Mamakiss ชวนชิม EP แสนอร่อย ‘Brunch Time’ เรียกน้ำย่อยก่อนเจออัลบั้มเต็ม
- Writer: Montipa Virojpan
Mamakiss คือหนึ่งในวงรุ่นใหม่ที่หลงใหลในซาวด์ดนตรี city pop ถึงขั้นตั้งใจศึกษาให้ถึงแก่นและนำมาพัฒนาเป็นอัลบั้ม Mama Cook จนทำให้กลายมาเป็นไม่กี่วงที่ทำซาวด์ได้เนียนกริ๊บจนเรานึกว่ามาจากยุค 80s จริง ๆ ตอนนี้ Mamakiss เดินหน้าต่อใน EP Brunch Time ที่ยังเสิร์ฟซินธ์ป๊อปย้อนยุค แต่เข้มข้นในรายละเอียดและขี้เล่นกว่าเดิม
จริง ๆ Mamakiss ก็เป็นวงที่ทำเพลงกันมานานแล้ว อะไรทำให้เปลี่ยนจากบีตป๊อปมาทำซิตี้ป๊อปเต็มตัว
อิคคิว: ผมกับวินที่ฟังอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็ย้ายมาฟังเพลงอะไรพวกนี้เยอะขึ้น เพราะเริ่มรู้สึกชอบจริงจังช่วงหลังเรียนจบ แล้วพอจะเริ่มทำอัลบั้มใหม่ พี่บิว Lemon Soup ก็บอกว่า ถ้าชอบก็ลองทำดูไหม ศึกษาว่าเขาทำยังไง ใช้เสียงอะไรยังไง ลองทำเดโม่มาส่งเป็นแนวแบบนั้น
รู้จักกับแก๊งนี้ได้ยังไง
อิคคิว: ตอนเรียนจบผมกับวินก็ไปทำงานกับ Pop in the Box เป็นโปรดักชันของพี่บิว แล้วเขาก็ทำ Welfare 6 (กลุ่มศิลปินที่วงเคยอยู่) เขารู้ว่าเรามีวงก็บอกให้เอาเพลงมาฟัง เราก็ผัดวันประกันพรุ่งกัน (วิน: ไม่อยากให้ฟังอะ) ก็นั่งคุยกันว่าจะให้ฟังดีปะวะ
ปั้น: ตอนนั้นนอกจากไอติม กับเธอผู้กอบกู้โลก มันก็มีเดโม่เพลงอื่นด้วย แล้วสมัยก่อนเพลงจะก๋ากั่นนิดนึง มีแบบ ยกนิ้วกลางให้เลย แต่งเก็บไว้ไม่กล้าให้พี่ ๆ ฟัง
วิน: สุดท้ายก็เอาไปส่งให้ฟังหมด แล้วไม่บอกว่าจะให้พี่รัฐ Tattoo Color กับพี่อ๊อฟ Rats Records ฟังด้วยโดนตีกลับหมดเลย
อิคคิว: ไอ้ที่ออกมาคือเคาะใหม่หมดเลย
มีใครเป็นอิทธิพลหลัก ๆ ที่ทำให้ชอบแนวนี้
อิคคิว: ตอนนั้นผมฟังบ่อย ๆ จะมี Toshiki Kadomatsu กับ Hideki Saijo เขาเป็นศิลปินซิตี้ป๊อปที่ดังมากในยุคนั้น ก็บ้าฟังมาก ได้ซาวด์ การอะเรนจ์ มาจากสองคนนี้เยอะ
เป็นแทบจะวงเดียวที่ทำซิตี้ป๊อปได้ออกมาเนียนมาก ใช้เวลาศึกษานานขนาดไหน
อิคคิว: ตอนแรกที่จะทำ ผมไปนั่งหาเลยว่าเข้าใช้กลองอะไร ดรัมแมชชีนตัวไหน หาทีละตัว ๆๆๆ (วิน: แล้วบินไปซื้อกัน) ทุ้ย! รวยเนาะ สแนร์ที่เราได้ยิน คิกที่ได้ยิน ของกลองอะไร กีตาร์ปรับยังไง ซินธ์ใช้การ์ดตัวไหน นั่งวิเคราะห์กรูฟเพลง
วิน: เรามานั่งหาเลยว่าท่อนนี้ใช้อะไรบ้าง
ปั้น: มันค่อนข้างเป็นขนบของเขากับคาแร็กเตอร์ที่มันเป็นซิตี้ป๊อป มันจะต้องเป็นเสียงนี้ เครื่องนี้เท่านั้น
อิคคิว: ผมใช้คำนี้ได้เลย ต้องศึกษาหลาย ๆ เวย์แล้ว ‘ลอก’ มา คือซิตี้ป๊อปมันมีซาวด์ที่เฉพาะตัว ไม่ลอกไม่ได้ เราไปลอกบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาแล้วมาปรับปรุงในแบบที่เราชอบมากขึ้น คือให้รู้เบสิกมันก่อน
อะไรทำให้ตัดสินใจทำอัลบั้ม เพราะก่อนหน้านี้ปล่อยแค่สองเพลง ที่แนวเพลงก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง
อิคคิว: อยากมีอัลบั้มมาขายงาน Cat Expo ครับเราก็ด้วยความที่รู้ตัวว่าปลายปีมีงานเราก็อยากมีผลงานอัลบั้มเต็มไปเลยก็ซัดปั่นเล่ย
วิน: เรากลัวตกรถงานแคตเขามีของมาขายกัน
อิคคิว: ส่วนนึงพี่บิวจะย้ำตลอดว่า ‘เฮ้ย บั้มเต็มสิวะ วัยรุ่นต้องปล่อยอัลบั้มเต็ม!’ ซึ่งมันก็พลิกชีวิตเหมือนกันไม่เคยทำทั้งอัลบั้มนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำอะไรจริงจังมากๆต้องทำเพลงกับพี่ๆปกติก็ทำงานในสตูด้วยกันอยู่แล้วแต่อันนี้คือเพลงของตัวเองก็ได้เจออะไรซีเรียสที่เราไม่เคยเห็นจากมุมเขา
วิน: มันเหนื่อย แล้วคุ้ม เหมือนมันเป็น routine ทุกปีว่าเราต้องทำอัลบั้ม แล้วผลที่มันออกมาเราก็รู้สึกหายเหนื่อย เรามีแผ่นอัลบั้มของเรา
เฟียต: มีอะไรมาให้คนจับต้องเป็นก้อน ไม่ใช่ก้อนดิ (วง: เป็นแผ่น!)
รูปแบบการทำงานของเราก็เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับห้าปีที่ผ่านมา
เฟียต: ก็ได้ฝึกสกิลตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ได้ทำงานกับเพื่อนจริงจังขึ้น จากตอนเพลง เธอผู้กอบกู้โลก จะสบาย ๆ (วิน: เดือนนึงทำอย่างนึง เดือนนี้อัดร้อง สองปีเพลงนึง) ก็จริงจังขึ้น ผมก็รู้สึกว่าทำงานกับมืออาชีพขึ้นจากพวกมันเนี่ยแหละ เพราะมันจะคลุกคลีกับวงการมากกว่า
วิน: ตารางเวลาก็สำคัญ พี่บิวบอกขอเนื้อเสร็จภายในวันนี้ เราก็ต้องเขียนให้เสร็จ เพราะวันอื่นเขาต้องไปทำอย่างอื่นแล้ว
อิคคิว: ด้วยความที่พี่ ๆ เขาสละเวลามาช่วยเราหลายอย่าง มาเขียนเนื้อ เขาก็ค่อนข้างจะบล็อกเวลาว่า เฮ้ย วันนี้อะเรนจ์มึงต้องเสร็จนะ ทำนองต้องเสร็จ พร้อมให้กูเขียนนะ ปิดท่อนตรงนี้ให้ได้ เราก็ต้องกระตุ้นตัวเอง ช่วงนี้เราไม่ดื่มกันเลย ทำงานด้วยความมีวินัย (ปั้น: ไม่ดื่มแอลกอฮอล์?) ไม่ดื่มน้ำเปล่า ทุ้ย
ปั้น: ตอนนั้นเราก็ทำจริงจังแต่ไม่ขนาดนี้ เรามองแค่เรื่องสนุก ไม่ได้มองเป้าหมายว่าจะยังไง มีงานก็มาซ้อมเล่นกันที มีเพลงก็แต่งเก็บ ๆ ไว้ แล้วค่อยขุดมาทำ
วิน: ตอนนั้นอยากมีเพลงตัวเองมาเล่นงานมหาลัยคิดแค่นั้นเลย
เฟียต: สมัยทำใหม่ ๆ ไม่สนเรื่องอะเรนจ์ ใส่เลย อยากทำไรก็ทำ
ปั้น: พอมาทำอัลบั้มนี้เราก็มีการมาคุยกันว่าจะอยู่ตลาดนี้ยังไง แล้วเพลงแนวไหนที่พอได้ อิคคิวกับวินอยากทำเพลงแนวนี้พอดี ก็น่าสนใจที่วงที่ทำแนวนี้ชัด ๆ ก็ยังไม่ค่อยมี พี่บิวบอกเอาเลย ลองดู เป้าหมายก็ชัดเจนขึ้น แล้วดนตรีพอตีกรอบด้วยเวลาเราก็ทำงานกันง่ายขึ้น
วิน: เรามี check point ว่ามี Cat Expo Cat T Shirt ถ้าจะเอาอะไรไปขาย ก็ทำอัลบั้มหรือ EP เหมือนเป็นวัฒนธรรมของชาว Welfare 6 ว่าอยากมีโปรดักต์ไปวาง
หลังปล่อยอัลบั้ม Mama Cook ออกมา เป็นยังไงบ้าง
อิคคิว: เกินจุดคำว่าพอใจไปแล้ว ไม่ใช่ไม่มีความทะเยอทะยานนะ แต่มันดีใจมากที่เกินกว่าที่ตั้งเป้าหรือคิดไว้มากเลยครับ
วิน: ตอนแรกอะเราคิดว่าเราชอบนะแต่กับคนฟังเราจะรอดป่าววะ
แล้วพอมาอยู่ LABo ถึงเอาเพลง เพื่อนซี้ ในอัลบั้ม Mama Cook มาเป็นเพลงเปิดตัว
อิคคิว: จริง ๆ ก็มีเพลงอื่นที่อยากปล่อยอีกหลายเพลงแต่ก็ต้องรอระยะเวลาที่เหมาะสมแต่คุยกับพี่ ๆ ว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ทำงานที่สุด
มิวสิกวิดิโอได้ฟีลแบบตอนจบการ์ตูนญี่ปุ่น
วิน: ใช่อันนั้นคือคอนเซ็ปต์ฉากจบที่พระนางเดินคู่กันกลับบ้าน
อิคคิว: ซึ่ง mv เราก็ถ่ายที่ญี่ปุ่นครับ (ปั้น: ญี่ปุ่น–ดินแดง)
ความแตกต่างทางดนตรีและเนื้อหาของ Mama Cook กับ Brunch Time
อิคคิว: ตอน Mama Cook เราไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นซิตี้ป๊อปเต็มปากด้วย เพราะว่าเราจะไปทางนั้นสุดดีไหม อย่างในอัลบั้มมีเราตั้งใจอะเรนจ์เป็นซิตี้ป๊อปอยู่แค่สามเพลง ที่เหลือจะเป็นชิบุย่าเค เป็นแนวญี่ปุ่นอย่างอื่นไป เพราะเราไม่รู้ว่าคนฟังจะรับได้ไหมกับวงหน้าใหม่ที่ทำแนวนี้ยัดมาทั้งอัลบั้ม แต่พอ EP นี้เรา ช่างแม่ง ซิตี้ป๊อปเต็ม ๆ ไปเลย
ปั้น: เหมือนตอนที่เราคุยทีแรกก่อนมาอยู่ LABo เลยว่าวงอินดี้หรือวงที่ไม่มีค่ายถ้าได้ไปทำงานกับค่ายใหญ่ๆจะสูญเสียคาแร็กเตอร์ไปไหมจะโดนค่ายเกลาจนเป็นป๊อปเฉยๆไปหรือเปล่าก็เลยคุยกันว่าถ้าทางค่ายเขาเปิดโอกาสให้เราทำได้เต็มที่ก็เปลี่ยนทางทำให้มันสุดไปเลย
อิคคิว: 5 เพลงที่อยู่ในนั้นก็แตกต่างจาก Mama Cook ไปเลย เป็นซิตี้ป๊อปเข้มข้นขึ้น (ปั้น: ตรงหลังคอนเซปต์ Brunch Time) ว่าเป็นมื้อเรียกน้ำย่อย มื้อสาย ก่อนจะไปอัลบั้มอันหน้าที่เป็นมื้อเที่ยง
Folk9 เขามีโต๊ะจีนเลยนะ (Chinese Banquet)
อิคคิว: ครับเป็นวงที่ดีมากคิดถึงกราฟนะครับ
ปกอัลบั้มทำไมเลือกรูปนั้น
อิคคิว: เราแปะมือกันว่าจะวนเอารูปแม่ทุกคนมาขึ้น แต่พอไปถามแม่ผมนะ โดนบ่นอีก ‘นี่จะให้ชั้นต้องไปหารูปอะไรที่ไหนอีก’ ไม่มีก็บอกไม่มี!
เฟียต: ของแม่ผมเอารูปแต่งในเฟซแบบงิ้ว ๆ เลย บอกแม่เอารูปเพียว ๆ แม่บอก ‘ไม่ได้ ๆ ต้องเอารูปนี้!’
อิคคิว: พอไอ้วินเรารูปแม่มันมาให้ดู ทุกคนบอก ‘ถูกต้องเลย’ ใส่กางเกงเอวถึงนี่ แล้วก็ใส่หมวก ยืนหันหลังแบบเอี้ยวตัว หันมาข้างหน้า
วิน: ครับ ทะเลบางแสน ยุค 80s แม่ภูมิใจชอบตอนแรกปกก็คิดอยู่ว่าจะเป็นรูปอะไร ผมออกไอเดียว่า แม่ผมมีรูปเก่า ๆ อยู่ซิตี้ป๊อปโคตร ๆ เลย เอาปะ แล้วทุกคนก็เอา ก็ไปหารูปมาแล้วก็หาได้แค่นี้จริง ๆ สภาพรูปหายไปหมดละ
เฟียต: 80s จริง ๆ รูปมันได้ มีแพลนว่าจะเอาแม่ทุกคนมาถ่ายที่สตู แต่ว่าล่มไปเพราะแม่แต่ละคนห่างไกลกัน
วิน: เหตุผลที่ใช้รูปแม่ผมเพราะทุกคนบอกว่า ‘มีแต่รูปแม่มึงเท่านั้นแหละที่ถ่ายรูปซิ่ง ๆ แบบนี้’ (หัวเราะ)
อิคคิว: แม่มึงเล่นเฟซบุ๊คเก่งไงติดตามเฟซแม่มึงอยู่
ทำไมชอบเขียนเล่าเรื่องหนุ่มจืด
อิคคิว: จริง ๆ จืด ๆ มีแค่เพลง Top Form ส่วนเพลงอื่นผมกล้าใช้คำว่าเลอะเทอะเลย เพราะเราแต่งเนื้อกันปั่นประสาทเต็มที่กว่าอัลบั้มที่แล้ว
มีเพลงนึงชื่อ Number 6 ตั้งใจทำเพลงมาล้อขบวนการห้าสี แบบเพลงเปิดการ์ตูน ปกติมันมี 5 คน พี่บิวบอก พวกมึงมี 6 คนก็เขียนล้อไปเลย เนื้อเพลงเพลงนี้ก็หลุดสุดขั้ว เล่าฟีลประมาณว่าถ้าไหวก็ลุยไปก่อนเลย ไม่ไหวค่อยเรียกกู
วิน: เคยดูหนังเซ็นไตที่มีตัวหลัก 5 คนแล้วมันจะมีเพื่อนพระเอกที่มาท้าย ๆ แล้วดันเก่งสุด มาแบบโกง ๆ เก๊ก ๆ เราคอยดูตลอดเวลาเลย คอยซัพพอร์ตอยู่
ปั้น: แล้วมันจะไม่ออกมาตอนแรกด้วยนะ จะมาตอนพระเอกจะตายอยู่แล้ว ค่อยออกมา ตัวสีดำ
ดูกินแรงเพื่อนมากกว่านะ
อิคคิว: ใช่ คืนต้องการให้เป็นตัวอู้แหละ ถ้าเป็น mv ก็คงเป็นตัวนั่งกินขนมหลังมอนิเตอร์ เห็นเพื่อนสู้อยู่ในจอ พอจะชนะ หรือเพื่อนใกล้ตาย ค่อยไปช่วย
วิน: แต่มันก็เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจเพื่อนนะ เรามารวมพลังกัน แล้วก็รวมร่างได้ตัวที่เทพที่สุดเป็นอีตัวนี้ สู้เสร็จไอ้นี่ก็จะเดินแยกไปเท่ ๆ คนเดียว
อิคคิว: เพลงนี้ทำสไตล์เพลงปลุกใจ คนฟังไม่ต้องฟังเอาเพราะก็ได้ ฟังเอามันปั่นประสาทอย่างเดียวเลย
ในวงมีใครเป็น Number 6
(วง: มองไปที่เฟียต)
อิคคิว: เนี่ยมันมาอัดร้องคนสุดท้ายเป็นคนปิดท้ายเพลงตลอด
เฟียต: เวลาเพื่อนทำเพลงก็จะนั่งเฉย ๆ ซื้อของเข้ามา คอยเก็บขยะ ไหวก็ลุยไปก่อน ทำกันไป กูอยู่ตรงนี้แหละ
อิคคิว: เพลงชื่อ Podcast พี่กอล์ฟ Superbaker เขียน เนื้อเพลงสุดฮา สุดโต่ง เริ่มมา ตื่นตอนเช้า กินแกงไก่กับโรตีที่ข้าวสาร ฝรั่งเยอะดี แต่เพลงเล่าดี ต้องไปฟังรวม ๆ คอนเซ็ปต์มันคือ เวลาคนฟังพอดแคสต์ คนก็ฟังอย่างเดียว ไม่มีอะไรโต้ตอบ ยาว ๆ 8 นาทีงี้
วิน: ฟีลแบบพูดฝั่งเดียว สื่อสารทางเดียว อันนี้ก็หนุ่มจืด พยายามคุยกับผู้หญิง หาเรื่องที่น่าสนใจ คุย ๆๆ อยู่นั่น อะไรก็ได้แล้วอะ
อิคคิว: เขาก็ไม่หือไม่อือ ก็ถือว่าเหมือนกูอัดพอดแคสต์ละกัน ไม่ต้องตอบมาก็ได้
เฟียต: จริง ๆ เราก็ไม่ได้ตั้งใจเขียนเนื้อจืดนะ แต่คาแร็กเตอร์ที่เขียน พอออกมา มันก็เป็นแบบนี้ซะงั้น งงเหมือนกัน แต่เชื่อว่าอัลบั้มนี้เนื้อเพลงสนุกกว่าอัลบั้มที่แล้วเยอะ ได้พี่มาช่วยเยอะ กล้าเขียนอะไรบ้า ๆ บอ ๆ เยอะขึ้น
ปั้น: ความจริงหน้าไอ้เฟียตไม่สามารถเขียนอะไรที่จริงๆจังๆได้
วิน: เพลง Heal the World คือเวลาจีบหญิงแล้วเราจะหาข้ออ้างไปเรื่อยว่า เราจะทำยังไงก็ได้ให้เขากลับบ้านกับเรา สมมติกลับทางเดียวกัน เฮ้ย เธอของเยอะ อย่าใช้ถุงพลาสติก เดี๋ยวเราช่วยถือให้ ช่วยรักษ์โลก (อิคคิว: ไม่ต้องคิดมากนะ แค่รักษ์โลกขึ้นมากะทันหันแค่นั้นเอง)
เฟียต: Greta Thunberg กำลังมา (วิน: How dare you!) ก็เอาเรื่องนี้มาจีบสาวอย่างดอกไม้ในมือ ไม่ต้องหาซื้อเราปลูกอยู่หน้าบ้านให้เธอเลย มาแชร์ชีวิตด้วยกัน เดินกลับบ้านด้วยกันนะ
วิน: ก็บอกอีกว่า เราช่วยดูแลโลกกันหน่อย โลกร้อนแล้วเดี๋ยวอนาคตไม่มีดอกไม่ให้เธอถือ เล่นกิมมิกตรงนี้
เพลง Weekend เราทำเพลงสุดท้าย คิดว่าอยากลองอะไรบางอย่าง เป็นฟิวชันซิตี้ป๊อปญี่ปุ่น บางเพลงจะเป็นเพลงไม่มีเนื้อร้อง มีแต่เมโลดี้ ท่อนฮุคจะมีชุดนึงที่เล่นกับเครื่องดนตรี
อิคคิว: มันจะมีเวิร์สพรีแล้วไม่มีฮุคใช้กีตาร์มาโซโล่แทนลองเป็นฟอร์มแปลก ๆ ดู เพลงนี้ไม่มีอะไรมาก คนอื่นชอบวันหยุด แต่กูเกลียดเพราะไม่ได้ไปเจอคนที่ชอบ
เฟียต: เป็นนักเรียนกับพนักงานออฟฟิศที่หยุดเสาร์อาทิตย์ก็คืออยากเจอคนที่เราชอบในวันจันทร์
วิน: ก็มีความจืดอยู่นิดนึง ทำไมมึงไม่แชตกันวะ
ปั้น: ก็แชตไม่ได้ดิ มึงไม่กล้าขอ แอบชอบ เจอได้ครั้งเดียว
เฟียต: เป็นฟีลเด็กมอปลายแอบชอบรุ่นพี่ มีโอกาสเจอเขาได้แค่จันทร์ถึงศุกร์ แล้วเราอยากข้ามเสาร์อาทิตย์ไปเพื่ออยากให้เป็นวันจันทร์อีกรอบ
ฟังเนื้อหาจาก 5 เพลงนี้แล้ว ตัวละครดูเป็นคนแปลก ๆ เหมือนกันนะ
วิน: ดูเป็นพวกโรคจิตอะ
เฟียต: เออ Podcast คือไม่เป็นไร เดี๋ยวกูอวยตัวเอง พูดถึงตัวเอง Heal the World ก็หลงตัวเอง Weekend ก็อาหวัง แล้วทุกเพลงก็มาจบที่ Top Form คือสุดท้ายกูก็จืดอยู่ดี
วิน: จริง ๆ แล้วชีวิตพวกเราก็ดูมีความเป็นแบบนั้นอะ ล่อก ๆ พวกผมจะเรียกกันว่า ‘เฮใน’ สมมตินั่งกันแค่นี้แล้วจะคิดว่า อันนี้เจ๋งว่ะ อวยกันเอง mv นายก็ไม่ธรรมดาน้าแต่เวลาไปเจอสาว ๆ จะล่อกแล่ก ๆ สะกิด ๆ กัน
รูปโปรโมตแผ่นที่จะขาย ทำไมเอาไปใส่ในหม้อหุงข้าว
อิคคิว: พี่บิวเลย ทีแรกทีมกราฟิกส่งมาในกรุ๊ป ตอนแรกเป็นใส่ในเครื่องเล่นวิทยุปกติ แต่ทรงมันเหมือนหม้อหุงข้าว พี่บิวเลยบอก เอาใส่หม้อหุงข้าวไปเลย เลยออกมาเป็นแบบนั้น ฟังยังไงให้อิ่มกันทั้งบ้าน แล้วก็มีแฟนเพลงเอาซีดีอัลบั้ม Mama Cook ที่เขามีไปใส่ไมโครเวฟ บอกว่าอุ่นแล้วกินอร่อยขึ้นนะ
ลูกเพจผมจะมีแต่คนแบบนี้ เราเล่นมุขกันเยอะเกินไปเวลาตั้งโพสต์อะไรก็ชอบเล่น แล้วพอคนมาตอบเราจะเอารูปบริษัทฮาไม่จำกัดไปแปะขยี้ บอลตีหัวแจ๊สงี้ กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่สามารถคุยจริงจังได้แล้ว ถ้าไปย้อนดูตอนนี้เราโพสต์จะถามจริง ๆ ลูกเพจก็มาชงมุขแบบ บางอันตอบไม่ไหวอะ
เฟียต: ปล่อยเพลงอะไรเพลงต่อไปดีนะ มาตอบ ‘เรือเล็ก ฯ ครับ’ ตอนนี้ไม่ใช่เพจวงละ เพจตลก
อิคคิว: มีใครซื้อแผ่นจากงาน Cat Expo ไปบ้าง ฟังแล้วเป็นยังไง ‘หนูลองซื้อมาแล้วค่ะ กินยากมาก แข็ง’ คุยอะไรกับกูเนี่ย! แต่ก็เป็นทางที่เราตั้งใจ ดีแหละ เป็นเพจตลก ๆ ไป
วิน: ก็สะท้อนความเป็นตัวพวกเรา พี่บิวคงเห็นแล้วมองภาพรวมแล้วว่า วงเราเทคซีเรียสไม่ได้
อิคคิว: พวกเราเก๊กกันไม่ได้จริง ตอนถ่ายรูป พยายามแล้ว ตากล้องบอก น้อง เอาหน่อย ๆ มันไม่ได้ครับ จะไปล่อก ไปอะไรกันก็ไม่รู้ เหมือนเดิม
งาน Cat Expo ครั้งแรก เป็นไงบ้าง
อิคคิว: สนุกมากครับ คนมาดูเยอะกว่าที่คิด (ปั้น: ก็ดีที่เราเอาปันปันมาเล่นทีหลัง เขามารอดูปันปันกัน) ปันปันเล่นเสร็จเขาก็เดินออกไปหมดเลย (ปั้น: คนดู?) …พวกเราอย่าชงมาเร็วดินอนน้อยอยู่ แล้วก็ได้เล่นกับน้อง ๆ เล่นเวทีใหญ่ครั้งแรก ล่กไปหมดสั่นไปหมด
อิคคิวเป็นมือกีตาร์ให้ Phum Viphurit ด้วย แล้วตอนไปทัวร์ทำเพลงยังไง
วิน: มันก็แบกคอมไปด้วยว ผมนั่งทำ Heal the World กับเพื่อนอยู่ คู่ขนานกันไป
อิคคิว: ตอน Top Form กับ Number 6 นั่งอยู่เมกาพอซาวด์เช็กเสร็จ คนอื่นนั่งกินข้าวกัน ผมเดินเข้าห้องพักศิลปิน ใส่หูฟัง อินเตอร์เฟส เสียบกีตาร์ ตีสี่นั่งอัดที่นั่น เรียกพี่ปอมมือเบสภูมิมาช่วยดูไลน์เบส นั่งทำตลอดเวลา มันต้องส่งแล้ว แล้วลืมของไว้ที่นั่นด้วย สายแจ๊คที่เมกา สายไมค์ที่แคนาดา
อัลบั้มหน้าจะเข้มข้นในการทำงานอยู่อีกไหม เรื่องเวลาล่ก ๆ แบบนี้
อิคคิว: เดดไลน์ทำให้เราได้เค้นสมอง สำหรับผมเนี่ยสุด ๆ ถ้าให้นั่งอยู่บ้านว่าง ๆ ทั้งวัน แล้วมานั่งทำเพลง อันนี้ใส่อะไรดี คิดไม่ออก แต่ถ้าสามวันต้องส่ง โห มา จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีหรอกครับ แต่ผมรู้สึกว่า พอมีเดดไลน์ทำให้การตัดสินใจเราเด็ดขาดขึ้น อะไรใส่เข้าไปดีหมด ต้องเอาละ ไม่ทันละ
แล้วแนวเพลงจะเป็นแบบไหน
อิคคิว: ก็จะเป็นซิตี้ป๊อปปลาย ๆ เข้ายุค 90s จะมีความ r&b จะมีกรูฟอีกแบบนึง ต้องรอฟัง เพราะยังไม่ได้คิดอะไรเหมือนกัน (หัวเราะ) เป็นแนวทางที่เราอยากเดินไป ถูกใจวัยรุ่นพระรามสองแน่นอนครับ
เร็ว ๆ นี้จะมีงานเล่นที่ไหน
ปั้น: วันที่ 21 ครับ LOVEiS Homecoming ที่เมืองทอง เป็นแพ็คไปกับน้อง ๆ มี Panpan Yeeyee กับ Ben Ma More เล่นด้วยกัน
ฝากผลงาน
เฟียต: ฝากทั้งอัลบั้ม และ EP ตอนนี้มีวางขายออนไลน์ เฟซบุ๊ก LABo ร้านน้องท่าพระจันทร์อมรมิวสิก
อิคคิว: ถ้าใครอยากไปจ่ายตังจับของร้อนเลยก็ไปร้านน้องกับอมร ใครไม่ว่างซื้อออนไลน์
วิน: เชียร์ให้ซื้อแผ่นเก็บนะ อนาคตแรร์
ปั้น: ถ้าพูดตามสูตรต้อง ‘ยังไงขอบคุณ ฟังใจ นะครับที่เชิญมา’
อิคคิว: อันนั้นท้ายสุดสิ อันนี้เขาฝากผลงาน
ปั้น: มันก็ต้องพูดตอนนี้แหละ แล้วก็ยังไงฝากแชแนลค่ายเราด้วย LABo เพจเฟซบุ๊ก
อิคคิว: ก็ยังพูดไม่จบไง ใส่ที่ทะเลาะกันลงไปด้วยนะครับ
ปั้น: แต่ตอนฝากผลงานก็ต้องขอบคุณเขาไปด้วยสิ
อิคคิว: ก็กูยังแนะนำร้านไม่เสร็จ เดี๋ยวพูดต่ออยู่แล้ว
ปั้น: ละถ้าขายสิบร้านไม่ต้อง..
อิคคิว: มึงไปเปิดเบียร์กันเลย เถียงกันไม่จบ
เฟียต: อัลบั้มเก่าหมดแล้ว ถ้าอยากฟังต้องสตรีมมิงเท่านั้น
อิคคิว: ขายหมด?
วิน: เอาไปทิ้งหมดแล้ว!
อิคคิว: ส่วนสตรีมมิงของ EP ใหม่รอแปปนึงนะครับ
วิน: เราขอให้สิทธิพิเศษคนที่ซื้อแผ่นไปได้ฟังก่อนแปปนึง
อิคคิว: ครับใครอยากฟังก็ไปซื้อแผ่นก่อนแล้วเดี๋ยวลงสตรีมมิงทุกแพลตฟอร์มแน่นอน
ปั้น: PS4, Nintendo Switch
อิคคิว: ลง iOS… อะไรเนี่ยถ้ามีท่อแอร์กูฟาดละแต่ลงสตรีมมิงลง ฟังใจ ที่แรกเลย
โอ้ย วงนี้เขาป่วนกันจริง ๆ ใครติดใจเพลงของวงนี้ก็ไปฟังรอกันบนฟังใจได้ ที่นี่ ส่วนเพลงจาก EP Brunch Time ก็จะมาลงอีกไม่นานเกินรอ