เปิดบ้านคุยสารทุกข์สุขดิบกับ ‘บีมบีม’ จาก FEVER
- Writer: Ratchanon Charoensettasilp & Tanaphat Kultavewut
- Photographer: Mixwipp
เมื่อวันก่อน Fungjaizine ได้มีโอกาสชวน บีมบีม แห่งวง FEVER มาทำความรู้จักกันเพิ่มเติมสักหน่อย ทั้งยังชวนคุยกันเรื่องชีวิตในช่วงกักตัวที่ผ่านมา และการเปลี่ยนแปลงตัวเองสู่การเป็นสมาชิกวง idol อย่าง FEVER แถมด้วยเรื่องปัญหาที่อยากก้าวข้ามของบีมบีม จะเป็นอย่างไรมาตามอ่านกันเลย
แต่ก่อนอื่น ตามธรรมเนียมเดิมของ เห็ดหูหนู เรามาดูกันดีกว่าว่าช่วงนี้บีมบีมชอบเพลงอะไรบ้าง
เพลย์ลิสต์โปรดของ บีมบีม FEVER – กมลพร โกสียรักษ์วงศ์
Plastic Plastic – Hum
IU – Unlucky
เพลงนี้น่ารักมาก (FJ: เราก็ชอบเหมือนกัน) เป็นเพลงที่บีมชอบฟังมาก ๆ คือเนื้อเพลงมันแบบเศร้า แซดนิดนึง แต่ด้วยเนื้อเพลง ไอยูก็พูดประมาณว่า มันเป็นแค่ความโชคไม่ดีของวันหนึ่ง มันก็เป็นกำลังใจให้เราได้เหมือนกัน ถึงบีมไม่รู้ภาษาเกาหลีเนอะ แต่ก็ไปเสิร์ชคำแปลให้มันอินขึ้น
จำเก่ง – F.Hero feat. Tilly Birds
บีมชอบท่อนแรกมากเลย คือมันจะมีช่วงนี้ที่เขาจะพูดกัน แบบมาแซวกันเล่น ๆ แล้วพี่เติร์ดเขาร้องแบบ “ถ่าให่~” แล้วบีมรู้สึกว่ามันตลกดี มันเป็นแบบ “ถ๊าให่~” อย่างนี้ ถ้าแบบเป็นคนธรรมดาร้องก็อาจจะไม่เพราะอย่างเขา (หัวเราะ) เราก็จะชอบกรอฟัวตรงนั้นบ่อย ๆ ค่ะ ช่วงนี้ก็ฟังเพลงประมาณนี้แหละ
สวัสดีครับบีมบีม ยินดีต้อนรับสู่บ้านฟังใจฮะ
บีมบีม: สวัสดีค่า บีมบีม FEVER ค่ะ
ไหน ๆ ถามเพลงที่ชอบของบีมบีมไปแล้ว แล้วถ้าเป็นเพลงของ FEVER เองล่ะ? ชอบเพลงอะไร ?
บีมบีม: บีมชอบเพลง Underground ค่ะ เพราะว่ามันเป็นเพลงอังกฤษด้วย ดูอินเตอร์ แล้วก็จังหวะเวลาเต้นมันสนุก เวลาฟังแล้วมันเพลิน ฟังได้หลายรอบเลย แล้วเวลาซ้อมเต้นถ้าเราฟังเพลงเดิม ๆ บ่อย ๆ มันจะเบื่อ แต่ Underground เป็นเพลงที่ไม่ค่อยเบื่อเลย
เเล้วมีส่วนร่วมในการทำเพลง Underground บ้างรึเปล่า ?
บีมบีม: หึ หนูก็ไม่ได้ทำอะไร (หัวเราะ) อ๋อ.. ใช่ จริง ๆ หนูก็ร้อง แล้วก็เต้น (หัวเราะ)
จริง ๆ เรารู้สึกว่าบางคนเห็นเพลงของ FEVER เป็นวงไอดอล เขาเลยไม่ฟังตั้งแต่แรก ถ้าเป็นบีมบีม อยากขายเพลงให้คนอื่น ๆ ได้ฟัง จะขายยังไง ?
บีมบีม: เข้าใจนะคะว่าคนที่ไม่ชอบเพลงไอดอล เพราะเขาก็จะมองภาพไว้แล้วว่าเป็นเพลงแนวแบ๊ว ๆ ฟังไม่ทัน หรือแบบมันจังหวะเร็ว ๆ สนุก เน้นความน่ารักอย่างเดียวรึเปล่า แต่ว่าเพลงของวง FEVER มันจะไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันจะเป็นเพลงที่ไม่ใช่ว่าสนุกอย่างเดียว อย่างเพลง Underground ก็เป็นเพลงอังกฤษ คือฟังเพลินแบบไปทะเลละฟังได้ ไม่ใช่ว่าจะต้องฟังแล้ว วู้ ๆ ต้องเชียร์ด้วยตลอดแล้วก็มีอีกหลายเพลง อย่างเพลง Ghost World ก็เป็นเพลงที่ฟังแล้วช่วงดิ่ง ๆ ก็ทำให้เราอินไปอีก แบบช่วงแบบฝนกำลังจะตกงี้ บีมว่ามันโอเคมาก
ก็คืออยากให้มาลองกันก่อน ก็ลองทำแบบเปิดก่อนแล้วยังไม่ต้องบอกว่าเป็นเพลงไอดอล คือบางคนเขาไม่ชอบวงไอดอลจริง ๆ เราก็เข้าใจว่าถ้าคนที่เขาไม่ชอบ มันก็ยากที่จะไปเปิดใจให้เขาว่า “มาฟังสิ ๆ” อย่างนี้ ก็หลอกเขาเลย (หัวเราะ)
เป็นพี่คนโตสุดของวง รู้สึกยังไงบ้าง ?
บีมบีม: คือไม่มีใครนับถือหนูในฐานะเป็นพี่แล้ว (หัวเราะ) คือจริง ๆ เหมือนบีมสนิทกับใบหม่อน บีมก็มานั่งนึกว่าทำไมตัวเองนิสัยเหมือนน้องเลยวะ เราไม่ได้ดูโตกว่าน้องเลย บางทีน้องยังหันมา “พี่บีมเบา ๆ หน่อย” น้องอะต้องเตือนหนู คือการเป็นพี่คนโตไม่ได้สำคัญอะไรกับบีมแล้วตอนนี้ ทุกคนก็มองว่าเป็นเพื่อนร่วมวงด้วยกันหมด อย่างบีมโชคดีที่ว่า วง FEVER เรามี สแปม ที่แบบเวลาเขาเล่น เขาก็เล่น แต่เวลาทำงานเขาก็เข้าโหมดจริงจังเลย คือถ้าไม่มีแปมก็คงเละแน่เลย เพราะว่าบีมก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่
เหมือนพอบีมเครียดจากงานอย่างอื่นมาแล้วไง บีมก็ไม่อยากจะมาแบบ “ฮึ้!!” ตรงนี้เหมือนกัน บีมก็อยากเป็นมุมตัวเองให้สดใสค่ะ ก็พยายามที่จะเล่นมุกตลกอะไรแบบนี้เรื่อย ๆ แต่จะมีบางเวลาที่สแปมก็จะมีเรื่องที่มันคุยกับเราในแบบที่ค่อนข้างต้องใช้ความคิดเยอะ ๆ อย่างนี้ สแปมก็จะมีมา “เออพี่บีม..อย่างนี้ ๆๆๆ” แต่นาน ๆ ครั้ง ถึงจะมีมา
แสดงว่า สแปม ดูเป็นคนที่โตสุดในวง ?
บีมบีม: ใช่! ดูเป็นผู้นำ ดูน่าเชื่อถือที่สุด (FJ: แล้วใครง้องแง้งที่สุด ?) หนูว่าไม่น่าใช่ใบหม่อนแล้ว น่าจะหนูนี่แหละ (หัวเราะ)
มาที่เรื่องงานอีกด้านของบีมบีมบ้าง ได้ยินมาว่าการทำงานเป็นแอร์โฮสเตส เราจะจัดการตารางเวลาตัวเองไม่ได้อิสระใช่ไหม ?
บีมบีม: ใช่ค่ะ ตอนแรกแบบตาราง สมมติเวลาแบบพี่ผู้จัดการของ FEVER ทักมาว่า “เออ นี่เดือนหน้ามีอย่างนี้ ๆๆ นะ” บีมก็บอก “เฮ้ยพี่ บีมยังไม่แน่ใจเลย เพราะว่าต้องรอตารางออกก่อนแบบช่วงสิ้นเดือน” ถึงจะรู้ค่ะ แต่ถึงเราจะไม่รู้เวลาล่วงหน้า แต่จริง ๆ เราก็พอที่จะ Manage ได้ เพราะมีการแลกตารางกับเพื่อนร่วมงาน เช่น ช่วงนี้เป็นช่วง COVID-19 คนก็จะโหยหาในการบินมาก ฉะนั้นก็ง่ายมาก สมมุติถ้ามีจะต้องบิน บีมก็แค่ประกาศขอแลกไฟลท์แล้วก็รอ ถ้าโชคดีก็จะมีคนจะมาเอาคิวอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่ถ้ารอแล้วยังไม่มีคนมาแลกก็ต้องบวกเงินให้เขาจะเป็นขั้นแบบต้องใช้เงินล่อ (ยิ้ม) จะได้ไม่ต้องลาป่วย เพราะถ้าลาป่วยบ่อย ๆ มันจะเสียประวัติเรา แต่กลุ่มแลกตารางของพนักงานคือจะดุเดือดมากจริง ๆ ประกาศกัน ปึ๊บ ๆๆๆๆ แล้วจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย (FJ: เดี๋ยวเอาการแลกงานมาใช้กับที่ฟังใจบ้าง แบบทำงานแทนหน่อย (หัวเราะ))
แล้วการแบ่งเวลาระหว่างเป็น FEVER กับ แอร์โฮสเตส นี้ยากไหม ?
บีมบีม: ช่วงแรก ๆ ยากมาก ช่วงที่ไม่มี COVID-19 ค่ะ จะเป็นช่วงที่บินถี่ ๆ อันนั้นก็จะแลกยากนิดนึง เพราะทุกคนเขาก็จะมีบินของเขาอยู่แล้ว เขาก็จะไม่ได้มาอยากบินอะไรมากขนาดนั้น ก็เหนื่อย เหมือนบางทีแลนด์เสร็จปุ๊บ ต้องรีบมาซ้อมเลยทันที แล้วบางทีซ้อมเสร็จ 4-5 ทุ่ม ก็ต้องรับไปบินตอน ตี 4 ตี 5 อีก
แต่บีมก็จะมีบอกกับครูสอนเต้นบางที ว่าขอกลับเร็วหน่อยนะคะ พอดีพรุ่งนี้ต้องไปบินตอนเช้าประมาณนี้ค่ะ เขาก็โอเค ก็จะกลายเป็นว่าบีมจะเต้นได้ด้อยกว่าคนอื่น คือจริง ๆ ทักษะมาจากศูนย์ค่ะ บีมเต้นไม่ค่อยเก่งเลย พอมาเต้นด้วยกันแล้วน้องบางคนเค้าซ้อมทุกวัน แล้วพอบีมบางวันไม่ได้ไปจริง ๆ ก็จะช้า จะตามไม่ทัน พอบางทีอยู่บ้าน ก็อยากพักผ่อน เลยก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้ซ้อมด้วย เหมือนเวลาพักผ่อนเราก็ปล่อยตัวแล้ว แอะ! ขอพักหน่อย แปะ ก็กลายเป็นว่าไม่ทันเลย น้อง ๆ ก็จะมาคอยช่วยสอนให้
ตี 4 ตี 5 นี่เป็นเรื่องปกติไหม เห็นวันก่อนก็ไปถ่ายจนถึงเวลานี้ ?
บีมบีม: ใช่ค่ะ ตี 4 -5 เป็นเรื่องปกติ แล้ววันนั้นเอ๋อเลยนะ หนูต้องไปบินต่ออีก หนูจะเป็นลมตาย จริง
ด้วยตารางที่แน่นแบบนี้ เรามีเทคนิคการแบ่งเวลายังไงไหม ?
บีมบีม: บีมว่าของบีม พอเป็นแอร์ มันแบบว่าไม่เหมือนพนักงาน พวกพี่ ๆ ออฟฟิศค่ะ เพราะว่าเวลาพี่ ๆ เลิกงานแล้ว ยังมีเรื่องที่ต้องคิดต่อ หมายถึงว่า มีงานให้กลับไปทำต่อใช่ไหมคะ แทนที่จะเลิกงาน ก็กลายเป็น 24 ชั่วโมง ของบีมอะโชคดี ที่ว่าบีมเลิกปุ๊บคือจบ มันจบตอนนั้นเลย แบบสมมุติบินมา 8 ชั่วโมงคือจบ กลับบ้านก็คือไม่คิดอะไรแล้ว พักผ่อนได้
มันก็เลยจะต่างกัน คือ บีมเลิกงานบีมปุ๊บ บีมมาซ้อมเต้นก็ไม่ต้องคิดเรื่องบินแล้ว แต่จะกลายเป็นว่า จะเป็นการพักผ่อนน้อยมากกว่า เพราะเวลาบางทีแบบ timezone ไม่เหมือนกัน เช่น บินไปกลับฮ่องก อะไรแบบนี้ จะมึนนิดนึง แต่ว่าเรื่องการแบ่งเวลา บีมว่าบีมก็ไม่ได้คิดเป็น schedule แบบว่าเป็นตาราง ก็คือ เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นเลย พยายามแค่แลกตารางให้เราพอมีเวลาได้พักบ้าง
แล้วถ้าให้เลือกทำงานแบบที่เป็นอยู่ กับ การทำงานแบบที่เลิกงานก็ต้องกลับไปคิดต่อ เลือกแบบไหน ?
บีมบีม: เป็นแบบนี้ค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าเคยไปฝึกงานมาก่อน เหมือนตอนเรียนก็ต้องไปฝึกงานก่อนเรียนจบ แล้วพอเหมือนกลับบ้านปุ๊บ ก็คือต้องคิดไปทำ presentation ต่ออยู่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เวลางานแล้ว ก็รู้สึกว่าเหมือนเรายังอยากมีช่วงเวลาที่เป็นโหมดแบบไม่ต้องคิดอะไรบ้าง
อย่างช่วงนี้ บีมบีม ชอบทำขนมรึเปล่า? เห็นตอนนั้นมีลงขายด้วย
บีมบีม: ใช่ค่ะ (FJ: ฝากร้านได้นะครับ) ร้านชื่อ BBK.cooking ค่ะ BBK นะคะ ไม่ใช่ B อย่างอื่น B B K ค่ะ (หัวเราะ) เหมือนช่วงนั้นเป็นช่วง COVID-19 เลย เป็นช่วงที่ฮิตขายบราวนี่กันมาก มีมีมในทวิตเตอร์ที่ว่า ประชากรคนไทยมีกี่ล้านคน คนทำบราวนี่ขายก็ล่อไปครึ่งนึงแล้ว ประมาณนั้น
เอาจริง ๆ คือเหมือนบีมชอบกินขนม ก็คือชอบอยู่แล้ว แล้วก็ญาติของบีมทำขนมเก่ง บีมก็เลยไปบอกว่า งั้นเรามาทำร่วมกันไหม บีมก็ได้ฝึกทำไปด้วยกับพี่เขา เพราะว่าช่วง COVID-19 มันไม่มีงานเลย ไม่ได้บินด้วย ก็เลย เอ้อ.. มาทำอันนี้เพื่อหารายได้เสริม ช่วงนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำถี่เหมือนตอนนั้นแล้ว ทำแบบว่าเปิดตามอารมณ์ อยากเปิดออเดอร์ก็เปิด
มีเมนูไหนแนะนำไหม แบบว่าอันนี้ต้องกินเลยนะ
บีมบีม: ล่าสุดเป็นเมนูใหม่ค่ะ ชื่อ มันชี่ ช็อกโก้… จำชื่อไม่ได้แล้ว คิดชื่อเองด้วยนะ เอาเถอะ ๆๆๆ (หัวเราะ) มันเป็นเหมือนบราวนี่ผสมมาร์ชเมลโล่ ก็มีถั่ว มีอัลมอนด์ ผสมกัน เป็นเมนูใหม่ อร่อยมาก บีมชอบมาก
กลับมาเรื่องวงบ้าง จริง ๆ การเป็นวงหญิงล้วน มีความยากง่ายแตกต่างจากวงดนตรีอื่น ๆ ยังไงบ้าง
บีมบีม: ของบีมที่อยู่สายการบินก็เป็นผู้หญิงล้วน พอมาอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยต่างกัน เพราะว่าผู้หญิงจะมีความแบบน้อยใจ จุกจิก มีความเรื่องเยอะ ความรู้สึกจะค่อนข้างบอบบางกว่า สำหรึบบีมนะ แต่เหมือนจริง ๆ บีมเองเป็นคนขี้น้อยใจด้วย ก็จะเวลาสมมุติซ้อมเต้น เราก็เลยจะพยายามมองหน้าน้อง ๆ แบบ เอ๊ย..ใครมีเรื่องอะไรเครียดรึเปล่า ก็จะพยายามไปสะกิด ๆ เล่นมุกตลก
แต่บีมรู้สึกว่าสิ่งนี้มันไม่ใช่ปัญหานะคะ รู้สึกว่ามันโอเค แบบว่ามันก็เป็นสาว ๆ นะ สนุกดี เป็นเกิร์ลแก๊ง เหมือนมีอะไรก็มาคุยกัน แต่มันจะยากตรงอายุด้วย อย่างบีมโตสุด ตอนแรกเค้าก็จะมองภายนอกว่าเป็นพี่คนโตสุดอะไรแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นว่าอายุมันก็ไม่เกี่ยวไงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับที่เป็นหญิงล้วนด้วย มันเกี่ยวกับอะไรวะ อันนี้คือถามว่ายังไงนะคะ (หัวเราะ)
แบบ วงผู้ชาย กับ วงผู้หญิง ยากง่ายแตกต่างกันยังไง (หัวเราะ)
บีมบีม: คือ วงผู้หญิงคนภายนอกก็จะมองว่าเต้นแนวสวย ๆ ใช่ไหมคะ แต่วงบีม จะเต้นแบบแมนมาก ก็ยากตรงที่เราต้องไปเต้นท่าแมน ๆ สำหรับบีมรู้สึกว่ามันก็ต้องเต้นให้แข็งแรงมากพอ ที่จะให้สื่อว่า เฮ้ย.. มันเท่นะ
ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นคนแมนขนาดนั้น สาว ๆ ทุกคนก็จะมีความอยากแบ๊วใด ๆ บ้าง ก็จะยากตรงนี้ที่เราจะต้องไปทำให้มันแข็งแรง แล้วแต่ละคนก็ค่อนข้างไม่แข็งแรง ถ้าเปรียบเทียบกับผู้ชายเต้นก็อาจจะดูแข็งแรงกว่ารึเปล่า
พอพูดถึงเรื่องความรู้สึก อย่างตอนเป็นแอร์ Beambeam เคยโมโหผู้โดยสารบ้างไหม
บีมบีม: ปกติค่ะ (หัวเราะ) ใช่ เพราะว่าพอเป็นแอร์ เราเลยได้รู้ว่ามีคนที่หลากหลายจริง ๆ แล้วก็แปลกจริง ๆ แบบทำไมถึงมีคนแบบนี้อยู่บนโลกได้ เหมือนบางทีเราก็พูดดี ๆ แต่เขาก็จะพูดไม่ดีกลับใส่เรามา เหมือนเราเป็นแบบคนใช้อะไรอย่างนี้เลย เขาจะมองแล้วว่าแบบเขาต้องใช้งานเรา ซึ่งแบบจริง ๆ แล้วหน้าที่หลักของเรา คือ มาดูแลความปลอดภัยให้ แล้วก็อำนวยความสะดวกบางอย่างที่เราทำได้ ถ้ามันทำไม่ได้จริง ๆ เราก็ต้องขอโทษไป แต่บางคนเขาก็ไม่ยอมรับ เหมือนเขาจะชอบพูดว่าอันนั้นดีกว่าอีก อันนี้ดีกว่าอีก ซึ่งจริง ๆ เราก็ทำให้เต็มที่แบบจริง ๆ แล้ว
แต่มันก็ปกติค่ะ ด้วยเป็นงานบริการ บีมก็ยินดีค่ะ อย่างเวลามีอะไรเกิดขึ้น สมมุติใครผิดก็ตาม บีมไม่สน บีมไหว้ขอโทษก่อน “ขอโทษนะคะ” แล้วก็ค่อยคุยกันดี ๆ แต่ก็มีบางทีแบบไม่ไหวจริง ๆ นะ (หัวเราะ) มีช็อตนึงที่บีมไม่ไหวจริง ๆ คือพยายามคุยสุด ๆ แล้ว แต่มันกำมืออัตโนมัติเลยพี่ แต่หน้าหนูแบบ (ฝืนยิ้ม) แล้วหนูพยักหน้าทีนึง แล้วหนูกลับไปข้างหลังเลย แล้วหนูก็ไปบอกให้คนอื่นมาคุยต่อ เพราะเราก็จะไม่คุยแล้ว เราไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเราก็ไปพูดจาไม่ดีใส่ ด้วยอารมณ์ของเราเอง ฉะนั้นเราก็ต้องเก็บให้ได้ค่ะ
แปลว่า Beambeam เป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดี
บีมบีม: เวลาอยู่บนเครื่อง บีมเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ค่อนข้างดีนะ คือหมายถึงว่าพออยู่บนพื้น อย่างแบบใช้ชีวิตประจำวันบีมเลยเก็บอารมณ์ไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) ก็ไม่เข้าใจ เหมือนอยู่บนเครื่องแบบมันกลายร่าง แต่พออยู่ข้างล่าง มันรู้สึกอะไรก็คือพูดเลย มันเลยทำให้บีมเป็นคนแบบนี้ไง
แต่แอร์ทุกคนก็เป็นนะคะ เหมือนเคยถามเหมือนกันว่าแบบเปลี่ยนไปไหมตั้งแต่มาเป็นแอร์ รู้สึกว่าตัวเองนิสัยแย่ขึ้นไหมในเวลาอยู่ที่บนพื้น ทุกคนก็จะบอกว่า เหมือนเก็บอารมณ์ไม่ค่อยได้ เหมือนอยู่ที่บ้านก็จะแบบ (ชี้นิ้วสั่ง) ขี้สั่ง
รับมือในฐานะแอร์ไปแล้ว ในฐานะ บีมบีม FEVER ล่ะ ต้องปรับโหมดไหม ?
บีมบีม: ใช่ ก็ต้องปรับโหมดเหมือนกัน ถ้าเราเหมือนเดิม คือบีมเป็นคนขี้บ่นมาก แบบขี้บ่นจริง ๆ คือพอมาอยู่ เวลามาซ้อม แล้วบีมขี้เกียจ บีมก็พูดเลยว่าขี้เกียจจัง ขี้บ่นอะไรอย่างนี้ จนน้อง ๆ ก็เตือน พี่บีมอย่าบ่นเยอะ เพราะว่า energy น้องเขาก็จะเซ็งเหมือนกัน บีมก็จะขี้บ่น บ่นกับพี่ผู้จัดการ บ่นกับทุกคน
แต่พออยู่กับแฟนคลับก็จะเป็นอีกแบบนึง เหมือนเราไม่อยากให้เขามารับรู้ เราก็จะไม่อยากบ่นให้แฟนคลับฟัง เหมือนเรามีความสุขเพราะเขาอุตส่าห์มาหาเรา มาเจอเรา เราก็จะพยายามส่ง energy ที่ดีกลับไปให้ คือ เป็นอีกร่างนึงเหมือนกัน แต่ก็เป็นตัวเรานะ ไม่ได้ fake อะไร เป็นเหมือนอีกโหมดนึงของเรา
แล้วเคยรู้สึกลำบากใจไหมในโหมด บีมบีม FEVER แบบเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ต้องมาลุยต่อ
บีมบีม: ไม่เลย ไม่เลย สมมุติมันเหนื่อยแล้วจริง ๆ ใช่ไหมคะ แต่พอเจอแฟนคลับ มันเหมือนมี switch แบบ ปุ๊ง! ขึ้นไป เหมือนเป็น.. พี่เคยดู Inside Out ปะ? คือแบบจู่ ๆ มันเหนื่อยแล้ว แต่มันก็มีแรงที่กดปุ๊บ แล้วก็ ปุ๊งอารมณ์นี้! เข้ามาได้ (FJ: หัวเราะลั่น) ก็คือมันก็สามารถที่จะทำได้อยู่ดี มันอาจจะเป็นแรงเฮื้อกสุดท้ายในตอนนั้นแล้วก็ได้ เราก็ไม่อยากให้เขารู้ว่าเราเหนื่อย แต่จริง ๆ หน้าตาเราอาจจะแสดงออกก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้ fake นะ คือหมายถึงว่า ถ้าเขามาหาเราได้ พลังมันก็มาได้
ขอถามซีเรียสหน่อย การเป็นศิลปินไอดอลหญิง เคยเจอเรื่องของการคุกคามบ้างไหมนะ
บีมบีม: เจอ เพราะว่าบีมได้ไปเล่น ตลกหกฉาก แล้วก็มันมีคอมเมนต์หลากหลาย เพราะบางคนเค้าก็จะไม่รู้จักเรา เหมือนก็จะมีคอมเมนต์ที่เขาประมาณว่า (ถอนหายใจ..) พูดไม่ได้มั้ง เอ่อ.. มันเป็นคอมเมนต์ที่พูดเกี่ยวกับรูปร่างเรา ซึ่งอ้วนอะบีมรับได้ เพราะว่ามันก็จริง มันก็คือ fact แต่บางอย่างมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดรึเปล่า เขาก็จะคอมเมนต์มาเลย
เพราะคิดว่าเขาคงคิดว่าเราไม่อ่านมั้ง แต่บีมเป็นคนที่ชอบอ่าน เพราะบีมอยากรู้ว่าบีมแสดงเป็นยังไง อยากอ่าน feed back บีมก็อ่าน แล้วเราก็รู้สึกว่า ทำไมต้องคอมเมนต์อะไรแบบนี้ด้วย ไม่ใช่แค่รูปร่างด้วย เค้าคอมเมนต์ว่าเค้าอยากจะ.. อะไรรึเปล่า ซึ่งเราก็แบบ ฮ๊าาาาาาา… ทำไมทุกคนเขาทำเป็นเรื่องปกติ แล้วคอมเมนต์แบบนั้นก็ยังมีคนไลค์ เราก็แบบ เฮ๊ยย~ (สีหน้าน่ากลัว)
แล้ว บีมบีม FEVER รับมือยังไง?
บีมบีม: ก็ได้แต่มองข้ามค่ะ เพราะเราไปห้ามเขาไม่ได้เลย บีมรู้เลยว่าถึงตอนนี้เราพยายามรณรงค์กันมากแค่ไหน แต่มันก็ยังมีคนที่เขารู้สึกว่าเขาจะทำ บีมว่ามันเป็นที่หลาย ๆ อย่างทำให้มันหล่อหลอม จนกลายเป็นว่าเขาทำกันเป็นเรื่องปกติค่ะ มันอาจจะเป็นด้านมืดของเค้าจริง ๆ ก็ได้ คือเรามองหน้าเขาแล้วเราคงจะไม่รู้ว่า เขาคอมเมนต์อย่างนี้จริง ๆ รึเปล่า
เขาอาจจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็นใครมาคอมเมนต์ก็ได้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าคน ๆ นี้เป็นใคร เพราะฉะนั้นบีมก็จะมองข้าม พยายามไม่สนใจ แต่คือถ้ามีรณรงค์อะไร บีมก็พยายามบอกตลอดอยู่แล้วว่าบีมไม่ชอบแบบว่าคอมเมนต์หยาบ คอมเมนต์คุกคามคนอื่น มันเป็นเรื่องที่เราพยายามทำกันมาในสังคม ก็ต้องพยายามรณรงค์กันต่อไป จนกว่าจะมีคนที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่โอเค สิ่งนี้มันไม่ดีนะ เขาถึงจะหยุด
แล้วมีอะไรที่ บีมบีม อยากฝากอะไรถึงคนเหล่านี้บ้างไหม?
บีมบีม: บีมชอบคำพูดนึงเหมือนจำไม่ได้ว่ามาจากใครค่ะ แต่เขาพูดประมาณว่า “ถ้าสมมติมีคนมาพูดประโยคแบบนี้กับ ญาติ หรือ พี่น้อง ของคุณ คุณรู้สึกยังไง” ก็แค่นั้นแหละ คือไม่อยากให้คนอื่นพูดยังไงกับเรา เราก็อย่าไปพูดกับเขาอย่างนั้น คือให้ลองนึกถึงใจเขาใจเราค่ะ
เราก็คงไปด่าเขาไม่ได้ ทำแบบนั้นคงเดือดขึ้นมากกว่าเดิม คงสนุก วู้ ๆๆๆ ก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรมาก พยายามไม่สนใจ ไม่สนใจเลย ให้เค้าไม่มีตัวตนไปเลยน่าจะดีกว่า
(FJ: แต่คือส่วนใหญ่ก็จะเจอเรื่องพวกนี้แต่บนโลกออนไลน์ใช่ไหม?) ใช่ แค่ online ค่ะ ตัวจริงไม่เคย ถ้ามาจริง ๆ ก็แบบ ฮึ้!!!! (หน้าดุ) พูดอีกทีซิ ฮึ้! อย่างงี้ (หัวเราะ)
มาในชีวิตส่วนตัวบ้าง เรามีปัญหาที่อยากก้าวข้ามไหม?
บีมบีม: จริง ๆ มีหลายเรื่องมากเลยอะ แต่เอาเป็นเรื่องที่บีมคิดอยู่ทุกวันละกัน ลดน้ำหนัก (หัวเราะ) คือเหมือนออกกำลังกายก็ได้อะ
แล้วเรารู้สึกพร้อมที่ก้าวข้ามผ่านมะ? (หัวเราะ)
บีมบีม: คืออยากลดกลับไปเท่าเดิม (หัวเราะ) เพราะตั้งแต่ช่วงโควิดคือขึ้นมาเยอะมาก จริง ๆ ก็ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่พอโควิดปุ๊บก็แบบ วู้ววว (FJ: เกิดอะไรขึ้น ช่วงอยู่บ้าน กิน นอนเปื่อยงี้?)
บีมบีม: ใช่ อยู่บ้าน คือ กิน ทำขนมด้วย นอนมันมากเลยค่ะ (หัวเราะ)
ร้านโปรดของ บีมบีม FEVER ณ ตอนนั้น
บีมบีม: เป็นร้านพวกชานมอะ หนูกินชานมทุกวันเลยพี่ แต่ตอนนี้ไม่ชอบชานมแล้ว ชอบ.. เอ่อ ก็ยังชอบอยู่ (หัวเราะ) ก็ยังชอบอยู่แหละ ชอบเป็นแบบบราวน์ชูการ์อะค่ะ แล้วแบบบางร้านจะมี whip cheese ด้วย ชอบแบบยังก้าวข้ามไม่ได้เลย
โอเค (หัวเราะ) แล้วเวลาเราเจอปัญหา ปกติเรามีวิธีแบบเยียวยายังไง แบบเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง
บีมบีม: IU ค่า (หัวเราะ) คือ บีมรัก IU มาก ๆ บีมโชคดีที่ว่า ปลายปีที่แล้ว บีมสามารถหาบัตรได้ทัน (FJ: โอ้โหวว อิจฉา อยากไป) ใช่!! คือ ตอนแรกบีมแค่เหมือนปลื้ม แต่เรารู้สึกเหมือนเขาห่างไกลอะค่ะ จริง ๆ พี่ในวงจะมีชอบ Blackpink งี้ แต่สำหรับบีม IU คือเดอะเบส เพราะเเบบได้เจอตัวจริงมาแล้วด้วย ก็เลยรู้สึกว่า โอ้โหวววว
ปัจจุบันก็คือถ้าบีมเปิดเพลง IU หรือคลิปของเขา ก็สามารถยิ้มคนเดียวเองได้เลยอะค่ะ มีความสุข เเล้วเขาก็เป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักเหมือนกัน คือเขาเป็นได้ทุกอย่างเลยอะ ทั้งไอดอล ทั้งร้องเพลง ทั้งเต้น แสดง และก็ความสวยของเขาอะค่ะ มันทำให้เรามีกำลังใจ เหมือนบีมอยากอยู่เพื่ออยากไปดูเขาต่อ
อันนี้คือเราไปเจอเขาไปปีที่แล้ว?
บีมบีม: ใช่ค่ะ ดีมากเลย จริง ๆ ทุกเพลงก็คือชอบเลย แต่ที่บอกตอนแรกว่าชอบ Unlucky คือเนื้อเพลงมันแบบเศร้า แซดนิดนึง แต่ด้วยเนื้อเพลง ไอยูก็พูดประมาณว่า มันเป็นแค่ความโชคไม่ดีของวันนึง มันก็เป็นกำลังใจให้เราได้เหมือนกัน แล้วส่วนใหญ่เขาแต่งเพลงเองด้วย แล้วเขาก็เป็นคนชอบช่วยคนอื่น ชอบบริจาคช่วยสังคม คือบริจาคถี่มากอะ เขามีแล้วก็เขาก็ให้ต่อ เลยรู้สึกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นไอดอลของเราและก็ทุก ๆ อย่างในการทำตรงนี้เลย
ก็คือวันที่เหนื่อยที่สุด ก็เปิด IU อะไรประมาณนั้น (หัวเราะ)
บีมบีม: ใช่ค่ะ 55
แล้วถ้าเป็นในฐานะวงละ แบบในฐานะ บีมบีม FEVER มีอะไรที่เรารู้สึกว่ายากที่สุด ต้องก้าวข้ามผ่านไปปะ
บีมบีม: ก็น่าจะเป็น.. คือ ท่าเต้นมันยากอะพี่ (หัวเราะ) คือมันแมนด้วย แถมต้องใช้ทักษะการเต้นฮิปฮอปเข้ามาเพิ่มอีก แล้วคุณครูสอนเต้นก็โหดด้วย แล้วเวลาเราไปซ้อมทีก็ต้องฮึบสุดตัวในการไปซ้อม คือท่าเต้นมันยากจริง ๆ อะค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็เหมือนปัญหาก็คือ เราต้องพยายามให้ตัวเองฮึบขึ้นมาซ้อม อยู่บ้านก็ต้องซ้อม ไม่ใช่ซ้อมแล้วก็จบอะไรงี้ ก็เรื่องนี้แหละค่ะ ที่อยากจะทำให้ได้เหมือนกัน
เพลงไหนยากสุด
บีมบีม: น่าจะรู้กันหมดละ (หัวเราะ) The Feeling คือยากจริง ๆ ค่ะ แบบมีจุดนึงที่บีมจะพลาดตลอด คือเวลาซ้อมก็ไม่ค่อยพลาด แต่พอขึ้นเวทีก็พลาดทุกครั้งเลย งงมากเลย เหมือนต้องตั้งสติด้วยเพราะเราเครียดกับตรงนี้มาก ๆ พอขึ้นไปมันก็เลยเหมือนแบบว่า หลุดเลย อะไรประมาณนั้น (FJ: สู้ ๆ ต่อไปครับ)
แล้วจริง ๆ ตอนนี้เรามีอะไรที่เราอยากทำมาก ๆ มะ แบบ เอ้ย ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ทำเลย อยากทำว่ะ
บีมบีม: อยากไปเที่ยวมากเลย (หัวเราะ) อยากไปอยู่แบบริมทะเล นอนเฉย ๆ กินกุ้งเผา และก็ไปทะเลอะ แต่ช่วงนี้มันไม่ค่อยมีเงินเลยอะพี่(หัวเราะ) มันยังทำไม่ได้อะ คืออยากไปเที่ยวเนอะ อยากไปญี่ปุ่น อยากไปเกาหลี อยากไปช้อปปิ้ง ตอนแรกวางเเพลนไว้หมดแล้วนะ ก่อนโควิด ว่าจะพาแม่ไปเที่ยวเกาหลี แล้วก็ล่ม มีเรื่องนี้แหละ ที่อยากไปทำ จริง ๆ อยากไปกับวงด้วย แต่ก็ทำไม่ได้เหมือนกันอะ นัดแล้ว คนนั้นก็ไม่ว่าง คนนี้ก็ไม่ว่าง ไม่เคยครบ 12 คนสักที
มาคำถามสุดท้ายละกันเนอะ ช่วงนี้แบบวงไม่ค่อยได้มีอีเวนต์เท่าไหร่ ตั้งแต่ช่วง COVID-19 เดี๋ยวจะมีอะไรแฟน ๆ จะมาให้ได้ติดตามไหม?
บีมบีม: ก็อยากจะฝากว่าเราจะมีซิงเกิลใหม่ขึ้นมา เอ้ย ไม่ใช่ เป็นแผ่นมาขายนะคะ เป็นชุด Underground ค่ะ มีชุด A กับ B ส่วนทำไมเป็น A กับ B เราจะยังไม่บอก มันจะมีอะไรอยู่ใน A กับ B หรือเปล่า ก็ต้องไปรอดูกันนะคะ ก็ฝากให้ติดตามในเพจ FEVER ด้วย จะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะไม่พูดอะไรเยอะ
อ่อ แล้วก็ตอนนี้มี bbk.cooking ฝากด้วย (FJ: แล้วมีอะไรที่ฝากให้แฟน ๆ ทางบ้านด้วยมั้ย) ก็คิดถึงทุกคนนะคะ ถึงช่วงนี้เราจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่บีมก็ยังคิดถึงทุกคนเสมอนะคะ ก็ยังอ่านคอมเม้นท์ อ่านข้อความ ถึงแม้จะตอบไม่ได้ แต่ก็จะพยายามขยันลงรูป ยังกดไลค์คอมเม้นท์ เป็นกำลังใจให้ทุกคนกลับไปเนอะ ส่งมาให้เรา เราก็ส่งให้กลับ ขอบคุณนะคะ คิดถึงค่าาาา วู้ววววววว
FJ: ขอบคุณมากค้าบบบ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นบทสนทนากับบีมบีม FEVER ถ้าใครคิดถึงก็แวะไปทักทายกันได้ที่ Beambeam FEVER
ยังไงขอขอบคุณบีมบีมที่มาพูดคุยกับเราในวันนี้ด้วย เราขอแย้มว่าเดี๋ยวมีอีกหนึ่งสมาชิกจะมาคุยกับเราด้วยนะ จะเป็นใคร คนไหน ฮัปปปา รอติดตามกันบนเพจฟังใจกันได้เลย
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Make Living Great Again จาก AP Thailand
—
ในวันที่ต้องเจอปัญหา เพลงอาจเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณเหมือนกับที่บีมบีมรู้สึก ลองเล่น Quiz เพื่อหาเพลงที่เหมาะกับคุณที่สุดในช่วงเวลานี้ที่ link นี้เลย! https://bit.ly/2FNd22H
#MakeLivingGreatAgain #APTHAI #Spotify
เปิดบ้านคุยกันแบบเต็มอิ่มกับ ปาย และ บีม จาก FEVER
NGLMD เพลงใหม่จาก FEVER ฝากให้คนที่กำลังรอความหวังจากใครสักคน
ล่องลอยไปในความฝันกับ Peppermint Town อัลบั้มใหม่จาก My Life As Ali Thomas