Interview

คุยกับ Dept ดูโอ้ซินธ์ป๊อป กับการเดินบนเส้นทางดนตรีมาสู่อ้อมอกของบ้าน Smallroom

Published October 4, 2019

• Writer: Peerapong Kaewthae
• Photographer: Chavit Mayot

Share on Facebook Share on Twitter

ประมาณกลางปีที่แล้ว ฟังใจ มีโปรเจกต์สุดพิเศษที่ทำงานกับสปอนเซอร์ใจดี เกิดเป็นงานประกวดดนตรีที่เฟ้นหาวงหน้าใหม่เพื่อผลักดันให้มีซิงเกิลเป็นของตัวเอง พร้อมคอนเสิร์ตที่จัดโดย ฟังใจ เอง แม้สุดท้ายจะมีผู้ชนะเพียงแค่สองคน แต่ 1 ใน 10 วงที่เข้ารอบสุดท้ายอย่าง Dept ก็น่าจับตามองด้วยสไตล์ดนตรีที่มีเอกลักษณ์จากเสียงร้อง และซาวด์ซินธ์ป๊อปที่ร้ายกาจมาก

ผ่านมาถึงตอนนี้ เราดีใจมากที่พวกเขายังทำงานอยู่ตลอดเวลา พิสูจน์ตัวเองจนมีแฟนเพลงมากมาย ซึ่งล่าสุดเพิ่งได้ไปเป็นศิลปินอันดับที่ 17 ของค่าย Smallroom ห้องเล็ก ๆ อันอบอุ่นของศิลปินชื่อดังในซีนอินดี้ เราเลยอยากนั่งคุยกับทั้งสองถึงการเดินทางอันสนุกสนานในฐานะศิลปินรุ่นใหม่ที่มีอนาคตสดใส และมีโอกาสที่จะโตไปเป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศได้เลย

มาทำเพลงด้วยกันได้ยังไง

เบนซ์: ตอนแรกผมเป็นมือกีตาร์ในวงร็อกไม่ได้ร้องเพลง สุดท้ายก็ออกมาเพราะคิดว่าไม่ใช่ทางเท่าไหร่ ตอนนั้นก็ไม่รู้จะชวนใครก็ทำไปก่อน ไม่ได้ตั้งใจจะร้องเองด้วย กลัวคนที่เข้ามาจะร้องไม่ถูกใจ เราก็เลยไปเรียนร้องเพลงเลย พอปล่อยเพลงแรกไปสองสามวัน ตอนนั้นก็มีในหัวละว่าอยากมีสมาชิกอีก ก็ไปรู้จัก ลุค ที่ Crossplay Concert B SIDE ทั้งที่เรียนที่เดียวกันอยู่แล้วนะ (หัวเราะ) เป็นมือคีย์บอร์ดวงของเพื่อนผม แต่หน้าปกติมันดุเหมือนจะต่อยคน ไม่ค่อยมีคนกล้าคุยด้วย (หัวเราะ) ตอนแรกผมคิดมากเลย เพื่อนบอกหน้ามึงก็จีนละ อีกคนมายุโรปเลย คนจะไม่งงหรอวะ พออยู่ไปอยู่มาเพื่อนก็เออ มันก็ได้ว่ะ อีกอย่างหนึ่งคือวงมีซาวด์พวกคีย์บอร์ดเยอะ แล้วผมเล่นเป็นแต่กีตาร์ ภาพของวงมันควรจะมีมือคีย์บอร์ดด้วย ถ้าเราขึ้นไปเล่นบนเวทีแล้วเปิดแต่ backing track คงแปลก ๆ เลยเลือกลุค

ลุค: ตอนนั้นผมเพิ่งขึ้นปี 1 ได้สองสามเดือนเอง รู้จักมันแต่ไม่ค่อยได้คุยกันหรอก ก็ได้คุยกันที่งานนั้น (เบนซ์: เลยเพิ่งรู้ว่าปัญญาอ่อนทั้งคู่) หลังจากงานนั้นต่างคนต่างทำอะไรของตัวเอง มานอนบ้านผมบ้าง ตอนเบนซ์ปล่อย แล้วเธอ เพลงแรก เราเข้าไปฟังก็เพราะดี ช่วยแชร์เพลงปกติเหมือนแชร์ให้เพื่อน ผ่านไปวันสองวันมันก็ทักมาใน ig เรื่องอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ แล้วมันถามว่าใช้โปรแกรม Ableton เป็นมั้ย ก็พอใช้เป็นแต่ไม่ได้เซียนอะไรขนาดนั้น มันก็บอกว่าสนใจมาทำด้วยกันมั้ย ก็ได้วะ เลยโอเค

เบนซ์: ตอนแรกจะใช้ Ableton เล่นสดไง ถามว่าตอนนี้ได้ใช้รึยัง (หัวเราะ)

แล้วชื่อ Dept มาจากไหน

ลุค: มาจาก Johnny Depp เนี่ยแหละครับ เอา Depp ข้างหลังมา แต่พอเขียนแล้วมันไม่สวยเลยตัด p เติม t แทน คนก็ชอบคิดว่ามาจาก department

เบนซ์: ตอนแรกผมก็เสิร์ชก่อนว่ามันไปซ้ำกับใครหรือมีความหมายอะไรมั้ย ถ้ามีจุดก็คือย่อมาจาก department เราก็เลยไม่เติม ตอนนั้นมี temp. ที่มีตัวอักษรสี่ตัวเหมือนกัน ถ้ามีจุดต้องไปซ้ำกับเขาแน่เลย แต่ทุกวันนี้ยังมีคนเติมจุดให้อยู่เลย

เล่าเพลง คล้าย ที่เพิ่งปล่อยไปให้ฟังหน่อย

เบนซ์: ตอนนั้นก็ in love นิดหนึ่ง มันเป็นเพลงแรกของ Dept ที่เนื้อหาความรักด้วย แฟนเพลงจะคิดว่าเพลงมันสมหวัง แต่ผมว่าจริง ๆ มันไม่ได้สมหวังนะ ถามตัวเองนิดหนึ่งว่า “ใช่มั้ย เป็นเธอจริง ๆ ใช่มั้ย ทำให้ใจฉันวุ่นวาย เธอช่างคล้าย” ท่อนฮุกเลยบอกว่า “แต่เธอไม่ต้องตอบฉัน” ไม่ต้องการคำตอบตอนนี้ ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ต้องคิดไปไกลแค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว ด้วย mv อะไรยังงี้มั้งครับที่ตอนจบผู้หญิงจับมือผู้ชายแล้ววิ่งออกจาก mv ไป ตอนแรกอยากแก้ให้ตัดดำตอนหันหลังไปเลยให้มันค้างคา ๆ แต่เวลาที่เร่งรีบเราเลยต้องปล่อยให้มันเป็นอย่างงั้นไป

ตอนแรกแล้วเนื้อท่อนฮุกมันเป็นอีกแบบหนึ่งด้วย มันหวานกว่านี้แล้วตอนผมร้องมันกระดากปากตัวเอง เป็นคนที่ร้องเพลงหวานขนาดนี้ไม่ได้ เลยแก้ หลังจากนั้นก็มีแฟนเพลงมาคอมเมนต์ว่าชอบเนื้ออันแรกมากกว่า (หัวเราะ) (ลุค: น่าจะเป็นคนที่เคยดูตอนเล่นสดมาก่อนที่เนื้อเพลงยังเป็นอันแรกอยู่) ผมจำวันแรกที่ไปเปลี่ยนท่อนฮุกได้ วันนั้นมีคนดูที่จำเนื้ออันเก่าได้ พอท่อนฮุกปุ๊บผมร้องปุ๊บแล้วปากเขาร้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง (หัวเราะ) น่าจะบางแสน

ลุค: เพลงนี้ หรือ 4-5 เพลงที่พวกเราทยอยปล่อยเนี่ย เบนซ์ทำมาเป็นเสร็จก่อนที่ผมจะเข้ามาแล้ว ผมเลยเข้ามาแก้พวก voicing keyboard หรือขยับโน้ตหน่อย ถ้าอันนี้มาอยู่ตรงนี้น่าจะเพราะกว่านะ มาไล่แก้ตบ ๆ ให้ทีหลัง แต่เกือบทั้งหมดคือทำมาเสร็จหมดแล้ว เหมือนคอร์ดเสร็จแรกมันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ผมก็ลองมากด ๆ ดู ลองแบบนี้มั้ยมึง

เบนซ์: ก็มีเปลี่ยนคอร์ดนิดหน่อยบ้างเหมือนกัน มันจะมีตรงหนึ่งที่ลุคใส่ลูกเล่นเยอะมากเลย มันก็ได้แหละแต่เราคิดว่าเอาเก็บความเยอะไว้ไปเล่นสดดีกว่า ออดิโอเลยจะไม่ยากมาก โซโล่ลุคก็ช่วยผมคิด

การเรียนดนตรีมา ทำให้เราได้เปรียบกว่าคนอื่นรึเปล่า

เบนซ์: ทฤษฎีผมโง่มาก ๆ เลย แต่ชอบได้ยินเสียงในหัวแล้วมานั่งเขียน ผมก็กดไม่เป็นไงคีย์บอร์ด เรียนก็เกรดไม่ดี ผมต้องมานั่งกดในโปรแกรมอันไหนได้อันไหนไม่ได้ เห็นเป็นคอร์ด 13 11 อะไรเต็มไปหมดเลย (หัวเราะ) งง ๆ

ลุค: เหมือนกดมาแล้วมันก็เพราะอะ ไม่เหมือนคนอื่นดี เลยซื้อ มันไม่น่าเกี่ยวหรอกครับ ทุกสาขามันก็ต้องเรียนเหมือนกันหมดเลย

เบนซ์: แค่พวกผมเรียนเทคโนโลยี พอหลังจากสองปีก็จะไปหนักทาง sound engineer คุยกันเป็นความถี่ เอาสองพันลงดี คัต 250 ลง (หัวเราะ) พอเรียนทฤษฎีไปปุ๊บก็เริ่มลืม ๆ ไปหมดละ หลัง ๆ เริ่มทำเพลงจากเสียงในหัวจริง ๆ

ตอนนี้ก็ได้สังกัดใน Smallroom แล้ว คิดว่าเพราะอะไรเขาถึงเลือกเรา

เบนซ์: เพราะพี่รุ่ง—รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ ชอบครับ (หัวเราะ) พี่รุ่งโอเคทุกคนก็โอเค ผมเรียนร้องเพลงกับพี่เติ้ล Two Pills After Meal เทอมหนึ่งเป็นวิชารอง ก็บอกพี่เติ้ลว่าอยากไปส่งเพลง เขาก็บอกว่าส่งสิเดี๋ยวพาไป แต่สุดท้ายผมก็ไม่กล้าไปส่ง เพลงเราไม่น่าจะ Smallroom ขนาดนั้น มันจะมีกลิ่นอะไรบางอย่างซึ่งทุกวันนี้ก็ยังหามาอธิบายไม่ได้ แต่ฟังแล้วจะรู้สึกว่านี่แหละ Smallroom ตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยไม่ได้ไปส่ง แต่มีพี่ ๆ ที่ทำงานเขารู้จักก็เอาไปเสนอพี่รุ่ง

ลุค: เหมือนตอนแรกเขาบอกว่าพี่รุ่งเขาจะทำ new gen หารุ่นใหม่เข้ามาในค่ายบ้าง แล้วพี่ที่รู้จักที่เขาทำงานในนั้นเขาโทรมา ตอนแรกเขาโทรไปหาเบนซ์แต่ไม่ได้รับ ผมรับแล้วก็งงเพราะไม่ได้สนิทกับพี่เขาเลยไม่ได้รับ เขาก็พิมพ์มาว่าลุค รับโทรศัพท์หน่อย เดี๋ยวนี้เลยนะ ผมก็แบบ เหี้ย กูไปทำอะไรมารึเปล่าวะ (หัวเราะ) พอรับเขาก็บอกว่าสนใจเข้ามาคุย Smallroom มั้ย พี่รุ่งสนใจ ผมก็บอกให้คุยกับเบนซ์เลย (หัวเราะ) เบนซ์น่าจะกรี๊ดมากกว่า พอเขาคุยกันเสร็จก็เลยโทรไปคุยกับเบนซ์อีกที

แล้วกังวลไหม ว่าซาวด์ของเราจะติด ‘กลิ่น’ ที่เรารู้สึก

เบนซ์: ไม่นะครับ สุดท้ายเราก็ทำกันเองเหมือนเดิม แล้วไปส่งเพลงว่าผ่านไม่ผ่าน (เบนซ์: พี่รุ่งก็ค่อนข้าง open ด้วย) ส่งเพลงสุดท้ายของ ep ไป คิดว่าพี่รุ่งน่าจะสวดนานหน่อย … โอเค! ฝรั่งดี ไปทำมา (หัวเราะ) เราก็เอาเพลงไปให้พี่ที่เคยทำด้วยกันมิกซ์ให้ ก็ชิลดีครับ

ในค่ายก็มีแต่อาจารย์ของเราทั้งนั้น รู้สึกประหม่าบ้างไหม

ลุค: ไม่ประหม่าครับ เฉย ๆ แล้ว

เบนซ์: ผมจะรู้สึกแปลก ๆ นิดหนึ่งที่นั่งอยู่แล้วเห็นอาจารย์กินเบียร์ (หัวเราะ) ปกติผมจะเห็นแค่มาดอาจารย์ตอนเขาสอนผมหนิ พอเห็นพี่ดั๊ก Postbox นั่งกินเบียร์อยู่ข้างหน้าแล้วรู้สึกแปลก ๆ เป็นภาพที่ไม่เคยเห็น

ในฐานะรุ่นใหม่ เราคาดหวังอะไรกับการมาอยู่ค่ายเพลงบ้าง

เบนซ์: ไม่ห้ามอะไรที่ผมอยากทำก็พอแล้ว (หัวเราะ) เหมือนค่ายก็คอยซัพพอร์ตอยู่แล้ว พี่รุ่งก็ค่อนข้างปล่อยให้เราทำเพลงแบบอิสระมากเลย ส่งไปก็ไม่เปลี่ยนอะไรเลย

ลุค: ก็มีถามด้วยว่า ถ้าอันไหนไม่โอเคจริง ๆ ก็บอกได้นะพี่ แต่พอทำไปเขาก็เอาเลย ๆ ผ่าน ๆ

กระทบเวลาเรียนบ้างไหม

เบนซ์: ค่อนข้างปล่อย ๆ ครับ ถ้าต้องโดดไปเล่นก็ไป ด้วยความเป็นเด็กดนตรีด้วยครับ อาจารย์บางคนเข้าใจครับว่ามันถึงยุคออกไปทำงานดีกว่า บางวิชาลาไม่ได้จริง ๆ ก็ไม่ไป ลาได้สี่ครั้งก็ไปซักสาม ดีที่ช่วงหลัง ๆ ไม่ชนวันเรียนเลย

สไตล์เพลงของเราก็คล้ายกับหลายวงที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะทำยังไงให้เพลงเราโดดเด่นกว่าคนอื่น

เบนซ์: ผมว่าที่สำคัญสุดคือเสียงร้อง ที่มันจะแยกออกจากวงอื่น ๆ ได้ เรื่องซาวด์เครื่องดนตรีมันน่าจะเป็นแฟชั่นอะไรบางอย่าง มันจะมีความคล้าย ๆ กันอยู่แล้ว เหมือนคนที่เขาฟังแบบจริงจังน่าจะแยกกันออกอยู่แล้ว อย่าง Dept จะไปทางซินธิไซเซอร์ฟุ้ง ๆ (ลุค: แล้วมีกีตาร์ด้วย) บางวงซินธ์เขาค่อนข้างแข็ง ๆ กรูฟกลองด้วย แต่ละวงก็จะมีซาวด์ที่ใช้ประจำไม่เหมือนกัน

ครั้งแรกที่ได้รู้จัก Dept จากงาน Sunkist Freshly Picked Contest อะไรทำให้เราตัดสินใจสมัครงานนี้

เบนซ์: ตอนแรกผมไม่กล้าลง แต่วง YEW ที่เป็นเพื่อนสนิทผมเขาลงกัน ผมก็เลยลงวันสุดท้ายเลย

ลุค: รูปที่ถ่ายส่งไปสมัครเป็นรูปถ่ายรูปแรกของวงเลย ก็เปิด Photo Booth บน Mac ถ่ายกันเลย (หัวเราะ) แล้วส่งไปเลย ช่วงนั้นมิถุนายนผมก็เพิ่งมาทำจริงจังไม่ถึงเดือน รูปอะไรยังไม่มีเลย พอโปรเจกต์นี้เข้ามาก็ส่งไปก่อนค่อยไปตามแก้ทีหลัง

ได้เข้ารอบ 10 วงสุดท้าย ได้มาสเตอร์เพลง Just All The Night ด้วย พอได้มาทำงานเพลงจริง ๆ แล้วเป็นยังไง

เบนซ์: ผมรู้จักกับพี่มินที่มาสเตอร์เพลงให้เราอยู่แล้ว พวกผมไม่เครียดเลยนะ แต่พี่มินเขาเครียดกว่าปกติเพราะเขาถนัดเพลงร็อกมากกว่า พี่มินไม่ถนัดซาวด์ของพวกผมเลย แต่ซาวด์มันเหมือนเดิมเลย แค่มิกซ์ให้ฟิวมันถูกต้องแบบที่เราอยากได้ มันเป็นทฤษฎีกับความรู้สึกผสมกัน ตอนแรกมิกซ์มาแล้วเพลงมันเร็วขึ้นก็บอกเขาว่าเพลงมันพุ่งไป อยากให้ลดลงมาหน่อย

ลุค: อยู่ตั้งแต่สี่โมงเย็นจนเจ็ดโมงเช้า (หัวเราะ) มันเป็นวันส่งมาสเตอร์วันสุดท้ายด้วย

ในฐานะที่เคยผ่านงานประกวดมาแล้ว คิดว่ามันสำคัญกับศิลปินหน้าใหม่ ๆ แค่ไหน

ลุค: มันต้องดูก่อนว่างานประกวดเป็นงานแบบไหนครับ งานประกวดที่เป็นดนตรีทางเลือก ถ้าถูกกลุ่มมันก็โอเค

เบนซ์: เราก็ต้องเลือกงานหน่อย งานนี้มันอาจทำให้คนเห็นเรามากขึ้น ไม่มีงานประกวดไหนไม่ดีหรอก อยู่ที่จุดประสงค์กับเป้าหมายมากกว่าว่าเราต้องการอะไร ถ้าคุณอยากประกวดความสามารถแต่มาประกวดงานทำเพลงก็อาจจะผิดไดเร็กชั่นรึเปล่า

เราคิดว่าตอนนี้ซีนดนตรีมันยังขาดอะไรอยู่รึเปล่า

เบนซ์: ขาดโอกาสมั้งครับ บางวงเพลงเขาดีแต่ไม่มีโอกาสได้มานั่งพูดอะไรแบบนี้ ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นมาให้คนเห็น มันก็เป็นสิ่งที่ยังขาดอยู่ บางวงก็ขาดโอกาสที่จะโปรโมต มาเก็ตติ้งให้คนได้เจอ ให้คนได้รู้จัก พวกงานเล่นด้วย ผมว่ามันเยอะกว่าเมื่อปีสองปีที่แล้วเลย มันต้องผลักวงเล็ก ๆ ขึ้นมาบ้างอะครับ งานปรกติก็ชอบใช้วงใหญ่ ๆ ซ้ำ ๆ กันเยอะ ถ้ามีวงใหญ่เป็นเฮดไลน์แล้วเอาวงที่ถูกจุดกับวงใหญ่วงนั้น คนฟังวงนั้นน่าจะชอบวงนี้ ก็เลือกวงเล็กมาผลักขึ้นไปก็น่าจะดี

เห็นด้วยไหม ว่าวงเล็ก ๆ ก็ยังต้องเล่นงานฟรีไปก่อน

เบนซ์: อันนี้แล้วแต่ อยู่ที่ว่าอยากไปเล่นไหม อย่างพวกผมงานฟรีก็เลือกว่ามันจะถูกตลาดมั้ย เคยมีคนมาชวนไปเล่นอารมณ์ตลาดงานฝีมือ เราก็ไม่ไปเพราะมันค่อนข้างผิดจุด ผมว่าเรื่องมาเก็ตติ้งก็สำคัญ ด้วยความที่เราโตมาแบบไม่มีค่ายเลยต้องทำเองหมด บางวงเขาอาจจะเดบิวกับค่ายเลย เรื่องพวกนั้นค่ายก็อาจจะดันให้อยู่แล้ว

ลุค: ศิลปินจะชอบมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ กูทำเพลงอย่างเดียว ปล่อย ทำแล้วก็ปล่อย

เป้าหมายต่อไปของวง

ลุค: ปล่อย EP ตอนงานแคทครับ มี 4 เพลง mv เพลงใหม่ก็รอปล่อยตุลา และอีกเพลงก็ปีหน้าครับ

เบนซ์: เราก็ได้เล่นงาน Cat Expo ด้วย วันที่ 23 ตอนทุ่มครึ่ง stage 5 ครับ

สุดท้ายแล้ว ฝากอะไรถึงแฟนเพลงหน่อย

ลุค: ฝากเพลง คล้าย นะครับ เพลงล่าสุดที่ปล่อยกับ Smallroom ฟังได้ทั้งบน YouTube และสตรีมมิงทุกที่ครับ แล้วก็จะมีเพลงปล่อยออกมาเรื่อย ๆ

เบนซ์: พบกับ EP ชื่อ Super Contrast ขายที่งาน Cat Expo ที่แรก พร้อมเสื้อและอาจจะมีกระเป๋า ติดตามได้ทาง FaceBookDept ไอจี dept.dept และทวิตเตอร์ @callmedept ครับ

 

Dept ปล่อยเพลงใหม่ “คล้าย” ซินธ์ป๊อปซึ้ง ๆ ภายใต้บ้านหลังใหม่ Smallroom

Dept ขอเป็นคนถอยออกมา แต่อยากรู้ว่าเธอจะ ‘ทำได้หรือเปล่า’

• Twitter
• Line