใส่ดีกว่า และตอนนี้มีคนเข้าไปดูมิวสิกวิดิโอกว่า 199,618 views เป็นที่เรียบร้อยละ)
ไหนเล่าให้ฟังหน่อย ตอนปล่อยเพลง ‘ฉันเห็นหน้าเธอฉันเจอแต่ปัญหา’ เกิดอะไรขึ้น
ใช้คำว่าเงียบมาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่ผมชอบมันมาก แล้วก็ชอบมิวสิกวิดิโอมากด้วย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้เราเป็นปัญหาคือเรื่องผู้หญิงครับ (หัวเราะ)
แล้วจะทำยังไง
ผมรับผิดชอบเรื่อง mv ก็ตั้งใจเล่าเรื่องให้มันง่ายไปเลย แต่ก็ไม่ลืมที่จะซิงก์ดนตรีเข้าไปในเพลง แล้วก็ไม่ทิ้งเทคนิคถ่ายทำที่ค่อนข้างหวือหวา ไม่ปกติ ตามที่เราชอบ แล้วก็มีกลยุทธอีกอย่างคือ จะไม่ใส่ชื่อศิลปินใน YouTube (หัวเราะ)
มันเริ่มจากเพลง ‘ไม่บอก’ ที่ยอดสตรีมเยอะกว่าใน YouTube อีก จาก 500,000 ผ่านมาอาทิตย์เดียว 600,000 น้องตั๊ก คนที่ดูออนไลน์ที่ค่ายก็เดินมาบอกว่า ‘พี่เป้ ไม่บอก เนี่ย คนฟังมาจากเพลย์ลิสต์ของ Morvasu – Melbourne’ พอฟังจากเพลย์ลิสต์ เล่นไปเรื่อย ๆ แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพลงของเป้ด้วย แต่พอฟังแล้วรู้สึกเพราะจัง ก็เลยแชร์
ผมก็เลยคิดว่า เนี่ย พอเห็นเป็นชื่อ เป้ อารักษ์ คนเลยไม่ฟังรึเปล่าวะ ก็ให้ช่องทางอื่นปล่อยเหมือนเดิม ยกเว้น YouTube ลองไม่ใส่ชื่อดู ให้ขึ้นแค่ว่า ‘เพื่อนที่ทำงาน’ feat. Timethai
ทำไมพอคนรู้ว่าเป้ร้องแล้วจะไม่ฟัง
ก็… อย่างยุค Autoerotic ผมว่างานไม่ค่อยได้มาตรฐาน ตัวเพลงผมชอบมาก แต่ผมเองยังไม่ชอบคุณภาพเสียงร้องเลย แล้วพอเป็นอย่างนั้นมันก็ฝังไปในจิตใจของผู้คนว่า มันต้องร้องเพลงอย่างนั้น นี่ผมเปลี่ยนมา 3 อัลบั้มแล้ว คือตั้งแต่ เหล็กกับไม้ กลมกล่อม ย่อยง่ายแล้ว พอมา Aragochina ถึง BIG ยิ่งง่ายกว่าเดิม แต่คนก็ยังติดภาพกับเพลง มาเลเซีย หรือ ไก่ (FJZ: เราชอบนะ แปลกดีในตอนนั้น) เออ ผมก็ยังติดทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นอยู่ เพื่อนที่ทำงาน เราคิดว่าเล่าเรื่องเพลงรักจับต้องง่าย แต่ยังไม่มีใครพูดถึงดีกว่า
ได้อิทธิพลการแบ่งวรรคในเพลง ให้ออกมาเป็นกวีได้ยังไง
Autoerotic มันค่อนข้างกลอนเปล่านิดนึง มันก็ไม่ค่อยกลมกล่อมเพราะเราชอบยัดคำด้วย (หัวเราะ) ผมชอบ อารักษ์ อาภากาศ ซึ่งเขาจะไม่ได้คล้องจองจ๋า ๆ Bob Dylan ก็เหมือนกัน ความที่ฝรั่งมันมีคล้องจองหลายแบบเหลือเกิน ไม่ต้องสระเหมือนกัน บางทีเอาพยัญชนะ เอาเสียงหลายอย่างมาใช้ได้ไม่ต้องเป๊ะ เลยเอาวิธีแบบพวกนั้นมา
ทำไมถึงชื่อเพลง ‘เพื่อนที่ทำงาน’
คือมีเพื่อนซี้ผมคนนึง เป็นคนเดียวกับที่ผมแต่งเพลง ‘สอนใคร’ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อน แฟนเขาเป็นครูสอนเปียโนที่โรงเรียนสอนดนตรี แล้วแฟนเขามีชู้กับลูกศิษย์
มีเหตุการณ์นึง แฟนเพื่อนผมไม่กลับซักทีเพราะไปเที่ยวกับนักเรียน ก็แบบ เอ๊ะ ทำไมยังไม่กลับ โทรหาก็ไม่รับ ลงมาข้างล่างคอนโด จะขับรถไปตามหาแล้วนะ เจอรถแฟนจอดอยู่หน้าคอนโด เลยเดินไปที่รถ แฟนนั่งอยู่กับคู่กรณีข้าง ๆ กัน แต่ตอนที่ไปไม่เห็นแล้วนะว่าเขาทำอะไรกัน มันมืด ๆ ขมุกขมัว ผมเลยเอามาแต่งว่า ‘เธออยู่ในรถที่เขาขับ ทำเหมือนใน PornHub’ ก็คือจุดแตกหักของเรื่องที่เกิดขึ้น เลยเอาเรื่องนั้นมาเขียน ต้องดู mv ครับมันบอกเรื่องราวตรงนี้เลย
ทำไมถึงเลือก Timethai มาร่วมงาน
ผมต่อยมวยกับเขาตอน ’10Fight10′ เขามีความสามารถมาก ๆ อยากทำอะไรก็เก่ง เต้นก็เก่ง ร้องเพลงก็เก่ง ต่อยมวยก็ยังเก่งอีก เล่นเกม มาแคสเกมก็เก่งอีก ในอินสตาแกรมก็ตลกอีก งงไปหมดว่ามันทำอะไรได้บ้าง แล้วหน้าก็หล่อจัด ๆ ตอนเขาออกเพลงช่วงนั้นเราก็แชร์เพลงเขา แล้วก็ไปคอนเสิร์ตเขาด้วย ที่มันมีหนึ่งครั้งในปีเดียวอะ อีกวันต้องตื่นเช้า คือผมดูคอนเสิร์ตจนผมนอนไม่พอ แต่มันสนุกมาก คือ Justin Timberlake เมืองไทยแดนซ์ยับ ก็เลยขวนมาแจมเพลงนี้ด้วยความคิดที่รู้ว่ามันเก่ง แต่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะดีขนาดนี้ พอทำบีตเสร็จแล้วส่งให้เขาเขียนเนื้อ เขาก็ส่งมาให้ผมทั้งก้อนเลย ยังไม่ได้แก้อะไรเลย
เจาะลึกอัลบั้ม BIG
เรียกว่าเป็นอัลบั้มป๊อปแล้วกันครับ ตอนนี้มี 6 เพลง เราคุยกับแฟรงค์ เจ้าของค่าย เขาถามว่า ชุดนี้จะ experimental ป่าวเป้ (หัวเราะ) ไม่ช่ายยย เราคิดว่ามันป๊อป จุดมุ่งหมายหลัก ๆ คือเราอยากออกไปทัวร์อีกครั้งนึง เหมือนตอน เป้ อารักษ์ แอนด์ เดอะปีศาจแบนด์ ก็ยังมีทัวร์เยอะอยู่ แต่ตอนนี้แทบไม่เหลือแล้ว จะทำยังไง วิธีการทำที่ง่ายที่สุดก็คือ ทำเพลงให้คนชอบ ทำให้ตัวเองเก่งขึ้น ก็คิดว่าน่าจะเวิร์กสุด
‘ฉันเห็นหน้าเธอฉันเจอแต่ปัญหา’
เราเอา choir (คณะประสานเสียง) มาแทนเสียงแตก เพราะเราฟัง Kanye West เยอะ ฟัง Follow God เยอะ ก็เลยเอามาทำเป็น EDM ผสมเข้าไปซึ่งผมชอบสุดเลย วันก่อนไปซ้อมมาก็มันมาก ๆ บรรยากาศตอนเล่นสดก็น่าจะสนุกมาก เพราะเป็นเพลงแรง ๆ เพลงนึง
‘เพื่อนที่ทำงาน’
เป็น r&b ตั้งแต่แต่งเรากะให้เป็นแบบนี้ ผมได้เมโลดี้ ‘รู้ ฮูวู้ฮู ฮูวูฮู้’ มาก่อน แล้วได้เวิร์ส 2 มาในแว้บเดียว ก็ดีใจมาก แต่เวิร์ส 1 แต่งนานมาก เพราะเราอยากได้เพลงแบบได้ยินประโยคแรกแล้วเพราะเลย เหมือน ‘ฮักกันมาสิโน่นแล้ว บ่มีวี่แววเปลี่ยนแปลงไป’ ก็หายากเหมือนกัน จนได้มาเป็น ‘สงสัยตั้งแต่มีข้อความ’ ไม่ได้อึ้ง ๆ อ้ำ ๆ มาโต้ง ๆ เลย
ดนตรีเพลงนี้พิเศษคือทุกอย่าง เป็นคอมพิวเตอร์หมดเลย เบสทุกไลน์ไม่มีเบสจริงเลย กลองก็กลองปลอม กีตาร์ท่อนโซโล่อะไรผมเล่นเอง แต่กีตาร์ริธึมอะปลอม ก็ดีได้ลองซอฟต์แวร์เขา รู้สึกภูมิใจในการใช้ของปลอมของเรา แล้ว Timethai ส่งท่อนแร็ปมาในวันเกิดของเขา ให้ของขวัญวันเกิดของเขา กับผม ผมก็งง (หัวเราะ) แต่ท่อนแร็ปโคตรเจ๋ง ‘บอกเหล้านะไม่ต้องริน ให้แม่งมากินที่ใต้ศอกเดะ’ โคตรเพี้ยน
‘เธอทำให้ฉันเปลี่ยนจากคนแล้วกลายเป็นหมา’
อาจจะตัดเหลือแค่ ‘หมา’ เฉย ๆ ยังไม่แน่ใจ มาจากแต่งเพลงบลูส์ ให้คุณ เบียร์ สรณัฐ เขาจะทำโปรเจกต์เพื่อสุนัขจรจัด สุดท้ายเขาก็หายเงียบไป แล้วผมแต่งเสร็จแล้ว ก็เลยเอามาใช้ดีกว่า มันเป็นบลูส์ปนโอลดี้ แล้วเราก็เพิ่มเครื่องสาย กับ choir เข้ามาในเพลงนี้ มันก็จะงง ๆ หน่อย ก็คือด้วยความที่มีคอมพิวเตอร์ มีโปรแกรมชื่อ ‘Splice’ เอาแซมพ์อะไรมาใช้ได้หมดเลย
แล้วตัวเพลงก็แตกต่าง ปกติผมแต่งคีย์เมเจอร์ อันนี้ก็เริ่มไมเนอร์มากขึ้น เริ่มมีแร็ป โดยเฉพาะเพลง ‘หมา’ ผมเปิดให้ทีมงาน The Cloud ฟัง เขาก็เซอร์ไพรส์ ตั้งแต่ร้องเพลงมาผมยังไม่เคยร้องเสียงหลบให้ใครได้ยินเลย อันนี้หลบกระจาย จริง ๆ ก็ร้องเสียงสูง เสียงหลบได้นานแล้วด้วย แค่ไม่เคยแต่งเพลงที่มีโอกาสให้ร้องแบบนั้น เพลงนี้ก็ได้คุณ อัฐ วงศ์วริศ มือกีตาร์ เดอะปีศาจแบนด์ มาโซโล่ให้ แล้วก็เปลี่ยนโซโล่เขาในคอมพิวเตอร์ (หัวเราะ)
เป็นยุคของ เมฆ Machina แล้วอะ เราทำหนึ่งวัน หนึ่งเพลง เพราะคุณ Hugo สอนไว้ว่า ‘ดนตรีสมัยนี้ไม่ต้องเสียเวลาเยอะหรอก’ เราทำมาแต่เพลง เข้ามาอัดร้องอีกวันนึง วันละ 2-3 เพลง เขาสร้างมาตรฐานให้ผมไว้
ตอนนั้นเขาทำเพลงกับพี่ เจ มณฑล เพลง ‘แพ้’ ก็คือผมไปเจอเขาที่บ้านเจ้าพระยา แต่งวันเดียวเสร็จ เจอพี่เจ มณฑล วันเดียวก็เสร็จ เพลง ‘คิดถึง’ ก็เหมือนกัน แล้วมาทำอีกที เพลง ‘เสือ’ ประกอบ ‘ขุนพันธ์ 2′ 10 โมงเช้าเริ่ม 2 ทุ่มเสร็จทุกอย่าง ไม่ต้องแก้อะไรเลย แล้วเขาก็ทำแบบนี้กับทุกคน
ตอน เจสซี่ เมฆวัฒนา ก็เช่าสตูดิโอคิวเดียว เสร็จหมด แต่อันนี้ติดโควิดเลยอัดที่บ้านแล้วส่งไปให้เขา มันง่ายเบอร์นั้น ทำเพลงกันเร็วมาก เพราะผมก็ไม่มีเวลา ถ้าให้เราอยู่สตูดิโอกันจริง ๆ 10 วันก็เสร็จ อันนี้ไม่ได้ชุ่ยนะครับ แต่ไม่ให้เรื่องราวติงต๊องมาขัดขวาง อย่าง จะต้องจ่อไมค์อย่างนี้ ต่อเสียบต่อนั่นต่อนี่ ทุกอย่างเสียบตรง อัดเข้าไปให้มันดี ได้ไฟล์มาก็ทำต่อ แล้วผมมีคุณบิ๊ก ภานุวัฒน์ เดอะปีศาจแบนด์ คุณเมฆอยู่ข้าง ๆ ก็เล่นได้ทุกอย่าง เขาเก่งอยู่แล้ว เร็วมาก ตั้งใจมาก ในสตูดิโอแค่แปปเดียว แต่ก็จะมีการส่งไฟล์แก้กันไปแก้กันมาแหละครับ ถ้าใครอยากทำเพลง หรือมีปัญหา เข้าไปหา Machina เลยครับ แต่ Hugo เนี่ย เร็วจริง งงจัด
‘คนสวย’
เป็นเพลงที่ป๊อปที่สุดในชีวิตครับ ทำไมยังไม่ได้ปล่อยก็ไม่รู้เหมือนกัน… แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ด้วย ผมชอบ ‘ฉันเห็นหน้าเธอฉันเจอแต่ปัญหา’ กับ ‘เพื่อนที่ทำงาน’ ที่สุด แต่ ‘คนสวย’ ผมนี่ ‘ฮึ ชอบรึเปล่าวะ?’ คือเพลงนี้ตกรอบมาจาก Aragochina ก็ โอเค ไม่เอาก็ได้
แต่เป็นเรื่องจริงมาจากรุ่นน้องคนนึง ผมเข้าเวิร์กช็อปแอคติ้งกับเขา แล้วเขาเล่าเรื่องเขาอกหักมาจากแฟนเขา ที่ไปคบกับเพื่อนเขาเอง เราก็ ‘เดี๋ยวนะ หน้าอย่างมึงอกหักหรอ ผิดละ ไม่ใช่ละ หน้าสวยอย่างนี้อกหักได้ยังไง’ เราก็เลยเขียน ‘อย่าสนเลยคนสวย เขาแค่ผู้ชายเฮงซวย’ เพลงเบสิกมาก ๆ แต่มาเปิดในห้องประชุม Whattheduck เขาชอบว่ะ (หัวเราะ) เราแบบ ตายละ เราไม่รู้สึกถึงเพลงนี้เท่าไหร่เลย อันนี้ก็ได้แร็ปเปอร์คนนึงมาแจม ทำไว้ได้ดีมาก ตอนที่ขายในห้องประชุมยังไม่ใช่คนนี้นะ เป็นแร็ปเปอร์เกาหลีเราลองเอามาแปะ เขาก็ชอบกันแล้ว ก็คิดว่าเพลงนี้อาจจะมีสิทธิ์มากที่สุดในเป้าหมายของเรา ก็รอฟังครับ
‘อิจฉานายจัง’
เป็นเพลงที่โปรดิวเซอร์ บิ๊ก กับ เมฆ ชอบสุด เพราะมันบ้ามาก เป็น Frank Ocean เวอร์ชันออเคสตราอะไรก็ไม่รู้ ผมก็แต่งมาจาก Frank Ocean ตอนนี้ก็ยังชอบมากอยู่ แต่ยังไม่สามารถร้องแบบเขาได้ timing จังหวะเขา r&b ฝรั่งมาก ก็พัฒนาต่อไป
ชอบเพลงนี้มาก อยากทำ mv เห็นภาพเรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดว่าอัลบั้มดังแล้วมีตังเพิ่มก็อาจจะทำ แต่ตอนนี้หาสปอนเซอร์ได้แล้ว ก็ขอบคุณทาง Whattheduck ด้วย แล้วก็อีกสองแบรนด์ที่จะมาจอยกัน ทำให้ผมสามารถมีเงินทำ mv ในอัลบั้มได้ 4 ตัว
มันเป็นเรื่องที่ผมมีความสัมพันธ์กับแฟนเก่าของเพื่อน ไม่ได้ซี้มากนะ แต่รู้ว่าเขาเคยคบกับเพื่อนเรา แล้วเขาก็ยังเศร้าอยู่ ก็เล่าแต่เรื่องของเพื่อน ผมก็ ‘เฮ้ย อิจฉาเพื่อนกูว่ะ ทำไมเขาไม่ได้ชอบกูแบบนั้น’ แล้วเขาก็ทิ้งผมไปแบบชุ่ย ๆ เหมือนทิ้งขยะลงถังขยะธรรมดา เขามาปรับทุกข์เฉย ๆ แปปเดียวสองอาทิตย์ ก็ได้เป็นเพลงนี้มา ‘ทำไมอยู่กับฉันแล้วเขาไม่รักฉันเหมือนที่เขารักนาย ทุกเรื่องที่เขาพูดไม่มีกูเลย มีแต่เรื่องของมึง’
‘ชื่อเก่า’
ผมดีใจมากที่ตอนเปิดให้ฟังแล้วมีคนชอบ มันเป็นเพลงที่ค่อนข้าง emotional เหมือนกับ ‘อิจฉานายจัง’ อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงครับ เวลาเราเดินไปเจอแฟนเก่าที่แยกกันด้วยความไม่ชอบมาพากล ไม่ชอบใจกัน แล้วไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นกับชีวิตเขายังไงต่อ
แต่พอไปเจอเขาอีกครั้งนึง ไม่ได้เจอหรือคุยกันเป็นปี คำแรกที่เขาทักกลับเป็นชื่อเดิมที่เขาเคยเรียกเราตอนนั้น เหวออะ ตัวแข็งเลย ผมอ้าปากพูดไม่ออก แล้วเขาก็เดินไป เขาเห็นเราตัวแข็งคงคิดว่าเราหยิ่ง เปล่า กูเอ๋ออยู่ (หัวเราะ) แต่รู้ว่าคนนี้อะสู้ไม่ได้ยอมแพ้เลย
แต่เป้ก็แพ้ทุกคนเลยนะ
คนที่ผมชนะก็มีครับ แต่ไม่ค่อยมีเพลงของเขาเท่าไหร่ (หัวเราะ) ผมมีปัญหาเรื่องการแต่งเพลงรักแบบมีความสุขอยู่ ยังทำไม่ได้ครับ
อัลบั้มชื่อ BIG งั้นเรื่องใหญ่ที่สุดที่เจอในชีวิตของเป้ตอนนี้คือเรื่องอะไร
กำลังจะเล่นหนังแล้วไม่ได้เล่น ภาพยนตร์ที่กำลังจะเปิดกล้อง นายทุนโดนจับครับ (หัวเราะ)
แรงบันดาลใจส่วนใหญ่ในชุดนี้คือแร็ปเปอร์ และศิลปิน r&b เป้มาสนใจทำเพลงแนวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เออ มันเริ่มมาจาก The Weeknd เลยครับ ‘Can’t Feel My Face’ ผมก็ชอบมากนะ แต่ยังไม่เก็ตว่ามันคืออะไรกันแน่ ตอนก่อนหน้าคนนี้ผมก็ชอบ Arctic Monkeys มาก แล้วก็ชอบ Drake อะไรอยู่แล้ว แต่ ‘Starboy’ มันทำให้เปลี่ยนแนวคิดเลยว่า แร็ปมันก็เป็นร้องได้นะ เป็นดนตรีเท่ ๆ โล่ง ๆ ได้ ก็เลยฟังแร็ป r&b มาเยอะขึ้น แรงบันดาลใจของการเขียนเพลงก็จะมีพวกนี้เข้ามา แต่สุดท้ายผมก็ไม่กล้าแร็ปอยู่ดี ผมเลยใช้เป็นเมโลดี้ลงไป
ทำไมไม่กล้าแร็ป
ก็เคยแร็ปในเพลง Morvasu ครับ (หัวเราะ) Melbourne เวอร์ชันที่ยังไม่มีแร็ปเปอร์ ไลฟ์ใน Whattheduck แต่ซาวด์ไม่ค่อยออก เขียนกันวันนั้นแล้วก็ใส่เลย ไม่กล้าแร็ปเพราะเรายังติดคำเป็นเมโลดี้ในหัวตลอดเลย ยังสลัดไปไม่ออก เหมือนอย่าง The Weeknd เขาก็แร็ป แต่มีเมโลดี้ตลอด บางคนเขาจะแร็ปโน้ตเดียวไปเลย
แต่เดี๋ยวนี้แร็ปออโต้จูนก็แร็ปเมโลดี้นะ มันก็เปลี่ยนตามคีย์ ผมมีโอกาสได้รู้จักคนที่ใช้ออโต้จูนเก่ง คือ YOUNGGU เก่งจริง มันสอนผมใช้ ถ้าร้องตรงคีย์เสียงมันไม่ออกนะ มันไม่บิด! YOUNGGU ปรับออโต้จูนทีคืออัด 100 เต็มเลย จริง ๆ ผมมีโปรเจกต์กับเขาครับ ยังไม่ออก แล้วเราก็รู้สึกว่า ก็สนุกดีเพลงนั้น แต่เราก็ไม่แน่ใจ มีท่อนนึงร้องว่า ‘มึงฟังไม่ทันมึงก็ repeat ดิ’ แต่คืออันนั้นก็เร็วสัสแล้วนะ (หัวเราะ) ท่อนนั้นฟังไม่ทันเลย! โคตรเดือด ก็ได้รับอิทธิพลมาจากพวกนั้นด้วย
แล้วก็ดนตรีมันไม่มีเพดานแล้ว จะเล่นอะไรก็ได้ แต่ก่อนเราเล่นโฟล์ก Hugo ก็สอนเราว่า เฮ้ย คีย์บอร์ดก็มีได้ กีตาร์ไฟฟ้าก็มีได้ พอเรามาเจอ Machina หนักเข้าไปใหญ่เลย เครื่องสายก็มีได้ เสียงวนขันของพระทิเบตก็มีได้ (หัวเราะ) เพี้ยนจริง
รู้สึกยังไงถ้ามีคนมาบอกว่าใช้โปรแกรมทำเพลงแล้วมันไม่เรียล
หลายคนบอกว่าอยากให้ผมกลับไปทำแบบชุดแรก ผมว่ามันง่ายจัดไปหน่อยว่ะ แบบนั้นผมทำได้เลย อัดวันเดียวแล้วออกเลย คิดว่าแบบนี้ยากกว่า ท้าทายกว่าสำหรับเรา แบบที่ทำให้มีซาวด์แปลก ๆ อาจจะบอกว่าทำเร็ว แต่มันไม่ง่าย เห็นอยู่แล้วว่าอันนี้คีย์บอร์ด กีตาร์ เบส วางอยู่มุมห้อง อันนั้นวางอยู่ตรงไหนไม่รู้ เราไปดึงมาจากอากาศมันยากกว่าอีกนะ
แล้วผมก็ไม่สนว่าจะมีคนว่าหรือเปล่า เพราะว่า อะ ตอนนี้ ให้มีคนด่าดีกว่าไม่มีคนฟัง (หัวเราะ) สมัยก่อนโดนด่าแล้วรู้สึกไม่อยากโดนด่า โดนจนเบื่อ แต่ยอดวิวมันขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นชาร์ต ตอนนี้อะ มาด่าเหอะ come on man! งั้นเปลี่ยนชื่อเพลงดีกว่า ‘มาด่าเถอะ อยากให้คนฟัง’ (หัวเราะ) คือไม่มีคนมาบอกผมเลยว่าผมเปลี่ยนมาทำเพลงแนวนี้แล้วเป็นยังไง คนที่ได้ฟังเพลง ‘ไม่บอก’ หลาย ๆ คนในคอมเมนต์จะบอกว่า หายไปไหน ทำไมไม่ได้ฟัง ผมก็… งงเหมือนกัน ว่าทำไมคุณไม่ได้ฟัง ตั้งแต่ เหล็กกับไม้ คุณก็ไม่ได้ฟังอีกเลยหรอ ก็มีวิธีแก้อยู่ไม่กี่วิธี คือทำไปเรื่อย ๆ
ผมตั้งเป้าหมายไว้แล้วนะ วันนั้นซ้อมกันสนุกมาก ไม่ได้ซ้อมกันนานหลังจากโควิด เราก็มาซ้อมกันอีกครั้ง เราตั้งใจว่าเราจะไปไหนกัน (FJZ: ไปไหน) ไม่กล้าบอกครับ (หัวเราะ) ประมาณเฟสติวัลล่ะ ก็อยากทำให้ถึงเป้าหมาย ถ้า BIG ไม่สำเร็จภายในปีหน้า ผมก็ต้องทำต่อให้ทัน อาจจะไม่ออกเป็นอัลบั้มนะ ปล่อยเป็นซิงเกิ้ลเลย เพื่อเป้าหมาย
ผมดันเป็นคนอายุมากเมื่อเทียบกับคนอื่นวงการนี้ ผมเคยมีประสบการณ์สนุก ๆ ในการทัวร์ แต่มันอยู่กับผมสั้นไปหน่อย ตอนอยู่กับ Slur ผมยังไม่ทันเบื่อทัวร์เลย เอ้า แยกแล้วหรอวะ (หัวเราะ) แล้วพอเริ่มมา มาเลเซีย เป้ อารักษ์ แอนด์ เดอะปีศาจแบนด์ ก็ยังต้องกระเตงความไม่มั่นใจไปตลอด เราเล่นกีตาร์ เหยียบกลองเอง ต้องไปเล่นด้วยความไม่พร้อม พอพร้อมจะเล่น มีมือกลอง เอ้า ทัวร์หายไปไหน เราก็เลยรู้สึกว่ามันยังไม่พอ กับชีวิตที่ตอนเด็ก ๆ เคยใฝ่ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักดนตรี เป็นร็อกสตาร์ แต่เราไม่ได้อยากเป็นร็อกสตาร์แบบนั้นนะ (หัวเราะ) แค่อยากไปเล่นทุกวันให้คนได้ฟัง เอนเตอร์เทนคนจริง ๆ ซึ่งผมยังไม่เคยถึงจุดนั้นเลย Slur คือเกือบถึงอะ ก็เลยลองดูว่าเราจะทำความฝันนี้ได้ไหม
หลายคนพูดว่าแร็ปเริ่มซาแล้ว จริงไหม
อัลบั้ม YOUNGOHM ก็ไม่ซานะ ไม่รู้ว่าแร็ปหรือเปล่า แต่มันเป็นเพลงป๊อปไปแล้ว คือถ้าคนพูดถึงแร็ปอาจจะนึกถึง N.W.A. อะไรพวก gangster rap หรือ Thaitanium แต่เด็กสมัยนี้ไม่ใช่แล้ว มันร้องเพลงกันแล้วอะ Lazyloxy ยังร้องเพลง Illslick เขายังร้องเพลงเลย มันปนกันไปหมดแล้ว genres ไม่ได้แตกต่างกันแล้ว
การแต่งตัว น้องใส่เสื้อยีนกับเดรส สมัยก่อนโดนด่านะว่าใส่เดรสลายดอกแล้วเป็นฮิปปี้ ถ้าแต่งตัวแบบนี้ จะโดนบอกว่าเป็นแบบนี้ เด็กแร็ป เด็กสตรีท เด็กอัลเตอร์ เด็กพังก์ เดี๋ยวนี้มิกซ์กันมั่วซั่วไปหมดแล้ว จะใส่อะไรก็ได้แล้ว จะใส่ Rompboy กับ Gucci เสื้อประตูน้ำ กางเกงขาสั้น Louise Vuitton ก็มาทำสตรีท ใครจะไปคิด คำว่าสตรีทก็คือ mix and match ทุกอย่าง ดนตรีก็แบบนั้นครับ ไม่ได้มองว่าอะไรจะหายไป อะไรจะขึ้นมาเลย สำหรับผมตอนนี้เลยกลายเป็นว่าทำเพลงป๊อป อยากให้คนฟังเยอะ ๆ คือจุดมุ่งหมายไม่ได้อยากให้ตัวเองเป็นแนวไหน
นักดนตรีชอบเจอปัญหาแก้แล้วแก้อีก ไม่เจอความพอดีสักที กับอีกทีคือใส่เลเยอร์เยอะจนไม่รู้จะเล่นสดยังไง
เล่นสดเราเอาไว้ทีหลังเลย Hugo สอนอีกแล้ว เขาบอก ‘จะสนเล่นสดทำไมไม่ต้องสน คนละเรื่องกัน อยากจะใส่อะไรก็ใส่ มันเลย’ ทำให้ดนตรีของเราไม่มีลิมิตครับ อยากมีร้องประสานเสียง มีเครื่องเป่า มีเครื่องสายก็ได้ เล่นสดเรามี backing track นี่หว่า แล้วเราจะไปปฏิเสธทำไม Bodyslam เขาก็ใส่มาไม่รู้กี่ไลน์ ซาวด์เขาหนามาก ผมเคยไปดูเขาซาวด์เช็ก เปิด backing track หลาย ๆ วงก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งมันไม่ได้ผิดแล้วยุคนี้ ถ้าคุณอยากจะไปอยู่ลีกนั้นก็ต้องแข่งแบบนั้นอะ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้เปิดเยอะขนาดนั้น ใส่แค่เสียงที่เราทำไม่ได้ แต่เลเยอร์เยอะไปมีปัญหาตรงนี้
อัฐ วงศ์วริศ เคยอัดเพลง ‘ฉันออกไปเต้นกับเพลงที่ไม่คิดจะฟัง’ มันตั้งใจทำเพลงนี้มาก อัดคอรัสมา 7-8 ไลน์ พี่เล็กตัดออกเหลือไลน์เดียว เหลือแต่ไลน์คู่ 8 ใจแข็ง เลือดเย็นมาก เขาเป็นด้วงจริง ๆ โคตรมัน (หัวเราะ) เลยได้ไอเดียพวกนั้นมาจากเขาแต่ผมไม่ได้เด็ดขาดขนาดนั้นครับ
ศิลปินเดี๋ยวนี้ชอบ featuring กัน เป้ชอบทำงานคนเดียว หรือทำกับคนอื่น
ผมทำคนเดียวมาเยอะแล้ว Slur นี่เราก็คิดกันเอง รวมหัวกันเองมาตลอด เหล็กกับไม้ ก็ยังถือว่าทำคนเดียว แต่มีคุณ อัฐ เดอะปีศาจแบนด์ มาช่วยตลอด แต่ว่าก็คิดเอง ทำเอง แต่งเอง โปรดิวซ์เองมาตลอด จนมาถึงตอนนี้ เจอคนอื่นบ้างก็ดี แล้วก็มีทำให้เรากว้างขึ้นด้วย คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง ใครจะเก่งเหมือน The Toys ได้หมดทุกคน (หัวเราะ) ทัวร์เป็นร้อย ๆ วัน ทำได้ทุกอย่าง ต้นจนจบ เครดิตมีชื่อมันคนเดียว ผมไม่ใช่แบบนั้น เอาเวลาไปเล่นหนังซะเยอะ แล้วก็เหมือนกับไปเจอคนอื่นมันก็ง่ายขึ้น ผมไม่ได้ทำกับเมฆคนเดียว ทำกับคุณว่าน Details ด้วย นี่ผมก็ทำ mv ‘ข่มตา’ ให้ เดือน จงมั่นคง ไปเจอโปรดิวเซอร์คนนี้ก็ทำงานด้วยได้ เพราะเรามี input ของเรา
One man show เดี๋ยวคงทำครับ อันที่บอกว่าอัลบั้มโฟล์ก มันง่ายมาก แต่ยังไม่ทำซักที พูดอย่างเดียวว่าง่าย (หัวเราะ) แต่อยากทำอะไรที่มันเอาไปสนุกกับเพื่อนในแก๊งได้ก่อน เพราะมีหลายคน ผมมีซาวด์เอนจิเนียร์ มีทีมงานที่อยากออกไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง
ยังอยากร่วมงานกับใครอีก
ผมก็ไปเยอะแล้วนะครับ เคยร่วมงานกับพี่ ต๊อก ศุภกร ชื่อเพลงว่า ‘ตอ’ เพลงต่อต้านคอรัปชัน เขาแร็ปโคตรมัน ตอนนั้นเป็นทำโฟล์กแร็ป ‘ประเทศเรามีตอ ตอ ตอ มีแต่คนนับหน้าถือตา ทำอะไรไปไม่มีใครว่า เพราะตำรวจสืบไปสืบมาก็เจอตอ’
มีใครอีกวะ… เวลาผมร่วมงานกับใครผมไม่ได้คิดถึงว่าจะทำให้เพลงมันดังขึ้นหรือเปล่า ผมคิดถึงความเหมาะสมมากกว่า ต้องดูเป็นเพลง ๆ ไป ยังบอกไม่ได้ อย่าง Timethai เพราะชอบน้อง ตีหน้าไว้แล้วว่าต้องเจอมึงสักเพลงให้ได้ ต่อยกันมาขนาดนั้น ซ้อมด้วยกันมาตลอด (หัวเราะ)
อะ ฝากผลงานหน่อย
ฝากอัลบั้ม BIG ด้วยนะครับ ก็ขอบคุณ ฟังใจ มาก ๆ ที่มาคุยกันตลอด อยากให้ฟังกันจริง ๆ ครับ เพื่อเป็นกองทุนให้เด็กเรียนไม่เก่ง รูปไม่หล่อ แต่มีความฝันครับ… กองทุนเหี้ยอะไรเนี่ย (หัวเราะ) ขอบคุณครับ!