Article Interview

DCNXTR: เชื่อมต่อความคิดผ่านเสียงดนตรี

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: DUCK

ถ้าจะพูดแบบเท่ ๆ ว่า กูคือฮีโร่มาช่วยวงการเพลงไทยอะไรแบบนั้น มันไม่ใช่อยู่ดี วงผมไม่ได้คิดว่าวง DCNXTR มันจะมีอะไรพิเศษกว่าวงอื่น แค่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำเราทุกอย่างมันเกิดจากพวกเราล้วน ๆ ซึ่งถ้าชอบก็ดีใจ แต่ใครไม่ชอบก็ไม่เป็นไร

We are DCNXTR

หลายคนเกิดคำถามและความสงสัยเมื่อได้เห็นภาพโปสเตอร์ของงานคอนเสิร์ตเห็ดสดครั้งที่ 2 ว่าวงดนตรีที่ชื่อว่า DCNXTR คือวงอะไร อ่านว่าอย่างไร แล้วทำไมพวกเขาจึงได้เล่นงานเห็ดสดในครั้งนี้ นี่คือบทสัมภาษณ์ครั้งแรกของพวกเขาที่จะมาแนะนำตัวให้ทุกคนได้รู้จักกับวงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ – ป๊อป สัญชาติไทยที่มีชื่อว่า DCNXTR

Members

ลูกน้ำ – พิรุณภา กลัสนิมิ ︱ Vocal & Synthesizer
ชาลี – ชาลี นิภานันท์ ︱  Synthesize

ลองรับฟังเพลงของ DCNXTR ได้ที่ฟังใจ
http://www.fungjai.com/artist/DCNXTR

dsc_0016re2

ก่อกำเนิดเริ่มต้น  DCNXTR 

ชาลี:  DCNXTR เกิดขึ้นในช่วงปี 2009 ครับ มันเริ่มมาจากความบังเอิญ ในขณะนั้นผม ลูกน้ำ และเพื่อน ๆ ทำวงกันอยู่ ชื่อ Revenge Of The Cybermen แล้ววงเราต้องไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งวันที่ถ่ายรายการคนอื่น ๆ ในวงไม่มีใครว่างไปถ่ายกันเลย ทำให้ผมเกิดไอเดียว่า ถ้าไปออกกันไม่ได้งั้นเดี๋ยวเราไปให้เองก็ได้วะ เลยเอาเพลงที่มีในวง Revenge Of The Cybermen นั่นแหละมา Remixใหม่กันเองสองคนกับลูกน้ำ ผลออกมากปรากฏว่า เฮ้ย! ทำเพลงสองคนมันไม่เลว มันก็เล่นกันสองคนได้นี่หว่า ซึ่งซาวด์ดนตรีจะแตกต่างจากที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้นหมดเลย ทำให้เกิดโปรเจคของวง DCNXTR ขึ้น แล้วสุดท้ายช่วงที่ผมไปเรียนต่อต่างประเทศ วง Revenge Of The Cybermen ก็เลิกทำ แยกย้ายกันไปทำนาบ้าง ไปประกอบอาชีพอื่นบ้าง แต่โปรเจคของวง DCNXTR มันยังสามารถทำเพลงกันได้อยู่ เพราะมันไม่จำเป็นต้องเข้าห้องซ้อมก็ได้ เลยทำเพลงกับลูกน้ำผ่านทางอีเมล์ ผมก็ทำเพลงส่งให้ลูกน้ำ ลูกน้ำก็ใส่ซาวด์ต่าง ๆ คืนกลับมา ทำอย่างนี้จนผมเรียนจบกลับมาที่ไทยก็มาทำวงนี้จริงจังครับ

ลูกน้ำ: เรียกง่าย ๆ ว่าไม่มีใครมาคอนเน็คด้วยกับเราสองคนแล้ว (หัวเราะ)

DCNXTR ชื่อนี้มีที่มา

ชาลี:  มันอ่านว่า ‘เดอ คอนเน็กเตอร์’ ครับ ซึ่งมาจากไหนวะ เออลืมจำไม่ได้แหละ (หัวเราะ) จริง ๆ แล้ว ตอนนั้นมันเป็นความเข้าใจผิดนิดหน่อย ๆ ของเราเอง ตัวชื่อวงมันมาจากคำว่า Connect ที่แปลว่า เกี่ยวกันหรือเชื่อมต่อกัน โปรเจควงนี้ที่เกิดขึ้นตอนแรกมันเป็นแค่ Side Project ของผมกับลูกน้ำ เหมือนเราอยากจะเชื่อมต่อหรือทำเพลงร่วมกันกับใครก็จะไปคุยไปปรึกษาผู้คนเหล่านั้น เมื่อก่อนผมจะอยู่ในแก๊งค์ Mind the Gap แล้วเวลาทำเพลงก็จะมีความรู้สึกแบบ เฮ้ย! เพลงนี้อยากมีเสียงเบสเพิ่ม ก็จะไปคุยกับเพื่อนในกลุ่มนี้ให้ช่วยมาอัดเบสให้หน่อย มันเลยทำให้เกิดโปรเจคนี้ขึ้นมาเลยใช้ชื่อว่า เดอ คอนเน็กเตอร์ อ่านว่า ‘เดอ’นะครับ อย่าอ่านว่าเดอะ (หัวเราะ)

ลูกน้ำ: แต่จริง ๆ แล้วคนก็อ่านชื่อวงเราไม่ออกเหมือนกันนะ DCNXTR เนี่ย

ชาลี: ผมรู้สึกว่าชื่อย่อมันเท่นะ ชื่อย่อมันได้ไอเดียมาจากพวกวงต่างประเทศ แบบพวกวงต่างประเทศบางวงชื่อเขาจะมีคำหยาบอยู่ไง พอไปลงเฟสติวัลมันใช้ชื่อวงเต็ม ๆ ไม่ได้ก็เลยต้องใช้เป็นชื่อย่อแทน ของวงเราก็แบบลองตัดพวกสระภาษาอังกฤษออกให้หมด ผมว่าคนฟังถ้าอยากรู้จักพวกเราจริง ๆ ก็คงอ่านออกเองแหละ เหมือนตอนแรกผมเคยเห็นวงชื่อ Subtract เขาสะกดว่า SBTRKT คิดในใจอะไรของมันวะเนี่ย ก็เข้าไปตามไปดูไปหาข้อมูลในวิกิพีเดีย มันก็คล้าย ๆ กันถ้าเรามีความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราก็อยากจะรู้ อยากจะตามหาต่อเองว่ามันมีความหมายอะไรมีสิ่งใดที่ซ่อนอยู่ วงเราก็อยากให้คนฟังรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันครับ

แนวเพลงและตัวตน

ลูกน้ำ: แนวเพลงส่วนใหญ่มันเป็นอิเล็กทรอนิกส์ – ดรีมป๊อปที่ฟังง่าย มีความฟุ้ง ๆ สวย ๆ ซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกไปเราจะทำให้มันเป็นเพลงป็อบที่ฟังง่าย เพราะกลัวเดี๋ยวคนเข้าใจยากทั้งที่จริง ๆ แล้วด้วยเนื้อหาของเพลงหรืออะไรก็ตามมันจะมีความดาร์กมีเรื่องราวของมันอยู่

ชาลี: เพลงที่ปล่อยเป็นซิงเกิ้ลให้ฟัง เราจะลดดีกรีความดาร์ค ความฟุ้งของมันลงมาหน่อย ให้มันรู้สึกว่ายังฟังได้แล้ววงเราก็ยังโอเคกับมันด้วย

Visual คือ สิ่งสำคัญของ DCNXTR

ชาลี: เรื่องของ Visual มันเป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งของวงเรา เปรียบเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกวงด้วย เอาจริง ๆ ตำแหน่งนี้มันก็คือ Synthesizer อีกคนนึง แต่เป็นSynthesizer ทางด้านภาพ โดยอุปกรณ์ที่วงเราใช้มันเรียกว่า Visual Synthesizer ยี่ห้อเดียวกับเครื่องเกมส์ญี่ปุ่นชื่อ อาตาริ ที่ถูกผลิตขึ้นในยุค70 ’s – 80 ‘s  สิ่งที่ผมทำก็คือเอาสัญญาณทั้งหมดที่ผมเล่นออกจาก Mixer ของผมเสียบเข้าเครื่องนี้ แล้วมันจะ Translate เสียงออกมาเป็นภาพ ซึ่งคนที่คุม Visual ก็จะสามารถปรับได้ว่าจะใช้ภาพเป็นอย่างไรกับบทเพลงนี้ โดยเป็นเหมือนหนึ่งในโอเปอร์เรเตอร์ที่มันสำคัญมากสำหรับวง

เพลงอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ทำไมต้องมีเนื้อเพลงเป็นภาษาอังกฤษ

ชาลี: คำมันลงง่ายมั้งครับ (หัวเราะ) อย่างพวกวงต่างประเทศเขาจะมีการใช้ Sample เสียงนิด ๆ ออกมาเป็นภาษาอังกฤษแล้วคำมันลงพอดี จริง ๆ แล้วภาษาไทยมันก็ทำได้เหมือนกันนะ เพลงอิเล็กทรอนิกส์มันไม่จำเป็นต้องมีเนื้อร้องยาว ๆ การเรียบเรียงของมันคือการเอาประโยคมาตัดแปะ เหมือนของพี่สุหฤท สยามวาลา เขาก็เคยทำนะ

ลูกน้ำ: เราว่ามันขึ้นอยู่กับ Structure ของเพลงมากกว่า อย่างเป็นบางเพลงคำไทยมันก็ไม่ลงจริง ๆ  ทุกเพลงมันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเอาอะไรไปใส่มากกว่า

ชาลี: ถ้าเป็นวงผมที่ทำเป็นภาษาอังกฤษ เพราะรู้สึกว่าอยากให้การสื่อสารมันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เมืองไทย แทนที่เราจะพูดให้คน 60 ล้านคนอย่างเดียวฟัง เราพูดให้คนทั่วโลกฟังด้วยดีกว่า เอาจริง ๆ แล้วถ้าจากฐานคนฟังเพลงวงผมจริง ๆ ในเมืองไทยมันก็น้อยอยู่แล้วเทียบกันง่าย ๆ 1% ของ 60 ล้านคน กับ 1% ของพันล้านคน มันก็ต่างกันอยู่แล้ว สู้เราเอาคนหมู่มากดีกว่า ถึงจะเป็นคนส่วนน้อยชอบก็ขอให้มันเป็นส่วนน้อยที่ก้อนใหญ่ละกัน

แต่วง DCNXTR มีเพลงภาษาไทย  

ชาลี: มีครับ ทำแค่เพลงเดียวที่เขียนเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ถามว่าแต่งได้มั้ยก็แต่งได้นะ แต่ไม่ถนัด เอาจริง ๆ วงเราไม่ใช่วงที่ถนัดการเขียนเนื้อร้องสักเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะให้เพื่อนช่วยดูมากกว่า เราจะเน้นทำดนตรีกันอย่างเดียว บางทีเคยลองเขียนเนื้อเพลงกันเอง แต่พอฟังแล้วมันพิกล ๆ ยังไงไม่รู้ (หัวเราะ)

ลูกน้ำ: เรียกง่าย ๆ พื้นฐานเราสองคนเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องเมโลดี้เราพอเข้าใจ พออธิบายให้คนฟังได้ง่ายอยู่

เพลงภาษาไทยแต่ทำไมชื่อ Meishi

ชาลี: 名刺 (Meishi) เป็นภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า ‘นามบัตร’ครับ ผมชอบตั้งชื่อเพลงตามแรงบันดาลใจแรกที่ได้รับมา  ตอนนั้นก่อนที่จะทำเพลงนี้ผมฟังเพลงวงชื่อ Meishi Smile แล้วรู้สึกชอบจัง เลยอยากลองแต่งสักเพลงนึง ที่ความหมายของเพลงนั้นคิดต่อยอดมาจากสิ่งแรกที่เราได้รับมาเป็น Inspiration คำว่า Meishi มันกลายเป็นชื่อแรกที่เราเขียนลงไปตอนตั้งชื่อโปรเจค ซึ่งพอทำเพลงนี้เสร็จผมพยายามลองจะเปลี่ยนชื่อเพลงให้มันนะ แต่สุดท้ายพอคุยกันก็สัมผัสได้ว่าเออจะไปเปลี่ยนมันทำไม ชื่อนี้ก็ดีอยู่แล้ว

ลูกน้ำ: ชื่อเพลงก็คือชื่อเพลง สุดท้ายคนฟังก็ต้องฟังตัวเพลงอยู่ดี

อุปสรรคในการเล่นดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ที่พบเจอ

ลูกน้ำ: อุปสรรคมีค่ะเจอบ่อย ตอนเล่นเลยที่มันชอบบึ้ม เสียงดัง ๆ อ่ะ (หัวเราะ) คือบางทีตอนซ้อมเราก็จัดซาวน์มาแบบตอนซ้อม แต่พอเวลาเล่นสดมันจะมีอะไรสักอย่างคาดไม่ถึงหลุดออกมา เช่น อยู่ดี ๆ เสียงซาวด์ก็ตู้มขึ้นมาออกมาแบบงง ๆ  หรือพอจะเปลี่ยนเสียงนี้ ทำไมเครื่องมันเปลี่ยนไม่ได้

ชาลี : ด้วยความที่เครื่องดนตรีมันเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ปัญหาที่มันเกิดขึ้นพวกนี้ถือเป็นเรื่องปกติมาก  คนเล่นก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป ตอนประมาณครึ่งปีที่แล้วไปเล่นที่ร้าน Cosmic Cafe วันนั้นฝนตกหนักแล้วอยู่ ๆ เครื่องดนตรีก็รวนไปหมด เปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย ด้วยความที่มันชื้นฝน ก็แบบทำไงดีวะ เพราะถ้าเป็นวงปกติทั่วไปก็เสียบกีต้าร์เข้าแอมป์ก็เล่นได้เลย อันนี้มันต้องแบบเสียบสาย เสียบเครื่องเยอะมากก่อนจะเล่นต้องเซ็ทเครื่องนาน เพราะทุกอย่างมันต้องกลายเป็นก้อนเดียวกันทั้งหมด

ถ้าเป็นวงผมที่ทำเป็นภาษาอังกฤษ เพราะรู้สึกว่า อยากให้การสื่อสารมันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เมืองไทยแทนที่เราจะพูดให้คน 60 ล้านคนอย่างเดียวฟัง เราพูดให้คนทั่วโลกฟังด้วยดีกว่า เอาจริง ๆ แล้วถ้าจากฐานคนฟังเพลงวงผมจริง ๆ ในเมืองไทยมันก็น้อยอยู่แล้วเทียบกันง่าย ๆ 1% ของ 60 ล้านคน กับ 1% ของพันล้านคน มันก็ต่างกันอยู่แล้ว สู้เราเอาคนหมู่มากดีกว่า ถึงจะเป็นคนส่วนน้อยชอบก็ขอให้มันเป็นส่วนน้อยที่ก้อนใหญ่ละกัน

คำว่าคลื่นลูกใหม่เหมาะสมมั้ยกับวง DCNXTR 

ลูกน้ำ: ขอเป็นคลื่นใต้น้ำแล้วกันค่ะ (หัวเราะ)

ชาลี: พวกผมไม่แน่ใจเหมือนกันกับคำนี้ ถ้าจะพูดแบบเท่ ๆ ว่า กูคือฮีโร่มาช่วยวงการเพลงไทยอะไรแบบนั้น มันไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่ได้คิดว่าวง DCNXTR มันจะมีอะไรพิเศษกว่าวงอื่น แค่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำเราทุกอย่างมันเกิดจากพวกผมล้วน ๆ ซึ่งถ้าชอบก็ดีใจ แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ผมก็คงนั่งทำมันต่อไป เชื่อว่าสักวันนึงถ้าถูกใจคนฟังเขาก็คงชอบเอง

ความคาดหวังในการเล่นดนตรีทุกวันนี้คืออะไร 

ชาลี: ถ้าเป็นไปได้หลังจากปล่อยอัลบั้มเต็มชุดนี้ก็อยากจะเริ่มหาทัวร์แบบรอบ Southeast Asia ดู เพราะว่าดนตรีแบบวงผมเนี่ยมันไม่ใช่ดนตรีตลาดของไทย เอาง่าย ๆ แค่ในหมู่ที่ฟังเพลงอินดี้ในเมืองไทยก็ยังไม่ได้มีคนชอบเยอะ มันไม่ใช่ดนตรีที่ฟังง่าย แนวเพลงของมันไม่ได้ฮิต แล้วด้วยเนื้อเพลงที่ไม่ได้เข้าใจง่ายด้วย เลยมองว่าการออกทัวร์น่าจะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับพวกเราดี

ลูกน้ำ: เราหวังว่าคนจะชอบวงเรามากขึ้น เพราะบางทีคนฟังชอบบอกว่าแนวนี้ฟังยาก ฟังไม่รู้เรื่องหรอก ก็เลยอยากให้ลองฟังเพลงเราดู ถ้าชอบก็ชอบไปเลย ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเราเข้าใจได้

ชาลี: คนที่เข้าใจเพลงเรา เขาก็จะรู้ว่าแบบเออเพลงมันเป็นแบบนี้นะ ผมอยากเปิดกว้างให้ทุก ๆ คนได้ฟังกันนะ ผมชอบที่เว็บไซต์ฟังใจทำนะแบบว่าเอาเพลง Goose ให้ป้า ๆ ฟัง เพราะ ปัจจุบันมันจะมีคนบางประเภทที่คิดแบบว่า ‘เฮ้ย!ถ้ามึงไม่เท่มึงห้ามฟังอินดี้นะ เดี๋ยวเพลงที่กูชอบจะกลายเป็นพวกแมส พวกตลาดไปนะ’ ผมรู้สึกตรงนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกหลักของมันอ่ะ เพลงมันก็คือเพลง มันทำหน้าที่ให้ความบันเทิงเริงใจ แค่เปิดใจรับมันก็พอแล้ว

dsc_0038re

เห็ดสดสองกับ DCNXTR 

ชาลี: งานนี้คือการเปิดอัลบั้มเต็มของวงผมครับ ขอบคุณครับที่ทุกคนมางานเปิดอัลบั้มของ DCNXTR  (หัวเราะ)

ลูกน้ำ: ซึ่งเปล่าเลย เขามาดูวงอื่นต่างหาก (หัวเราะ)

ชาลี: เห็ดสดสองเป็นงานสเกลที่ค่อนข้างใหญ่ครับ ได้เล่นให้คนดูระดับหลักพันคนดูก็ดีใจมากแล้ว ซึ่งโปรดักชั่นก็ทำในแบบที่ค่อนข้างดีเลย เลยคิดว่าอยากให้คนที่มีโอกาสได้มาดูมาสนุกสนานไปกับวงดนตรีทุกวงในงานนี้และที่สำคัญซื้อบัตรกันด้วย พวกเราจะเล่นอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด

ตื่นเต้นมั้ยตอนที่รู้ว่าได้เล่นงานนี้

ชาลี: ตอนแรกเฉย ๆ นะ รู้สึกว่ามันแค่งานดนตรีงานหนึ่งอะ เพราะว่าวงผมจะรับงานเล่นเดือนละครั้งเท่านั้น แต่พอมาคุยกับคุณอ้น(Event Manager ของฟังใจ) คุยงานกับทางฝั่ง Duck Unit ก็รู้สึกว่าทุกคนตั้งใจทำงานนี้มาก ๆ เลย รู้สึกว่าเราเองก็ต้องตั้งใจจะทำอะไรให้พิเศษมากขึ้น คิดให้เยอะขึ้นเพื่อที่ให้สมกับที่ทุกคนก็คิดงานนี้เยอะเหมือนกัน วงผมมีความตั้งใจไม่แพ้วงอื่นเลย ตอนนี้ก็ซ้อมทุกวัน มีการเช็ครายละเอียดเกือบทุกดีเทลตลอดเวลา

ของขายในเห็ดสด 2 

ลูกน้ำ: มีอัลบัมเต็มของเรามาขายแล้วก็เข็ดกลัดของวงที่ทำขึ้นมาพิเศษเลย

ชาลี: อัลบั้มเต็มจะมีขาย 100 ชุดครับ ทำขายเป็น USB เพราะรู้สึกว่าซีดีมันก็มีคนฟังแหละนะ แต่สุดท้ายรู้สึกว่าคนมันก็ฟังดิจิตอลกันเยอะ เลยทำเป็น USB ดีกว่า

ลูกน้ำ: จริงๆส่วนตัว เรากลัวโลกร้อนอะ CD มันเบิร์นแล้วสุดท้ายก็จบอยู่แค่นั้น พอเป็นThumbdirve แบบนี้แล้วคนก็เอาไปใช้ต่อได้ มันก็หมุนเวียนกันไปต่อไป เราชอบแบบนี้มากกว่า

ชาลี: แถมมีสติกเกอร์มาแจกด้วย ตอนแรกว่าจะทำเสื้อขาย แต่ตอนนี้ยังทำไม่เสร็จเลยว่าจะไม่ทำเพราะเมื่อก่อนเคยทำแล้วขายไม่ได้ แต่พอเห็นวง Goose เขาทำตั้ง 300 ตัว ผมเลยกะทำเสื้อสัก 20 ตัวด้วยครับ (หัวเราะ)

เพลง Cover ในงานเห็ดสด

ชาลี: เราจะเล่นเพลง’พบกันใหม่’ของวง Polycat ในแบบฉบับของ DCNXTR ครับ

ฝากตัวฝากหัวใจหน่อย

ชาลี: หวังว่าทุกคนจะชอบงานเพลงของพวกเราครับ เพราะเราตั้งใจทำทุก ๆ อย่างเลย อยากให้คนที่ไม่เคยดูพวกเราได้ลองมาเปิดใจดูพวกเรากัน งานนี้พวกเราจะตั้งใจเล่นกันอย่างเต็มที่

ลูกน้ำ: รู้สึกดีใจมากที่ได้เล่นงานนี้ค่ะ เหมือนเป็นงานใหญ่ที่สุดที่วงเคยเล่นมาเลย เรารู้สึกถึงความตั้งใจของผู้จัดการงาน ความตั้งใจในการทำงานของพวกเขาสูงมาก ชอบทำงานกับคนที่ตั้งใจทำงานมันจะทำให้เรารู้สึกมีไฟที่จะทำทุกอย่างให้มันดีคู่กันไป อยากฝากพวกเรา DCNXTR ด้วยนะค่ะ แล้วไปสนุกกันในงานเห็ดสดสองนะ

download

บางทีคนฟังชอบบอกว่าแนวนี้ฟังยาก ฟังไม่รู้เรื่องหรอกก็เลยอยากให้ลองฟังเพลงเราดู ถ้าชอบก็ชอบไปเลย ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเราเข้าใจได้

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง