ฟังเพลงใหม่ อยากให้อยู่ตรงนี้ เพลงล่าสุดจาก แม็กซ์ เจนมานะ จากโปรเจกต์ Mr. Strangers
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Vatinthorn Pormajanya
Boxx Music ส่งโปรเจกต์ Mr. Strangers ประกอบไปด้วย 4 หนุ่ม กับเพลงรัก 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น กันต์ ชุณหวัติ, มาร์ค ธัชพล ที่มีเพลงออกมาให้ฟังกันแล้ว แต่ก่อนที่จะไปเจอกับ เบสท์ ณัฐสิทธิ์ ทางค่ายก็ได้ส่งเพลง อยากให้อยู่ตรงนี้ ของ แม็กซ์ เจนมานะ ออกมาเซอร์ไพรส์ก่อน ถึงตอนนี้แฟน ๆ ของแม็กซ์อาจจะตกใจที่มีเขาอยู่ในโปรเจกต์นี้ด้วย แล้วแบบนี้ทิศทางเพลงของเขาจะแตกต่างจากโปรเจกต์อื่น ๆ หรือเปล่า มาหาคำตอบกันได้ในบทสัมภาษณ์นี้
ทำไมถึงได้มาร่วมงานกับ Boxx Music
ก่อนหน้านี้เราเคยผิดใจกับค่ายมาก่อน ก็รู้สึกว่าตอนนั้นเราไม่อยากตัดสินใจอยู่ค่ายไหนเลย ช่วงนั้นเรารู้สึกว่าเรางง เราเคว้ง ยังไม่ได้ตัดสินใจทำ EP ของตัวเองด้วยซ้ำ แล้วตอนหลังเราคุยกับหลายค่ายมาก จนมาเจอพี่ตัฐ พี่พล (Clash) ก็ได้คุยกันมาสักพัก สุดท้ายพี่เขาก็บอกว่าก็ลองไปทำงานตัวเองก่อน แล้วมีโปรเจกต์อะไรก็มาคุยกันได้ ผมก็ทำโปรเจกต์มาเรื่อย ๆ จนพี่ตัฐชวนมาทำโปรเจกต์ Mr. Strangers เขาบอกว่าจะมีผู้ชายสี่คน เป็นมุมมองความรักของผู้ชายแต่ละแบบ ผมก็ว่าน่าสนุกดี พอเสร็จงานส่วนตัวของตัวเองแล้วก็มาเจอกัน แต่ถ้าให้เลือกจริง ๆ ผมก็อยากเลือก Boxx ที่สุด เพราะมัน friendly ผมไม่แคร์เลยว่ามันจะการันตียอดขายหรือมีข้อสัญญาอะไร ผมแค่สบายใจกับใครผมก็อยากจะทำ
ในบรรดา Mr.Strangers เพลงของแม็กซ์จะดูโตสุด
เพราะผมแก่สุด (หัวเราะ) ที่พูดว่าโตสุดก็ใช่เพราะเหมือนเรื่องมันต้องผ่านการคิดมาระดับนึง ผ่านความสัมพันธ์มาระดับนึง เป็นการมองย้อนกลับไปว่าความสัมพันธ์เรามัน take for granted ขนาดไหน
เพลงอยากให้อยู่ตรงนี้ได้แรงบันดาลใจจากตอนประสบอุบัติเหตุเมื่อต้นปี
ครับ รถชนยับเลย แต่ผมไม่เป็นไร ผมเป็นคนที่พอรู้สึกว่าอะไรที่มันไม่จำเป็นสำหรับผมก็จะตัดทิ้ง อะไรที่ผมไม่สนใจผมก็จะไม่สนใจเลย ซึ่งพอมองย้อนกลับไปแล้วผมปฏิบัติกับคนที่ผมควรจะดูแลเขาไม่ดี ทิ้งขว้างเขาเกินไป แล้วในนาทีที่ผมรถชน มีควันออกมา อย่างแรกที่ผมคิดคือมีใครนั่งมาด้วยหรือเปล่า สองคือคลานออกมาแล้วดูว่าเราชนใครหรือเปล่า เป็นครั้งที่แรงมาก เราคิดเห็นแก่ตัวว่า เชี่ย กูอยู่คนเดียว น่าจะมีคนอยู่กับเราตรงนี้บ้าง ถ้าเกิดตายจริง ๆ ตอนนั้นคงเสียใจมากที่ไม่ได้เจอคนนั้นเป็นครั้งสุดท้าย พอคิดได้นี่การใช้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลย ระวังตัวมากขึ้น แต่นั่นแหละ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เพิ่งโดนชนอีกแบบงง ๆ ตอนไปงาน Crossplay (หัวเราะ) ผมเริ่มขยาดแล้วเนี่ย
เพลงนี้ผมก็เลยเทียบชีวิตกับเหตุการณ์ตรงนั้นเลย เพื่อนผมหรือหลาย ๆ คนที่ผมรู้จักจะมีความคิดว่า กูต้องเร็ว ต้องแรงกว่าใคร ต้องแซงทุกคน ด้วยช่วงอายุเราคือโตแล้วด้วย ก็เหมือนเราพยายามไปแตะเป้าหมายที่กูตั้งไว้แล้ว กูจะทำทุกทางให้ไปได้ ส่วนใหญ่คนที่โฟกัสเรื่องงานจะลืมความสัมพันธ์ ครอบครัว หรือเพื่อนไปซะเยอะ ผมเลยอยากเตือนตัวเองและคนอื่นด้วย
The Unicorn ที่มาช่วยเขียนเนื้อเพลง จริง ๆ แล้วเขาคือใคร
แต่ก่อนผมแต่งเพลงภาษาไทยไม่ได้ จนกระทั่งผมตัดสินใจทำ EP ผมก็เพิ่งมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเขียน ผมก็ไปปรึกษาพี่ป้อม ปัญญา ปคูณปัญญา เขาเป็นคนเขียนเพลงในแกรมมี่มาก่อน ตอนนี้เขาก็เขียนเพลงในทีมของเขาที่ป้อนให้ช่องสาม (Chandelier Music) เขาอ่านหนังสือเยอะมาก แล้วก็ป้อนอะไรหลาย ๆ อย่างให้ผม คือผมไม่ได้เสพงานภาษาไทยเท่าเขา เขาเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด โฟกัสผมมาก เขาเป็นคนที่สอนโดยไม่พูดอะไร จะแค่แตะ ๆ แนวคิด แต่ไม่บังคับวิธีการเขียนของผมเลย เขาไม่ทำให้ผมเป็นเขา จนผมสามารถเขียนมันออกมาเป็นภาษาไทยในแบบของผมได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงนะ แต่ผมโอเคกับภาษาไทยของผมช่วงนี้
ทำไมทิศทางดนตรีของ อยากให้อยู่ตรงนี้ ถึงออกมาเป็นประมาณนี้
อย่างที่บอกว่ามันควรจะดูเป็นวัยรุ่น ต้องป๊อปนิดนึง แล้วก็คุยว่ามันควรจะมีอิเล็กทรอนิกซาวด์นิดนึง เพราะเพลงที่ออกมาของ Boxx ช่วงนี้อย่าง The Kastle, อิ้งค์ วรันธร หรือ Nann มันมีความใหม่ แต่เราก็อยากให้มันมีความแตกต่างจากเราด้วย process ของผมคือคิดทุกอย่างจากกีตาร์ แล้วก็ทำเมโลดี้ร้อง เนื้อเพลงให้เสร็จ แล้วไปหาพี่พล พี่ยักษ์ แกก็ให้ reference นึงมาแล้วเราเห็นว่าเจ๋งดี เป็นเวอร์ชันคัฟเวอร์ของ Can’t Get You Out Of My Head ของ Kylie Minogue เราก็เลยใส่ samp กลองก่อน พอใส่แล้วก็ลองใส่ซินธ์ เบสซินธ์ มันก็กลมในแบบของมัน เป็นน้อย ๆ แบบที่ผมชอบ แล้วก็ยังมีความเป็นอะคูสติกอยู่
ได้ เต้ย จรินทร์พร มาเล่น mv ด้วย
ก็รู้จักกันอยู่แล้วครับสมัยผมหนุ่ม ๆ ช่วงรายการ Sisterday มั้ง แล้วเต้ยชอบเพลง Wine ของผม เหมือนกับผลัดกันคุยผ่าน social network ไปเรื่อย ๆ แล้วแชร์เพลงกัน เขาก็ชอบ John Mayer, Ryan Adams เหมือนกันด้วย พี่พลก็ช่วยเต้ยทำงานหลายอย่าง เขาก็ตัดสินใจมาเล่นให้ ใน mv มันมีตอนที่ผมเล่นกีตาร์หลังรถ แล้วผมก็เขินมาก เขาบอก ‘แม็กซ์ไม่ต้องเครียด เล่นอะไรให้เราฟังก็ได้’ ก็เลยเป็น ice breaking อันนี้ได้พี่ต้น ยศศิริ หัวกลม มาทำให้ เขาเก่งมาก
โปรเจกต์ EP ที่ทำกับ LoF กับ Henri Dunant จะยังทำอยู่ไหม
ทำครับ จริง ๆ ที่ Lof มันไม่เหมือนเป็นค่ายด้วยซ้ำ เหมือนเป็นโปรดักชันเฮาส์ creative hub ผมก็เป็นคนในกลุ่มนี้เลยแหละ มีแค่ผมกับพี่ไม่กี่คน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เขามีงานของเขา ผมแค่ตั้งชื่อกลุ่มให้มันดูเป็นก้อนหน่อย เป็นสเปซของเราที่ไม่อยากจากไปไหนแล้ว ในแง่การทำเพลง เราทำกับที่ไหนมันก็ไม่มีความอิสระเท่าที่นี่แล้ว
แล้วอย่างนี้แบ่งเวลาทำแต่ละโปรเจกต์ยังไง
นั่นสิ ผมก็เครียดอยู่เนี่ย มันดันออกมาพร้อมกันในจังหวะนี้ EP กับ LoF นี้ผมอัด ทำเสร็จหมดแล้ว เหลือคุยเตรียมปล่อย pre-order แล้วเพลงที่ทำกับ Boxx ก็เสร็จแล้ว ก็เหลือเคลียร์ Henri Dunant เนี่ยแหละ ตอนแรกผมกะจะโฟกัสทำอังรีที่สุดด้วยซ้ำเพราะคุยกับ Rat Records ไว้ แต่พอมาทำภาษาไทยของผมแล้วสนุกสัส (หัวเราะ) จนพี่อ๊อฟเขาเลยบอกว่ามึงมาทำเพลงอังรีได้แล้ว แต่ด้วยความที่เราโตขึ้นด้วยแล้วผมว่าผมแบ่งเวลาได้ดีขึ้นนะ อังรีผมก็มีเพลงเก็บไว้เยอะอยู่เหมือนกัน ก็จะเตรียมให้มันครบ ๆ ก่อนแล้วค่อยปล่อย ทั้งหมดนี่ใช้เวลาหนึ่งปี เหมือนจะไวนะ แต่จริง ๆ มันนานมากเพราะมี source เก็บไว้พักใหญ่ ๆ แล้ว มันอยู่ในหัว อยู่ในกระดาษ พอจะทำก็ทำ
อย่างวันนี้เพิ่งไปคุยกับ Whal & Dolph มา คือผมกับปอ… มีอยู่คืนนึงเราเมามาก ก็นั่งคุยกันจนถึง 7 โมงเช้า มันมีเพลง โอ๊ย, ยิ้ม, พอ ส่วนผมมีเพลง Wine กับ วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า มันเป็นจุดเริ่มต้นที่บอกเราว่า ‘พี่ อย่างนี้ไม่ไหวว่ะ ปีนี้เราต้องทำแล้ว’ แล้วต้องใช้ความเชื่อนิดนึง เราต้องเชื่อว่าเราต้องไป เชื่อแบบโง่ ๆ ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว เรายอมจำนนกับความเชื่อว่าเราจะทำได้ วันนั้นผมกับมันก็เริ่มลุย จนมาถึงจุดเมื่อวานนี้ ผมไปดูมันเล่น แล้วเพลง โอ๊ย คือคนกระโดดร้องเพลง แล้วมันดูเจ๋งมาก ตัวผมเองก็ทำเพลงครบหมดแล้วทั้งอัลบั้ม ก็เกือบปีพอดี เป็นเรื่องที่ดี
พอทั้งสามโปรเจกต์เสร็จหมดแล้ว จะกลับมาโฟกัสที่อันใดอันนึงเป็นพิเศษ หรือทำแยกเป็นสามโปรเจกต์เหมือนเดิม
จริง ๆ ตอนนี้ผมโฟกัสแค่อันเดียวแล้วคือเพลงของผม Boxx มันก็เป็นโปรเจกต์นึง พี่เขาก็ใจดีอยากลองทำงานด้วย แล้วผมทำงานกับ Boxx สนุกมาก พี่ ๆ เขาใจดี เปิดมากแม้จะเป็นระบบค่าย แต่โจทย์ที่ทำที่นี่ก็ต้องวัยรุ่นหน่อย ไม่สามารถทำตามใจได้มากเท่าทำโปรเจกต์ตัวเอง แต่ก็ดีนะเพราะเราลืมไปแล้วว่าค่ายมันเป็นยังไง แล้วมันสบายมาก ผมไม่ต้องทำอะไรเลย (หัวเราะ) เสื้อผ้าก็ไม่ต้องเตรียม ผมแค่โยนไอเดียลงไป ตู้ม แล้วมันก็บานออกมา เชี่ย สบายสาสสสส แต่ละอันก็มี direction ที่ชัดเจนของมันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจนะ มันไปเรื่อย ๆ ของมันเอง ส่วน Henri Dunant ผมทิ้งตัวตนไปเยอะนะ มันเป็นงานแชร์ identity เป็นงานปล่อยผีที่เราจะยังไงก็ได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว มันเป็นวง เป็นกันและกัน
สนิทกับ ปอ Whal & Dolph ในอนาคตจะได้ทำงานด้วยกันไหม
จริง ๆ ตอนนี้ก็ทำงานด้วยกันมาตลอด อย่างที่มันอัดเพลงกันก็มาอัดในห้องอัดที่ผมอัดอยู่ แล้วมันก็ช่วยถ่าย mv ให้ผมด้วย กำลังจะคิดทำอีเวนต์ด้วยกันสนุก ๆ แจม ๆ กัน แต่ถ้าเป็นเพลงก็ยังไม่มีช่องว่างเพราะเราต่างโฟกัสของตัวเอง มันมีเรื่องที่จะเล่าของตัวเองกันอยู่ก็เลยยังไม่มีอะไรที่จะมาทำด้วยกันได้
เร็ว ๆ นี้จะมีเล่นเมื่อไหร่
งานของ Mr. Strangers เลยครับ 4 คนที่ Play Yard 15 กรกฎาคมครับ
อนาคตจะมีโปรเจกต์อื่นกับ Boxx อีกไหม
อาจจะนะครับ รอผู้ใหญ่คุยกัน ผมไม่รู้สึกว่าค่ายมันบีบผมนะ มันก็คือตัวผมเองแล้วผมก็ adapt ได้หมด ผมแฮปปี้กับการทำงานเพลงกับทุกที่ที่ผมอยู่ด้วย โปรดิวเซอร์ที่อยู่ด้วยตอนนี้คือดีสุดแล้ว เหมือนเราหาที่ของตัวเองได้แล้ว แค่นั้นเอง
ฝากผลงานโปรเจกต์นี้หน่อย
ก็เป็นมุมมองของผู้ชายแต่ละคนซึ่งมันก็ไม่กรอบนะ ในความ Boxx Music มันก็ไม่ได้ box เหมือนเป็นของขวัญจากผู้ชายในแบบของตัวเอง เบสท์ก็จะน่ารักกวน ๆ กันต์ก็มีมุมมองของคนที่เป็นนักแสดงแล้วก็ชอบภาพยนตร์ แต่ละคนดึคาแร็กเตอร์ของตัวเองออกมา ซึ่งมันน่าสนใจดี
ฟังเพลง อยากให้อยู่ตรงนี้ จาก แม็กซ์ เจนมานะ บนฟังใจได้ ที่นี่