คุยกับ keshi ถึง GABRIEL อัลบั้มล่าสุดที่อดใจรอทัวร์ไม่ไหว!
- Writer: Nataporn Rojanusorn
- Visual Designer: Chanikarn Charun
keshi (เคชิ) หรือ Casey Luong นักร้อง, นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็น Registered Nurse หรือ พยาบาลวิชาชีพ ก่อนผันตัวออกมาเป็นศิลปินเต็มตัวและได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Island Records ค่ายเดียวกับศิลปินเบอร์ใหญ่อย่าง The Killers, Bob Marley, Shawn Mendes และศิลปินเบอร์ต้น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้ปล่อยผลงานเพลงและอัลบั้มมานับไม่ถ้วนออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันไปแล้วเรียบร้อย
ในช่วงปลายปี 2021 จนถึงต้นปี 2022 นี้ keshi ได้ปล่อยซิงเกิล SOMEBODY, TOUCH และ GET IT ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มใหม่นี้ด้วย ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มเต็มนามว่า GABRIEL รวมทั้งหมด 12 เพลง ในวันที่ 25 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา และทางฟังใจได้มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์ keshi ในอัลบั้ม GABRIEL คำถามอาจจะเยอะสักหน่อย แต่ก็หวังว่าทุกคนจะสามารถฟังและเข้าใจอัลบั้มนี้ได้มากขึ้น พร้อมแล้วไปเริ่มที่คำถามแรกกันเลย!
ทำไมถึงตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า GABRIEL
keshi: จริง ๆ ชื่อนี้ไม่ได้เกี่ยวกับชื่อของใครที่เกี่ยวกับทางศาสนาเลย เพียงแต่มันเป็นชื่อที่ผมชอบมาตลอด อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แต่พอมาถึงตอนที่ต้องตั้งชื่ออัลบั้ม ผมคิดเพียงแค่อยากจะได้ชื่อที่จำง่าย เข้าใจง่าย ไม่หวานเลี่ยนหรือมีรายละเอียดที่ต้องลงลึกมากเกินไป ซึ่งจริง ๆ แล้ว GABRIEL เป็นชื่อที่ผมใช้เรียกโปรเจกต์นี้เวลาพูดคุยกับผู้จัดการ จากความรู้สึกที่ยังไม่ได้อยากพูดออกไปเต็มปากว่ากำลังทำ “อัลบั้ม” อยู่ แล้วก็เลยคิดต่อว่าถ้าจะตั้งชื่ออัลบั้มมันก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่ตั้งชื่อลูกสักคน สุดท้ายก็เลยจบที่ชื่อ GABRIEL ซึ่งก็ได้ใช้เวลาไปกับการทำอัลบั้มนี้ประมาณ 7 เดือน นับตั้งแต่มกราคม ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมเมื่อปีที่แล้ว
ในอัลบั้มใหม่นี้ ผู้ฟังจะได้เห็นอะไรจาก GABRIEL ได้บ้าง?
keshi: ผมว่ามันจะเป็นเรื่องของซาวด์เพลงที่เติบโตขึ้น การเลือกใช้เสียงที่หลากหลายมากขึ้น มีความเป็นส่วนตัวลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของผมเอง และสื่อมันออกมาแบบดิบ ๆ ซื่อตรง ไม่ได้ปรุงแต่งความรู้สึกใด ๆ เลย คือรู้สึกยังไง ก็เขียนและทำเพลงออกมาแบบนั้นครับ
แก่นและธีมหลักของอัลบั้ม GABRIEL คืออะไร
keshi: หลัก ๆ เลยคือการเล่าเกี่ยวกับว่าผมมีการจัดการความคิด และนำมันมาปรับใช้ในชีวิตอย่างไรบ้าง ไปจนถึงการรับมือกับการมีชื่อเสียงขณะที่ยังหวงความเป็นส่วนตัวอยู่ ซึ่งทั้งหมดก็ถูกสื่อออกมาผ่านอัลบั้มนี้ครับ
วงที่ keshi ฟังระหว่างทำอัลบั้ม GABRIEL
keshi: Radiohead, Frank Ocean และ John Mayer
GABRIEL อัลบั้มนี้มีความหมายอย่างไรกับ keshi
keshi: ผมไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนาอะไร แต่ผมจะเป็นคนนิยามความหมายของเพลงจากความคิดความอ่านของตัวผมเอง อย่างเพลง HELL/HEAVEN ว่ามันมีความเกี่ยวโยงกับชีวิตผมยังไง หรือการที่จะนิยามนางฟ้าเทวดาว่าพวกเขาเป็นใครในมุมมองของผม และนั่นก็เป็นพาร์ตที่สนุกมาก ๆ ตอนเขียน เพราะมันจะมีการผูกโยงเรื่องราว มีการเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมเจอมาในชีวิตจริง อะไรประมาณนั้นครับ
GET IT เพลงแรกจากอัลบั้ม GABRIEL
keshi: สำหรับผมเพลงนี้ต้องการสื่อถึงความมั่นใจ ความกระตือรือร้น ซึ่งมันก็เป็นเหมือนดาบสองคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน ที่แง่หนึ่งก็ยังจมอยู่กับฐิติ แต่ผมพยายามทำเพลงนี้ออกมาให้มันดูสนุก ติดหูคนฟัง ทั้งยังมีท่อนที่บิลด์ให้แฟน ๆ ร่วมร้องไปด้วยกันอย่าง “On me and we spendin’ all night, come and/Get it, get it, get it.” เพลงนี้เลยเหมาะที่จะเป็นเพลงเปิดเพลงแรกในคอนเสิร์ตครับ
กระบวนการทำเพลง GET IT เป็นอย่างไรบ้าง
keshi: เพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Elie Rizk และ Sebastian Sbaigui ผู้กำกับมิวสิควีดีโอเพลง GET IT เป็นผลงานสุดสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดภาพออกมาได้สอดคล้องกับเพลง โดยมี Kenji Chong มาร่วมเป็นช่างภาพเบื้องหลังของการถ่ายทำเอ็มวี และเป็นผู้ที่เก็บภาพสุดเท่ ที่ผมก็ได้ใช้ภาพจากเขาเพื่อโปรโมตเพลงนี้อีกด้วย ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นภาพนี้ ตอนแรกทางทีมงาน และผมก็ช่วยกันเลือก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังไม่เจอภาพในเอ็มวีที่ถูกใจ แต่พอมาเจอภาพเบื้องหลังรูปนี้ ก็รู้สึกได้ว่า ใช่เลย! ต้องเป็นภาพนี้เท่านั้น! เพราะเป็นภาพที่ให้ vibes ถ่ายทอดอารมณ์และภาพลักษณ์ของเพลง GET IT ออกมาได้อย่างดีที่สุดแล้ว
เพลงที่ keshi ชอบที่สุดในอัลบั้ม GABRIEL
keshi: อย่างที่ผมเคยพูดในไลฟ์อยู่บ่อย ๆ แน่นอนครับว่าเป็นเพลง HELL/HEAVEN เพราะเป็นเพลงที่งานเบื้องหลังมีความหลากหลายมาก และเพลงนี้จะเป็นเพลงที่พิเศษมากถ้าได้เล่นในทัวร์คอนเสิร์ต
ทีมงาน: ชื่อเพลงนี้ก็ได้นำมาใช้เป็นชื่อของทัวร์คอนเสิร์ตอีกด้วย
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก keshi และเพิ่งเคยฟัง GABRIEL เป็นครั้งแรก จะอธิบายอัลบัมนี้หรือแนะนำเขาอย่างไรบ้าง
keshi: ผมหวังว่าคนที่ได้มาเจอ GABRIEL แล้ว จะรู้จักผมในฐานะศิลปินคนหนึ่ง ผมก็จะยื่นเพลงให้เขาฟัง แล้วบอกกับคนคนนั้นว่า Hey, นี่คือ keshi นะเพลงดี เธอลองไปฟังดูสิ
อัลบั้มนี้แตกต่างกับอัลบั้มก่อน ๆ ของ keshi อย่างไรบ้าง
keshi: แน่นอนว่าอัลบั้นนี้ผมลงลึกเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น อาจไม่ได้ลงลึกในด้านการปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมาขนาดนั้น แต่ก็สื่อออกมาในรูปแบบความเข้าใจกับตัวเอง เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่อยู่ภายใน ความคิดความอ่านของตัวผมเองที่ได้เติบโตขึ้น และครั้งนี้ผมไม่ได้ทำเพลงเพียงคนเดียวแล้ว มีทีมงานมาร่วมทำเพลงด้วยกัน การเขียนเมโลดี้, ทำนอง และบีตในเพลงมันดีขึ้นกว่าอัลบั้มก่อน ๆ โดยรวมก็คือทั้งผลลัพธ์และวิธีการทำเพลง ผมว่าผมทำมันออกมาได้ดีกว่าที่ผ่านมา
ซึ่งในส่วนของการทำเพลง ส่วนใหญ่สำหรับผมเพลงจะเกิดขึ้นจากการฮัมดนตรีในหัวก่อน แล้วคำที่เหมาะกับเมโลดี้นั้นจะถึงตามมา เพราะปกติผมจะมีไอเดียเกี่ยวกับแต่ละเพลงอยู่แล้วว่าอยากสื่ออะไรออกมา แน่นอนว่าเนื้อเพลงมันก็จะออกมาเองแทบจะทันทีที่ได้เมโลดี้
ความแตกต่างระหว่าง keshi และ Casey
keshi: ทั้ง keshi และ Casey เราทั้งคู่ต่างก็เหมือนคน ๆ เดียวกัน สิ่งที่ผมเขียนและปล่อยออกมาก่อนหน้าใน trilogy เป็น keshi เหมือนกับว่า เขียน keshi ออกมาเพื่อให้เป็นโปรเจกต์ แล้ว Casey ก็เป็นตัวตนที่แท้จริงที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งที่เขาสร้างมันออกมา รวมไปถึงกระบวนการที่จะต้องรับมือกับ ความกดดัน, การเป็นบุคคลสาธารณะ หรือการที่มีชื่อเสียง ที่ก็ย่อมส่งผลต่อเวลาส่วนตัวที่เสียไป การที่ผมประสบความสำเร็จความรู้สึกที่ได้เป็นเช่นนั้นมันก็ดีนะ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ได้เติมเต็มได้จริง ๆ แล้วผมก็มารู้ตัวทีหลังว่าตอนที่ทำเพลงเป็นเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่โลกทั้งใบเงียบลง ผมนั่งอยู่ในห้องอัด ซึ่งเป็นที่ ๆ สงบสุขมาก ๆ
ในด้านของการทำเนื้อเพลง มีการเลือกตัดสินใจเลือกอย่างไรว่าสิ่งไหนควรเก็บไว้ หรือสิ่งไหนควรเอาออก และแรงผลักดันในการทำเพลงมีอะไรบ้าง?
keshi: ผมไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลในการตัดสินใจใด ๆ เลย แต่ผมก็ได้แรงผลักดันจากผู้จัดการแทนในการทำเพลง (หัวเราะ) ครั้งหนึ่งที่ผมดองงานเพลง ซึ่งเพลงนั้นเป็นเพลงที่ผมยังไม่อยากปล่อยออกมา แต่แล้วผู้จัดการผมเขาขอร้องให้ผมทำมันให้เสร็จ ซึ่งผมก็อยากทำมันให้เสร็จเหมือนกันนะ แต่มันยังไม่ใช่เวลาของมัน จนท้ายที่สุดก็ใช้เวลาไปเป็นเดือน ผมบังคับให้ตัวเองทำมันจนเสร็จจนได้ และเพลงที่ผมกล่าวถึงเมื่อข้างต้นนั่นก็คือเพลง beside you นั่นเองครับ
ถ้าสามารถเปลี่ยนแนวเพลงของตัวเองได้ keshi อยากกระโดดไปเป็นแนวไหน
keshi: ผมไม่อยากยึดติดตัวเองกับเพลงแนวไหนเป็นพิเศษเลย ขอทำเพลงตามที่ตัวเองอยากทำ ตามที่ตัวเองชอบในตอนนั้น ๆ ดีกว่าครับ
ในเวลาที่เขียนเพลงไม่ออก keshi รับมือกับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไร
keshi: อาการที่เขียนเพลงไม่ออกมันเกิดขึ้นกับผมหลังจากที่ผมเขียนเพลง always และหลังจากอีพี trilogy ตอนนั้นผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันวน ๆ ซ้ำ ๆ เดิม ๆ อยู่กับที่ เบื่อตัวเอง แล้วก็รู้สึกกดดันตัวเอง จนกระทั่งได้เจอกับ Elie Rizk โปรดิวเซอร์ของผม มันคือความสนุกที่อยู่ด้วยกันและเวลาที่ใช้ร่วมกันอยู่ด้วยกันแล้วเกิดแรงบันดาลใจในการทำเพลง ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ดีมากในการช่วยแก้ปัญหาการเขียนเพลงไม่ออกสำหรับผม และตลอดระยะเวลาที่ผมเขียนอัลบั้มนี้ ก็ไม่มีอาการที่คิดเพลงไม่ออก หรือไม่รู้จะเขียนยังไงดีอีกเลย
เพลงที่อยากแนะนำให้คนฟังในอัลบั้ม GABRIEL มากที่สุด
keshi: แน่นอนว่าคือ GET IT ครับ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงนี้เป็นเพลงแรกในอัลบั้ม ที่เลือกเพลงนี้ไม่ใช่ว่าเพลงนี้เป็นตัวแทนของทั้งอัลบั้มนะ เพราะแต่ละเพลงในอัลบั้มนี้มีความแตกต่างกันมาก แต่ผมคิดว่า GET IT เป็นเพลงที่โดดเด่นพอที่จะทำให้ผู้ฟังเปิดฟังเพลงต่อ ๆ ไปใน GABRIEL เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบฟังเพลงแบบขึ้น ๆ ลง ๆ ฟังสลับกันช้า เร็ว ช้า เร็ว เหวี่ยง ๆ หน่อย ซึ่งเป็นวิธีการฟังเพลงที่ผมชอบและเป็นสิ่งที่เอามาใช้ในอัลบั้มนี้ ฉะนั้นแล้วการฟัง GABRIEL ที่ดีที่สุดสำหรับผมคือ ฟังเพลงจากบนลงล่างตามที่ผมได้จัดเรียงไว้เลย มันจะสมบูรณ์แบบมาก ๆ
ความแตกต่างของชุดและสไตล์ที่แตกต่างออกไปในอัลบั้ม GABRIEL
keshi: เสื้อผ้าในอัลบั้มนี้ก็ถูกยกระดับขึ้น ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้สไตลิสต์ที่สามารถจับชุดมาได้ตรงและเข้ากับผม เหมือนเขารู้ว่าผมอยากใส่อะไร แล้วอะไรที่ถ้าผมใส่แล้วเหมาะกับผม บางชุดถ้าหากให้ผมเลือกเองก็คงไม่คิดจะหยิบมาใส่เลยด้วยซ้ำ แต่พอเขาสไตลลิ่งให้ผมใส่มันกลับดูดีเฉยเลย ซึ่งผมก็เอามาใส่ซ้ำในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ใส่แล้วดูดีเท่านั้นนะ ใส่แล้วยังสบายด้วย (ยิ้ม พร้อมยกเสื้อที่ใส่อยู่มาให้ทุกคนดู)
เพลงที่อดใจไม่ไหวที่จะแสดงสด
keshi: GET IT แน่นอน! ด้วยความที่เป็นเพลงที่มีเปี่ยมพลังแบบน่าสนุก แล้วก็อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าได้เล่นสดเพลงนี้แล้วฟีดแบ็กของแฟน ๆ จะเป็นยังไง
SAM MOD: ทุกคนจะต้องโยกหัวกันไปตาม ๆ แน่ ๆ
ในปีนี้ keshi ก็ได้เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ต HELL/HEAVEN ในยุโรปและอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2022 แต่หากมีคอนเสิร์ตในเอเชียเมื่อไร keshi ไม่พลาดที่จะจัดคอนเสิร์ตที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แน่นอน และนอกจากอาหารที่ตื่นเต้นแล้ว เขาก็ยังคงตื่นเต้นที่จะได้พบกับแฟนเพลงแบบตัวเป็น ๆ ในคอนเสิร์ต รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทยด้วย จะไม่พลาดเลย! ส่วนหนึ่งเขาก็ได้คิดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มทำเพลงแล้ว ว่าผู้ฟังกลุ่มแรก ๆ ของเขาก็คือคนที่อยู่ประเทศในซีกโลกฝั่งตรงข้ามกับเขาอย่างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่ล่ะ ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้จัดคอนเสิร์ตที่นี่แน่นอน เตรียมเก็บตังรอกดบัตรคอนเสิร์ตไว้ได้เลย!
โดยรวมแล้วเรียกได้ว่า GABRIEL เป็นตัวตนยุคใหม่ของ keshi เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านดนตรี เนื้อเพลง สไตล์การแต่งตัว ทุกอย่างที่ดูโตเติบ และยกระดับขึ้น ยังไงก็ขอฝากอัลบั้ม GABRIEL ให้ทุกคนได้ลองฟังด้วยนะ ตอนนี้สามารถรับชมและรับฟังได้แล้วที่ทุกช่องทาง!
GABRIEL TRACKLISTING
- GET IT
- SOMEBODY
- WESTSIDE
- TOUCH
- MILLI
- PÈRE
- HELL/HEAVEN
- UNDERSTAND
- ANGOSTURA
- LIMBO
- ANGEL
- GABRIEL
สามารถฟังเพลงของ keshi ได้ที่นี่
Instagram: keshi
TikTok: keshi
Twitter: keshi
Facebook: keshi
Youtube: keshi