คุยกับ HYUKOH หลังจากขโมยหัวใจชาวไทยไปแล้วในโชว์เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา
- Writer: Montipa Virojpan and Peerapong Kaewtae
- Photographer: Seen Scene Space
หลังจากที่ทุกคนฟินกันไปแล้วในโชว์ของ HYUKOH เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ได้เวลามาพูดคุยกับสี่หนุ่มถึงประสบการณ์การทำเพลงของพวกเขาในอัลบั้มชุดนี้
สมาชิก
โอฮยอก (ร้องนำ, กีตาร์)
อีอินอู (กลอง)
อิมดงกอน (เบส)
ลิมฮยอนเจ (กีตาร์)
ทำไมถึงเอาตัวเลขมาใช้เป็นชื่ออัลบั้ม แล้ว 21 หายไปไหน
ฮยอก: ตัวเลขพวกนี้เป็นอายุตอนที่ผมเริ่มทำเพลงชุดนั้น ๆ ครับ อย่างในอนาคตถ้าผมแก่ขึ้นจะได้รู้ว่าได้ทำเพลงตอนอายุเท่านี้ ๆ เพราะตอนที่เราสร้างเพลงในช่วงอายุนึง เราจะมีความคิดแบบนึง พออายุ 22 เราอาจจะมีความคิดอีกแบบ แล้วก็ที่ไม่มี 21 เพราะตอนอายุ 21 ผมไม่ได้ทำอัลบั้มครับ
การทำงานแต่ละอัลบั้มมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง
ฮยอก: ตอนชุดแรกเลยผมยังไม่มีงบไปทำอัลบั้ม เลยแอบเอาเงินมัดจำค่าบ้านของพ่อแม่ไปทำเพลง ซึ่งงบที่มีก็ใช้ทำได้แค่ไม่กี่เพลง ก็เลยให้มันออกมาแค่แนวเดียว พอทำอัลบั้ม 22 ก็มีคนเริ่มรู้จักมาได้แล้วนิดนึง แต่ก็ยังงบไม่เยอะ จนอัลบั้ม 23 คือมีคนซัพพอร์ต มีเวลา มีงบค่อนข้างสูง เพลงก็ไม่ได้ออกมาจากผมคนเดียว เลยใส่เพลงเข้าไปได้หลากหลายแนว
ฮยอกเคยใช้ชีวิตอยู่ที่จีนมาก่อน ได้อิทธิพลจากวัฒนธรรมตรงนั้นมาใช้ในเพลงยังไงบ้าง
ฮยอก: ผมใช้ชีวิตอยู่ที่จีนตั้งแต่เด็ก ๆ เพลงของผมส่วนใหญ่ก็มักจะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังจีนหรือฮ่องกงแหละครับ
ปกอัลบั้ม 23 มีความหมายอะไรเป็นพิเศษไหม เพราะอย่างอัลบั้มก่อนรูปที่เลือกใช้ก็มีที่มา
ฮยอก: เป็นเรื่องที่คนถามเยอะสุดเลย เดิมทีมันเป็นภาพวาดใหญ่ ๆ ที่ผมตัดตอนมาใส่ในปก เป็นภาพที่ผมชอบเฉย ๆ
ทำไมเลือกปล่อย Wan Li เป็นเพลงแรก
ฮยอก: ตอนทำอัลบั้ม 23 ผมเลือกเพลง Tomboy เป็นเพลงหลักแหละ แต่ในเพลงนั้น mv เป็นแอนิเมชัน ซึ่งผมกลัวว่าคนจะไม่ค่อยรู้จักพวกเรา เลยออกเพลง Wan Li มาก่อน เพราะเป็น mv เดียวที่มี 4 คนปรากฎอยู่ในนั้น
เพลงไหนในอัลบั้มที่ทำให้แต่ละคนร้องไห้บ้าง หรือเพลงไหนที่แต่ละคนชอบที่สุดในอัลบั้ม 23
ฮยอก: เวลาทำเพลงในอัลบั้มนี้ทุกคนจะอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่มีอารมณ์เศร้าปานกลางไปจนถึงเศร้ามาก ๆ ยกเว้น 2002 WorldCup เพลงเดียวครับ เพลง Reserved Seat เป็นเพลงที่เศร้าสุดที่เคยเขียนมา
ถ้าอยากแนะนำให้คนรู้จักเพลงในอัลบั้ม 23 อยากให้คนลองฟังเพลงอะไร
ฮยอก: Wan Li กับ Tomboy
อะไรคือสิ่งที่ต้องการสื่อสารไปถึงคนฟังเวลาแต่งเพลงเพลงนึง
ฮยอก: เป็นไปไม่ได้ที่จะเราไปบอกทุกคนว่าเพลงนี้เป็นเพลงแบบไหน วิธีที่ดีที่สุดคือเราจะสร้างเพลงมาให้คนที่ฟังคิดเองว่าเพลงนี้เกี่ยวกับอะไร แล้วแต่จะตีความตามชอบ
คนฟังจำเป็นต้องเข้าใจเนื้อเพลงของคุณมากน้อยขนาดไหน
ฮยอก: ก็แล้วแต่คนนะ เพราะเวลาคนเกาหลีฟังเองก็จะคิดได้หลายแบบ มันเป็นเพลงที่ตีความได้หลายความหมายเหมือนกัน อย่างตัวผมเองถ้าไม่เข้าใจความหมายเพลงไหนก็จะเสิร์ชในกูเกิ้ล จากที่เล่นรอบแรกคนก็ร้องตามได้เยอะเลยนะ คิดว่าก่อนจะมาดูโชว์ก็คงจะมีคนที่ทำการบ้านมานิดนึงแล้ว
ศิลปินที่แต่ละคนชอบคือใคร
ฮยอนเจ: The Beatles เป็นเพลงที่ฟังมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วรู้สึกว่ามันเพอร์เฟกต์มาก
ดงกอน: Red Hot Chili Peppers ยุคแรกก่อนที่สมาชิกคนนึงจะออกจากวงไป
อินอู: เมื่อก่อนชอบ Nirvana ตอนนี้ชอบ The Beatles แล้ว
ฮยอก: ก็ชอบ The Beatles เหมือนกัน แต่ว่าชอบ The Whitest Boy Alive กับ Kanye West ด้วย
จากที่ทำเพลง underground มาก่อน พอมีค่ายแล้วลักษณะการทำงานเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
ฮยอก: ก่อนออกอัลบั้มแรกก็ทำงานหนักแหละ แล้วตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะได้โอกาสแบบนี้ เขาแค่ทำสิ่งที่ตัวเองรัก โอกาสมันมาเอง ผมก็คือว่าผมค่อนข้างโชคดีแหละ พอมาอยู่ค่ายแล้วงานโชว์ผมค่อนข้างเยอะครับ ตารางแน่น แต่ผมก็คิดว่าผมยังเป็น underground อยู่นะ ซึ่งความแตกต่างก็แค่ผมมีงบที่จะสร้างเพลงได้หลายเพลงมากกว่าตอนไม่อยู่ค่าย ความแตกต่างของ underground กับ mainstream ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของคนที่ให้ทุนแหละครับ และถึงแม้ว่าผมจะอยู่ underground หรืออยู่ที่ไหนผมก็จะเลือกทำแต่ในสิ่งที่ผมโอเค
พอเริ่มประสบความสำเร็จแล้วตอนนี้คุณคาดหวังกับอะไร
ฮยอก: การเล่นคอนเสิร์ตที่ไม่มีอะไรผิดพลาดและมีความสุขไปกับโชว์ครับ
คิดไหมว่าจะมีแฟนคลับในไทยเยอะขนาดนี้ แล้วแฟนคลับที่ไทยเป็นไงบ้างเมื่อเทียบกับที่เกาหลี
ฮยอก: ผมไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับเยอะขนาดนี้ครับ แต่ก็อยากให้แฟนคลับเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย (หัวเราะ) คนเกาหลีกับคนไทยก็ฟังเพลงไม่ค่อยต่างกัน จากที่ฟังวง Gym and Swim เล่นแล้วก็คิดว่าแนวดนตรีน่าจะคล้าย ๆ กัน แต่ที่ต่างก็น่าจะเป็นปฏิกิริยาตอนดูโชว์ อย่างรอบแรกตอนผมเล่นเพลงที่ค่อนข้างช้าและเงียบหน่อย แต่มีแฟนคลับกรี๊ดเสียงดัง ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีนะ แต่เซอร์ไพรส์ที่มีการตอบรับแบบนี้ ในขณะที่ที่นู่นส่วนมากเวลาเล่นเพลงช้า ๆ คนจะเงียบตั้งใจฟัง อีกอย่างคือกินเหล้าเยอะด้วย ผมแอบตกใจที่คนกินเหล้าเยอะขนาดนั้น คือถ้าเป็นคอนเสิร์ตทางการส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในสถานที่จัดได้ แต่ถ้าเป็นเฟสติวัลที่มีหลาย ๆ วงจะกินได้ปกติ
เวลาเล่นคอนเสิร์ตเป็นอุปสรรคบ้างไหมเพราะแต่ละคนในวงเป็นคนขี้อายมาก
ฮยอก: พวกเราเป็นคนขี้อายก็จริง แต่เวลาขึ้นเวทีก็ไม่ได้พูดไง ก็แค่เล่นอย่างเดียว
มีวิธีเลือกคนที่จะมาร่วมงานหรือเลือกวงมาเป็นวงเปิดยังไง
ฮยอก: เวลาเล่นเป็นวงก็จะไม่ค่อยมี featuring ถ้าเป็นโชว์ผมคนเดียวจะมีศิลปินอื่นด้วย อย่างวงเปิดก่อนจะมานี่ทางบริษัทก็ส่งมาให้เลือก พวกเราสี่คนนี้มีแนวเพลงที่ชอบไม่เหมือนกันเลย ก็เลยจะเลือกเป็นว่าวงไหนที่มีสีสันดนตรีที่น่าสนใจก็จะเลือกมา ตอนเลือกเนี่ยก็มี Gym and Swim ที่มีแนวใกล้ ๆ กับเรา ฟังแล้วมีความสุข เลยเอาวงนี้มาเปิด
มีวงไทยที่อยากร่วมงานด้วยไหม
ฮยอก: Gym and Swim ครับ เราชวนเขาไปเล่นที่เกาหลีแล้ว แต่ให้ออกเงินส่วนตัวไปนะ (หัวเราะ)
ทำยังไงให้คนเลิกติดภาพ K-Pop ว่ามีแต่บอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ป
ฮยอก: ไม่รู้เหมือนกัน อย่าง J-Pop ที่หลายคนรู้คือในนั้นมันก็มีหลายแนว ทั้งฮิปฮอป ร็อก อะไรด้วย แต่คนส่วนมากคิดว่า K-Pop คือดนตรีบอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ มันก็เหมือนกันกับ J-Pop นั่นแหละ คนเกาหลีส่วนใหญ่ก็รู้ แต่คนต่างประเทศอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ เพราะเวลาเขาดู YouTube ก็อาจจะเสิร์ชเจอแต่วงเต้น ๆ หรือรู้จักแต่แค่วงดัง ๆแบบเดียว เวลาคงเป็นยาที่ดีที่สุด อีกไม่นานคนก็อาจจะเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว K-Pop มีหลายแบบ ผมเองก็พยายามที่จะทำให้คนรู้จักมากขึ้นเผื่อว่าจะเปลี่ยนภาพจำของคนได้
รูปแบบในการฟังเพลงที่เปลี่ยนไปมีผลกับการวางแผนโปรโมตเพลงไหม
ฮยอก: มีผลมากนะกับวงยุคก่อน ๆ แต่มันก็เป็นอะไรที่คอนโทรลไม่ได้ คนที่ชอบแบบซื้อแผ่นมาฟังก็ชอบแบบนั้น คนฟัง streaming ก็ชอบแบบนั้น ซึ่งตอนที่ผมปล่อยเพลงแรกก็มาอยู่ในยุคที่เป็น streaming อยู่แล้วก็เลยไม่ค่อยมีผลกระทบอะไร
พื้นที่ในการแสดงผลงานของศิลปิน underground ที่เกาหลีมีมากน้อยขนาดไหน ฮยอกโอจะเป็นคนเบิกทางให้น้อง ๆ รุ่นต่อไปมีโอกาสมากขึ้นไหม
ฮยอก: ผมคงเรียกคนอื่นเป็นรุ่นน้องไม่ได้หรอกเพราะวงผมก็ยังหน้าใหม่เหมือนกัน ตัวผมเองก็อยากให้โอกาสวงที่ยังไม่ดังแหละ ส่วนมากพวก underground จะไม่ค่อยได้ไปเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ ก็จะอยู่กันตามผับ ตัวผมมันเหมือนเป็นกรณีพิเศษมาก ๆ หลังออกอัลบั้มแรก ๆ ก็ไม่มีโอกาสไปเล่นที่ไหนเหมือนกัน แต่ดันโชคดีที่มีคนชอบแนวเพลงแบบของผม
มีวง underground เกาหลีวงไหนที่อยากแนะนำให้รู้จักบ้าง
ดงกอน: Kiha & the Faces, The Black Skirts, Parasol มีเยอะมากครับ
เป้าหมายต่อไปของวงฮยอกโอคืออะไร
ฮยอก: ตอนนี้ยังมีทัวร์ที่เหลือค่อนข้างเยอะ พยายามไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สิ้นปีก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่เกาหลี แล้วเดี๋ยวปีหน้าจะทำอัลบั้มใหม่ แล้วก็จะกลับมาทัวร์อีก
เป้าหมายของการเป็นนักดนตรีของคุณตอนนี้คืออะไร
ฮยอก: อยากให้เพลงของเราได้ออกอากาศในรายการวิทยุทั่วเอเชีย มีคนฟังเยอะ ๆ ครับ