Interview

EP เมืองทอง บอกเล่าชีวิต ‘เด็กเมืองทอง ฯ’ แท้ ๆ ของ NAMEMT

NAMEMT หรือ เนม—สุรัช เพียรเลขา คือแร็ปเปอร์ที่เกิด และเติบโตมากับชุมชนคอนโดมีเนียมในเมืองทองธานี เขาได้ตีแผ่เรื่องราวของ ‘เมืองทอง’ แบบที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อนในเพลง เมืองทอง โดยเล่าผ่านมุมมองของคนที่อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิต พร้อมปล่อย EP ชื่อเดียวกันที่มีอีกสองเพลง มองข้าม และ รอยสัก ที่นำเสนอผ่านแนวดนตรีที่ต่างกันไปให้เราได้ซึมซับตัวตนของเขาและเห็นอีกด้านของเมืองทองมากขึ้น

ผมไม่ใช่นักเลง ผมเป็นนักลงทุน

EP เมืองทอง บอกเล่าชีวิต ‘เด็กเมืองทอง ฯ’ แท้ ๆ ของ NAMEMT

มันมาจากผมอยากทำเพลงเกี่ยวกับเมืองทองอยู่แล้ว แล้วก็ไม่มีจังหวะ ไม่มีคนช่วยให้มันออกมาได้อย่างที่ผมคิดไว้ เพราะว่าการจะถ่ายให้มันออกมาได้ฟีลเมืองทองในมุมมองของผม ถ้าทำด้วยตัวเองมันยาก พอมีทีมงาน YUPP! เข้ามา ก็เลยช่วยกันสร้างสรรค์ให้ออกมาแบบนั้นได้

เพลง เมืองทอง เป็นหนึ่งใน EP นั้น ได้เริ่มทำเพราะมาอยู่กับค่าย แล้วทีมงานก็เข้าใจวัฒนธรรมของชีวิตพวกผมด้วยตั้งแต่แรก เพราะผมเคยผ่าน Rap Is Now มาแล้ว เขาเคยเจอผม สัมผัสตัวตนผม NINO ก็เป็นเพื่อนผมด้วย เขาก็อยากทำเพลงให้ ‘เมืองทอง’ แบบที่ผมอยากทำ เลยได้เข้าสตูดิโอกับนีโน่ มีพี่หลุยส์ 1FLOW วันนั้น ก็เลยได้ออกมาเป็นแบบที่ได้ฟังกัน

เป็นวัฒนธรรมหรือเปล่าที่แร็ปเปอร์ชอบพูดถึงบ้านเกิดของตัวเอง

มันเป็นความภูมิใจ ความชอบส่วนตัวที่อยากจะพรีเซนต์บ้านเรา สมมติพี่อยู่ดอนเมือง ก็อยากจะพูดว่าดอนเมืองเจ๋งยังไง มีดียังไง

ปกติถ้าพูดถึงเมืองทองธานี คนจะนึกถึงที่จัดคอนเสิร์ต แต่มีการพูดถึงเมืองทอง ฯ ในฐานะสลัมลอยฟ้าอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างที่บอกในเพลงจริง ไหม

‘สลัมลอยฟ้า’ เป็นเรื่องจริงของเมืองทองเมื่อก่อน ตอนนี้ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว เมืองทองพัฒนาจากสมัยโน้นมาจนตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่ที่เมืองอื่นไม่มี มีทั้ง Impac มีศูนย์ประชุม ช็อป outlet ศูนย์อาหาร โรงแรม มีทุกอย่างแล้ว แต่ในเพลง เมืองทอง ถ้าคนได้ดูสารคดีของผม ผมจะเกริ่นไว้แล้วว่าชีวิตเมื่อก่อนมันเป็นอย่างนี้ แล้วผมก็ปล่อยเพลงออกมาเพื่อเล่าตอนก่อนที่ผมจะโตมาเป็นแบบนี้ ถึงมันจะพัฒนาไปแล้วก็ตาม แต่ในคอนโดที่พวกผมอยู่ มันยังมีความเป็นเมืองทองแบบสมัยก่อน คือถึงมันจะยังมีกล้อง มีระบบมากขึ้น แต่รถก็ยังหาย ผีก็ยังดุอยู่เหมือนเดิม

บทความส่วนนี้เรียบเรียงบางช่วงตอนมาจากในสารคดี กดดูตัวเต็มได้ด้านล่าง

“เมื่อ 12 ปีที่แล้ว แถวสนามบาสข้างหลังเนี้ย เซอร์ หน่อย รั้วจะพัง ใครเคยมาเมื่อก่อนจะมีเด็กขาจรข้างนอกเข้ามา ก็มาหาเรื่อง มีเรื่องตีกัน ตอนนี้ผ่านมาหลายปีเมืองทองมันกลายเป็นเมืองใหม่แล้ว

“ผมอยู่คอนโดมาตั้งแต่เด็ก อันนี้เป็นห้องน้า แม่ผมไปทำงานอยู่ชลบุรี ผมอยู่กึ่ง คนเดียวแบบนี้ เด็ก ก็เที่ยวอยู่ตามห้องเพื่อน ห้องแม่เพื่อน ห้องคนนู้น คนนี้ สมัยก่อนไม่มีคอม ไม่มีอะไรเลย ต้องลงไปร่อนกับเพื่อน ร้านเกมบ้าง มุมตึกบ้าง โต๊ะสนุ๊กบ้าง ชุมชนที่นี่มันร้อยพ่อพันแม่ แต่มันจะมีคนอายุรุ่น เดียวกับพวกคุณทุกคนมาเจอกันนั่นแหละ

เราอยู่กันแบบครอบครัว ถ้า 50 คนเกินแน่ ๆ แค่กลุ่มเด็ก ๆ รุ่นผมก็ 20-30 คนแล้ว ถ้ามีพวกรุ่นพี่อีกก็ใหญ่โตเลย ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนลายเต็มตัว เคยผ่านคดีมา เคยเข้าข้างใน (คุก) มาแล้วกี่ครั้ง สังคมบังคับ พูดตรง ว่าเราบางคนตัวลายบ้าง ไม่เหมือนคนอื่นบ้าง บางคนอยากอยู่เฉย ดูดเนื้ออยู่บ้าน ไม่อยากไปเจอสังคม แต่บางทีก็ต้องใช้ตังค์ ต้องหาอาชีพบางอย่างที่ทำให้เราอยู่ในไลฟ์สไตล์ของเราได้ พวกพี่เขาที่เขาผ่านมันมาได้เขาแข็งอะ เขาเจอเรื่องที่ดาร์กมาเยอะมาก แล้วก็ยังเท่ ยังเฟี้ยวอยู่ได้ และยังซัพพอร์ตเพื่อน น้อง ทุกคน คนแบบนี้เราศรัทธาเขานะ

“ยุคนั้นแว้นซ์ดัง แถวเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะเขาเล่นกันเยอะ เริ่มปล่อยตัวสนุกสนาน ใจเป็นเด็กแว้นซ์ แต่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง ช่วงนั้นยังเด็กอยู่ไง แต่ผมเกมเรื่องอื่น ไปกระทืบลูกตำรวจ เป็นเรื่องผู้หญิงอะ เด็กผมกับเด็กมัน เจอกันที่เซ็นแจ้ง ไดโสะ เด็กผมก็วิ่งเข้าไปกระชาก ร่วงพื้นเลย ผัวแม่งก็จะมาต่อยเด็กผม พวกผมก็ใส่เลย มึงจะมาทำผู้หญิงหรอไอสัส เข้าทีผมเลย (หัวเราะ)

จริง NAMEMT โหดแบบในเพลงหรือเปล่า

ผมไม่ใช่นักเลงนะ ผมเป็นนักลงทุน เป็นนักเรียนครับ คนอื่นอาจจะมองว่าพวกผมเกเร นักเลง แต่มันคือแล้วแต่สังคมของคนที่โตมามากกว่า อย่างคนเป็นเด็กเรียน เขาก็จะมองว่าพวกผมนักเลง แต่ถ้าพวกผมที่อยู่หลังห้องเหมือนกันก็จะมองว่าเราก็แค่คนธรรมดาเหมือนพวกมันนั่นแหละ แต่มันมองเราไม่เหมือนพวกมันมากกว่า

มีคนคอมเมนต์ว่าทำไมต้องใส่ความรุนแรง หรือเรื่องยาเสพติดเข้าไปในเพลง

ผมมองว่าเพลงฮิปฮอปมันมีเสน่ห์ตรงนี้แหละครับ มันก็เหมือนเพลงเมทัลว่าทำไมมันต้องว้าก ทำไมต้องทำดนตรีหนักหน่วงวะ ผมก็เลยคิดว่าเพลงแร็ปจะมันได้ก็อยู่ที่เนื้อหาของเพลง แล้วมันจะอินได้มันก็ต้องมาจากเรื่องจริงที่แต่คนเล่าด้วย ถ้าจะให้คนน่ารัก อย่าง AUTTA มาแร็ปเพลงผม มันก็ไม่อินใช่ปะ จริง ให้ผมพูดเรื่องที่ไม่ตรงคาแร็กเตอร์ก็ได้นะ ให้ผมพูดด้านดีของเมืองทอง มี Impac มีสนามบอล แต่เขาไม่จ้างผม ผมก็ไม่ทำ

มีเพลงที่ชื่อ รอยสัก และเนมเองก็สักเยอะด้วย รอยสักมีคุณค่ากับ NAMEMT ยังไง

มันเป็นการบันทึกเรื่องราวของผม ผมสักพ่อ สักแม่ ผมอยากบันทึกไว้ที่ผมได้เกิดมาเป็นลูกเขา สักนามสกุล ก็เป็นความภูมิใจของเรา

ตอนออกเพลง ตีกันทำไม กับ AUTTA แล้วได้ไปเล่นที่ Cat Expo ซึ่งถือว่าเป็นงานคนละทาร์เก็ต ตอนนั้นกังวลไหม

เอาจริงผมไม่รู้จักเลยงาน Cat อะไรเนี่ย แล้วก็ไม่รู้เลยว่าทาร์เก็ตเป็นใครอะไรยังไง ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่ามาจากงาน Fat ผมแค่อยากไปเล่นกับ AUTTA เพราะเขามาช่วยแจมผม ไปไหนด้วยกันเยอะ ผมก็อยากไปเล่นกับน้องบ้าง แล้วน้องบอกว่ารอบเนี้ยเราจะทำเพลง ตีกันทำไม ให้เป็นแจ๊ส เป็นบอสซ่า ผมก็รู้สึกว่าแม่งเฟี้ยวว่ะ อยากลอง ผมไม่ได้สนใจคนดูอะไรมากเพราะผมอยากขึ้นไปสนุกกับนักดนตรีของ AUTTA วันนั้นคือเก่งมาก ผมมีความสุขละ แล้วพอเราขึ้นไป ข้างล่างเป็นแฟนคลับ AUTTA เขาต้อนรับเราดี ก็ถือเป็นโบนัสของเรา ที่เหลือผมไม่ได้กังวล ไม่คิดอะไรเลย เอามันอย่างเดียวผมอะ (หัวเราะ)

มาเป็นแร็ปเปอร์ได้ยังไง

ก่อนหน้าที่ผมจะมาเป็นแร็ปเปอร์ ตอนจบ .3 ผมก็เลิกแว้นซ์ เลิกอะไรสักพักนึง ตอนนั้นผมฟังเพลงเยอะ แต่ชอบเมทัลมาก พวก brutal metal ก็เลยมีโอกาสไปห้องซ้อม ร้องเมทัลกับวงรุ่นพี่ สักพักเราก็หยุดการเป็นนักร้องเมทัล โตมาก็ขึ้นมาก็ไปเที่ยวผับกับเพื่อน ก็ได้ฟังเพลงฮิปฮอปก็เลยสนใจ เริ่มศึกษาหาฟัง หัดแร็ปตามไว้เวลาไปเที่ยวผับแล้วโชว์สาว (หัวเราะ) เราก็ได้ลองทำเพลง สมัครแข่งรายการ ก็ได้มาเป็นแร็ปเปอร์ทุกวันนี้

ตอนนั้นไปผับแถวไหน

ไปแถวรัชดาครับ กับบ๊อบบี้ ทองหล่อไม่ค่อยได้ไปมันไกล แล้วก็แพง ช่วงนั้นรัชดาเด็กแว้นซ์ เด็กแนว ผมจะเยอะ เปิดหลายแนวนะ ตอนนั้นก็ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่เขาน่าจะเรียกว่าฮิปฮอป

ก่อนหน้านี้มีผลงานที่ไม่ออกกับค่ายบ้างไหม

มีครับ ผมทำมานาน 8 ปีแล้ว มี mixtape บ้าง มีทั้งช่องของตัวเอง แล้วก็ช่องเพื่อน (FJZ: เรียกว่าเป็น gangster rap ได้ไหม) ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นมาสักพักว่ามีคนจำกัดความว่าเป็น gangster rap หลังจากได้ไป The Rapper แต่ผมว่ามันเป็น real rap มากกว่า พูดเรื่องจริง เรื่องเกี่ยวกับชีวิต อาจจะดูรุนแรงหรือตรงเกินไป สังคมอาจจะรับไม่ค่อยได้

ทำไมถึงมีสไตล์แร็ปแบบกระซิบกระซาบ

มีคนบอกผมว่าผมแร็ปสไตล์เดิม เยอะแล้ว ผมเลยอยากลองอะไรใหม่ บ้าง ก็ได้แรงบันดาลใจจาก 21 Savage จากต่างประเทศที่ผมฟัง ผมก็รู้สึกว่ามันกระซิบก็ได้ว่ะ เลยถามโน่ว่า ถ้ากูกระซิบบ้างเป็นไรปะ มันบอกงั้นมึงลองเลย ผมก็ลองแล้วมันก็ได้ โน่มันก็ปรับบีตให้เบาลง มันก็เข้ากัน ผมว่าเจ๋งดี

จริง ความรุนแรง เพศ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคม แต่คนชอบนำเสนอประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมดีงาม คิดว่าเป็นการกระทำที่มือถือสาก ปากถือศีลหรือไม่

ไม่นะ ประเทศเราเป็นคนที่ชอบพูดอะไรตรง หมายถึงคนข้างล่าง เขาพูดแรง บุลลี่กันด้วย แต่มันไม่มีใครทำให้อะไรเปลี่ยนไปมากกว่า ถึงจะพูดให้ตายยังไงว่าตรงนี้เป็นสลัม ตรงนี้แย่มาก เมื่อไหร่จะแก้ไข พูดไปยังไงมันก็ไม่มีใครช่วย ไม่มีใครเปลี่ยนให้ เพราะคนที่เขามีอำนาจเขาไม่ได้สนใจเรา

จะทำยังไงให้เปลี่ยนแปลงได้

ให้ผมเป็นนายก เป็น สส. ปะล่ะ เขตปากเกร็ดก็ได้ เดี๋ยวผมจัดการให้ (หัวเราะ)

เมืองนอกมีการเตือนเพลงแร็ปที่มีเนื้อหาล่อแหลม ให้มี Parental Advisory หรือปิดป้าย Explicit คิดว่าในแร็ปไทยควรจะมีมากขึ้นไหม

ผมว่าควรมีนะครับ แต่ล่าสุดเมื่อวานเลยสด น้องประมาณ 7-8 ขวบ มาถ่ายรูปกับผมที่ร้านหมูปิ้ง พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่า น้องเขามาถามว่าคำว่าไอ้สัตว์มันไม่ดีใช่ไหม มันพูดไม่ได้ใช่ไหมครับ’ แล้วเราก็มาคิดว่า โห เพลงกู มองข้าม ด็กมันจะฟังยังไงวะเนี่ย ผมเลยไปถามใน YUPP! ว่าเพลงเรา 18+ ใช่ป่าววะ ผมก็ได้ข้อคิดอีกอย่างว่า เด็กสมัยใหม่เขามีเทคโนโลยีไวกว่าเรา เขามีข้อมูลมากกว่าเรา ผมคิดว่าเขาคิดได้ ถ้าเขาเห็นอะไรที่มันไม่ดีเขาก็คิดได้ว่าไม่ดีนะ ไม่ใช่ว่าเขาจะไปทำตาม

มีแฟนเพลงตามมาซื้อหมูปิ้งบ้างไหม

เต็มเลยครับ ดีใจ จริง ๆ อันนี้คือหมูปิ้งพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮี่โร่ สาขาที่ 8 ผมมาดูแลให้ เด็ก ๆ บางทีไม่รู้จะทำอะไรก็ไปหาพี่กอล์ฟ สาขาแรก ก็เป็นคนในทีมซาวด์พี่เขา ของผมขายอยู่เมืองทองธานี คอนโดตึก P3 มาซื้อกันได้ หมูปิ้งอร่อย ร้อน ข้าวเหนียวนุ่ม บอกแล้วผมไม่ใช่นักเลง ผมเป็นนักลงทุน

จะออกอัลบั้มเต็มด้วยไหม

แผนจะเป็นอัลบั้มยังไม่มี แต่ผมอยากทำ มีประมาณ 20-30 เพลงเลยที่ยังทำไม่เสร็จ ถ้าเสร็จทันอาจจะทำเป็นอัลบั้ม ถ้าไม่ทันก็ทำเป็น EP ต่อเรื่อย เพราะยุคนี้ทำเป็นอัลบั้มแม่งขายไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ผมคิดว่าแฟนคลับผมน่าจะซื้อบ้างแหละ

พูดถึงเรื่องดราม่าแทร็ป/โอลสคูลหน่อย เนมมีความเห็นยังไง

ผมเฉย เพราะถ้าคุณรัก old school คุณก็รักไป เหมือนคุณรักการแต่งตัววินเทจ หรือคุณรักแต่งตัวโมเดิร์น ก็ไม่ได้จำกัดอะไร ผมไม่คิดอะไรมากใครจะตีกันก็ตีกันไปไอ้…’ (หัวเราะ)

ฝากผลงาน

ช่วงนี้โควิด จ้างผมไปทำอะไรก็ได้นะ เล่นตลกก็ได้ ผมชอบทำอะไรหลาย อย่าง ฝากเพลงใน EP เมืองทอง ด้วยครับ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้