electric.neon.lamp กลับมาอีกครั้งกับสองเพลง พร้อมมิวสิกวิดิโอระเบิดภูเขา เผากระท่อม
- Writer: Montipa Virojpan
หลังจากเริ่มการเดินทางบทใหม่ไปแล้วกับเพลง เสียเวลาว่ะ วงดนตรีป๊อปร็อกสุดเท่ electric.neon.lamp กลับมาทวงพื้นที่ชาร์ตเพลงอีกครั้งกับสองซิงเกิ้ล เจ็บแล้วไง และ ตบปาก พร้อมด้วยมิวสิกวิดิโอสุดยียวนอันได้รับแรงบันดาลใจจากละครสุดคลาสสิกของไทย ‘อังกอร์’ ตอนนี้พวกเขาจะมาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของทั้งสองเพลง พร้อมทั้งพูดคุยกับผู้กำกับมิวสิกวิดิโอชุดนี้กัน
เจ็บแล้วไง
เจน: เพลงนี้เป็นเพลงที่เราทำต่อมาจาก เสียเวลาว่ะ ซึ่งเพลงนั้นมัน 90s จัดมาก ๆ แต่อันนี้เราอยากให้คนที่เป็นแฟนเพลงยุคแรก หรือแฟนเพลงยุคใหม่มันไปด้วยกันได้ เพลงนี้เริ่มเขียนเนื้อขึ้นมา แล้วเพลงนี้จริง ๆ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเราด้วย คือเหมือนเพิ่งอกหัก แล้วพอเริ่ม ๆ จะคุยกับใครใหม่ก็เริ่มรู้สึกว่า จะดีหรอวะ พอมี source นี้ขึ้นมาก็คุยกับพี่แทน ก็เป็นแบบ ‘เอ้า แล้วไงอะ’ ตรงตามเนื้อเพลงเลย เจ็บแล้วไงวะ? แต่ยังไม่รู้ว่าทิศทางของเพลงมันจะเป็นยังไง
แทน: คือเพลงนี้แต่ฮุคก่อน ภาพในหัวคือจินตนาการไว้เป็นผู้หญิงไม่สวยมาก แต่เคยมีแฟนแล้ว เหมือนละครไทยที่พอมีผู้ชายมาจีบก็กลัว อารมณ์เหมือนแบบ วิ่งไปล้างหน้าแล้วพูด ‘เอาวะ! ไม่มีอะไรจะเสียละมึง ช่างแม่ง!’ ภาพในหัวตอนที่แต่งมันก็จะออก comedy นิดนึง
เจน: แล้วก็ไปทำคอร์ดกับพี่แทน พอไปแจมกันมันก็ได้ออกมาเป็นประมาณนี้ แต่ด้วยความที่มันป๊อปมากก็คิดว่าจะทำยังไงให้เป็น e.n.l ดี ตอนท่อนโซโล่ก็เลยซัดเป็นนูเมทัลยุค 2000 ไปเลย ซึ่งแต่ละคนชอบเพลงร็อกอยู่แล้ว พวก Korn อะไรแบบนี้ ก็คิดว่าน่าจะมีสักท่อนนึงที่ให้โยกกันหัวหลุดเลย พี่แทนจะพูดบ่อย ๆ ว่า ‘เราไม่ค่อยประนีประนอมกันเรื่องดนตรีเท่าไหร่’
แป๊ก: ตอนซ้อมดนตรี นูเมทัลพวก Limp Bizkit เป็นอะไรที่เราหยิบมาเล่นกันตอนพักจากเพลงตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว
เจน: พอได้ท่อนนั้นเป็นท่อนโซโล่มาแล้ว เหมือนแป๊กออกไอเดียว่าท่อนนี้ยังดูโล่ง ๆ แปลก ๆ อยู่ เราลองหาใครสักคนมาแร็ปไหม ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบการ featuring เพราะจะมาคิดถึงตอนเล่นสดว่า ‘เราจะชวนเขามาร้องด้วยยังไงดีวะ’ แต่มันก็น่าสนใจจริง ๆ แหละเพราะวงไม่เคยทำมาก่อน จะกลายเป็นโลกใหม่ที่เข้าไปเหยียบจริง ๆ ที่เราก็อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง ก็คุยกันเยอะมากว่าจะเอาใครมา feat. ดีแร็ปเปอร์ดัง ๆ ก็ไป feat. คนนั้นคนนี้จนช้ำแล้ว พอดีบังเอิญเจอไมยราพที่ฟังใจ ตอนที่มาให้สัมภาษณ์ River Rhyme ประมาณสองปีที่แล้ว ก็เลยไปจีบ ๆ น้องดู แชมป์ก็บอกโอเคครับพี่ เคยฟังวงพี่ ชอบเพลงพี่เหมือนกัน โน่นนี่นั่น ก็เหมือนคุยกันถูกคอเลยชวน ๆ กันมา
เต้: ด้วยความที่เพลงมันดูซ่า ๆ ดื้อรั้น ๆ แล้วเราไปเห็นคาแร็กเตอร์ของไมยราพมันมีความเกเรของมันอยู่ ก็ตรงกับเพลง
เจน: ชอบภาษาด้วยแหละ ภาษาของไมยราพเป็นแร็ปที่ไม่ได้หยาบคายเกินไป แต่ก็ไม่ได้เรียบร้อย ซึ่งรู้สึกว่ามันกำลังดีมาก ๆ ถ้ามาอยู่ในเพลง ก็ลองให้น้องอัดเดโม่มาดูรอบนึง ก็เฮ้ย โอเคว่ะ ใช่เลย แชมป์เป็นคนเขียนเองเลย แล้วก็ปรับเนื้อกันอยู่ 2-3 รอบจนออกมาเป็นอย่างที่เห็น แต่พออัดมาทีแรกก็ตัดสินใจกันอยู่นานเหมือนกันว่าจะใส่แร็ปเข้าไปหรือไม่ใส่ดี สุดท้ายก็คือใส่เพราะเคมีมันเข้ากันได้กับเพลงพอดี
มิวสิกวิดิโอสไตล์ ฉลอง ภักดีวิจิตร
เจน: เราคุยกันมานานแล้ว ว่าอยากได้ mv ไทย ๆ แบบ Thai contemporary ประหลาด ๆ หน่อย ภาพที่คิดไว้คือขี่ควาย ‘ขวัญ-เรียม’ ‘มนต์รักลูกทุ่ง’ แล้วคุยกับพี่มิก ครีเอทิฟที่ BEC เขาถามว่ามีผู้กำกับคนไหนอยากทำงานด้วยหรือเปล่า ช่วงนี้เราชอบงานพี่ปกป้อง คุ้มวัน ก็นัดมาคุยกันบอกว่าอยากได้ประมาณนี้ เขาก็กลับไปสองอาทิตย์ พอกลับมาเป็นหนังอาหลอง เชี่ย แม่งโคตรได้ มันใช่เลย พี่ป้องเขามันมาก
ป้อง: เหมือนเราได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดู ‘อังกอร์’ ตอนเด็ก ๆ ก็อยากทำอะไรแบบนั้นบ้าง เลยมาระบายกับวง แล้วให้วงแสดงเป็นตัวร้ายอยู่ในเรื่อง กิมมิกของมันคือเนื้อเรื่องยาว ๆ นี่จะถูก split เป็นสองเพลง คือ เจ็บแล้วไง กับ ตบปาก แล้วให้คนรอดูรอฟังทั้งสองเพลงก็จะพบว่าเนื้อหามันต่อกัน มันเป็นเรื่องของผู้หญิงออกไปตามหาแฟนในป่า แล้วระหว่างทางต้องเจอกับคณะค้นหาสมบัติ ก็จะมีการต่อสู้กัน
ตบปาก
แป๊ก: ตอนนั้นเราทำเพลง เจ็บแล้วไง แล้วก็อยากได้เพลงใหม่เพลงนึง เลยชวนเต้ เฮ้ย เดี๋ยวกูทำกลองไว้นะ มึงลองมาแจมกันที่คอนโด ก็ได้กรูฟแรกเป็นกลองกับเบสประมาณนั้น เราก็เริ่มวางโครงเพลงไปเรื่อย มีคีย์บอร์ดที่อุณมาหัดเล่นเป็นเดโม่รอไว้ก่อน จากนั้นก็เขียนเนื้อ
เต้: เหมือนพอจบเพลงนึงมาแล้วมันยังตันอยู่ เนื้อเพลงเพลงใหม่ก็คงยังไม่ได้ในทันที แต่เราก็ไม่อยากรอเวลา ทำอะไรได้ก่อนก็ทำ ใส่อะไรได้ใส่ ลองสร้างสารตั้งต้นมาแล้วค่อยหาเรื่องราวใส่เข้าไป
เจน: ตบปากมันเป็นความตั้งใจที่ไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่ามันจะออกมาเป็นยังไง แค่รู้สึกว่าอยากจะมีเพลงที่มันทื่อ ๆ ไปทั้งเพลง กลองไปเรื่อย ๆ ทั้งเพลง แต่จะค่อย ๆ มีพาร์ตอื่นเข้ามาเสริมให้มันมีไดนามิกขึ้น ถ้าสังเกตดูดี ๆ ริธึมแทบจะเป็นเส้นตรง เนื้อเพลงจริง ๆ เหมือนแป๊กเป็นคนพูดคำว่า ‘ตบปาก’ ขึ้นมา อยากได้คำแรง ๆ
แป๊ก: คือวงรู้สึกว่ามันหน่อมแน้ม เจ็บแล้วไง พูดเรื่องความรักก็จริง เจอเธอ รักเธอ อกหัก แล้วรู้สึกว่าอยากเล่นเนื้อแรง ๆ aggressive เลยเริ่มจากคำว่า ‘ตบปาก’ ดู แล้วมาขยายว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง คือทำผิดมาแล้วโดนตบปากหรือเปล่า
เจน: ก็เป็นประสบการณ์ตรงของทั้งคู่อีกว่าเวลาทำอะไรผิด พูดจาอะไรไม่ดีกับแฟน มีอาการปากลั่น มันจะตามมาด้วยความรู้สึกแบบ ‘ฉันเป็นคนปากคอเราะร้าย พูดจาอะไรไม่เคยจะคิด มันจะทำให้เธอต้องเสียใจ’ แล้วสักวันนึงก็กลัวว่าเขาคงจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากเสียเขาไป ไม่อยากเป็นคนแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นแล้วเวลาพูดไม่ดีก็ตบปากกูเลย ลงโทษได้เลย จริง ๆ ต้นแบบตอนที่เขียนมันคิดมาจากเพลง ทำร้าย ของพี่โป้ Yokee Playboy อารมณ์นั้น
ถึง mv จะเป็นเรื่องที่ต่อกัน แต่ตัวเพลงเป็นคนละแนวเลย จริง ๆ เกิดจากการเลือกไม่ถูกว่าจะปล่อยเพลงไหนก่อน ก็เลยปล่อยมันสองเพลงติด ๆ กันแม่งเลย ตบปากเนี่ยมันจะมีความเท้เท่ มีความ e.n.l แบบคูล ๆ เจ็บแล้วไง มันมีความป๊อป ความติดหู ร้องตามได้ จังหวะมันสนุกกว่า คือคนชอบคิดว่า e.n.l เป็นวงป๊อป ทำเพลงป๊อป จริง ๆ เราก็มีเพลงประหลาด ๆ อยู่หลายเพลงมากที่เราไม่เคยปล่อย
แป๊ก: เหมือนตอนที่เราตัดสินใจทำดนตรีแบบนี้ เวลาเราเล่นสดคนจะถามว่าแบบ เฮ้ย ทำไมดนตรี e.n.l มันย่อยง่ายจัง จะบอกว่าจริง ๆ ก็ยังเฟี้ยวอยู่นะ เดี๋ยวทำให้ดู แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเราเฟี้ยวจัด แต่ถ้าอยากให้มาโหมดนี้เราก็ทำได้
แทน: จริง ๆ เพลง เจ็บแล้วไง เหมือนเป็นทดลองด้วย ตอนแต่งกับเจนอยากลองสูตรใช้คำฮิตดู สูตรเดียวกับ นางรอง เพราะไม่ค่อยได้แต่งอะไรแบบนี้ รู้สึกว่าคำสามพยางค์ ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง มันน่าจะจำง่าย ไม่รู้ว่าในมุมคนฟังเป็นไง แต่เรากับเจนคิดว่าถ้าเป็น ‘เจ็บ อีก ครั้ง’ เหมือน ‘รู้ ว่า เธอหลอก’ เหมือนเว้นให้มันตีหัวนิดนึง กะให้คนร้องตามง่าย
ติดตามความเคลื่อนไหวของ electric.neon.lamp ได้ ที่นี่ และรับฟังเพลงของพวกเขาบนเว็บไซต์ฟังใจได้ ที่นี่